กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
กรกฏาคม 2565
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
space
space
17 กรกฏาคม 2565
space
space
space

วสี




    ความชำนาญ เรียกว่า วสี มี ๕ อย่าง คือ

      ๑. อาวัชชนวสี     ชำนาญในการนึกตรวจองค์ฌานที่ตนออกมาแล้ว

      ๒. สมาปัชชนวสี    ชำนาญในการเข้าฌานนั้้นๆ ได้รวดเร็ว ในทันที ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ
   
      ๓. อธิฏฐานวสี     ชำนาญในการอธิษฐาน คือ ตั้งจิตยับยั้งอยู่ในฌานได้นานเท่าที่ต้องการ ไม่ให้ฌานจิตตกภวัค์เสีย

      ๔. วุฏฐานวสี     ชำนาญในการออกจากฌาน ออกได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ และเมื่อใดก็ได้ตามที่ต้องการ

      ๕. ป้จจเวกขณวสี    ชำนาญในการพิจารณาทบทวนองค์ฌาน คือ การทำอย่างอาวัชชนวสีนั่นเอง ที่เป็นครั้งหลังๆ ต่อนั้นมา  (ขุ.ปฏิ.31/225/147 ฯลฯ)  ท่านว่า  ถ้ายังไม่ได้วสีในฌานลำดับต้น ก็อย่าพึ่งเจริญฌานขั้นต่อไป   มิฉะนั้นอาจเสื่อม   ทั้งจากฌานที่ได้แล้ว และยังไม่ได้ ทั้งนี้ท่านอ้างพระบาลีใน องฺ.นวก.23/239/433)


นั่น 451 หลักสมถกรรมฐาน 



นี่ถามฌานไหน  450

> นั่งสมาธิแล้วมีอาการแบบนี้อยู่ใน ฌาน ไหนครับ

  ปกติเวลานั่งสมาธิจิตไม่เคยเป็นสมาธิครับ   แต่ได้ไปวิปัสสนาที่พิษณุโลก ในวันที่ 3 ของการนั่งสมาธิมีอาการปวดเมื่อย เพลีย ไม่มีแรงตามปกติ เพราะนั่งสมาธิค่อนข้างนานมาก ประมาณ 3-4 ชั่วโมงต่อรอบ   แล้วอยู่ๆร่างกายก็เหมือนโดนบล๊อคให้อยู่กับที่  ไม่โอนเอน  นั่งนิ่ง มีความสุขมาก อาการปวดเมื่อยที่เคยมีหายไปหมด   เห็นร่างกาย และดวงจิตใสเหมือนแก้ว ดวงจิตใสกลมขนาดประมาณลูกปิงปองอยู่บริเวณสะดือ   ดวงจิตใสแต่ไม่สว่างครับ  ไม่รู้สึกหรือไม่รับรู้ถึงลมหายใจ ไม่ได้ยินเสียงภายนอก เห็นแค่ร่างกายและดวงจิตที่ใสเหมือนแก้ว

ตอนนั้น  รู้สึกว่า    ถ้ามีความสุขแบบนี้ให้นั่งติดต่อกัน 7 วันก็ยังได้ เพราะมีความสุขมาก และเมื่ออยู่ในสภาวะนั้นก็เริ่มสงสัย และงงกับสิ่งที่เป็นอยู่   ดวงจิตก็เริ่มเคลื่อนไปทางซ้ายเคลื่อนไปจนสุดผนังร่างกายแล้วก็เคลื่อนไปทางขวา และมันก็หลุดกลับมารู้สึกตัวรับรู้ ปวดเมื่อยเหมือนเดิมครับ แบบนี้ฌานไหนครับ

https://pantip.com/topic/41540231

   
     แบบนี้ฌานไหน ?   ยังไม่ได้สักฌาน   9   เพราะจิตยังไม่นิ่งคือยังควบคุมดวงกลมขนาดเท่าลูกปิงปองที่ว่าให้อยู่ที่ได้นิ่งได้  ยังย่อ/ขยายยังก็ไม่ได้  มันยังเคลื่อนไหวไปมาได้  ให้ทำไปที่จุดนั้นอีกก็ไม่ได้แล้ว  

235 สภาวะนั่นก็แนวๆนี้ 450 

> นี่เป็นครั้งแรกของผมในเวปบอร์ดนี้ ถ้าอย่างไรขอความกรุณาด้วยนะครับ :)

   ตอนนี้ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นครับ ก่อนหน้านี้ไม่เคยปฏิบัติธรรมจริงๆจังๆเลย จนกระทั่งไม่นานมานี้ วาสนาพาให้ได้พบกับพระสงฆ์ไทยรูปหนึ่งที่ญี่ปุ่นนี่ ทราบว่าท่านน่าจะมาโปรดสัตว์ ผมได้ถามท่านว่า ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์ ท่านก็ไม่ตอบอะไร ยื่นหนังสือของท่านให้สามเล่ม เป็นหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามแนวทางในอานาปานสติสูตร แล้วผมก็กราบลาท่านมา

หลังจากได้หนังสือสามเล่มนั้นมาแล้ว   ผมก็อ่านแค่เล่มแรกก่อน ใจความในเล่มแรกคือ ให้กำหนดรู้ลมหายใจให้ตลอด ในชีวิตประจำวัน จะทำกิจกรรมอะไรก็ให้กำหนดรู้ลมหายใจไปด้วย ยกเว้นเวลาขับรถ หรือเวลาอ่านหนังสือ แต่ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่าเราทำอะไรอยู่ ท่านว่าให้กำหนดรู้ลมหายใจเสมือนว่าลมหายใจเป็นกัลยาณมิตร ให้เรายึดกัลยาณมิตรนี้ไว้
หลังจากนั้นผมก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจในชีวิตประจำวัน เวลาเดิน ก็รู้สึกดีครับ รู้สึกเพลินกับการยึดลมหายใจ

หลังจากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ  ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน   แต่ผมก็คิดว่าเวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น 
ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดูดีกว่า   ผมเลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นสมถแบบอัปปมัญญา ๔ (ที่ผมเปลี่ยนเป็นวิธีนี้เพราะก่อนหน้านี้เคยอ่านหนังสือเรื่องสมถ ๔o วิธีแล้วรู้สึกว่าเราน่าจะเหมาะกับวิธีนี้ คือเกิดความรู้สึกนี้ขึ้นเอง)   แล้วกำหนดคำบริกรรมในใจแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณในทิศเบื้องหน้า   จากนั้นก็เบื้องหลัง  จากนั้นก็เบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องซ้าย แล้วก็เบื้องขวา   
พอครบทุกทิศแล้ว    ก็กำหนดแผ่ไปในทุกทิศพร้อมกันไม่มีประมาณ   กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้น    ผมก็รู้สึกเหมือนกายผมขยายตามที่กำหนดแผ่เมตตาไปด้วย    รู้สึกว่ากายขยายไปทุกทิศ ความรู้สึกนี้มันเกิดในเวลาแค่แปปเดียว กายขยายไปทุกทิศจนรู้สึกว่ากายหายไป คือไม่มีกาย
เวลานี้รู้สึกว่าความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ    มีแต่ความสุขไปหมด     

จากนั้น    ผมก็คิดขึ้นมาว่า    "มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก  (ส่วนใหญ่)   มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คน  (ส่วนใหญ่)ในโลกกลับไม่รู้"   

จากนั้น   ผมก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่า    ลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)

ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้มันเหมือนจุ่มค้างปิติอยู่    แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้นเลยนะครับ    แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่   

จากนั้น    ผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า    "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเราหรือ"   

จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ    เริ่มปั่นป่วน    หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดัง (คาดว่าน่าจะดูบอล) ผมก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น

แต่หลังจากนั้นมาผมก็ไม่สามารถเข้าถึงสภาวะดังกล่าวได้อีกเลย คือทำได้มากสุดก็แค่ทำปิติให้เกิดขึ้นแวบหนึ่งเท่านั้น   (แต่ก็สามารถทำให้เกิดได้ตลอดเวลา ตามที่ต้องการทันที)  แต่ไม่สามารถทำให้เกิดค้างไว้    จนรู้สึกเหมือนจุ่มลงในปิติ    แล้วมีลมหายใจละเอียดแบบครั้งแรกได้

*คำถามแรกคือสภาวะที่ผมพบในครั้งแรกนั้นคืออะไรครับ ใช่ปฐมฌานหรือป่าวครับ แล้วทำไมในครั้งหลังๆผมถึงไม่สามารถเข้าถึงสภาวะนั้นได้ เป็นเพราะผม "หวัง" มันหรือป่าวครับ



 




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2565
0 comments
Last Update : 11 ธันวาคม 2566 9:24:38 น.
Counter : 466 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space