 |
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
 |
|
|
ถาม 
* ถีนมิทธะแทรกระหว่างภาวนา
>อาการสัปหงก เผลอสติหลับไปชั่วขณะ เป็นปัญหาที่หนักพอสมควร รู้ตัวว่าผมสติยังไม่มากพอ อาการแบบนี้ควรเอาอุบายอะไรมาแก้ไขควบคู่กับการบริกรรมพุทโธครับ ขอบคุณครับ
ถีนมิทธะ แทรกระหว่างภาวนา สอบถามครับ - Pantip
วิธีปฏิบัติของผู้ใช้พุท-โธ ถูกสอนกันมาว่า ลมหายใจเข้าว่า พุท ลมหายใจออกว่า โธ พุท-โธๆๆๆ ว่าย้ำๆอยู่เท่านี้ เป็นวิธีฝึกสมถะหรือฝึกสมาธิเพียวๆ ยังไม่เคยได้ยินสำนักใดสักแห่งแนะนำวิธีแก้ถีนมิทธนิวรณ์เลย ยังไม่เคยได้ยิน เห็นแต่บอกกันและกันว่า ง่วงก็ลุกขึ้นเดิน, ง่วงก็ไปนอนให้อิ่มแล้วมาทำใหม่ แบบนี้แก้ได้ชั่วครั้งชั่วคราว (บางคนเดินยังง่วงเลย) วิธีดังว่ายังไม่ใช่แก้ที่ต้นเหตุคือที่ตัวกิเลสนิวรณ์เอง
ตัวอย่างนั้น ผู้ปฏิบัติเองก็รู้ตัวว่าสติยังไม่แข็งแรง คือว่าสติยังตามไม่ทันธรรมารมณ์ เมื่อสติตามไม่ทันนิวรณ์ จิตก็ถูกมันครอบงำสัปหงกหรือหลับหัวทิ่มไปเลย วิธีเจริญสติให้แข็งแรงมีอยู่ แต่ผู้ปฏิบัติต้องรู้จักพลิกแพลงวิธี ไม่ใช่พุทโธๆๆอย่างเดียว ต้องกำหนดสภาวะนิวรณ์นั้นๆด้วย นี่คือวิธีแก้พร้อมกับคำภาวนาใดๆก็แล้วแต่
> ยกตัวอย่างผู้ใช้ พอง-ยุบ คือ พองหนอ ยุบหนอ กำหนดนิวรณ์ตัวนั้นๆตรงๆเลย รู้สึกง่วงวิบ กำหนดทันทีทันควัน ง่วงหนอๆๆๆๆ กำหนดไม่ทันมันก็เสร็จมันเหมือนกัน กำหนดทุกๆขณะที่มันเกิด (ผู้ใช้พุทโธๆ อย่างเดียว ก็ต้องพลิกแพลงวิธีปฏิบัติตามแนวนี้)
นิวรณ์ท่านจัดเข้าในหมวดธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน (สติปัฏฐาน ๔ ข้อ) ก็เท่ากับว่า โยคีจะต้องกำหนดรู้กิเลสตัวนี้ด้วยทุกครั้งทุกขณะเมื่อมันเกิด เกิดปุ๊บกำหนดปับๆๆๆ เมื่อกำหนดดูรู้ทันมันทุกขณะแล้ว (แบบนี้แสดงว่าสติแข็งแรงแล้ว) กิเลสก็เข้าแทรกไม่ได้ เพราะสติคอยกันไว้ นี่คือหลักปฏิบัติสติปัฏฐาน
สติปัฏฐาน ๔ ข้อ ต้องปฏิบัติไปด้วยกัน ไม่ใช่ไปเลือกทำทีละข้อๆ เรานั่งเจริญสติอยู่ตรงนี้ตรงโน้นตรงไหน ใช้เวลาเท่าใดก็ตาม มันเกิดได้หมดเกิดได้ทุกข้อ ถ้าเราไปเลือกทำทีละข้อๆ ก็ตามไม่ทันมันอีก บางรายบอกกันว่า ข้อนี้มันยากก็ข้ามไปก่อน ยังไม่ต้องเอายังไม่ต้องทำว่าซั่น
 สมมติว่านี่ใช้เวลา ๓๐ นาที สติปัฏฐานเกิดได้หมด (ข้อไหนไม่เกิดก็ไม่ต้องกำหนด ไม่ใช่มันไม่เกิดก็ไปทำให้เกิดเพื่อจะดู เพื่อจะกำหนดเวทนา จะดูเวทนา เอาไฟเอาเทียนไปจี้แขนขาให้เกิดเวทนาแล้วดูเวทนา ไม่ใช่ อย่าไปทำ) ปัญหาที่ถาม 
> ลองแก้หลายวิธีไม่หาย เดินจงกรมจะง่วงแต่พอหันมาทำอย่างอื่น อย่างเข้าเว้ปลานธรรมตอนนี้ มันหายทันที เป็นอารมณ์ที่แพ้มานานแล้ว ทำอย่างไรดี
อีกรายหนึ่ง เดินจงกรมนิวรณ์ก็ครอบงำ
> มีปัญหากับความง่วงมาก ปกติไม่ชอบนอนเลย วันนึงนอน 5 ชม. แต่มักโดนนิวรณ์ตัวนี้ ขณะปฏิบัติ เช่น เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา และไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้การภาวนาไม่ดีขึ้น ซึ่งเป็นมานานแล้วค่ะ ลองทำตามวิธิที่พระพุทธเจ้าสอนก็ไม่รอด กรุณา แนะนำด้วยค่ะ ไม่ทราบว่าระหว่างวันมันไปเผลอตอนไหน หรือควรระวังอะไรในการภาวนาในชีวิตประจำวันค่ะ
กิเลสต้องเห็นชัดด้วยปัญญาจึงจะละได้ซึ่งมันไม่ง่ายนัก
ที่ว่า
> ไม่ทราบว่าระหว่างวันมันไปเผลอตอนไหน หรือควรระวังอะไรในการภาวนาในชีวิตประจำวันค่ะ
บางทีผู้สอน ประดิษฐวาทกรรมใหม่ แล้วอธิบายไม่เคลียร์ ทำให้คนผู้รับคำสอนมาปฏิบัติเข้าใจผิด. คิดดูตั้งแต่เราเกิดมาจนถึงวันนี้อายุก็มากๆกันแล้ว กิเลสที่มันไหลเข้าทางอายตนะไปหมักดองอยู่ในจิตในใจ (อาสวะ) เท่าไหร่ นั่นกิเลสเก่า ส่วนกิเลสใหม่ที่ไหลเข้าทางอายตนะปัจจุบัน คนเราก็ยังไม่เข้าใจวิธีกัน (กันกิเลสใหม่ กำจัดกิเลสเก่า เรายังไม่รู้) ในระหว่างใช้อายตนะแต่ละวันๆมันก็เข้าไปอีก
เหตุใดสติตามทันขณะปัจจุบัน จึงเป็นหลักสำคัญของวิปัสสนา ?
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=29-10-2023&group=82&gblog=88
Create Date : 25 ธันวาคม 2564 |
Last Update : 15 มีนาคม 2568 12:10:46 น. |
|
0 comments
|
Counter : 589 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
 |
|
|
|