Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
 
6 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงต่างจากมนุษย์ธรรมดา

.




ภิกษุ ท. !
เทวดาแลมนุษย์ทั้งหลาย มีรูปเป็นทียินดี กำหนัดแล้วในรูป บันเทิงด้วยรูป. เทวดาแลมนุษย์ ท. ย่อมทนทุกข์อยู่ เพราะความแปรปรวนความกระจัดกระจาย ความแตกทำลาย ของรูป.

ภิกษุ ท. !
เทวดาแลมนุษย์ทั้งหลาย มีเสียง* ฯลฯ, มีกลิ่น ฯลฯ, มีรส ฯลฯ, มีโผฏฐัพพะ ฯลฯ, มีธรรมารมณ์เป็นที่ยินดี กำหนัดแล้วในธรรมารมณ์ บันเทิงด้วยธรรมารมณ์. เทวดาแลมนุษย์ ท. ย่อมทนทุกข์อยู่ เพราะความแปรปรวน ความกระจัดกระจาย ความแตกทำลาย ของธรรมารมณ์.

ภิกษุ ท.!
ส่วนตถาคตผู้เป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธะ รู้แจ้งตามเป็นจริงซึ่งเหตุเป็นเครื่องเกิดขึ้น ซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้ ซึ่งรสอร่อย ซึ่งโทษคือความต่ำทราม และอุบายเครื่องหลุดพ้นออกไปได้ แห่งรูปทั้งหลายแล้ว; ไม่เป็นผู้มีรูปเป็นที่ยินดี ไม่กำหนัดในรูป ไม่บันเทิงด้วยรูป.

ภิกษุ ท. !
ตถาคตย่อมอยู่เป็นสุขเพราะความแปรปรวน ความกระจัดกระจาย ความแตกทำลาย ของรูป,

ภิกษุ ท. !
ตถาคตรู้แจ้งตามเป็นจริง ซึ่งเหตุเป็นเครื่องเกิดขึ้น ซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้ซึ่งรสอร่อย ซึ่งโทษคือความต่ำทราม และอุบายเครื่องหลุดพ้นออกไปได้แห่งเสียง ท. แห่งกลิ่น ท. แห่งรส ท. แห่งโผฏฐัพพะ ท. และแห่งธรรมารมณ์ ท. แล้ว; ไม่เป็นผู้มีเสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์เป็นที่ยินดี ไม่กำหนัดไม่บันเทิงด้วยเสียงเป็นต้น

ภิกษุ ท. !
ตถาคตย่อมอยู่เป็นสุข เพราะความแปรปรวนความกระจัดกระจาย ความแตกทำลาย แห่งธรรมมีเสียงเป็นต้นนั้นๆ. (พระผู้มีพระภาคได้ทรงกล่าวคำนี้แล้ว, พระสุคตครั้นตรัสคำนี้แล้ว พระศาสดาได้ภาษิตคำอื่นอีกที่ผูกเป็นคาถาดังนี้ว่า :-)

รูป ท. เสียง ท. กลิ่น ท. รส ท. ผัสสะ ท. ธรรม ท. ทั้งสิ้น อันน่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าชอบใจ ยังเป็นสิ่งกล่าวได้ว่ามีอยู่เพียงใด มนุษยโลกพร้อมด้วยเทวโลก ก็ยังสมมติว่า "นั่นสุข" อยู่เพียงนั้น.

ถ้าเมื่อสิ่งเหล่านั้นแตกดับลงในที่ใด, สัตว์เหล่านั้น ก็สมมติว่า "นั่นทุกข์" ในที่นั้น.

สิ่งที่พระอริยเจ้า ท. เห็นว่าเป็นความสุข ก็คือความดับสนิทแห่งสักกายะทั้งหลาย, แต่สิ่งนี้กลับปรากฏเป็นข้าศึกตัวร้ายกาจ แก่สัตว์ ท. ผู้เห็นอยู่โดยความเป็นโลกทั้งปวง.


(หมายเหตุ จขบ ..
สักกายทิฏฐิ ความเห็นว่าเป็นตัวของตน, ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตน เช่นเห็นรูปเป็นตน เห็นเวทนาเป็นตน เป็นต้น (ข้อ ๑ ในสังโยชน์ ๑๐) )



สิ่งใด ที่สัตว์อื่นกล่าวแล้วโดยความเป็นสุข, พระอริยเจ้า ท. กล่าวสิ่งนั้น โดยความเป็นทุกข์.

สิ่งใดที่สัตว์อื่นกล่าวแล้ว โดยความเป็นทุกข์, พระอริยะผู้รู้ กล่าวสิ่งนั้นโดยความเป็นสุข, ดังนี้.
.
.
.
บาลี สฬา. สํ. ๑๘/๑๕๙/๒๑๖.
-------------------------------------------------------
* มีข้อความเต็มเหมือนในข้อต้นที่ว่าด้วยรูปเป็นที่ยินดีจนตลอด, แต่ในที่นี้ย่อไว้ให้สะดวกแก่การอ่าน ไม่รกตา.




Create Date : 06 กรกฎาคม 2555
Last Update : 6 กรกฎาคม 2555 6:29:00 น. 3 comments
Counter : 1329 Pageviews.

 

เทวดา สาธุ


โดย: shadee829 วันที่: 6 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:55:41 น.  

 
ต่างเกิดไม่ทัน ไม่มีใครรู้จริงหรอกว่า เป็นคำสอนจากพระโอษฐ์หรือไม่ ต้องพิจารณาใช้หลักตัดสินพระธรรมวินัยที่พระองค์ให้มาเท่านั้น ฉนั้นอย่าเพิ่งลุ่มหลง จะฟุ้งกันใหญ่

เพราะในพระไตรปิฏก พระองค์ยังพูดกับสาวกที่ฟังในขณะนั้นเลยว่า อย่าเพิ่งเชื่อ ไปพิจารณาก่อน พิสูจน์ก่อน แล้วค่อยเชื่อ


โดย: จรธรรม IP: 58.9.95.243 วันที่: 6 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:17:46 น.  

 
คุณจรธรรม ..
ผมเห็นมาคอยพูดทำนองนี้หลายครั้งแล้ว...

เอ้า ..ยกคำพูดคุณมาถามแล้วกัน
" .. เพราะในพระไตรปิฏก พระองค์ยังพูดกับสาวก .. "

คุณเกิดทันเห็นพระพุทธองค์ หรือครับ ถึงเชื่อว่ามีพระองค์อยู่ ?


โดย: สดายุ... วันที่: 6 กรกฎาคม 2555 เวลา:19:15:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.