Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 
25 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. พระพุทธองค์คือผู้ทรงชี้ให้รู้จักทุกข์

.




พระพุทธเป็นดุจดั่งผู้ชี้ทาง
พระธรรมซึ่งมีอริยสัจเป็นแก่นเป็นตัวทาง
พระอริยสงฆ์สาวก คือผู้ที่ได้เดินไปตามทางแล้ว

แต่สัตว์โลกผู้ยังถูกอวิชชากดให้จมติดอยู่ในเปือกตมแห่งโอฆะ กำลังต้องการทางนั้นอยู่, เมื่อใดเขาศึกษาจนรู้จักพระพุทธองค์อย่างลึกซึ้งถึงที่สุด ดุจลูกที่เข้าใจบิดาดี เมื่อนั้นเขาจะพบทางนั้นด้วย และเดินตามรอยท่านผู้ประเสริฐ ที่เดินไปแล้วนั้นได้.

ถ้าเข้าใจไม่ตรงพอ เช่นเห็นพระพุทธองค์เป็นพระเป็นเจ้าไป ก็จะมีความมุ่งหมายและการตั้งหน้าทำที่พลาดในที่สุดก็ปราศจากผล เพราะความจริงพระองค์เป็นแต่ผู้ชี้ทาง เท่านั้น.


...................................................


ภิกษุ ท. !
เปรียบเหมือนบุรุษผู้หนึ่ง ว่ายล่องกระแสแม่น้ำ ลงไปเพราะเหตุสิ่งที่น่ารักน่าเพลินใจ, บุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่บนฝั่ง เห็นบุรุษผุ้นั้นแล้วร้องบอกว่า ..

"บุรุษผู้เจริญ ! ท่านย่อมว่ายล่องตามกระแสแม่น้ำ เพราะเหตุสิ่งที่น่ารักน่าเพลินใจโดยแท้ แต่ว่า ทางเบื้องล่าง มีห้วงน้ำ ประกอบด้วยคลื่น ประกอบด้วยน้ำวน. มียักษ์มีรากษส ซึ่งเมื่อท่านไปถึงแล้ว จักต้องตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย."

ภิกษุ ท. !
บุรุษผู้ว่ายล่องตามกระแสนั้นครั้นได้ฟังแล้วก็พยายามว่ายกลับทวนกระแสทั้งด้วยมือและด้วยเท้าทั้งหลาย.

ภิกษุ ท. !
คำอุปมานี้ เราผูกขึ้น เพื่อให้รู้เนื้อความ. นี้เป็นเนื้อความ คือ ..

คำว่า 'กระแสแม่น้ำ ' เป็นชื่อแห่งตัณหา,
คำว่า 'สิ่งน่ารักน่าเพลินใจ' เป็นชื่อแห่งอายตนะหกในภายใน,
คำว่า 'ทางเบื้องล่างมีห้วงน้ำ' เป็นชื่อแห่งโอรัมภาคิยสังโยชน์ห้า,
คำว่า 'คลื่น' เป็นชื่อแห่งความโกรธและความคับแค้น,
คำว่า 'น้ำวน' เป็นชื่อแห่งกามคุณห้า,
คำว่า 'ยักษ์และรากษส' เป็นชื่อแห่งมาตุคาม.
คำว่า 'ทวนกระแส' เป็นชื่อแห่งเนกขัมมะ,
คำว่า 'พยายามด้วยมือและเท้า' เป็นชื่อแห่งการปรารถความเพียร,
คำว่า 'บุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่บนฝั่ง' เป็นชื่อแห่งตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ;

ดังนี้.
.
.
.
อิติวุ. ขุ. ๒๕/๓๑๖/๒๘๙.



Create Date : 25 มกราคม 2556
Last Update : 25 มกราคม 2556 6:52:05 น. 0 comments
Counter : 1326 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.