Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 
13 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงเห็นลู่ทางที่จะช่วยเหลือปวงสัตว์

.




ภิกษุ ท. !
ครั้งหนึ่ง ที่ตำบลอุรุเวลา ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชราที่ต้นไทรเป็นที่พักร้อนของเด็กเลี้ยงแพะ เมื่อเราแรกตรัสรู้ได้ใหม่ ๆ, ความปริวิตกแห่งใจได้เกิดขึ้นแก่เรา ขณะเข้าสู่ที่พักกำบังหลีกเร้นอยู่, ว่า "นี่เป็นหนทางเครื่องไปทางเดียว เพื่อความบริสุทธิ์หมดจดของสัตว์ทั้งหลาย, เพื่อก้าวล่วงเสียซึ่งความโศกและปริเทวะ เพื่อความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง ทางนี้ คือ สติปัฏฐานสี่. สี่เหล่าไหนเล่า ? คือ .. ภิกษุเป็นผู้มีธรรมดาตาม ..
- เห็นกายในกาย,
- เห็นเวทนาในเวทนา ท.,
- เห็นจิตในจิต,
- เห็นธรรมในธรรม ท. อยู่,
- เป็นผู้มีเพียรเผาบาป
- มีสติสัมปชัญญะ
- นำอภิชฌาและโทมนัสในโลก ออกได้ :
นี้ทางทางเดียว" ดังนี้.

ภิกษุ ท. !
ลำดับนั้น สหัมบดีพรหมรู้ปริวิตกในใจของเราจึงอันตรธานจากพรหมโลก มาปรากฏอยู่เฉพาะหน้าเรา รวดเร็วเท่าเวลาที่บุรุษแข็งแรงเหยียดแขนออกแล้วงอเข้า เท่านั้น. ครั้งนั้นสหัมบดีพรหมทำผ้าห่มเฉวียงบ่าน้อมอัญชลีเข้ามาหาเรา แล้วกล่าวกะเราว่า ..

"อย่างนั้นแล พระผู้มีพระภาค !
อย่างนั้นแล พระสุคต ! ฯลฯ
นั่นเป็นทาง ๆ เดียว เพื่อความบริสุทธิ์หมดจดของสัตว์ทั้งหลาย, เพื่อก้าวล่วงเสียได้ซึ่งความโศกและปริเทวะ ฯลฯ เพื่อทำนิพพานให้แจ้ง”, แล้วและได้กล่าวคำ(อันผูกเป็นกาพย์) ว่า:-

"พระสุค ต ผู้มีธรรมดาเห็นที่สุดคือความสิ้นไปแห่งชาติ. ผู้มีพระทัยอนุเคราะห์สัตว์ด้วยความเกื้อกูล ย่อมทรงทราบทางเอก ซึ่งเหล่าพระอรหันต์ได้อาศัยข้ามแล้วในกาลก่อน และกำลังข้ามอยู่และจักข้าม ซึ่งโอฆะได้", ดังนี้
.
.
.
บาลี มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๒๒ - ๒๒๔/๗๕๔ – ๗๕๗.
ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย


Create Date : 13 สิงหาคม 2555
Last Update : 13 สิงหาคม 2555 15:03:00 น. 1 comments
Counter : 1154 Pageviews.

 
อย่ามุ่งมีกิเลสจ้องดับทุกข์ ท่านๆจะถูกวลีเหล่านั้น หลอกทาน หลอกบุญ หลอกพิธีกรรม


โดย: เด็กน้อย IP: 115.87.90.91 วันที่: 13 สิงหาคม 2555 เวลา:17:09:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.