Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 
4 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. การมาเฝ้าของตายนเทพบุตร

.





ภิกษุ ท. !
เมื่อคืนนี้ ราตรีล่วงไปมากแล้ว เทพบุตรชื่อตายนะผู้เคยเป็นเจ้าลัทธิเดียรถีย์ในกาลก่อน, มีวรรณะยิ่ง ส่องเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้ามาหาเราถึงที่อยู่ ไหว้เราแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรได้กล่าวคำผูกเป็นกาพย์เหล่านี้ ในที่ใกล้เรา ว่า:-

"จงตัดกระแส, จงบากบั่นไปสู่คุณเบื้องสูง, จงบรรเทากามเสียเถิดนะ พราหมณ์ !
- เพราะมุนีที่ไม่ละกาม ย่อมถึงความเป็นคนลวงโลก. ฯ
- ถ้าจะกระทำก็จงทำจริง,
- จงบากบั่นสิ่งนั้นให้หนักแน่น, เพราะว่า บรรพชาที่รับถือไว้หลวม ๆ ย่อมโปรยโทษ คือ ธุลีอย่างหนัก.ฯ
- ไม่ทำความชั่ว ดีกว่า, ความชั่วย่อมเผาลนในภายหลัง.
- ทำความดี ดีกว่า - ความดีชนิดที่ทำแล้วไม่ตามเผาลน. ฯ
- หญ้าคาที่จับไม่ดีแล้วดึง ย่อมบาดมือผู้จับ ฉันใด; ความเป็นสมณะ ที่บุคคลใดลูบคลำอย่างเลวทราม ย่อมคร่าผู้นั้นไปนรก. ฯ
- การงานอันใดที่ย่อหย่อน, วัตรอันใดที่เศร้าหมอง, พรหมจรรย์ที่ระลึกขึ้นมาแล้วรังเกียจตัวเองได้ นั่นไม่เป็นสิ่งที่มีผลมากได้เลย". ฯ

ภิกษุ ท !
ตายนเทวบุตร, ครั้นกล่าวดังนี้แล้ว ก็อภิวาทเรา กระทำประทักษิณ หายไปแล้ว.

ภิกษุ ท !
พวกเธอทั้งหลายจงถือเอา จงเล่าเรียนจงทรงไว้ซึ่ง ตายนคาถา

ภิกษุ ท. !
ตายนคาถาเป็น ของประกอบด้วยประโยชน์ เป็น เงื่อนต้นของพรหมจรรย์.
.
.
.
บาลี เทวปุตฺตสํยุตฺต สคาถ. สํ. ๑๕/๖๘/๒๔๐.
ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ที่เชตวัน ในวันรุ่งขึ้นจากคืนที่เทพบุตรมาเฝ้า.


Create Date : 04 ธันวาคม 2555
Last Update : 4 ธันวาคม 2555 5:34:48 น. 0 comments
Counter : 1055 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.