Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 
22 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงมีตถาคตพลญาณสิบอย่าง

.




ภิกษุ ท. !
ตถาคตเป็นผู้ประกอบด้วยพลญาณ ๑๐ อย่าง และประกอบด้วยเวสารัชชญาณ ๔ อย่าง จึง ปฏิญญาตำแหน่งจอมโลก บันลือสีหนาทประกาศพรหมจักร ในท่ามกลางบริษัททั้งหลาย. ๑

สารีบุตร !
เหล่านี้เป็นตถาคตพล ๑๐ อย่าง ของตถาคต ที่ตถาคตประกอบพร้อมแล้ว ปฏิญญาตำแหน่งจอมโลก บันลือสีหนาทประกาศพรหมจักรในท่ามกลางบริษัททั้งหลายได้, สิบอย่างคือ :- ๒

(๑) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งสิ่งเป็นฐานะ (คือมีได้เป็นได้) โดยความเป็นสิ่งมีฐานะ, ซึ่งสิ่งไม่เป็นฐานะ (คือไม่มีได้ไม่เป็นได้) โดยความเป็นสิ่งใช่ฐานะ : นี้เป็นตถาคตพลของตถาคต.

(๒) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งวิบาก (คือผล) ของการทำกรรมที่เป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน ได้ทั้งโดยฐานะและโดยเหตุ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.

(๓) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งปฏิปทาเครื่องทำผู้ปฏิบัติให้ไปสู่ภูมิทั้งปวงได้ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.

(๔) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งโลกนี้อันประกอบด้วยธาตุมิใช่อย่างเดียว ด้วยธาตุต่างๆ กัน ๓ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.

(๕) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งอธิมุติ (คือฉันทะและอัธยาศัย) อันต่างๆ กัน ของสัตว์ทั้งหลาย : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.

(๖) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความยิ่งและหย่อน แห่งอินทรีย์ของสัตว์เหล่าอื่น ของบุคคลเหล่าอื่น : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.

(๗) ตถาคต ย่อมรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความเศร้าหมอง ความผ่องแผ้วความออก แห่งฌาน วิโมกข์ สมาธิ และสมาบัติทั้งหลาย : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.

(๘) ตถาคต ย่อมระลึกได้ ซึ่งขันธ์อันตนเคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีชนิดต่างๆ กัน คือระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง ๔ ---ฯลฯ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.

(๙) ตถาคต ย่อมเห็นสัตว์ ท. ด้วยทิพยจักขุอันหมดจด ก้าวล่วงจักขุมนุษย์ : เห็นสัตว์ทั้งหลายผู้เคลื่อนอยู่บังเกิดอยู่ ๕---ฯลฯ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.

(๑๐) ตถาคต ย่อมทำให้แจ้ง เจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันไม่มีอาสวะเพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะ ท. ได้ ๖ ---ฯลฯ : นี่ก็เป็นตถาคตพลของตถาคต.

สารีบุตร !
เหล่านี้แล เป็นตถาคตพลสิบอย่าง ของตถาคต ที่ตถาคตประกอบแล้ว ย่อมปฏิญญาตำแหน่งจอมโลก บันลือสีหนาทประกาศพรหมจักรให้เป็นไปในท่ามกลางบริษัททั้งหลาย.

๑. เช่นรูปธาตุ นามธาตุ เป็นต้น ซึ่งแยกกระจายออกได้อีกมาก.
๒. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่หนึ่ง.
๓. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่สอง.
๔. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่สาม.

(ในบาลีแห่งอื่น มีกล่าวถึงตถาคตพลญาณเป็นอย่างอื่น คือกล่าวถึงตถาคตพลญาณ เพียง ๖ โดยเว้นข้อ (๓) (๔) (๕) และ (๖) เสียจากจำนวน ๑๐ ที่มีกล่าวอยู่ในที่นี้. -ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๖๖/๓๓๕. บาลีอีกแห่งหนึ่ง กล่าวถึงตถาคตพลเพียง ๕ ดังที่มีอยู่ในหัวข้อถัดลงไปจากหัวข้อนี้.)
-----------------------------------------------------------
๑. บาลี นิทาน. สํ. ๑๖/๓๓/๖๕.
ตถาคตพลสิบ เรียกกันว่า ทสพลญาณ.

๒. บาลี มหาสีหนาทสูตร มู.ม. ๑/๑๔๐/๑๖๖.
ตรัสแก่พระสารีบุตร ที่ชัฏป่า นอกนครเวสาลี.

๓. เช่นรูปธาตุ นามธาตุ เป็นต้น ซึ่งแยกกระจายออกได้อีกมาก.

๔. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่หนึ่ง.

๕. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่สอง.

๖. ดูที่จำแนกพิสดารในภาค ๒ ตอนการตรัสรู้ ว่าด้วยวิชชาที่สาม.





Create Date : 22 มิถุนายน 2555
Last Update : 22 มิถุนายน 2555 6:11:36 น. 0 comments
Counter : 1074 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.