Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
7 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงขนานนามพระองค์เองว่า “พุทธะ”

.




(การสนทนาดับโทณพ ร าหมณ์, เ ริ่มในที่นี้ด้วยพราหม ณ์ทูลถา ม )

“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นเทวดาหรือ ?”
“พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นเทวดาดอก”.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นคนธรรพ์หรือ ?”
“พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นคนธรรพ์ดอก”.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นยักษ์หรือ ?”
“พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นยักษ์ดอก”.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! ท่านเป็นมนุษย์หรือ ?”
“พราหมณ์เอย ! เราไม่ได้เป็นมนุษย์ดอก”.
“ท่านผู้เจริญของเรา ! เราถามอย่างไร ๆ ท่านก็ตอบว่ามิได้เป็นอย่างนั้น ,ถ้าเช่นนั้นท่านเป็นอะไรเล่า?”

“พราหมณ์เอย ! อาสวะ เหล่าใด ที่จะทำให้เราเป็น เทวดา เพราะยังละมันไม่ได้, อาสวะเหล่านั้นเราละได้ขาด ถอนขึ้นทั้งรากแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้น อีกต่อไปแล้ว,

พราหมณ์เอยอาสวะเหล่าใดที่จะทำให้เราเป็น คนธรรพ์ เป็น ยักษ์ เป็น มนุษย์ เพราะยังละมันไม่ได้, อาสวะเหล่านั้น เราละได้ขาด ถอนขึ้นทั้งรากแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มีไม่ให้เกิดขึ้น อีกต่อไปแล้ว.

พราหมณ์ ! เปรียบเหมือนดอกบัวเขียว บัวหลวง หรือบัวขาว, มันเกิดในน้ำเจริญในน้ำโผล่ขึ้นพ้นน้ำตั้งอยู่ น้ำไม่เปียกติดมันได้ ฉันใดก็ฉันนั้นนะพราหมณ์ ! เรานี้เกิดในโลก เจริญในโลก ก็จริง แต่เราครอบงำโลกเสีย
ได้แล้ว และอยู่ในโลก โลกไม่ฉาบทาแปดเปื้อน เราได้.

พราหมณ์ ! ท่านจงจำเราไว้ว่า เป็น “พุทธะ” ดังนี้เถิด
.
.
.
บาลี จตุกฺก. อํ. ๒๑/๔๙/๓๖.
ตรัสแก่โทณพราหมณ์ ที่โคนไม้ระหว่างทางแห่งหนึ่ง.



Create Date : 07 เมษายน 2555
Last Update : 7 เมษายน 2555 20:06:34 น. 2 comments
Counter : 966 Pageviews.

 

จาก...พุทธมรรคา บรรพที่ ๑


= ทรงขนานนามพระองค์เองว่า “พุทธะ” =



O ครั้งโทณพราหมณะจวนประมวละปุจฉา
ทรงร่วมวิสัชนา - - - ประนัง

O ท่านเอยท่านบทะเห็นจะเป็นทิวะกระมัง ?
เราไป่จะเป็นดัง - - - นิยาม

O ท่านเอยท่านสิริพ้น ฤ คนธรรพะ-จะถาม ?
เราไป่จะเพรียกนาม - - - ฉะนั้น

O ท่านเอยท่าน ฤ จะราพณ์ประภาพพละประจัน ?
เราไป่จะเช่นพรรณ - - - ะนา

O ท่านเอยท่าน ฤ มนุษย์พิสุทธิ์คุณะประดา ?
เราไป่จะเช่นวา - - - ทะเธอ

O ท่านเอยท่านนิระเป็นจะเช่นระบุเสมอ
รูปภพประสบเจอ - - - นะใคร

O พราหมณ์เอย..อาสวะมวละล้วนสถิตะใน-
จิตเทพะเสพไล้ - - - เพราะหลง

O พราหมณ์เอย..อาสวะมวละล้วนสถิตะคง
คนธรรพะจำนง - - - ถนอม

O พราหมณ์เอย..อาสวะมวละล้วนสถิตะล้อม
จิตราพณะทาบย้อม - - - สยาย

O พราหมณ์เอย..อาสวะมวละล้วนสถิตะราย-
รอบจิตมนุษย์หมาย - - - จะมอม

O พราหมณ์เอย..อาสวะนั้นสะบั้นภวะประนอม
คือเราละขาดพร้อม - - - ฉะนี้

O พราหมณ์เอย..บงกชะปวงเพราะล่วงละชลธี
ไป่เปื้อนเปรอะด้วยนี - - - ระไหน

O เปรียบเช่นเราปัญญาประภาวิมุติไพ-
บูลย์เหตุพิเศษนัย - - - ะนั้น

O พราหมณ์เอย..นามเฉพาะเราจะเนาระยะอนันต์
เพรียก”พุทธะ”เช่นพรรณ - - - นะเทอญ

O ผู้แจ้งโลกกละครูเพราะรู้บทะประเมิน
หลักธรรมะดำเนิน - - - ตระกล



โดย: สดายุ... วันที่: 7 เมษายน 2555 เวลา:20:12:26 น.  

 
มีพระพุทธเจ้า นำสุจริตมาให้
แต่กลับไปเชื่อในวรรณกรรม จากพระอานนท์
ที่อาจเป็นหุ้นส่วนกับโรงงานดินดำ โรงธูป โรงเทียน ก็ได้
เชื่อในนักบวช ในผ้าสี ในวัตถุ ในภาพลักษณ์
เมื่อไรจะหลุดพ้นในพยากรณ์เหล่านั้นหนอ
พุทธบริษัท ที่น่าสมเพช

นักบวช คือผู้สวมรอย เป็นตัวแทน นายหน้าในบุญ แอบอ้างรับทาน แอบซ่องสุมกำลัง ซ่องสุมมวลชน ซ่องสุมทรัพย์สมบัติ วัตถุธาติ ที่พระพุทธเจ้าไม่แนะนำให้ยึดกับมัน แต่ แทบทุกคนยึดในทรัพ ในบุญ ในบารมี ในยศสมณะ
กันแทบทั้งนั้น ไม่เว้นแม้เปรียญสูงๆ จงหลุดพ้นจากพวกเขา


โดย: สุจริตกันไว้ IP: 27.55.14.87 วันที่: 8 เมษายน 2555 เวลา:2:24:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.