จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
23 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 

นักสืบพราน - เรื่อง คดีลักคนเรียกค่าไถ่ (ตอนที่ 1)

นักสืบพราน  โดย 4411

เรื่อง คดีลักคนเรียกค่าไถ่ - ตอนที่ 1

โทรศัพท์ในห้องของนายร้อยตำรวจเอก พราน เจนเชิง ส่งเสียงเรียกขึ้นซ้อน ๆ กันหลายครั้ง ขณะนั้น เจ้าของห้องกำลังเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ทำงาน สายตาตรวจข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ อันเป็นกิจวัตรประจำวัน

เสียงออดจากเครื่องพูดบนโต๊ะดังขึ้น พร้อมกับเสียงเลขานุการิณีส่วนตัวของเขา พราน กดปุ่มพูด มีเสียงของผู้หญิงดังออกมาว่า

“โทรศัพท์จาก บริษัท งี่เซ้ง ค่ะ – ต้องการพูดกับหัวหน้า ”

คำว่า“ หัวหน้า ” นั้น หมายถึงตัวเขาเอง พรานพูดกรอกลงไปทันที

“ขอบใจมาก –กัลยา – คุณพูดกับเขาดูก่อน ชื่อนี้ผมยังไม่รู้จัก เช็คดูเสียหน่อย ผมจะคอยฟัง ”

เขาดับเครื่องพูดเมื่อมีเสียงรับจากทางโน้น และก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือพิมพ์ต่อไป

พราน เจนเชิง เป็นนายตำรวจหนุ่ม ซึ่่งสำเร็จจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และเขาได้ผ่านงานชิ้นสำคัญ ๆ มาแล้ว ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่เขารับราชการอยู่ เพราะเป็นผู้ที่มีนิสัยรักการผจญภัยและนิยมในด้านการสืบสวน ประกอบกับตนเป็นผู้มีไหวพริบเจนจัดในด้านนี้พอตัว พราน จึงลาออกจากราชการ และมาตั้งสำนักงานนักสืบของเขาขึ้นมาเอง โดยมีเพื่อน ๆ ของเขาบางคนซึ่งสำเร็จการศึกษาจากโรวเรียนสืบสวนของกรมตำรวจมาด้วยกัน ร่วมมือกันดำเนินการ

สำนักงานแห่งนี้ของเขามีชื่อว่า“ สำนักงานสืบสวนและสอบสวนของพรานและสหาย ”

พรานผ่านการศึกษาและอบรมมาจากโรงเรียนสืบสวนมาแล้ว และได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เขาได้ผ่านการดูงานในต่างประเทศมาหลายประเทศ ในระหว่างที่เขายังรับราชการอยู่ และในชีวิตราชการของเขา พรานก็ได้สร้างชื่อเสียง ยังความหวั่นเกรงให้บรรดาผู้ร้ายต่าง ๆอยู่ไม่น้อย

ความรักชีวิตอิสระ ทำให้พราน ต้องออกมาตั้งสำนักงานของเขาเอง ดำเนินงานในด้านการสืบสวนคดีอาญาสำคัญ ๆ โดยตัวเขาเองเป็นหัวหน้า และผลงานของเขาก็ได้ปรากฏเป็นที่เชื่อถือของประชาชนส่วนมาก และมีส่วนช่วยเหลือในด้านการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่น้อย เรื่องใดซึ่ง พราน ถือว่า เป็นเรื่องที่ควรจะทิ้งเงื่อนงำไว้ให้ตำรวจ เขาก็มักจะบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ โดยไม่ยอมรับค่าตอบแทน ส่วนลูกค้าของสำนักงาน พราน ก็ทำงานให้คุ้มกับค่าจ้างของเขาทีเดียว

พรานยังเป็นโสด เพราะเขาคิดว่า การที่จะทำงานโดยเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ ย่อมไม่เหมาะที่จะเป็นผู้มีครอบครัว กฎหมายไม่ได้ให้ความคุ้มครองแก่อาชีพของเขา และเขาอาจจะต้องทำงานบางอย่างซึ่งผิดกฎหมาย แต่เพื่อช่วยเหลือกฎหมายในบางขณะ พรานถือว่า มันเป็นกีฬาชนิดหนึ่งซึ่งเขาพิสมัยมันนัก

เลขานุการิณีของเขาเป็นคนสวยและสด ชื่อ กัลยา บิดาของเธอเป็นนายตำรวจ ด้วยเหตุที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขมาจากตำรวจ “ กัลยา ชาญวิทยา ” จึงรักงานประเภทนี้

บิดาของกัลยา เคยเป็นผู้บังคับบัญชาของพรานมาก่อน ในสมัยที่เขายังรับราชการอยู่กัลยากับพรานจึงเข้าใจกันดีในด้านของการงาน และได้เป็นผู้ช่วยเหลือของพรานอย่างดีมาตลอดเวลาที่ได้ดำเนินงานร่วมกัน

พรานเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ เมื่อมีเสียงออดจากเครื่องพูดดังขึ้น เขาเปิดเครื่องฟัง

“ว่ายังไง กัลยา ”

“เจ้าของบริษัท งี่เซ้ง ที่เยาวราชบอกว่า เขาต้องการพูดกับหัวหน้า ดิฉันบอกว่า หัวหน้ายังไม่ว่าง เขาอยากจะมาพบหัวหน้า ดิฉันเห็นว่ายังเช้าอยู่ เพิ่งจะ๙.๐๐ น. บางทีหัวหน้าอาจจะยังไม่สร่างจากงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ ดิฉันจึงนัดแกมาเวลา ๑๑.๐๐ น. ลูกชายของแกถูกคนร้ายจับตัวไปเรียกค่าไถ่เมื่อคืนนี้ เวลาสองทุ่ม  ดิฉันไม่ได้ซักอะไรแกมาก เพราะรู้สึกแกไม่กล้าที่จะพูด แกบอกว่า ได้รับจดหมายขู่ และนัดให้นำเงินไปไถ่ห้าแสนบาท ดิฉันเลยให้แกนำจดหมายฉบับนั้นมาด้วย เวลาแกมาพบหัวหน้า ”

“ดีมาก –กัลยา ”  พรานกล่าว  เขาหยุดใช้ความคิดชั่วขณะ  แล้วพูดว่า “ คุณช่วยเรียกคุณเกรียงมาพบผมด้วย ”

“ตาเกรียงขี้เมานั่นหรือคะ ”

พรานหัวเราะ “ นั่นแหละ กัลยา - แต่อย่าลืมว่า แกเป็นนักสืบคนสำคัญคนหนึ่งของเรา แล้วคุณก็เข้ามาด้วย เวลาตาเถ้าแก่นั่นมาพบผม ผมจะงีบสักชั่วโมงกว่า ๆ จริงอย่างคุณว่า เจ้าสังขยาเมื่อคืนนี้มันทำพิษกับผมพอดู ปลุกผมก่อนเวลา ๑๐ นาที ”

“ค่ะ ” มีเสียงตอบรับ พร้อมกับเสียงปิดเครื่องพูด

พรานเอกเขนกต่อไป สมองของเขาเริ่มใช้ความคิดกับงาน อันหมายถึงเงินก้อนใหญ่ที่จะมาถึงมือเขา นึกถึงกัลยา ซึ่งบางครั้ง เขาอยากจะแต่งงานกับหล่อน พรานเข้าใจดีว่า กัลยาคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจเขาดีกว่าหญิงอื่น แต่พรานก็ยังรักชีวิตอิสระของเขาอยู่ การได้ทำเจ้าชู้และหยอกล้อผู้หญิงทั่ว ๆ ไป ซึ่งในบางครั้งได้ผ่านเข้ามา พร้อมกับงานบางชิ้นในหน้าที่ ก็ทำให้เขามีความเพลิดเพลินพอสมควรอยู่แล้ว ฉะนั้น พรานจึงยังรักที่จะให้ กัลยาเป็นผู้ช่วยของเขาแต่เพียงในด้านธุรการงานไปก่อน จนกว่าจะถึงเวลาอันควรที่จะมาช่วยเหลือถึงกับขั้นร่วมชีวิต

เขาม่อยหลับไปชั่วขณะหนึ่ง รู้สึกตัวตื่นขึ้้นเมื่อได้ยินเสียงออดของเครื่องพูดขึ้นเข็มนาฬิกาตรงเวลาอีก ๑๐ นาทีจะ ๑๑ นาฬิกา เสียงของกัลยาแจ๋วออกมา

“อีก ๑๐ นาทีจะ ๑๑ นาฬิกาแล้วค่ะ ”

“ขอบใจมาก –กัลยา ”

เสียงเงียบไปสักครู่ ก็มีเสียงเครื่องพูดเรียกขึ้นอีก “ เถ้าแก่งี่เซ้งมาพอดีค่ะ – หัวหน้า”

“บอกเขาเข้ามาได้ ”

ผู้ที่เปิดประตูห้องเข้ามาเป็นคนลักษณะอ้วนพุงพลุ้ย อยู่ในวัยกลางคน ดวงตาที่พองโตทั้งสองข้าง ส่อลักษณะของคนที่ได้รับความตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2555
4 comments
Last Update : 23 พฤษภาคม 2555 2:57:43 น.
Counter : 1335 Pageviews.

 

ขอบคุณมากๆ..

 

โดย: ก้นกะลา 23 พฤษภาคม 2555 20:13:08 น.  

 

มาติดตามอ่านครับ ขอบคุณครับ

 

โดย: Insignia_Museum 23 พฤษภาคม 2555 23:44:02 น.  

 

ไม่รู้จะเม้นอะไร ขอบที่เอามาลงให้อ่าน จ้า

 

โดย: sam IP: 182.53.170.191 16 กรกฎาคม 2555 11:44:37 น.  

 

น่าสนุกนะค่ะ.....ชอบแนวสืบสวน....

 

โดย: ใบข้าวสีเขียว (ใบข้าวสีเขียว ) 22 สิงหาคม 2555 11:02:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.