 |
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
 |
|
|
ความชำนาญ เรียกว่า วสี มี ๕ อย่าง คือ
๑. อาวัชชนวสี ชำนาญในการนึกตรวจองค์ฌานที่ตนออกมาแล้ว
๒. สมาปัชชนวสี ชำนาญในการเข้าฌานนั้้นๆ ได้รวดเร็ว ในทันที ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ ๓. อธิฏฐานวสี ชำนาญในการอธิษฐาน คือ ตั้งจิตยับยั้งอยู่ในฌานได้นานเท่าที่ต้องการ ไม่ให้ฌานจิตตกภวัค์เสีย
๔. วุฏฐานวสี ชำนาญในการออกจากฌาน ออกได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ และเมื่อใดก็ได้ตามที่ต้องการ
๕. ป้จจเวกขณวสี ชำนาญในการพิจารณาทบทวนองค์ฌาน คือ การทำอย่างอาวัชชนวสีนั่นเอง ที่เป็นครั้งหลังๆ ต่อนั้นมา (ขุ.ปฏิ.31/225/147 ฯลฯ) ท่านว่า ถ้ายังไม่ได้วสีในฌานลำดับต้น ก็อย่าพึ่งเจริญฌานขั้นต่อไป มิฉะนั้นอาจเสื่อม ทั้งจากฌานที่ได้แล้ว และยังไม่ได้ ทั้งนี้ท่านอ้างพระบาลีใน องฺ.นวก.23/239/433)
- นั่นหลักสมถกรรมฐาน 
* นี่ถามฌานไหน 
> นั่งสมาธิแล้วมีอาการแบบนี้อยู่ใน ฌาน ไหนครับ
ปกติเวลานั่งสมาธิจิตไม่เคยเป็นสมาธิครับ แต่ได้ไปวิปัสสนาที่พิษณุโลก ในวันที่ 3 ของการนั่งสมาธิมีอาการปวดเมื่อย เพลีย ไม่มีแรงตามปกติ เพราะนั่งสมาธิค่อนข้างนานมาก ประมาณ 3-4 ชั่วโมงต่อรอบ แล้วอยู่ๆร่างกายก็เหมือนโดนบล๊อคให้อยู่กับที่ ไม่โอนเอน นั่งนิ่ง มีความสุขมาก อาการปวดเมื่อยที่เคยมีหายไปหมด เห็นร่างกาย และดวงจิตใสเหมือนแก้ว ดวงจิตใสกลมขนาดประมาณลูกปิงปองอยู่บริเวณสะดือ ดวงจิตใสแต่ไม่สว่างครับ ไม่รู้สึกหรือไม่รับรู้ถึงลมหายใจ ไม่ได้ยินเสียงภายนอก เห็นแค่ร่างกายและดวงจิตที่ใสเหมือนแก้ว
ตอนนั้น รู้สึกว่า ถ้ามีความสุขแบบนี้ให้นั่งติดต่อกัน 7 วันก็ยังได้ เพราะมีความสุขมาก และเมื่ออยู่ในสภาวะนั้นก็เริ่มสงสัย และงงกับสิ่งที่เป็นอยู่ ดวงจิตก็เริ่มเคลื่อนไปทางซ้ายเคลื่อนไปจนสุดผนังร่างกายแล้วก็เคลื่อนไปทางขวา และมันก็หลุดกลับมารู้สึกตัวรับรู้ ปวดเมื่อยเหมือนเดิมครับ แบบนี้ฌานไหนครับ
นั่งสมาธิแล้วมีอาการแบบนี้อยู่ใน ฌาน ไหนครับ - Pantip
แบบนี้ฌานไหน ? ยังไม่ได้สักฌาน เพราะจิตยังไม่นิ่งคือยังควบคุมดวงกลมขนาดเท่าลูกปิงปองที่ว่าให้อยู่ที่ได้นิ่งได้ ยังย่อ/ขยายยังก็ไม่ได้ มันยังเคลื่อนไหวไปมาได้ ให้ทำไปที่จุดนั้นอีกก็ไม่ได้แล้ว
สภาวะนั่นก็แนวๆนี้
> นี่เป็นครั้งแรกของผมในเวปบอร์ดนี้ ถ้าอย่างไรขอความกรุณาด้วยนะครับ :)
ตอนนี้ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นครับ ก่อนหน้านี้ไม่เคยปฏิบัติธรรมจริงๆจังๆเลย จนกระทั่งไม่นานมานี้ วาสนาพาให้ได้พบกับพระสงฆ์ไทยรูปหนึ่งที่ญี่ปุ่นนี่ ทราบว่าท่านน่าจะมาโปรดสัตว์ ผมได้ถามท่านว่า ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์ ท่านก็ไม่ตอบอะไร ยื่นหนังสือของท่านให้สามเล่ม เป็นหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามแนวทางในอานาปานสติสูตร แล้วผมก็กราบลาท่านมา
หลังจากได้หนังสือสามเล่มนั้นมาแล้ว ผมก็อ่านแค่เล่มแรกก่อน ใจความในเล่มแรกคือ ให้กำหนดรู้ลมหายใจให้ตลอด ในชีวิตประจำวัน จะทำกิจกรรมอะไรก็ให้กำหนดรู้ลมหายใจไปด้วย ยกเว้นเวลาขับรถ หรือเวลาอ่านหนังสือ แต่ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่าเราทำอะไรอยู่ ท่านว่าให้กำหนดรู้ลมหายใจเสมือนว่าลมหายใจเป็นกัลยาณมิตร ให้เรายึดกัลยาณมิตรนี้ไว้ หลังจากนั้นผมก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจในชีวิตประจำวัน เวลาเดิน ก็รู้สึกดีครับ รู้สึกเพลินกับการยึดลมหายใจ
หลังจากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน แต่ผมก็คิดว่าเวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดูดีกว่า ผมเลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นสมถแบบอัปปมัญญา ๔ (ที่ผมเปลี่ยนเป็นวิธีนี้เพราะก่อนหน้านี้เคยอ่านหนังสือเรื่องสมถ ๔o วิธีแล้วรู้สึกว่าเราน่าจะเหมาะกับวิธีนี้ คือเกิดความรู้สึกนี้ขึ้นเอง) แล้วกำหนดคำบริกรรมในใจแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณในทิศเบื้องหน้า จากนั้นก็เบื้องหลัง จากนั้นก็เบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องซ้าย แล้วก็เบื้องขวา พอครบทุกทิศแล้ว ก็กำหนดแผ่ไปในทุกทิศพร้อมกันไม่มีประมาณ กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้น ผมก็รู้สึกเหมือนกายผมขยายตามที่กำหนดแผ่เมตตาไปด้วย รู้สึกว่ากายขยายไปทุกทิศ ความรู้สึกนี้มันเกิดในเวลาแค่แปปเดียว กายขยายไปทุกทิศจนรู้สึกว่ากายหายไป คือไม่มีกาย เวลานี้รู้สึกว่าความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด
จากนั้น ผมก็คิดขึ้นมาว่า "มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก (ส่วนใหญ่) มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คน (ส่วนใหญ่)ในโลกกลับไม่รู้"
จากนั้น ผมก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่า ลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)
ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้มันเหมือนจุ่มค้างปิติอยู่ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้นเลยนะครับ แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่
จากนั้น ผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเราหรือ"
จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดัง (คาดว่าน่าจะดูบอล) ผมก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น
แต่หลังจากนั้นมาผมก็ไม่สามารถเข้าถึงสภาวะดังกล่าวได้อีกเลย คือทำได้มากสุดก็แค่ทำปิติให้เกิดขึ้นแวบหนึ่งเท่านั้น (แต่ก็สามารถทำให้เกิดได้ตลอดเวลา ตามที่ต้องการทันที) แต่ไม่สามารถทำให้เกิดค้างไว้ จนรู้สึกเหมือนจุ่มลงในปิติ แล้วมีลมหายใจละเอียดแบบครั้งแรกได้
*คำถามแรกคือสภาวะที่ผมพบในครั้งแรกนั้นคืออะไรครับ ใช่ปฐมฌานหรือป่าวครับ แล้วทำไมในครั้งหลังๆผมถึงไม่สามารถเข้าถึงสภาวะนั้นได้ เป็นเพราะผม "หวัง" มันหรือป่าวครับ
Create Date : 17 กรกฎาคม 2565 |
Last Update : 15 มีนาคม 2568 13:52:44 น. |
|
0 comments
|
Counter : 589 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
 |
|
|
|