Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 
21 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. มนุษย์บุถุชน รู้จักพระองค์น้อยเกินไป

.





ภิกษุ ท. !
นั่นยังน้อยไป ยังต่ำไป เป็นเพียงส่วนศีลเท่านั้น คือข้อที่ปุถุชนกล่าวสรรเสริญคุณของตถาคตอยู่.

ภิกษุ ท. !
ปุถุชนกล่าวสรรเสริญคุณของตถาคตอยู่ ยังน้อย ยังต่ำ สักว่าศีลเท่านั้น, นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?

คือบุถุชนกล่าวสรรเสริญตถาคตอยู่ว่า ..

- พระสมณโคดมละการทำสัตว์มีชีวิตให้ตกล่วงไป เป็นผู้งดขาดจากปาณาติบาต วางท่อนไม้และศาสตราเสียแล้ว มีความละอายต่อบาป มีความเอ็นดูกรุณา หวังประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์ ท.

- และว่า พระสมณโคดม ละการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้ งดขาดจากอทินนาทาน ถือเอาแต่ของที่เจ้าของให้แล้ว หวังอยู่แต่ในของที่เจ้าของเขาให้, เป็นคนสะอาด ไม่เป็นขโมย.

- และว่า พระสมณโคดม ละกรรมอันมิใช่พรหมจรรย์, เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์โดยปรกติ ประพฤติห่างไกล เว้นขาดจากการเสพเมถุน อันเป็นของสำหรับชาวบ้าน.

- และว่า พระสมณโคดม ละการกล่าวเท็จ งดขาดจากมุสาวาท พูดแต่คำจริง รักษาคำสัตย์ มั่นคงในคำพูด ควรเชื่อได้ ไม่แกล้งกล่าวให้ผิดต่อโลก.

- และว่า พระสมณโคดม ละการกล่าวคำส่อเสียด งดขาดจากปิสุณาวาท, ได้ฟังจากฝ่ายนี้แล้ว ไม่เก็บไปบอกฝ่ายโน้น เพื่อทำลายฝ่ายนี้. หรือได้ฟังจากฝ่ายโน้นแล้ว ไม่เก็บมาบอกฝ่ายนี้ เพื่อทำลายฝ่ายโน้น, แต่จะสมานชนที่แตกกันแล้วให้กลับพร้อมเพรียงกัน, อุดหนุนชนที่พร้อมเพรียงกันอยู่ให้พร้อมเพรียงกันยิ่งขึ้น, เป็นคนชอบใจในการพร้อมเพรียง กล่าวแต่วาจาที่ทำให้พร้อมเพรียงกัน.

- และว่า พระสมณโคดม ละการกล่าวคำหยาบ งดขาดจากผรุสวาท, กล่าวแต่วาจาที่ปราศจากโทษ เสนาะโสต ให้เกิดความรัก เป็นคำฟูใจ เป็นคำสุภาพที่ชาวเมืองเขาพูดกัน เป็นที่ใคร่ที่พอใจของมหาชน.

- และว่า พระสมณโคดม ละคำพูดที่โปรยประโยชน์ทิ้งเสีย งดขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ, กล่าวแต่ในเวลาสมควร กล่าวแต่คำจริง เป็นประโยชน์เป็นธรรมเป็นวินัย เป็นวาจามีที่ตั้ง มีหลักฐาน มีที่อ้างอิง มีเวลาจบ เต็มไปด้วยประโยชน์ สมควรแก่เวลา.

- และว่า พระสมณโคดม งดขาดจากการล้างผลาญพืชคาม และภูตคาม,
เป็นผู้ฉันอาหารวันหนึ่งเพียงหนเดียว เว้นจากการฉันในราตรีและวิกาล,

(พืชคามคือพันธุ์ที่เขานำมาให้ แต่ยังปลูกเป็นได้อีกอยู่, เช่นของมีเมล็ดมีหน่อ ฯลฯ ภูตคามคือพืชพันธุ์ที่ยังเกิดอยู่กับที่เดิม)

- เป็นผู้งดขาดจากการรำ การขับ การร้องการประโคม และดูการเล่นชนิดที่เป็นข้าศึกแก่กุศล, เป็นผู้งดขาดจากการประดับประดา คือทัดทรงตบแต่งด้วยมาลาและของหอมเครื่องลูบทา,

- เป็นผู้งดขาดจากการนอนบนที่นอนสูงใหญ่,

- เป็นผู้งดขาดจากการรับเงินและทอง,

- เป็นผู้งดขาดจากการรับข้าวเปลือก,

- งดขาดจากการรับเนื้อดิบ, การรับหญิง และเด็กหญิง, การรับทาสี และทาส, การรับแพะ แกะ ไก่ สุกร ช้าง ม้า โค ทั้งผู้และเมีย, งดขาดจากการรับที่นาที่สวน,

- งดขาดจากการรับใช้เป็นทูตไปในที่ต่างๆ (ให้คฤหัสถ์).

- งดขาดจากการซื้อขาย, การฉ้อโกงด้วยตาชั่ง, การลวงด้วยของปลอม, การฉ้อด้วยเครื่องนับ (เครื่องตวงและเครื่องวัด),

- งดขาดจากการโกง ด้วยการรับสินบนและล่อลวง, การตัด การฆ่า การจำจอง การซุ่มทำร้าย การปล้น การกรรโชก. (เหล่านี้ เป็นส่วน จุลศีล)

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวกพากันฉันโภชนะ ที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังทำพืชคามและภูตคามให้กำเริบ, คืออะไรบ้าง ?

- - คือ พืชที่เกิดแต่ราก-เกิดแต่ต้น-เกิดแต่ผล-เกิดแต่ยอด-เกิดแต่เมล็ด
ให้กำเริบอยู่, ส่วนท่านงดขาดจากการทำพืชคามและภูตคามให้กำเริบแล้ว.

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก พากันฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังทำการบริโภคสะสม คือ สะสมข้าว สะสมน้ำดื่ม สะสมผ้า สะสมยานพาหนะ สะสมที่นอน สะสมเครื่องผัดทาของหอมและอามิส อยู่, ส่วนท่านงดขาดจากการสะสมเห็นปานดังนั้นเสีย

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก พากันฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังดูการเล่น คือ ดูฟ้อน ฟังขับ ฟังประโคมดูไม้ลอย ฟังนิยาย ฟังเพลงปรบมือ - ตีฆ้อง-ตีระนาด ดูหุ่นยนต์ ฟังเพลงขอทาน ฟังแคน ดูการเล่นหน้าศพ ดูชนช้าง แข่งม้า ชนกระบือ ชนโค-แพะ-แกะ-ไก่-นกกระทา, ดูรำไม้ รำมือ ชกมวย, ดูเขารบกัน ดูเขา ตรวจพล, ดูเขาตั้งกระบวนทัพ; ดูกองทัพที่จัดไว้เสร็จแล้วบ้างอยู่, ส่วนท่านเป็นผู้งดขาดจากการดูการเล่นเห็นปานดังนั้นเสีย.

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก พากันฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังเล่นการพนัน หรือการเล่นอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท คือเล่นหมากรุกทุกชนิดแถวละ๘ ตาบ้าง ๑๐ ตาบ้าง เล่นหมากเก็บ, ชิงนาง หมากไหว โยนบ่วง ไม้หึ่ง ฟาดให้เป็นรูป ทอดลูกบาศก์เป่าใบไม้, เล่นไถน้อย ๆ หกคะเมน กังหัน ตวงทรายด้วยใบไม้ รถน้อย ๆ ธนูน้อยๆ ทายอักษรในอากาศ ทายใจ ล้อคนพิการอยู่, ส่วนท่านงดขาดจากการพนัน หรือการเล่นอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เห็นปานดังนั้นเสีย.

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก พากันฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบการนอนบนที่นอนสูงใหญ่ คือเตียงเท้าสูงเกินประมาณ, เตียงที่เท้าสลักรูปสิงห์,ผ้าโกเชาว์ขนยาว, เครื่องลาดขนแกะวิจิตรด้วยลายเย็บ, เครื่องลาดขนแกะสีขาว, เครื่องลาดขนแกะมีลายเป็นกลุ่มดอกไม้, เครื่องลาดมีนุ่นภายใน, เครื่องลาดวิจิตรด้วยรูปสัตว์ร้าย,เครื่องลาดมีขนตรงขึ้นข้างบน เครื่องลาดมีชายครุย เครื่องลาดแกมทอง-เงินไหม เครื่องลาดใหญ่ (นางฟ้อนได้ ๑๖ คน) ฯลฯ, อยู่, ส่วนท่านงดขาดจากการนอนบนที่นอนสูงใหญ่ เห็นปานดังนั้นเสีย.

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก พากันฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบการประดับประดาตกแต่งร่างกายเห็นปานนี้ คือการอบตัว การเคล้นตัว การอาบสำ อาง การนวดเนื้อ การส่องดูเงา การหยอดตาให้มีแววคมขำ การใช้ดอกไม้ การทาของหอม การผัดหน้า การทาปาก การผูกเครื่องประดับที่มือ การผูกเครื่องประดับที่ กลางกระหม่อม การถือไม้ถือ การห้อยแขวนกล่องกลักอันวิจิตร การคาดดาบ การคาดพระขรรค์การใช้ร่มและรองเท้าอันวิจิตร การใส่กรอบหน้า การปักปิ่น การใช้พัดสวยงาม การใช้ผ้าขาวชายเฟื้อยและอื่นๆ อยู่, ส่วนท่านงดขาด จากการประดับประดาตกแต่งร่างกาย เห็นปานดังนั้นเสีย.

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก พากันฉัน โภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบเดรัจฉานกถา คือคุยกันถึงเรื่องพระราชา, โจร, อมาตย์, กองทัพ, ของน่าหวาดเสียว, การรบ; เรื่องน้ำ, เรื่องข้าว, ผ้า, ที่นอน, ดอกไม้, ของหอม, ญาติ, ยานพาหนะ, บ้าน, จังหวัด, เมืองหลวง, บ้านนอก, หญิง, ชาย, คนกล้า, ตรอก, ท่าน้ำ, คนตายไปแล้ว, เรื่องโลกต่างๆ, เรื่องสมุทร, เรื่องความฉิบหาย, เรื่องความมั่งคั่ง, บ้างอยู่, ส่วนท่านงดขาดจากการประกอบเดรัจฉานกถาเห็น ปานดังนั้นเสีย.

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก พากันฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบการกล่าวถ้อยคำแก่งแย่งกันอยู่ คือแก่งแย่งกันว่า “ท่านไม่รู้ทั่วถึงพระธรรมวินัยนี้,ข้าพเจ้ารู้ทั่วถึงธรรมวินัยนี้, ท่านจะรู้ทั่วถึงอย่างไรได้, ท่านปฏิบัติผิด ข้าพเจ้าปฏิบัติถูก, ถ้อยคำของข้าพเจ้าเป็นประโยชน์, - ของท่านไม่เป็นประโยชน์, คำควรพูดก่อนท่านนำมาพูดทีหลัง คำควรพูดทีหลัง ท่านพูดเสียก่อน, ข้อที่ท่านเคยเชี่ยวชาญ ได้เปลี่ยนแปลงไปเสียแล้ว, ข้าพเจ้ายกคำพูดแก่ท่านได้แล้ว ท่านถูกข้าพเจ้าข่มได้แล้ว ท่านจงถอนคำพูดของท่านเสีย หรือถ้าท่านสามารถ ก็จงค้านมาเถิด” ดังนี้ อยู่, ส่วนท่านงดขาดจากการกล่าวถ้อยคำแก่งแย่ง เห็นปานดังนั้นเสีย.

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก พากันฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบการรับเป็นทูต, รับใช้ไปในที่นั้นๆ อยู่ คือรับใช้พระราชา รับใช้อมาตย์ของพระราชา รับใช้กษัตริย์ -พราหมณ์ -คหบดี และรับใช้เด็กๆ บ้าง ที่ใช้ว่า "ท่านจงไปที่นี้, ท่านจงไปที่โน้น, ท่านจงนำสิ่งนี้ไป, ท่านจงนำสิ่งนี้มา" ดังนี้ อยู่, ส่วนพระสมณโคดมท่านเป็นผู้งดขาดจากการรับเป็นทูต เห็นปานดังนั้นเสีย.

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก พากันฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบการแสวงหาลาภ ด้วยการกล่าวคำล่อหลอก การพูดพิรี้พิไร การพูดแวดล้อมด้วยเลิศ การพูดให้ทายกเกิดมานะ มุทะลุในการให้ และการใช้ของค่าน้อย ต่อเอาของที่มีค่ามาก อยู่, ส่วนท่าน งดขาดจากการแสวงหาลาภโดยอุบายหลอกลวง เห็นปานดังนั้นเสีย. (เหล่านี้ เป็นส่วน มัชฌิมศีล)

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก พากันฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบมิจฉาอาชีวะ ทำเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้อยู่ คือ ทายลักษณะในร่างกาย, นิมิตลางดีร้าย, ดาวตก, อสนีบาต, ทำนายฝัน, -ชะตา,ผ้าหนูกัด, ทำพิธีโหมเพลิง, เบิกแว่นเวียนเทียน ซัดโปรยแกลบรำข้าวสาร ฯลฯ, อยู่, ส่วนท่านเป็นผู้งดขาดจากการประกอบ มิจฉาอาชีวะ ทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานดังนั้นเสีย.

- ว่า พระสมณโคดม, เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก พากันฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ยังประกอบมิจฉาอาชีวะ ทำเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้อยู่ คือ ฯลฯ (๑หมวดทายลักษณะสิ่งของเช่นแก้ว, ไม้เท้า, เสื้อผ้า, ทาสเป็นต้น, หมวดทำนายการรบพุ่ง, หมวดทำนายทางโหราศาสตร์, หมวดทำนายดินฟ้าอากาศ, หมวดร่ายมนต์พ่นด้วยคาถา, หมวดทำให้คนมีอันเป็นไปต่างๆ และหมวดทำเวชกรรม ประกอบยาแก้โรคต่างๆ) อยู่, ส่วนท่านงดขาดจากการประกอบมิจฉาอาชีวะ ทำเดรัจฉานวิชาเห็นปานนั้นเสีย.

(ในบาลี จำแนกรายชื่อมากมาย จนเกินความต้องการที่จะยกมาไว้ในที่นี้ ผู้ประสงค์พึงเปิดดูในที่มานั้นๆ จากพระบาลี, หรือจากเรื่องบุรพภาคของการตามรอยพระอรหันต์ ตอนบาลีสามัญผลสูตรก็ได้)

ภิกษุ ท. !
นี่แล คำสำหรับบุถุชน พูดสรรเสริญคุณของตถาคตยังน้อยยังต่ำ สักว่าเป็นขั้นศีลเท่านั้น.

ภิกษุ ท. !
ธรรมอื่น ที่ลึกซึ่ง เห็นยาก รู้ยาก รำงับ ประณีตไม่เป็นที่เที่ยวของความตริตรึก (ตามธรรมดา) เป็นธรรมละเอียด รู้ได้เฉพาะบัณฑิต ซึ่งตถาคตได้ทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ประกาศให้ผู้อื่นรู้แจ้งตามด้วย, เป็นคำสำหรับผู้จะพูดสรรเสริญตถาคตให้ถูกเต็มตามที่เป็นจริง มีอยู่. ธรรมนั้นคือ
อะไรเล่า? (ต่อนี้ ทรงแสดงทิฏฐิ ๖๒ ประการ พร้อมทั้งเรื่องราวต้นเหตุ, ที่เป็นหัวข้อ เปิดดูได้ ในภาค ๓ ของเรื่องนี้ ตอนว่าด้วยทรงทราบทิฐิที่ลึกซึ้ง, ส่วนเรื่องละเอียดเปิดดูในพระบาลีเดิม).
.
.
.
บาลี พรหมชาลสูตร สี.ที. ๙/๔/๒.
ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ที่อุทยานอัมพลัฏฐิกา, ระหว่างกรุงราชคฤห์ กับ เมืองนาลันทา ต่อกัน




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2555
0 comments
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2555 5:57:48 น.
Counter : 1106 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.