กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
สิงหาคม 2566
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
space
space
8 สิงหาคม 2566
space
space
space

แนวทางปฏิบัติธรรมสำหรับผู้เริ่มต้น




235 เป็นคำถามแทนใจผู้เริ่มต้นหรือนานแล้วได้ดีมากๆ  450


> ต้องการปฏิบัติธรรมตามหลักศาสนาพุทธ อยากรู้แนวทางสำหรับผู้เริ่มต้น

    สวัสดีค่ะ   จขกท.   ประสบปัญหาชีวิตรุมเร้า    ครั้งนี้ก็แก้ด้วยวิธีการทางโลกเหมือนเดิม แต่ก็ทำให้สบายใจขึ้นมาได้เพียงชั่วคราว   สิ่งที่เกิดขึ้นยังคงฝังแน่นอยู่ในความทรงจำและคอยตามมาราวีสร้างความทุกข์ใจให้ตั้งแต่ที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่   จิตใจมันมักจะจมลงไปกับความคิด  และความรู้สึกจนไม่อยากจะทำอะไร    แต่ด้วยภาระหน้าที่การงานที่คอยให้สะสางอยู่ก็ต้องฝืนลุกขึ้นจากที่นอน แล้วพาตัวเองไปทำกิจวัตรประจำวันที่เหมือนๆ กันกับวันก่อนๆ  ในช่วงกลางวันสามารถลืมความทุกข์ไปได้ส่วนใหญ่   แต่พอเลิกงานกลับบ้านจนถึงเข้านอนก็กลับมาพบกับความรู้สึกเดิมๆ อยู่ดี  เลยคิดจะลองปฏิบัติธรรมดูและอยากทราบแนวทางค่ะ 

ไม่ทราบว่าควรนั่งสมาธิวันละกี่ชั่วโมงในตอนเริ่มต้น   พอดีในช่วงเย็นจนถึงก่อนนอนมีเวลาว่างเยอะค่ะ   แล้วการฝึกดูลมหายใจควรฝึกแบบไหนถึงจะถูก  จขกท. ลองฝึกพร้อมท่องพุทโธไปด้วย    แต่ก็รู้สึกว่ามันหนักและเป็นภาระ  แต่พอไม่ท่องจิตใจก็กระเจิดกระเจิงได้ง่ายมากๆ    ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

https://pantip.com/topic/42157898


235 จับจุดหลักปฏิบัติ และผลแห่งการปฏิบัติกว้างๆนี่ก่อน  450

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=15-07-2021&group=1&gblog=41


 -  เอาความหมายคำว่า ปฏิบัติธรรม  ก่อนเลย  


235 คำว่า  ปฏิบัติธรรม  คือ  การนำเอาธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิต หรือ การดำเนินชีวิตตามธรรม


  - เมื่อเข้าใจความหมายปฏิบัติธรรมกว้างๆแล้วก็มาปัญหาเฉพาะเรื่องที่ถาม


   ธรรมดาจิต  มันต้องกินอาหาร กล่าวคืออารมณ์ที่ผ่านเข้ามา ทางตา ทางหู เป็นต้น แล้วผลจากความยินดี  ยินร้าย   ต่ออารมณ์ ทางตา ทางหู เป็นต้นนั่น  ก็ไปตกตะกอนอยู่ในจิตในใจส่วนลึก    เมื่อเวลาเราทำงาน    (คือมีงานเฉพาะหน้าให้จิตมันคิด)  มันก็คิดง่วนอยู่กับสิ่งนั้นอารมณ์นั้น  ไม่ไปคิดเรื่องอื่น    แต่พอมันว่างจากงานเฉพาะหน้า ก็จะคิดเรื่องในใจ (ธรรมารมณ์ - เรื่องราวในใจที่ตกตะกอนอยู่) อย่างที่บอกเล่ามา  เพราะเหตุนั้น

   พระพุทธเจ้าซึ่งท่านรู้เข้าใจเรื่องนี้ดีที่สุด จึงแนะนำ ให้ฝึกจิต คือปฏิบัติกรรมฐาน   ดังที่ชาวพุทธบ้านเราเข้าใจกันว่าปฏิบัติธรรม 

   กรรมฐาน 
แปลว่า  ที่ทำงานของจิต, ที่ให้จิตทำงาน.  อะไรก็ได้   ที่จิตเกาะจับแล้วสงบอยู่ที่ได้  ไม่คิดเตลิดไปอย่า่งไร้จุดหมาย    ก็ใช้สิ่งนั้น  ตรงนี้จะยกตัวอย่างโดยใช้ ลมเข้า ลมออก ก็ได้  ใช้อาการท้องพอง  กับ  อาการท้องยุบ ก็ได้  เป็นที่ให้จิตมันทำงาน (มันคิด) อยู่กับสิ่งนั้น (กรรมฐาน)   คือลมเข้า  กับ  ลมออกนั้น   หรือกับอาการท้องพอง, อาการทั้งยุบ นั้น  (พอมองเห็นภาพนะ)  ทีนี้  ท่านให้ใช้เครื่องตรึงจิตด้วย (ในหลักท่านใช้นับเลข)  ซึ่งก็คือคำว่า  พุท-โธ   ธัม-โม สัง-โฆ อะไรก็ได้ สักอย่างหนึ่ง  ว่าไปพร้อมกับลมเข้าที ลมออกที   ทีละขณะๆไป.  อาการท้องพอง   ว่าพองหนอ  อาการท้องยุบ  ว่ายุบหนอ  แต่ละขณะๆไป  คิดถึงงานที่ทำ คือ ลมเข้า ลมออก  พองกับยุบ  เวลาว่างจากงานประจำวันแล้วก็ปฏิบัติไปแล้วแต่เวลา (ที่บ้าน) อย่าไปเล่นทีเป็นชั่วโมงเลย  ค่อยๆปรับจากน้อยไปหามาก

   ใช่เท่านั้น  แม้เรากำลังกวาดบ้าน    ถูบ้าน    อาบน้ำ   ล้างหน้า  แปรงฟัน  ถ่ายอุจจาระ  ถ่ายปัสสาวะ  หยิบจับนั่นนี่  เดินไปนั่นมานี่  กินข้าวแต่มื้อละคำ ... ใช้สิ่งที่กำลังทำนั้นเป็นที่ทำงานของจิต  (กรรมฐาน)  ใช้สิ่งนั้นเป็นสนามฝึกจิตได้ทั้งนั้น 

 


เป็นวิธีฝึกทั้งนั้น 
 

   จงกรม  เดินกลับไปกลับมาโดยมีสติกำกับ.   แต่ก็เข้าใจเป็นอื่นไปเสีย  เช่น เข้าใจว่าเดินเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ  เดินแก้เมื่อย นั่งนานแล้วเมื่อยว่าซั่น  บางแห่งไปไกล ว่า จงกรม แปลว่า เดินบริหารน่อง   3   

 

 

   ความหมาย  สติ แต่มิใช่ทำเพื่อค้นหาสติ หรือค้นหาชื่อธรรมตัวอื่นๆ ที่อยากได้     107   (ที่ทำๆกัน  เกิดสภาวะอะไรหน่อย  ไม่รู้จัก  ก็ถามนั่นอะไรนี่อะไร  ใช่นั่นใช่นี่ไหม  จะเอาชื่อ) 

   สติ    ความระลึกได้,  นึกได้, ความไม่เผลอ, การคุมใจไว้กับกิจ หรือกุมจิตไว้กับสิ่งที่ทำที่เกี่ยวข้อง,  จำการที่ทำและคำที่พูดแล้วแม้นานได้


235 จขกท. ลองฝึกพร้อมท่องพุทโธไปด้วย    แต่ก็รู้สึกว่ามันหนักและเป็นภาระ  แต่พอไม่ท่องจิตใจก็กระเจิดกระเจิงได้ง่ายมากๆ


- พอลมหายใจเข้า  ก็ว่า พุท  ลมหายใจออก  ก็ว่า โธ  ว่าควบพร้อมๆกับลมเข้า-ออก  ไม่ก่อนไม่หลัง

- พอท้องพอง  ก็ว่า    พองหนอ   พอท้องยุบ  ก็ว่า ยุบหนอ  ว่าไปพร้อมๆกับอาการพอง-ยุบ ไม่ก่อนไม่หลัง

-  เวลาเริ่มจากน้อยไปหามาก  จขกท. เริ่มที่  ๑๐ นาทีก็ได้ นั่ง ๑๐ นาที เดินจงกรม ๑๐ นาที จะกี่รอบกี่บัลลังก์ ก็ได้

235  อนึ่ง  ตรงนี้สำคัญ  ความรู้สึกนึกคิด  ก็กำหนดด้วย   ไม่ใช่ปล่อยความคิดยุ่งเหยิงไปโดยไม่กำหนดรู้  กำหนดยังไง ?  คือ ต้องรู้เท่ารู้ทันมัน   (ไม่ใช่รู้ก่อนมัน หรือรู้ทีหลังมัน)    คิดปุ๊บ  กำหนดปั้บ   คิดหนอๆๆๆ   จับความคิดมาเป็นอาหารของสติปัญญาสะ    ทุกอย่างทุกความรู้สึก  กำหนดทั้งนั้น  ไม่ปล่อยเรื่อยเปื่อยไปอย่างว่า


>> สิ่งที่เกิดขึ้นยังคงฝังแน่นอยู่ในความทรงจำและคอยตามมาราวีสร้างความทุกข์ใจให้ตั้งแต่ที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่


235 นั่นเห็นชัด  451 เราตื่นนอน  (รู้สึกตัว)  พอลืมตา จิตมันยังไม่มีอารมณ์ทางตา ทางหู เป็นต้นเสพ   มันก็เสพธรรมารมณ์คือเรื่องในใจที่แรงเข้ม  (เรื่องนั้นแหละ)  ที่ตกตะกอนอยู่ภายใน ครั้นเราไปทำนั่นนี่โน่นจิตมันก็คิดเรื่องเฉพาะหน้า  เรื่องเก่าหลบ  (ซุ่มโป่งรอ  121)  จิตมันคิดได้ขณะละเรื่องราว   เช่น   คิดลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ  อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน  แต่งเนื้อแต่งตัว เรื่องที่ว่าเหมือนมันหายไป  พอว่างๆจากงานประจำมันโผล่มากวนใจอีกล่ะ   


235 ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงมุมไหนของโลกใบนี้  จำหลักสั้นๆไว้  คิดยังไงรู้สึกยังไงกำหนดยังงั้น 


235 มีเวลาค่อยๆอ่านหลักสติปัฏฐาน ที่ 450 (จับเอาสาระ ไม่ติดในตัวอักษร)

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=29-10-2023&group=82&gblog=85

 


Create Date : 08 สิงหาคม 2566
Last Update : 18 ธันวาคม 2566 17:45:20 น. 0 comments
Counter : 238 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space