HR Management and Self Leadership
<<
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
18 มีนาคม 2558

ความเชื่อที่ทำให้คุณถอยหลังจากความสำเร็จ

choices111

ไม่ว่าจะเป็นชีวิตการทำงาน หรือชีวิตส่วนตัว ทุกคนล้วนต้องการประสบความสำเร็จในเรื่องเหล่านี้ทั้งสิ้น คงไม่มีใครที่เกิดมาแล้วไม่อยากประสบความสำเร็จอะไรเลย หรือใช้ชีวิตแบบล่องลอยไปตามยถากรรม ถ้าเราต้องการจะประสบความสำเร็จในเรื่องอะไรสักอย่าง สิ่งแรกที่เราจะต้องมีก็คือ ทัศนคติ และความคิดของเราเองที่ต้องเชื่อว่า เราสามารถประสบความสำเร็จในแบบที่เราต้องการได้

แต่ก็ยังมีความเชื่อที่คนเรามักจะยึดไว้ และทำให้เราไม่ไปถึงไหนได้เลย เป็นความเชื่อและความคิดที่ทำให้เราถอยหลังออกจากความสำเร็จที่เราต้องการ ความเชื่อเหล่านั้นคืออะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ

  • เชื่อว่าไม่มีโอกาสที่ดีๆ เข้ามาหาเราเลย คนที่เชื่อแบบนี้ ก็จะไม่มีทางเห็นโอกาสที่กำลังเดินเข้ามาสู่ชีวิตเราอย่างแน่นอน ในความเป็นจริงนั้น โอกาสมีอยู่เสมอ แค่เพียงเราเปิดตา เปิดใจ และพยายามมองหามัน ยิ่งในปัจจุบันนี้ โลกกว้างขึ้น เราสามารถที่จะมองหาโอกาสได้แทบจะทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นใน Internet website หรือ social network ต่างๆ ที่เราเชื่อมโยงกันอยู่ ขอเพียงแค่เราเปิดใจ และเปลี่ยนความเชื่อใหม่ว่า โอกาสดีๆ มีเข้ามาหาเราทุกวัน
  • เชื่อว่ามีคนคอยดึงให้เราถอยหลังเสมอ คนที่เชื่อแบบนี้ ผมถือว่าเป็นคนที่ไม่ Proactive เพราะจริงๆ แล้วชีวิตของเรา เราเลือกได้ เราสามารถที่จะเลือกเดิน เลือกทำ เลือกที่จะไม่ทำ ได้หมด อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น คนที่เชื่อแบบนี้ มักจะใช้เหตุผลนี้เป็นข้ออ้างที่ตนเองทำไม่สำเร็จ ก็คือ มีใครบางคนทำให้ตนเองไม่สำเร็จ จริงๆ แล้วตัวเราเองนี่แหละครับ ที่เป็นคนทำให้ตนเองสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ เราสามารถควบคุมตนเองได้ แต่เราไม่สามารถควบคุมคนอื่นได้ ดังนั้น ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จ เราก็ต้องควบคุมตนเองให้ทำ หรือไม่ทำ ไม่ใช่ให้คนอื่นมาควบคุมเรา
  • เชื่อว่า ไม่มีเวลาพอ อีกความเชื่อหนึ่งที่มักจะอ้างกันอยู่เสมอ ก็คือ ไม่มีเวลามากพอที่จะทำมันให้สำเร็จ เร็วไปบ้าง ช้าไปบ้าง ไม่เคยคิดว่ามีเวลาที่พอดีเลย นี่เป็นทัศนคติและความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเลย เพราะจริงๆ แล้วทุกคนมีเวลาในแต่ละวันเท่ากันหมด อยู่ที่ใครจะบริหารจัดการกิจกรรมในชีวิตของตนเองได้ดีกว่ากันเท่านั้นเอง บางคนอ้างว่าไม่มีเวลา เพราะเอาเวลาที่มีไปทำแต่สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อความสำเร็จของเราเลย แล้วสุดท้ายก็มาอ้างว่า “ไม่มีเวลา” ก็เลยไม่สำเร็จสักที
  • เชื่อว่า ถ้าทำแล้วได้ไม่คุ้มเสีย ก็จะไม่ทำ บางคนบ่นเสมอว่า “ถ้ารู้ว่าจะได้โบนัสเยอะแบบนี้ จะได้ขยันตั้งแต่ต้นปี” บ่นแบบนี้ก็คือ สายไปเสียแล้ว คนที่ไม่ประสบความสำเร็จ มักจะคิดว่า ทำอะไรไปแล้วจะต้องได้รับผลตอบแทนทันที หรือถ้าคิดแล้วว่าไม่คุ้มค่า ก็จะไม่ลงมือทำ แต่คนที่ประสบความสำเร็จจะไม่เคยคิดถึงผลตอบแทนในระยะสั้นๆ ว่าจะดีหรือไม่ดี คุ้มหรือไม่คุ้ม แต่จะมองในระยะยาวว่า ถ้าเราขยัน ทุ่มเท แม้ว่าช่วงแรกจะยังไม่เห็นผล แต่ในระยะยาวมันจะประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้แน่นอน ดังนั้นถ้าอยากประสบความสำเร็จ จงลงมือทำก่อน อย่ามัวแต่คิดว่าจะได้ หรือไม่ได้อะไร เพราะแค่คิดเวลาแห่งความสำเร็จก็เดินจากไปเรื่อยๆ แล้ว
  • เชื่อว่า ตนเองไม่เก่งพอที่จะประสบความสำเร็จได้ บางคนก็มัวแต่เอาตนเองไปเทียบกับคนอื่น แล้วก็มานั่งบ่นกับตัวเองว่า เราเองคงไม่เก่งพอที่จะทำงานนี้ได้ หรือไม่เก่งพอที่จะประสบความสำเร็จได้ ลองมองคนที่ประสบความสำเร็จสิครับ จริงๆ แล้วคนเหล่านั้นก็ไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด แต่เก่งเพราะเขาลงมือทำ ลองผิดลองถูก หาประสบการณ์ในการทำงาน เพื่อเรียนรู้ จะได้เก่งขึ้นเรื่อยๆ และแต่ละคนก็มีดีต่างกันไป เราเองก็มีความเก่งของเราที่คนอื่นไม่มีเช่นกัน สิ่งที่สำคัญไม่ใช่เรื่องเก่งไม่เก่ง แต่เป็นเรื่องว่า เราเอาจริงกับมันหรือเปล่ามากกว่า

นี่คือ 5 ความเชื่อที่ทำให้คนเราถอยหลังออกจากความสำเร็จไปเรื่อยๆ ถ้าเราต้องการที่จะประสบความสำเร็จอย่างที่เราต้องการ ก็คงต้องพยายามลดความเชื่อเหล่านี้ลงให้มากที่สุด อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่มันก็คุ้มค่า ขอเพียงแค่เราพยายามเปลี่ยนความคิด วันละนิดหน่อย เดี๋ยวไม่นานเราก็เป็นคนใหม่ ที่มีความสำเร็จรออยู่แค่เอื้อมครับ




Create Date : 18 มีนาคม 2558
Last Update : 19 มีนาคม 2558 7:29:11 น. 0 comments
Counter : 844 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]