HR Management and Self Leadership
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
21 กุมภาพันธ์ 2554

ความคิดของคุณ คุณควบคุมมันได้หรือไม่


ผมเคยเขียนเรื่องราวของความคิดว่า เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในชีวิตของเรา การกระทำทุกอย่างในแต่ละวันของเรานั้น ล้วนมาจากความคิดของเราทั้งสิ้น แต่ตัวเราเองอาจจะไม่รู้ตัวว่าเป็นแบบนั้น มีงานวิจัยของทางต่างประเทศเขาทำไว้เกี่ยวกับความคิดของคนเรานั้น เขาบอกว่า ในแต่ละวันนั้นคนเรามีความคิดในสมองของเราถึง 60,000 – 80,000 เรื่องต่อวันเลยทีเดียว แต่เรากลับไม่ค่อยรู้สึกว่าเราคิดอะไรมากมายถึงขนาดนั้นได้อย่างไร


ทุกวันหลังจากที่เราตื่นขึ้นมาตอนเช้า สมองเราก็เริ่มคิดทันที บางครั้งตัวเราไม่รู้ตัวว่าเรากำลังคิดอยู่ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ทำเป็นประจำ “เช้าแล้วหรือนี่” นี่เราก็เริ่มคิดแล้ว “วันนี้ไม่ค่อยอยากตื่นไปทำงานเลย” นี่ก็คิดอีกแล้ว จากนั้นก็คิดไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งวันจนกระทั่งเราหลับไปอีกครั้งในตอนกลางคืน


มีคำถามอยู่ว่า เราสามารถควบคุมความคิดของเราเองได้หรือไม่ หรือเรากำลังให้ความคิดของเราควบคุมเราอยู่ เรื่องนี้มีประเด็นสำคัญมากสำหรับการดำรงชีวิต และความสำเร็จของชีวิตเราเลยทีเดียวนะครับ โดยทั่วไปเรามักจะปล่อยให้ความคิดของเราไหลไปเรื่อยๆ โดยไม่เคยคิดหรือไม่เคยสนใจว่า ความคิดนั้นๆ มันจะเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ดี ลองนั่งพิจารณาดูสิครับ ว่าความคิดของเรามีอะไรบ้าง ลองหาเวลาสงบๆ นั่งเงียบๆ คนเดียว แล้วพิจารณาความคิดของเราเองว่า เราคิดเรื่องอะไรไปบ้างในช่วงเวลาหนึ่งๆ ลองดูตัวอย่างก็ได้นะครับ


“….ทำไมวันนี้ร้อนจัง อากาศบ้านเรานี่เปลี่ยนแปลงบ่อยมากเลย เดี๋ยวฝนก็ตก เดี๋ยวก็ร้อน แบบนี้คนที่สุขภาพไม่แข็งแรงก็ไม่สบายแน่เลย เราเองก็คงเหมือนกัน ต้องออกกำลังกายบ้างซะแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวจะไม่สบายเอา จะว่าไปลุงที่ฟิตเนสที่เราเคยเจอก็เห็นแก่ตัวมากเลย แกเล่นเครื่องเล่นแล้วไม่ยอมให้คนอื่นเล่นบ้าง น่าจะมีใครคอยไปเตือนลุงแกบ้างนะ จะว่าไปคนเราปัจจุบันก็เห็นแก่ตัวมากขึ้น นี่หน้าบ้านเราเองแต่กลับมีคนมาจอดรถบังหน้าบ้านเราเองเลย แถมยังจอดโดยที่ไม่มีการบอกกล่าวกันด้วย ทำเหมือนกับเป็นบ้านตัวเองเลย แย่จริงๆ เดี๋ยววันดีคืนดี จะไปปล่อยยางลมให้มันรู้แล้วรู้รอดเลย นี่ก็มาจอดอีกแล้ว ไม่รู้จักเกรงใจชาวบ้านบ้างเลย ไม่รู้ว่าถูกเลี้ยงดูมายังไง ถึงมีความคิดเห็นแก่ตัวแบบนี้……….”


ความคิดดังกล่าวนั้นมีหลายเรื่อง แต่เชื่อมั้ยครับว่า เราสามารถคิดเรื่องทั้งหมดที่กล่าวมานั้นภายในไม่ถึง 30 วินาที ลองคิดดูสิครับ แล้วในแต่ละวันเราจะคิดอะไรอยู่บ้าง ความคิดเหล่านี้นี่เองครับ ที่มีผลต่อการกระทำ มีผลต่อความรู้สึกของเราเองโดยตรง นักวิชาการหลายคนยังยืนยันว่า ถ้าเราคิดดี การกระทำเราก็จะดี และความรู้สึกเราก็จะดีตามไปด้วย เพียงแต่เราจะต้องควบคุมความคิดของเราให้ไปในทางที่ดี


นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับความคิดของเราว่ามีผลต่อระบบเคมีในร่างกายของเราหรือไม่ คำตอบก็คือ มีผลอย่างมากเลยครับ ถ้าเราคิดดี ร่างกายจะหลั่งสารเคมีที่ดี และทำให้อารมณ์เราดีไปด้วย พออารมณ์ดี สารเคมีที่ดีก็จะหลั่งไหลสู่ทุกส่วนของร่างกาย ทำให้เรารู้สึกดี มีความสุข สุขภาพเราก็จะดีไปด้วย


ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราคิดไม่ดี มัวแต่วิตกกังวล มองโลกในแง่ร้าย ผลก็คือร่างกายจะหลั่งสารเคมีที่ส่งผลต่อความเครียดต่อร่างกายไปด้วย ก็จะทำให้อารมณ์เราขุ่นมัว ยิ่งไปกว่านั้นถ้าคิดไม่ดีบ่อยๆเข้า ร่างกายก็จะเกิดสารเคมีที่สะสม จนทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาอีกครับ อันนี้ทางการแพทย์เขาพิสูจน์กันมาแล้ว ว่าคนที่คิดไม่ดี มองโลกในแง่ร้าย จะมีความเครียดมากกว่าคนปกติ ส่งผลให้เกิดกรดในกระเพาะ และทำให้เกิดโรคกระเพาะได้ จากนั้นก็ส่งผลไปเรื่อยๆ ถ้ายังไม่สามารถควบคุมความคิดในทางที่ไม่ดีของเราได้


คำถามก็คือ เราสามารถควบคุมความคิดของเราได้หรือไม่ คำตอบก็คือ ควบคุมได้แน่นอน เพราะถ้าเรารู้ว่าขณะนี้เรากำลังคิดอะไรอยู่ แปลว่าเราก็สามารถที่จะควบคุมความคิดของเราได้ อยู่ที่ว่าเราจะควบคุมมันจริงๆ หรือไม่ ถ้าพูดกันในทางพุทธศาสนาก็คือ “สติ” นั่นเองครับ และการควบคุมความคิดนี่แหละครับ ที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จในชีวิตแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น จะเป็นคนที่คิดดี มองโลกในแง่บวก ไม่คิดแบบสร้างข้อจำกัดให้ตัวเอง พอคิดแบบนี้ เราก็จะเห็นโอกาส และเปิดโอกาสให้กับตัวเองอีกด้วย ซึ่งทำให้เรามีทางเลือกในการสร้างความสำเร็จมากกว่าคนที่คิดในเชิงลบ


ดังนั้นเมื่อไหร่ที่เรารู้ตัวว่าเราเริ่มคิดในแง่ลบแล้ว ก็จงตั้งสติใหม่ และเปลี่ยนความคิดให้เป็นเชิงบวกเพราะมันจะมีผลทั้งต่อสุขภาพ และจิตใจของเราเลยนะครับ เช่นเวลาผมขับรถและรถติดมากๆ สมัยก่อนจะเครียดและบ่นกับตัวเองตลอดเวลาว่า “ทำไมถึงติดขนาดนี้ ทำไมไม่มีหน่วยงานไหนมารับผิดชอบดูแลเลยหรือ รถติดแบบนี้มันทำให้บ้านเมืองสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากมาย เสียเวลาเราอีก งานก็เยอะอยู่ด้วย ต้องมานั่งแบบเสียเวลาโดยไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ ไร้ประโยชน์สิ้นดี….” ผลก็คือความเครียดครับ และทำให้เรายิ่งขับรถแบบแย่ๆ ยิ่งขึ้นไปอีก และอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้นอีก


ตอนหลังก็เริ่มควบคุมความคิดของตัวเองมากขึ้น “รถติด ไม่เป็นไร ก็เป็นธรรมชาติในกทม. มีเวลาพักผ่อนฟังเพลงในรถมากขึ้น เอาเวลาตรงนี้มาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นอีกดีกว่า เปิดซีดี การสัมมนาเรื่องต่างๆ ฝึกภาษา นั่งคิดทบทวนถึงผลงานของเราที่ผ่านมาว่าจะต้องปรับปรุงอะไรบ้างให้ดีขึ้นไปอีก….” ก็เปลี่ยนความเครียดให้เป็นความสบายใจซะ ซึ่งก็ได้ผลนะครับ บางทีก็ถึงบ้านโดยที่ไม่รู้ตัว และไม่เครียดเรื่องรถติดด้วยครับ


ทำไมเราต้องทำให้ตัวเราเครียดด้วย ทั้งๆ ที่คนอื่นเขาก็อยู่ในสภาพเดียวกับเรา ความแตกต่างของคนที่มองโลกในแง่ดี กับแง่ร้ายก็คือ คนที่มองโลกในแง่ดีจะมีความสบายใจมากกว่า ซึ่งส่งผลให้เกิดสิ่งที่ดีๆ ตามมาอีกครับ


ทุกอย่างล้วนอยู่ที่ความคิดของเราจริงๆ ครับ






Free TextEditor


Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2554 6:32:11 น. 0 comments
Counter : 785 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]