Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 
10 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงท้าให้ใครปฏิเสธธรรมะที่พระองค์รับรอง

.





พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไปเยี่ยมเยียนสำนักปริพพาชก และสนทนากัน เป็นของมีโดยปรกติ.

ปริพพาชก ท. !
ธรรมบทมีอยู่ ๔ บท ซึ่งรู้จักกันว่า ..
- เป็นของเลิศ
- เป็นของมีมานาน
- เป็นของประพฤติสืบกันมาแต่โบราณ
- ไม่ถูกทอดทิ้งเลย
- ไม่เคยถูกทอดทิ้งในอดีต
- ไม่ถูกทอดทิ้งอยู่ในปัจจุบัน
- และจักไม่ถูกทอดทิ้งในอนาคต ..
สมณพราหมณ์ทั้งหลายที่เป็นผู้รู้ไม่มีใครคัดค้าน.

(ธรรมบทสี่นี้ เป็นของเก่า ที่พระองค์ทรงรับรอง ไม่ใช่ทรงบัญญัติขึ้นเอง, เป็นการแสดงให้เห็นว่า สิ่งใดเป็นของถูกของดีมาก่อน ก็ทรงรับเข้าไว้.)

๔ บทนั้นคืออะไรเล่า ? คือ ..
- อนภิชฌา (ความไม่เพ่งด้วยความใคร่ในอารมณ์),
- อพยาบาท (ความไม่คิดประทุษร้าย),
- สัมมาสติ (ความระลึกชอบอยู่เสมอ)
- และ สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจชอบแน่วแน่อยู่เสมอ).

ปริพพาชก ท. !
ถ้าจะพึงมีผู้ใดกล่าวว่า "เราขอปฏิเสธธรรมบทคือความไม่มีอภิชฌา; เราขอบัญญัติสมณะหรือพราหมณ์ ที่มากไปด้วยอภิชฌามีราคะกล้าในกามทั้งหลายแทน" ดังนี้แล้ว

เราก็จะกล่าวท้าผู้นั้นว่า "มาซิท่าน .. จงกล่าวออกไปจงสำแดงให้ชัดแจ้งเถิด เราจักขอดูอานุภาพ" ดังนี้.

ปริพพาชก ท. !
มันไม่เป็นสิ่งที่เป็นไปได้เลย ที่ใครจะปฏิเสธความไม่มีอภิชฌา แล้วไปยกย่องสมณพราหมณ์ผู้มากไปด้วยอภิชฌา มีราคะกล้าในกามทั้งหลายแทน.

ปริพพาชก ท. !
ถ้าจะพึงมีผู้ใดกล่าวว่า "เราขอปฏิเสธความไม่พยาบาท, เราขอบัญญัติสมณพราหมณ์ผู้มีจิตพยาบาท มีความประทุษร้ายเป็นเครื่องดำริอยู่เป็นประจำใจแทน" ดังนี้แล้ว

เราก็จะกล่าวท้าผู้นั้นว่า "มาซิท่าน .. ท่านจงกล่าวออกไป จงสำแดงให้ชัดแจ้งเถิด เราจักขอดูอานุภาพ" ดังนี้.

ปริพพาชก ท. !
มันไม่เป็นสิ่งที่เป็นไปได้เลย ที่ใครจะปฏิเสธความไม่พยาบาท แล้วไปยกย่องสมณพราหมณ์ผู้มีจิตพยาบาท มีความประทุษร้ายเป็นเครื่องดำริอยู่ประจำใจแทน.

ปริพพาชก ท. !
ถ้าจะพึงมีผู้ใดกล่าวว่า "เราขอปฏิเสธสัมมาสติ; เราขอบัญญัติสมณพราหมณ์ผู้ไร้สติปราศจากสัมปชัญญะ ขึ้นแทน" ดังนี้แล้ว

เราก็จะกล่าวท้าผู้นั้นว่า "มาซิท่าน .. ท่านจงกล่าวออกไปจงสำแดงให้ชัดแจ้งเถิดเราจักขอดูอานุภาพ" ดังนี้.

ปริพพาชก ท. !
มันไม่เป็นสิ่งที่เป็นไปได้เลยที่ใครจะปฏิเสธสัมมาสติ แล้วไปยกย่องสมณพราหมณ์ ผู้ไร้สติ ปราศจากสัมปชัญญะ ขึ้นแทน.

ปริพพาชก ท. !
ถ้าจะพึงมีผู้ใดกล่าวว่า "เราขอปฏิเสธสัมมาสมาธิ; เราขอบัญญัติสมณพราหมณ์ผู้มีจิตกลับกลอกไม่ตั้งมั่น ขึ้นแทน" ดังนี้แล้ว,

เราก็จะกล่าวท้าผู้นั้นว่า "มาซิท่าน .. ท่านจงกล่าวออกไปจงสำแดงให้ชัดแจ้งเถิดเราจักขอดูอานุภาพ" ดังนี้.

ปริพพาชก ท. !
มันไม่เป็นสิ่งที่เป็นไปได้เลยที่ใครจะปฏิเสธสัมมาสมาธิ แล้วไปยกย่องสมณพราหมณ์ผู้มีจิตกลับกลอกไม่ตั้งมั่นแทน.

ปริพพาชก ท. !
ผู้ใดเห็นว่าธรรมบท ๔ บทนี้ ควรตำหนิ ควรคัดค้านแล้วไซร้ ในปัจจุบันนี้เองผู้นั้นจะต้องได้รับการตำหนิที่ชอบแก่เหตุ ถูกยันด้วยคำของตนเอง ถึง ๔ ประการ.

๔ ประการคืออะไรบ้างเล่า ? .. ๔ ประการคือ
- ถ้ามีสมณพราหมณ์พวกใด มากด้วยอภิชฌา มีราคะแก่กล้าในกามทั้งหลายมา เขาก็ต้องบูชายกย่องสมณพราหมณ์เหล่านั้น.

- ถ้ามีสมณพราหมณ์เหล่าใดที่มีจิตพยาบาท มีความประทุษร้ายเป็นเครื่องดำริอยู่ประจำใจมา เขาก็ต้องบูชายกย่องสมณพราหมณ์เหล่านั้น.

- ถ้ามีสมณพราหมณ์เหล่าใด ที่ไร้สติปราศจากสัมปชัญญะมา เขาก็ต้องบูชายกย่องสมณพราหมณ์เหล่านั้น.

- ถ้ามีสมณพราหมณ์เหล่าใด ที่มีจิตกลับกลอกไม่ตั้งมั่น มา เขาก็ต้องบูชายกย่องสมณพราหมณ์เหล่านั้น, ดังนี้.

ปริพพาชก ท. !
แม้แต่ปริพพาชกชื่อ วัสสะ และปริพพาชกชื่อภัญญะ ซึ่งเป็น .. ลัทธิ อเหตุกทิฏฐิอกิริยทิฏฐิ .. นัตถิกทิฏฐิ ก็ยังถือว่าธรรมบททั้ง ๔ บทนี้ ไม่ควรดูหมิ่นไม่ควรคัดค้าน. เพราะเหตุใดเล่า ?

เพราะกลัวถูกนินทาว่าร้ายและชิงชังนั่นเอง.
.
.
.
บาลี จตฺกฺก. อํ. ๒๑/๓๘/๓๐.
ตรัสแก่ปริพพาชกทั้งหลาย ที่สำนักปริพพาชก ใกล้เมืองราชคฤห์.




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2555
0 comments
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2555 4:01:36 น.
Counter : 1142 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.