พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. การมาเฝ้าของตายนเทพบุตร
.
ภิกษุ ท. ! เมื่อคืนนี้ ราตรีล่วงไปมากแล้ว เทพบุตรชื่อตายนะผู้เคยเป็นเจ้าลัทธิเดียรถีย์ในกาลก่อน, มีวรรณะยิ่ง ส่องเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้ามาหาเราถึงที่อยู่ ไหว้เราแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรได้กล่าวคำผูกเป็นกาพย์เหล่านี้ ในที่ใกล้เรา ว่า:-
"จงตัดกระแส, จงบากบั่นไปสู่คุณเบื้องสูง, จงบรรเทากามเสียเถิดนะ พราหมณ์ ! - เพราะมุนีที่ไม่ละกาม ย่อมถึงความเป็นคนลวงโลก. ฯ - ถ้าจะกระทำก็จงทำจริง, - จงบากบั่นสิ่งนั้นให้หนักแน่น, เพราะว่า บรรพชาที่รับถือไว้หลวม ๆ ย่อมโปรยโทษ คือ ธุลีอย่างหนัก.ฯ - ไม่ทำความชั่ว ดีกว่า, ความชั่วย่อมเผาลนในภายหลัง. - ทำความดี ดีกว่า - ความดีชนิดที่ทำแล้วไม่ตามเผาลน. ฯ - หญ้าคาที่จับไม่ดีแล้วดึง ย่อมบาดมือผู้จับ ฉันใด; ความเป็นสมณะ ที่บุคคลใดลูบคลำอย่างเลวทราม ย่อมคร่าผู้นั้นไปนรก. ฯ - การงานอันใดที่ย่อหย่อน, วัตรอันใดที่เศร้าหมอง, พรหมจรรย์ที่ระลึกขึ้นมาแล้วรังเกียจตัวเองได้ นั่นไม่เป็นสิ่งที่มีผลมากได้เลย". ฯ
ภิกษุ ท ! ตายนเทวบุตร, ครั้นกล่าวดังนี้แล้ว ก็อภิวาทเรา กระทำประทักษิณ หายไปแล้ว.
ภิกษุ ท ! พวกเธอทั้งหลายจงถือเอา จงเล่าเรียนจงทรงไว้ซึ่ง ตายนคาถา
ภิกษุ ท. ! ตายนคาถาเป็น ของประกอบด้วยประโยชน์ เป็น เงื่อนต้นของพรหมจรรย์. . . . บาลี เทวปุตฺตสํยุตฺต สคาถ. สํ. ๑๕/๖๘/๒๔๐. ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ที่เชตวัน ในวันรุ่งขึ้นจากคืนที่เทพบุตรมาเฝ้า.
Create Date : 04 ธันวาคม 2555 |
Last Update : 4 ธันวาคม 2555 5:34:48 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1055 Pageviews. |
|
|
|
|
|