Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
3 มิถุนายน 2557
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. จิตไม่มีตัณหา เรียกว่าอยู่คนเดียว

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอแล ภิกษุจึงชื่อว่า เป็นผู้มีการอยู่อย่างอยู่ผู้เดียว พระเจ้าข้า !"

มิคชาละ !
รูป ทั้งหลายอันจะพึงเห็นได้ด้วยจักษุ เป็นรูปที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ มีอยู่,

ถ้าหากว่าภิกษุย่อมไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งรูปนั้นไซร้, แก่ภิกษุผู้ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งรูปนั้น
นั่นแหละ, นันทิย่อมดับ;

เมื่อนันทิไม่อยู่, สาราคะ (ความกำหนัดกล้า) ย่อมไม่มี;
เมื่อสาราคะไม่มีอยู่, สัญโญคะ (ความผูกจิตติดกับอารมณ์) ย่อมไม่มี:

มิคชาละ !
ภิกษุผู้ไม่ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยการผูกจิตติดกับอารมณ์ด้วยอำนาจแห่งความเพลิน นั่นแล เราเรียกว่า "ผู้มีการอยู่อย่างอยู่ผู้เดียว".

(ในกรณีแห่ง ..
.. เสียงทั้งหลายอันจะพึงได้ยินด้วยหูก็ดี,
.. กลิ่นทั้งหลายอันจะพึงดมด้วยจมูกก็ดี,
.. รสทั้งหลายอันจะพึงลิ้นด้วยลิ้นก็ดี,
.. โผฏฐัพพะทั้งหลายอันจะพึงสัมผัสด้วยผิวกายก็ดี,
.. และธรรมารมณ์ทั้งหลายอันจะพึงรู้แจ้งด้วยใจก็ดี,
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้มีนัยะอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งรูปทั้งหลายอันจะพึงเห็นด้วยจักษุ
).

มิคชาละ !
ภิกษุผู้มีการอยู่ด้วยอาการอย่างนี้ แม้อยู่ในหมู่บ้าน อันเกลื่อนกล่นไปด้วย ..
.. ภิกษุภิกษุณี
.. อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย,
.. ด้วยพระราชามหาอำมาตย์ของพระราชาทั้งหลาย,
.. ด้วยเดียรถีย์ สาวกของเดียรถีย์ทั้งหลาย
ก็ตาม; ถึงกระนั้น ภิกษุนั้นเราก็เรียกว่า ผู้มีการอยู่อย่างอยู่ผู้เดียวโดยแท้.

ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?

ข้อนั้นเพราะเหตุว่าตัณหานั่นแล เป็นเพื่อนสองของภิกษุนั้น; ตัณหานั้นอันภิกษุนั้นละเสียได้แล้ว เพราะเหตุนั้น ภิกษุนั้นเราจึงเรียกว่า ผู้มีการอยู่อย่างอยู่ผู้เดียว, ดังนี้ แล.
.
.
.
สฬา.สํ. ๑๘/๔๔/๖๗.


(เรื่องนี้ควรจะอยู่ในหมวดนิโรธ แต่นำ มาใส่ไว้ต่อท้ายเรื่องนี้ซึ่งเป็นหมวดสมุทัยก็เพื่อความสะดวกแก่การศึกษา คือศึกษาพร้อมกัน อันจะเป็นการง่าย ได้ผลดีกว่าที่จะแยกกัน.

แต่ยังมีลักษณะแห่งจิตของผู้ที่เรียกว่าอยู่คนเดียวที่ลึกซึ้งกว่า ประณีตกว่าเรื่องนี้ในหมวดนิโรธ หรือภาค ๓ ขอให้ดูจากที่นั้น ที่หน้า ๖๙๕ โดยหัวข้อว่า "ผู้อยู่คนเดียวคือผู้ไม่ข้องติดอยู่ในธรรมทั้งปวง").



Create Date : 03 มิถุนายน 2557
Last Update : 3 มิถุนายน 2557 6:12:24 น. 5 comments
Counter : 948 Pageviews.

 
นั่นแสดว่า ไม่อนุญาตให้พิกษุ หรือใครยินดีและกราบไหว้รูปปั้น นี่เราเชื่อฟังพระพุทธเจ้ากันแล้วหรือ หรือมันแค่สุขนิยม และทุกข์นิยมเท่านั้น ที่เราครองๆกันอยู่


โดย: นั่นคือ IP: 124.122.101.27 วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:21:21:55 น.  

 
หากมนุษย์มีพระเจ้าเป็นสิ่งกตัญญูเป็น ปอด ม้าม หัวใจ ลมหายใจ สมอง ความรู้ โอกาส ทุกๆสิ่งมิใช่ขอเราทั้งสิ้น มันคือเครื่องมือของพระเจ้าที่ใช้สมดุลจักรวาลที่พระเจ้าสร้างมาเท่านั้น ตกลงไม่มีอะไรเป็นของเราแล้วใช่ไหม อนัตตารึยัง ง่ายๆแต่เข้ากันไม่ถึงเพราะมีสิ่งปิดกั้น มีววรณกรรม มีนักบวชยุยงนั่นเอง


โดย: นัตตาง่านใน2นาทีอ IP: 124.122.101.27 วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:21:24:55 น.  

 
Benefit ในการมีพระเจ้าเป็นสิ่งกตัญญู สามารถก้าวสู่ความเป็นอนัตตา ง่ายดายในนาทีเดียว.


โดย: Benefit IP: 124.122.101.27 วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:21:27:12 น.  

 
อวิชชา หรือ ignorance คือพระเจ้า
อยากเรียกอย่างนี้ก็ได้ ..


โดย: สดายุ... วันที่: 5 มิถุนายน 2557 เวลา:21:36:35 น.  

 
และ สังขาร หรือ การปรุงแต่ง ที่เกิดจากอวิชชา คือ อำนาจของพระเจ้า



โดย: สดายุ... วันที่: 5 มิถุนายน 2557 เวลา:21:38:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.