อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. อาสวักขยญาณเป็นเครื่องให้พ้นจากอาสวะ
พราหมณ์ ! ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยนควรแก่การงาน ถึงความไม่หวั่นไหว ตั้งอยู่เช่นนี้แล้ว ก็น้อมจิตไปเฉพาะต่อ อาสวักขยญาณ : เธอนั้น ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า .. ..นี่ ทุกข์, ..นี่ เหตุแห่งทุกข์, ..นี่ ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, ..นี่ ทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ ;
และรู้ชัดตามเป็นจริงว่า .. ..เหล่านี้ เป็นอาสวะ, ..นี้ เหตุแห่งอาสวะ, ..นี้ ความดับไม่เหลือแห่งอาสวะ, ..นี้ เป็นทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งอาสวะ
เมื่อเธอรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ จิตก็พ้นจากกามาสวะ ภวาสวะ และอวิชชาสวะ ครั้นจิตพ้นวิเศษแล้วก็เกิดญาณหยั่งรู้ว่า จิตพ้นแล้ว. เธอย่อมรู้ชัดว่า ..
"ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ต้องทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความ (หลุดพ้น) เป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก"
พราหมณ์ ! วิชชาที่สามนี้ เป็นธรรมที่ภิกษุนั้นบรรลุแล้ว อวิชชาถูกทำลายแล้ว วิชชาเกิดขึ้นแล้ว ความมืดถูกทำลายแล้ว ความสว่างเกิดแทนแล้ว, ตามที่มันจะเกิดแก่บุคคลผู้ไม่ประมาท มีเพียรเผาบาป มีตนส่งไปแล้ว แลอยู่. . . . ติก. อํ. ๒๐/๒๑๐/๔๙๘
Create Date : 20 พฤษภาคม 2558 |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2558 6:52:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 727 Pageviews. |
|
|
|
|
|