พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงทำลายความขลาด ก่อนตรัสรู้
.
พราหมณ์ ! ครั้งก่อนแต่การตรัสรู้ เมื่อเรายังไม่ได้ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่ มีความรู้สึกว่า เสนาสนะอันสงัด คือป่าและป่าเปลี่ยว เป็นเสนาสนะยากที่จะเสพได้ ความสงัดยากที่จะทำได้ ยากที่จะยินดีในการอยู่ผู้เดียว ป่าทั้งหลายเป็นประหนึ่งว่านำไปเสียแล้วซึ่งใจแห่งภิกษุผู้ยังไม่ได้สมาธิ.
พราหมณ์ ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด มีกรรมทางกาย ไม่บริสุทธิ์เสพเสนาสนะสงัดคือป่าและป่าเปลี่ยวอยู่, เพราะโทษคือกรรมทางกาย อันไม่บริสุทธิ์ของตนแล สมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น ย่อมเรียกร้องมาซึ่งความขลาดและความกลัวอย่างอกุศล. ส่วนเราเอง หาได้เป็นผู้มีกรรมทางกายอันไม่บริสุทธิ์แล้วเสพเสนาสนะสงัดคือป่าและป่าเปลี่ยวไม่ : เราเป็นผู้มีกรรมทางกายอันบริสุทธิ์. ในบรรดาพระอริยเจ้าทั้งหลายผู้มีกรรมทางกายอันบริสุทธิ์ และเสพเสนาสนะอันสงัดคือป่าและป่าเปลี่ยว เราเป็นอริยเจ้าองค์หนึ่งในพระอริยเจ้าเหล่านั้น.
พราหมณ์ ! เรามองเห็นความเป็นผู้มีกรรมทางกายอันบริสุทธิ์ในตนอยู่ จึงถึงความมีขนอันตกสนิทแล้ว (ไม่ขนพอง) อยู่ในป่าได้.
พราหมณ์ ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด .. - มีวจีกรรม ไม่บริสุทธิ์. .... - มีมโนกรรม ไม่บริสุทธิ์, ... - มีอาชีวะ ไม่บริสุทธิ์, ... - มีอภิชฌามาก ... (โลภอยากได้ของเขา, ความคิดเพ่งเล็งจ้องจะเอาของของคนอื่น) - มีความกำหนัดแก่กล้าในกามทั้งหลาย, ... - มีจิตพยาบาท มีดำริชั่วในใจ, ... - มีถีนมิทธะ กลุ้มรุมจิต,...(ความหดหู่และเซื่องซึม, ความที่จิตหดหู่และเคลิบเคลิ้ม, ความง่วงเหงาซึมเซา) - มีจิตฟุ้ง ขึ้นไม่สงบ, ... - มีความระแวง มีความสงสัย, ... - เป็นผู้ยกตนข่มท่าน, ... - เป็นผู้มักหวาดเสียว - มีชาติแห่งคนขลาด, ... - มีความปรารถนาเต็มที่ในลาภสักการะและสรรเสริญ, ... - เป็นคนเกียจคร้าน - มีความเพียรเลวทราม, ... - เป็นผู้ละสติปราศจาก สัมปชัญญะ, ... - มีจิตไม่ตั้งมั่น - มีจิตหมุนไปผิด, ... - มีปัญญาเสื่อมทรามเป็นคนพูดบ้าน้ำลาย, ...(อย่างหนึ่งๆ)*
...เสพเสนาสนะสงัดคือป่าและป่าเปลี่ยวอยู่; เพราะโทษ (อย่างหนึ่งๆ) นั้นของตนแล สมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้นย่อมเรียกร้องมาซึ่งความขลาด และความแล้วอย่างอกุศล.
ส่วนเราเองหาได้เป็นผู้ (ประกอบด้วยโทษนั้นๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง) มีวจีกรรมไม่บริสุทธิ์ (เป็นต้น) ไม่ : เราเป็นผู้มีวจีกรรมอันบริสุทธิ์ (และปราศจากโทษเหล่านั้นทุกอย่าง). ในบรรดาพระอริยเจ้าทั้งหลายผู้มีวจีกรรมอันบริสุทธิ์ (เป็นต้น) และเสพเสนาสนะสงัดคือป่าและป่าเปลี่ยวเราเป็นอริยเจ้าองค์หนึ่ง ในพระอริยเจ้าเหล่านั้น.
พราหมณ์ ! เรามองเห็นความเป็นผู้มีวจีกรรมอันบริสุทธิ์ (เป็นต้น) ในตนอยู่ จึงถึงความเป็นผู้มีขนตกสนิทแล้ว แลอยู่ในป่าได้.
พราหมณ์ ! ความตกลงใจอันนี้ได้มีแก่เราว่า ถ้ากระไรในราตรีอันกำหนดได้แล้วว่า เป็นวัน ๑๔, ๑๕ และ ๘ ค่ำ แห่งปักข์; สวนอันถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ ป่าอันถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ ต้นไม้อันถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ เหล่าใดเป็นที่น่าพึงกลัว เป็นที่ชูชันแห่งโลมชาติ เราพึงอยู่ในเสนาสนะเช่นนั้นเถิด บางทีเราอาจเห็นตัวความขลาดและความกลัวได้.
พราหมณ์ ! เราได้อยู่ในเสนาสนะเช่นนั้น ในวันอันกำหนดนั้นแล้ว.
พราหมณ์ ! เมื่อเราอยู่ในเสนาสนะเช่นนั้น สัตว์ป่าแอบเข้ามาหรือว่านกยูงทำกิ่งไม้แห้งให้ตกลงมา หรือว่าลมพัดหยากเยื่อใบไม้ให้ตกลงมา : ความตกใจกลัวได้เกิดแก่เราว่า นั่นความกลัวและความขลาดมาหาเราเป็นแน่. ความคิดค้นได้มีแก่เราว่า ทำไมหนอ เราจึงเป็นผู้พะวงแต่ในความหวาดกลัว; ถ้าอย่างไร เราจะหักห้ามความขลาดกลัวนั้นๆ เสีย โดยอิริยาบถที่ความขลาดกลัวนั้นๆ มาสู่เรา.
พราหมณ์ ! - เมื่อเราจงกรมอยู่ ความกลัวเกิดมีมา เราก็ขืน จงกรมแก้ความขลาดนั้น, ตลอดเวลานั้น เราไม่ยืน ไม่นั่ง ไม่นอน.
- เมื่อเรายืนอยู่ความกลัวเกิดมีมา เราก็ขืน ยืนแก้ความขลาดนั้น, ตลอดเวลานั้น เราไม่จงกรมไม่นั่ง ไม่นอน.
- เมื่อเรานั่งอยู่ ความกลัวเกิดมีมา เราก็ขืน นั่งแก้ความขลาด นั้น, ตลอดเวลานั้น เราไม่จงกรม ไม่ยืน ไม่นอน.
พราหมณ์ ! เมื่อเรานอนอยู่ความขลาดเกิดมีมา เราก็ขืน นอนแก้ความขลาดนั้น. ตลอดเวลานั้น เราไม่จงกรม ไม่ยืน ไม่นั่งเลย.
ภยเภรวสูตร มูลปริยายวรรค มู.ม. ๑๒/๒๙/๓๐. ทรงเล่าแก่ชาณุสโสณีพราหมณ์ ที่เชตวัน.
---------------------------------------- * บาลีกล่าวทีละอย่างๆ ซ้ำกันรวมทั้งหมดถึง ๑๖ ครั้ง นับตั้งแต่ กรรมทางกาย ลงมา, ซึ่งเขียนเต็ม; ส่วน ๑๕ ครั้งในที่นี้ ใช้ละคราวเดียวกัน
Create Date : 04 มิถุนายน 2555 |
Last Update : 4 มิถุนายน 2555 7:48:21 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1121 Pageviews. |
|
|
|
|
|