Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 
13 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. อริยสัจธรรมรวมอยู่ในหมู่ธรรมที่ใครค้านไม่ได้

.




ภิกษุ ท. !
ธรรมนี้นี่แล อันเราแสดงแล้ว เป็นธรรมอันสมณพราหมณ์ผู้รู้ทั้งหลายข่มขี่ไม่ได้ ทำให้เศร้าหมองไม่ได้ ติเตียนไม่ได้ คัดง้างไม่ได้.

ภิกษุ ท. !
ธรรมอันเราแสดงแล้ว เป็นธรรมอันสมณพราหมณ์ผู้รู้ทั้งหลายข่มขี่ไม่ได้ ทำให้เศร้าหมองไม่ได้ ติเตียนไม่ได้ คัดง้างไม่ได้ เป็นอย่างไรเล่า ?
.... (ทรงแสดง ธาตุ หก) ....
.... (ทรงแสดง ผัสสายตนะ หก) ....
.... (ทรงแสดง มโนปวิจาร สิบแปด) ....

ภิกษุ ท. !
ธรรมอันเราแสดงแล้วว่า "เหล่านี้ คือ อริยสัจทั้งหลาย๔ ประการ" ดังนี้ เป็นธรรมอันสมณพราหมณ์ผู้รู้ทั้งหลายข่มขี่ไม่ได้ ทำให้เศร้าหมองไม่ได้ ติเตียนไม่ได้ คัดง้างไม่ได้.

....ฯลฯ.... ....ฯลฯ....

ภิกษุ ท. !
ธรรมอันเราแสดงแล้วว่า "เหล่านี้ คืออริยสัจทั้งหลาย๔ ประการ" ดังนี้เป็นธรรมอันสมณพราหมณ์ผู้รู้ทั้งหลายข่มขี่ไม่ได้ ทำให้เศร้าหมองไม่ได้ ติเตียนไม่ได้ คัดง้างไม่ได้. ข้อนี้เป็นธรรมที่เรากล่าวแล้วอย่างนี้

เราอาศัยซึ่งอะไรเล่า จึงกล่าวแล้วอย่างนี้ ?

ภิกษุ ท. !
เพราะอาศัยซึ่งธาตุทั้งหลาย ๖ ประการ ..
- การก้าวลงสู่ครรภ์ย่อมมี;
- เมื่อการก้าวลงสู่ครรภ์ มีอยู่, นามรูปย่อมมี;
- เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ;
- เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ;
- เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา

ภิกษุ ท. !
เราย่อมบัญญัติ ..
- ว่า "นี้ เป็นความทุกข์" ดังนี้;
- ว่า "นี้ เป็นทุกขสมุทัย" ดังนี้;
- ว่า" นี้ เป็นทุกขนิโรธ" ดังนี้;
- ว่า" นี้ เป็นทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา" ดังนี้;
แก่สัตว์ผู้สามารถเสวยเวทนา.

ภิกษุ ท. !
ทุกขอริยสัจ เป็นอย่างไรเล่า ?

- แม้ความเกิด ก็เป็นทุกข์,
- แม้ความแก่ ก็เป็นทุกข์,
- แม้ความตาย ก็เป็นทุกข์,
- แม้โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย ก็เป็นทุกข์,
- การประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รัก เป็นทุกข์
- ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รัก เป็นทุกข์,
- ปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ :
กล่าวโดยย่อ ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย เป็นทุกข์.

ภิกษุ ท. !
นี้เรากล่าวว่า ทุกขอริยสัจ.

ภิกษุ ท. !
ทุกขสมุทยอริยสัจ เป็นอย่างไรเล่า ?
- เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย;
- เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ;
- เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป;
- เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ;
- เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ;
- เรามีผัสสะเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา;
- เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา;
- เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัยจึงมีอุปาทาน;
- เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ;
- เพราะมีภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ;
- เพราะมีชาติเป็นปัจจัย, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน :
(ปฏิจจสมุปบาทธรรม .. สายเกิดขึ้น .. ทุกขะปฏิจจสมุปบาท)

ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้.

ภิกษุ ท. !
นี้เรากล่าวว่า ทุกขสมุทยอริยสัจ.

ภิกษุ ท. !
ทุกขนิโรธอริยสัจ เป็นอย่างไรเล่า?
- เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือแห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว. จึงมีความดับแห่งสังขาร;
- เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ;
- เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป;
- เพราะมีความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ;
- เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ จึงมีความดับแห่งผัสสะ;
- เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา;
- เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา;
- เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน;
- เพราะมีความดับแห่งแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ;
- เพราะมีความดับแห่งภพ จึงความดับแห่งชาติ;
- เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแลชรามรณะ โสกะปริเทวะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น :
(ปฏิจจสมุปบาทธรรม .. สายดับลง .. นิโรธะปฏิจจสมุปบาท)

ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้.

ภิกษุ ท. !
นี้เรากล่าวว่าทุกขนิโรธอริยสัจ.

ภิกษุ ท. !
ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ เป็นอย่างไรเล่า ?

มรรคอันประเสริฐ ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ นี้นั่นเอง กล่าวคือ ..
1- สัมมาทิฏฐิ
2- สัมมาสังกัปปะ
3- สัมมาวาจา
4- สัมมากัมมันตะ
5- สัมมาอาชีวะ
6- สัมมาวายามะ
7- สัมมาสติ
8- สัมมาสมาธิ.

ภิกษุ ท. !
นี้เรากล่าวว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ.

ภิกษุ ท. !
ข้อที่ว่า "ธรรมอันเราแสดงแล้วว่า 'เหล่านี้ คืออริยสัจทั้งหลาย ๔ ประการ' ดังนี้ เป็นธรรมอันสมณพราหมณ์ผู้รู้ทั้งหลายข่มขี่ไม่ได้ ทำให้เศร้าหมองไม่ได้ ติเตียนไม่ได้ คัดง้างไม่ได้" ดังนี้อันใด อันเรากล่าวแล้ว; ข้อนั้น เรากล่าวหมายถึงข้อความดังกล่าวมานี้ แล.
.
.
.
ติก. อํ. ๒๐/๒๒๕/๕๐๑.


Create Date : 13 มีนาคม 2556
Last Update : 13 มีนาคม 2556 6:37:22 น. 0 comments
Counter : 922 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.