Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. ลูกโซ่แห่งความดับทุกข์

ภิกษุ ท.!
.. เพราะความจางคลาย จนดับไม่เหลือแห่งอวิชชา นั่นแหละจึงมีความดับแห่งสังขาร;
.. เพราะความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ;
.. เพราะความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป ;
.. เพราะความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งอายตนะหก ;
.. เพราะความดับแห่งอายตนะหก จึงมีความดับแห่งผัสสะ ;
.. เพราะความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา;
.. เพราะความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา;
.. เพราะความดับแห่งตัณหาจึงมีความดับแห่งอุปาทาน ;
.. เพราะความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ;
.. เพราะความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ;
.. เพราะความดับแห่งชาติ, ชรามรณ ะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ย่อมดับไม่เหลือ.

ความดับไม่เหลือแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้แล.
.
.
.
นิทาน. สํ. ๑๖/๒/๓.


หมายเหตุ จขบ.


เมื่อคนเข้าใจคำว่า สังขาร หมายถึงเนื้อหนังมังสา ร่างกาย
เมื่อคนเข้าใจคำว่า วิญญาณ หมายถึงดวงจิตล่องลอยออกจากร่างกายหลังตาย

ดังนั้นแล้วย่อมทำให้อ่านหลักธรรม ปฏิจจสมุปบาท ที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ในคืนวิสาขะ ไม่สามารถเข้าใจได้ว่า ..

เมื่อร่างกายดับไป แล้วส่งผลให้วิญญาณดับได้อย่างไร .. ?
วิญญาณคนตายควรล่องลอยหาที่เกิดใหม่สิ ?
แล้วในเมื่อร่างกายดับแล้ว ทำไมต้องมี นามรูปดับอีก ?
แล้วทำไม ภพ ชาติ จึงดับอีก ?

เข้าใจไม่ได้
มึน
และจับยึดความเชื่อกันมั่วซั่ว งมงาย

แต่หากเข้าใจได้ว่า สังขาร หมายถึงอำนาจการปรุงแต่งในจิต คือ ภาวะจินตนาการฟุ้งซ่านต่างๆ นั่นเอง ก็จะเข้าใจได้ว่า วิญญาณก็เกิดจากภาวะปรุงแต่งนี้เอง ก็จะเข้าใจได้ว่า อะไรต่างๆ มันเป็นเรื่องความคิดตนเองทั้งนั้น ล้วนๆ เพราะไม่รู้ธรรมชาติของโลกอย่างแท้จริง จึงคิดไปต่างๆนาๆ แล้วยึดมั่นว่าถูกต้องแล้ว ชอบแล้ว

รวมทั้งบรรดาหลวงพ่อ หลวงพี่ หลวงตา เกิน 80% ในสยามประเทศนี้ที่วนอยู่ในมิจฉาทิฏฐิอันมืดบอด

ดังนั้น .

อวิชชา
สังขาร
วิญญาณ
นามรูป
อายตนะหก
ผัสสะ
เวทนา
ตัณหา
อุปาทาน
ภพ
ชาติ
ชรา มรณะ โสกะปริเทวะ

อันเป็นสายอาการใน ปฏิจจสมุปบาท จึงเป็นเรื่องนามธรรมในจิตเท่านั้น !
และ ทุกข์ ก็เป็นเรื่องนามธรรมในจิตในชีวิตประจำวัน เท่านั้น

อย่า ต้องเสียเวลาเปล่าไปกับ เรื่องราวเพริดแพร้วพิสดาร ข้ามภพข้ามชาติ บุญวาสนาบารมี อันมีไว้สำหรับประโลมจิตวิญญาณโง่เขลาเหล่านั้นเลย

หรือหากพอใจที่จะเป็น "โมฆะบุรุษ"

ก็ตามใจ !


Create Date : 08 ตุลาคม 2557
Last Update : 8 ตุลาคม 2557 7:02:06 น. 0 comments
Counter : 1070 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.