HR Management and Self Leadership
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
19 สิงหาคม 2554

I am OK, You’re OK

ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายท่านน่าจะเคยได้ยินประโยคหัวเรื่องของผมใน
วันนี้ ไม่ว่าจะมีการอบรมกันในเรื่องของการทำงานเป็นทีม
การสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน หรือภาวะผู้นำ ฯลฯ
จะต้องมีแนวคิดของนักจิตวิทยาคนนี้มาเล่าให้ฟังกันเสมอ แนวคิดนี้เป็นของ Thomas A Harris ซึ่งมีแนวคิดในการมองตนและมองคนอื่นดังนี้


แนวคิดนี้เรียกว่า 4 life positions ครับมีดังนี้ครับ



  • I'm Not OK, You're OK
    ความคิดแบบแรกนี้ จะเป็นคนที่มองคนอื่นเก่งกว่า ดีกว่า ตนเองเสมอ
    จะมองตัวเองว่าด้อยกว่าคนอื่นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
    ซึ่งสำหรับคนที่เป็นหัวหน้า ความคิดแบบนี้ไม่ดีนัก
    เพราะมองว่าตนเองไม่เก่งเลย
    ซึ่งจุดนี้จะทำให้เราไม่สามารถไปสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกน้องของตนเอง
    ได้ และทำให้เพื่อนร่วมทีมไม่ค่อยจะยอมรับและเชื่อถือเรา



  • I'm Not OK, You're Not OK
    ความคิดที่สองก็คือ มองว่าตนเองไม่ดี ไม่เก่ง
    แถมยังมองคนอื่นว่าไม่ได้ดีไปกว่าตัวเองซักเท่าไร
    แบบนี้ยิ่งไม่ดีสำหรับคนที่จะเป็นหัวหน้า หรือผู้นำ



  • I'm OK, You're Not OK
    แบบที่สามนี้ เป็นการมองตนเองว่าเหนือกว่าคนอื่นทุกเรื่อง
    แต่คนอื่นสู้ตนเองไม่ได้เลยสักเรื่องเดียว คนที่มองตนเองแบบนี้
    จะเป็นคนที่ยกตนข่มท่าน และจะไม่ค่อยยอมให้คนอื่นมาดีกว่าตนเองได้



  • I'm OK, You're OK
    แบบสุดท้ายนี้
    จะเป็นแบบที่นักจิตวิทยาคนนี้ได้บอกไว้ว่าเป็นความคิดที่ดีที่สุด
    ที่อยากให้ทุกคนเป็น ก็คือ มองตนเองว่าเป็นคนมีความสามารถ
    มีความมั่นใจในตนเอง และความเก่งในการทำงานในเรื่องที่ตนถนัด
    รวมทั้งยังมองคนอื่นว่าเป็นคนที่เก่ง เพราะทุกคนจะมีความเก่งของตนเอง
    มีความเป็นตัวของตัวเอง คนที่มองแบบนี้จะเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเอง
    และให้เกียรติคนอื่นด้วย
    ซึ่งนี่คือคุณสมบัติที่ดีของคนที่จะเป็นผู้นำคนอื่นได้


ประเด็น
ก็คือ พอพูดถึงคำว่า I’m OK, and You’re OK ขึ้นมาแล้ว
ทุกคนจะคิดว่าตนเองมีความเชื่อแบบนี้แน่นอน แต่ในทางปฏิบัติเป็นแบบนี้จริงๆ
หรือไม่นั้น ก็อีกเรื่องนะครับ


ผมเคยเห็นหัวหน้างานหลายคนที่เวลา
เข้าอบรมเรื่องนี้แล้ว ต่างก็ตอบอย่างชัดเจนว่า เขาเป็นคนที่มองคนอื่นดี
และมองตนเองดี ก็คือเข้าข่าย I’m OK and You’re OK


แต่พอถึงเวลาทำงาน
จริงๆ ก็มักจะทำตัวยกตนข่มท่าน
พยายามที่จะแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตนเองเก่งกว่าในทุกเรื่อง
โดยคุยโวโอ้อวดว่าตนเองมีความสามารถในการทำงาน
มีประสบการณ์ในการทำงานนี้มามากมาย
ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับทีมงานของตนเอง


แต่ใน
ขณะเดียวกัน ก็มองลูกทีมตัวเองว่าเป็นคนที่ไม่เอาไหน
เรื่องงานก็ยังทำได้ไม่เต็มที่ เรื่องพฤติกรรมก็ยังต้องปรังปรุงอีกมาก
และมักจะคิดเสมอว่า ทำไมไม่เอาอย่างตนเองที่ทำงานดีมาตลอด


ผมคิดว่า
สังคมของเราส่วนใหญ่จะสอนให้เราคิดแบบว่า I’m OK but you’re not OK มาตลอด
ตั้งแต่วัยเรียนแล้ว ก็จะมีการแข่งขันกันในการสอบเข้า คนที่สอบเข้าได้
ก็คิดว่าตนเองเป็นคนเก่ง และมองคนที่สอบไม่ได้ว่าสู้ตนเองไม่ได้
และมีความภูมิใจในตนเองมากขึ้นเรื่อง จนสุดท้ายกลายเป็นความยึดติด
และมองคนอื่นด้อยกว่าตนเองตลอดเวลา


ไม่ใช่แค่เรื่องเรียนหนังสือเท่า
นั้น การทำงานก็เช่นกัน จะต้องมีผู้แพ้ ผู้ชนะ อยู่ตลอดเวลา
สังเกตได้เวลาที่เราคุยกันในที่ประชุม หรือคุยกันในหมู่เพื่อนๆ ด้วยกัน
เราจะต้องมีการคุยข่มกันเอง ว่าฉันรู้เรื่องนี้มาแล้ว
อีกคนก็จะบอกว่าฉันรู้มามากกว่าเธออีก อีกคนก็จะสำทับว่า
ฉันต่างหากที่ได้เคยลองทำมันมากะมือ พวกเธอจะไปรู้อะไร จากนั้นก็จะเงียบไป
และเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุย พอเปลี่ยนเรื่องได้สักพัก
ก็จะเข้าสู่วงจรเดิมอีกครับ


นี่คือการที่คนเราคิดแบบ I’m OK but you’re not OK แบบเต็มๆ เลยครับ


แล้ว
ท่านเองล่ะครับมีแนวคิดแบบไหนในใจครับ ก็อยากให้ทุกคนเปลี่ยนมาเป็น I’m OK
and you’re OK กันให้หมด โลกนี้จะได้มีแต่ความสงบสุข
(ฝันกลางวันอีกแล้วเรา)






Free TextEditor


Create Date : 19 สิงหาคม 2554
Last Update : 19 สิงหาคม 2554 6:01:08 น. 0 comments
Counter : 1375 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]