พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงยืนยันเอง และทรงให้สาวกยืนยันว่ามีสมณะในธรรมวินัยนี้
.
ภิกษุ ท. ! สมณะมีในธรรมวินัยนี้ โดยแท้. สมณะที่สอง ก็มีในธรรมวินัยนี้. สมณะที่สาม ก็มีในธรรมวินัยนี้. สมณะที่สี่ ก็มีในธรรมวินัยนี้. ลัทธิอื่นก็ว่างจากสมณะของลัทธิอื่น.
ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลายจงบันลือสีหนาทโดยชอบอย่างนี้เถิด.
ภิกษุ ท. ! สมณะ (ที่หนึ่ง) เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะสิ้นสัญโญชน์สาม ย่อมเป็นโสดาบัน (คือแรกถึงกระแสแห่งนิพพาน) มีอันไม่กลับตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้ในวันหน้า. นี้แลสมณะ (ที่หนึ่ง).
ภิกษุ ท. ! สมณะที่สอง เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะสัญโญชน์สามอย่างก็สิ้นไป ราคะโทสะโมหะก็เบาบาง น้อยลงย่อมเป็นสกทาคามี, มาสู่โลกนี้อีกคราวเดียวเท่านั้นก็ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้. นี่แล สมณะที่สอง.
ภิกษุ ท. ! สมณะที่สาม เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะสิ้นสัญโญชน์ในเบื้องต่ำ ๕ อย่าง ย่อมเป็นโอปปาติกะ (เกิดในรูปภาพ) มีการปรินิพพานในภพนั้น ๆ ไม่เวียนกลับจากโลกนั้น ๆ เป็นธรรมดา. นี้แล สมณะที่สาม
ภิกษุ ท. ! สมณะที่สี่ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันไม่มีอาสวะ เพราะสิ้นอาสวะด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในชาติเป็นปัจจุบันนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่. นี้แล สมณะที่สี่.
ภิกษุ ท. ! สมณะมีในธรรมวินัยนี้ โดยแท้. สมณะที่สอง ก็มีในธรรมวินัยนี้. สมณะที่สาม ก็มีในธรรมวินัยนี้. สมณะที่สี่ ก็มีในธรรมวินัยนี้. ลัทธิอื่น ก็ว่างจากสมณะของลัทธิอื่น.
ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลายจงบันลือสีหนาทโดยชอบ อย่างนี้ . . . บาลี จตุกฺก. อํ. ๒๑/๓๒๓/๒๔๑. ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2555 5:23:12 น. |
Counter : 1172 Pageviews. |
|
|
|