กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
มกราคม 2567
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
21 มกราคม 2567
space
space
space

ตามหาปัญญา

ถาม  450  2  

> ตามหาปัญญาอยู่ที่ใด

  โลกภายนอกดับเกิด โลกภายในผู้ปฏิบัติภาวนาเห็นอาการปรุงแต่ง  ที่ทำให้เป็นทุกข์ในขณะนั้นกำลังเกิดขึ้น กำลังเคลื่อนย้ายแปรปรวนไปไม่คงที่ และเห็นสิ่งหนึ่งผุดขึ้นมา  เข้าทำการรู้อาการปรุงแต่งนั้น  ในขณะที่ผู้ภาวนาใคร่ครวญอาการปรุงแต่งนั้นอยู่  เปรียบไปแล้วสิ่งนี้ก็คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้ภาวนา ในการดูอาการปรุงแต่งนั้น  ให้รู้เห็นได้อย่างชัดเจน สิ่งที่ว่านี้ก็มีอาการเกิดดับเช่นกัน  ขอถามว่าตรงไหนคือปัญญาและจะรู้ได้อย่างไร ว่าปัญญาเห็นในสิ่งถูกต้อง

https://pantip.com/topic/42471618

 



 
235 ถ้าผู้ปฏิบัติเอาชีวิตคือกายใจเป็นตัวตั้งแล้ว  ต้องกำหนดรู้ตามที่กายใจมันเป็น  1  เป็นยังไง รู้สึกยังไง  ก็ว่า,ก็กำหนด,ก็ปริญญา ยังงั้นตามที่มันเป็น  ผู้ปฏิบัติจะไปคิดนั่นคิดนี่เอานั่นเอานี่ ซึ่งไม่ตรงกับที่ชีวิตคือกายใจมันเป็นแล้วปัญญามันจะเจริญจะเกิดได้ยังไงล่ะ ปัญญา (ภาวนามยปัญญา)  เกิดจากการเห็นความจริงของรูปนามแล้วๆเล่าๆนั่นเอง.  ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ อย่างขณะนั้นฝนกำลังตก   186   จั๊กๆๆ อยู่แล้วเราคิดเห็นไปว่าแดด 201 กำลังออกเปรี้ยง มันจะตรงกับความจริงในขณะนั้นได้ยังไง 9ฝนตกก็ฝนตก แดดออกก็แดดออก ฉันใดก็ฉันนั้น  ผู้ปฏิบัติกำลังภาวนาอยู่แล้วเกิดสุข,ทุกข์เป็นต้นขึี้นก็ต้องก็ว่า,ต้องกำหนด,ต้องปริญญาตามเป็นจริง ตามที่มันเป็นของมัน  รู้สึกจะเป็นจะตายก็ตามนั้น  ไม่เลี่ยงหนี     121     

https://pantip.com/topic/31293734



- ศึกษาธรรมชาติที่เขาตั้งชื่อให้มันว่า ปัญญา ที่

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=04-08-2023&group=88&gblog=7


235 ใช้ตัวอย่างนี้เทียบคำพูดที่ว่า พึงกำหนดรู้,พึงปริญญาตามเป็นจริง, ตามที่มันเป็น 

> ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

     วันแรกๆ ก็ไม่เป็นอะไร  พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น  เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก  จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้  แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

     จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเอง  จนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม  คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ  หายใจตอนแรกก็ยาว    ก็ตามไปซักพัก  เริ่มพิจารณาตามสติปัฏฐาน  คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย   ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ   จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง  ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา  ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

       1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี   ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

       2. จุดมุ่งหมายจริงๆ   คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ     

   ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ  พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว  เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา     เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนา  ทำให้เราเข้าใจว่า  ทุกอย่างมีเกิด-ดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด   แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร  หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง   จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ   หลังสึกออกมาทุกวันนี้     เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน   แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง    ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน 


235 สภาวะมันหมุนเหวี่ยงจนรากจะแตก   451  แต่ผู้ปฏิบัติเองไปอะไรไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งตรงข้ามกับความจริงของมัน  จะใครเป็นใครก็ตามไม่มีทางแก้ปัญหาภาคปฏิบัติสำเร็จได้
 


Create Date : 21 มกราคม 2567
Last Update : 22 มกราคม 2567 10:06:22 น. 0 comments
Counter : 217 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space