Bloggang.com : weblog for you and your gang
สูตรรักสูตรอร่อย
Group Blog
จิปาถะ-Lounge
Tour & Travel
Vegan Food
อาหารไทย-Thai Food1
อาหารไทย-Thai Food2
ขนมปัง-Bread
Cake-Tart-Pie
Cooking Class กับนิค&เจน
Drink-Desserts
Cookies-Desserts
ขนมไทย-Thai desserts
International Food
เค้ก ฟอนดองCake-Fondant
Cooking Contest
ส่งการบ้านแม่ปู-Kitchen home work
แม่ปูส่งการบ้าน-My home work
In the Kitchen
Personal
กันยายน 2548
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
20 กันยายน 2548
เบรอริโต้(Burrito)
สเต็กโรล(Steak Rolls)
ออมเล็ท(Omlete)
แฮม พ็อท พาย(Ham Pot Pie)
พาสต้า ไส้กรอกอิตาเลี่ยนซอส(Pasta Italian Saucesage Sauce)
พุดดิ้งข้าวโพด(Cron Pudding)
Shepherd's pie
พาสต้าอัลเฟรโดซ้อส(Pasta Allfrado)
หมูอบเบียร์(Pork chop with Beer sauce)
หมูอบน้ำแอ้ปเปิ้ล(APPLE JUICE PORK)
เนื้ออบ กับ ซ้อส(Roast Beef With Mushroom Sauce)
Chiceken Casserole
ไก่กับมันฝรั่งอบชีส(Chicken Potato Cheese Cassarole)
BAKED BEANS
All Blogs
ซาโมซ่า (samosa)
ไก่ทันดูรี(Tandoori chicken)
ไก่งวงอบ (Thanksgiving)
สวีทเบซิลเพสโต(Sweet basil Pesto)
crisp flaky Biscuits(บิสกิตแบบกรอบ)
skillet lasagna (ลาซานญ่ากระทะ)
พาสต้า อัลลา ปุตตาเนสกา(Pasta Puttanesca)
เทอร์กี้ชิลลี่ด็อก(Turkey chilli dog)
ชีสฟองดูว์(cheese fondue)
เบสิคแพนเค้ก(Pancake)
สเต็กเทริยากิ(Teriyaki Steak)
โฮมเมดพิซซ่า(Homemade Pizza)
โฮมเมด ราวีโอลี่พาสต้า(Homemade Ravioli)
แครนเบอรี่ แอ้ปเปิ้ลซ้อส(cranberry apple sauce)
chili con carne
มินิมีทโล้ฟห่อเบคอน(bacon wrapped mini meatloaf)
มีทโล้ฟทรงเครื่อง( Meatlof )
ฟาฮีต้าไก่(chicken Fajita)
ขนมปังกระเทียม(garlic Bread)
Sherry Chicken (เชอร์รี่ชิคเก้น)
เนื้อผัดพริกกับขนมปังพิต้า(Stir Fry Beef with Pita Bread)
บีฟ ฟาฮิต้า(Beef Fajita)
สเต็กสับ-หอมหัวใหญ่(Ground Beef Steak with Caramelized Onion)
Caramelized onions
มันฝรั่งบด-ซาวครีม(Mashed Potato With Sour Cream)
อาร์ติโช้ค(artichoke)
Crème fraîche (โฮมเมด)
เบคแซลมอน(baked Salmon)
บัตเตอร์มิลค์ แพนเค้ก(Buttermilk Pancake)
Tomato and Mozzarella Salad
โฮมเมด ริคอตต้าชีส (Ricotta Cheese)
วาฟเฟิล (waffle)
Carne Asada whit fresh Pineapple Salsa
Onion Rings
ไก่งวงอบ(Roast Turkey)
BBQ (Baby Back Ribs)
wok
ไก่อบส้ม(Orange Chicken)
ชีสทอด(Cheese Stick)
ตอร์ตีญ่า Flour Tortillas
เฟรนช์โทสต์(French Toast)
ซุปผักอร่อยๆ(Vegetable Soup)
หมูอบน้ำแอ้ปเปิ้ล(Pork Steak With Apple Juice)
เฟตตุชชินี่ คาโบนาร่า(fettuccine carbonara)
ซ้อสสปาเก็ตตี้เนื้อไก่งวงสับ(Ground Turkey Spagetti Sauce)
ซุปมันฝรั่งอบ (bake Potato Soup)
Roast Beef
อิตาเลี่ยน มีทบอลล์(Italian Meatballs)
บาร์บีคิว(shish-kabob)
ครีมบิสกิต(Cream Biscut)
เฟรนช์ฟรายอบ(Baked French Fries)
เฟรนช์ฟรายทอด(French Fries...Deep fried)
กริลล์ชีส(Grilled Cheese)
วาฟเฟิล2(Waffle2)
เครป(เบสิค)....Crepe
เบรอริโต้(Burrito)
สเต็กโรล(Steak Rolls)
ออมเล็ท(Omlete)
แฮม พ็อท พาย(Ham Pot Pie)
พาสต้า ไส้กรอกอิตาเลี่ยนซอส(Pasta Italian Saucesage Sauce)
พุดดิ้งข้าวโพด(Cron Pudding)
Shepherd's pie
พาสต้าอัลเฟรโดซ้อส(Pasta Allfrado)
หมูอบเบียร์(Pork chop with Beer sauce)
หมูอบน้ำแอ้ปเปิ้ล(APPLE JUICE PORK)
เนื้ออบ กับ ซ้อส(Roast Beef With Mushroom Sauce)
Chiceken Casserole
ไก่กับมันฝรั่งอบชีส(Chicken Potato Cheese Cassarole)
BAKED BEANS
สตูว์ซี่โครงหมูกับพาสต้า(Pork Rib Stew with pasta)
ไส้กรอกอิตาเลี่ยน(Italian Meatballs)
เนื้ออบ กับ ซ้อส(Roast Beef With Mushroom Sauce)
Create Date : 20 กันยายน 2548
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2556 4:46:20 น.
4 comments
Counter : 7576 Pageviews.
Share
Tweet
ส่วนผสมเนื้อนะคะ
beef tenderloin ๓ ปอนด์ (ถ้าไม่ทานเนื้อก็เปลี่ยนเป็น pork tenderloin แทน แต่อบให้สุกมากกว่าเนื้อนะคะ)
น้ำมันมะกอก ๑/๔ ถ้วย
เกลือ
พริกไทย
เชือกผ้าฝ้ายสำหรับผูกเนื้อ
เทอร์โมมิเตอร์เอาไว้วัดว่าเนื้อข้างในสุกได้ที่รึยังแค่ไหน ไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ..
ขั้นแรกก็จัดการแล่มันแล่ผังผืดออกก่อนค่ะ ให้เหลือแต่เนื้อแดง แล้วมัดด้วยเชือกผ้าฝ้าย มัดไม่ต้องแน่นมาก การมัดนี้จะทำให้เนื้อเสมอกัน เนื้อจะเป็นก้อนกลม จะได้สุกเท่ากันทุกที่ด้วยค่ะ
พอมัดเชือกมัดเนื้อเรีบยร้อยแล้ว ก็ทาเนื้อด้วยน้ำมันมะกอก
ทาให้ทั่วเลยนะคะ หากระทะใหญ่ๆหน่อยมาใส่เนื้อ ถ้าเอาเข้าเตาอบด้วยได้ก็ยิ่งดีค่ะ จะได้ไม่ต้องย้ายไปย้ายมา
พอทาน้ำมันทั่วแล้วก็โรยด้วยเกลือ พริกไทย กะๆเอานะคะ พอดีไม่ได้ตวง แต่อ่อนเกลือไว้ก็ดีค่ะ
ถ้าจืดเดี๋ยวตอนเราทานก็สามารถเติมทีหลังได้ ถ้าเค็มนี่หมดอร่อยเลย..
จากนั้นก็เอากระทะที่เราใส่เนื้อไว้นี้ไปตั้งบนเตา เปิดเตาไฟค่อนข้างแรง
ทอดให้เนื้อด้านนอกเกรียมสักหน่อย พลิกเนื้อทอดให้เกรียมทั่วกันทั้งก้อน
พอเนื้อสีน้ำตาล (หรือเกรียม)แล้ว ถ้ากระทะบ้านใครสามารถยกเข้าเตาอบได้ก็เอาเข้าเตาอบเลย ถ้าไม่ก็จัดการเปลี่ยนถาดอบนะคะ
ลืมบอกไปว่าเปิดเตาอบ ๔๕0 ฟาเรนไฮต์ จิ้มเทอร์โมมิเตอร์เข้าไป อบประมาณ ๒0-๓0 นาที ถ้าเทอร์โมมิเตอร์ ชี้ที่เลข ๑๓0 (มีเดียม)ก็ยกออกจาเตาอบได้ค่ะ หรือใครชอบสุกกว่านั้นก็อบต่อไปจนกว่าจะพอใจค่ะ
ตอนนี้ถ้าบ้านใครมีสัญญาญไฟไหม้ ตอนนี้จะทำงานอย่างขยันขันแข็งเลยล่ะค่ะ
โหยหวนมาก ต้องรีบเปิดประตูหน้าต่าง ลมก็ไม่ค่อยพัดอีก อบเนื้อไป ใจก็ระทึก เฮ้อๆ..
พ่อบ้านบ้านนี้ชอบอุณหภูมิขนาด๑๓0 ค่ะ ก็ยกออกจากเตาอบ (โล่งอก)
พอเอาออกจากเตาก็เอากระดาษฟอยด์ห่อไว้ก่อนนะคะ
แล้วเราไปทำซ้อสกันต่อค่ะ
เครื่องปรุงซ้อส
น้ำสต็อคเนื้อ ขนาด ๑๔ ออนซ์
ไวน์แดง ๑/๔ ถ้วย
หอมหัวใหญ่ ๑ หัว
กระเทียม ๒ กลีบ
แป้งสาลี ๒ ช้อนโต๊ะ
thyme ถ้าได้สดๆจะดีมากค่ะ
เห็ด (วันนี้ใช้แบบกระป๋อง แต่พ่อบ้านไม่ค่อยชอบทานเห็ดก็เลยใส่นิดเดียว ใครไม่ชอบทานก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ)
ซ้อสมะเขือเทศกระป๋องแบบข้น ๒ ชต.
มาลงมือทำเลยนะคะ
เอาเนยใส่กระทะซัก๒ ชต. ผัดหอมหัวใหญ่ให้หอมฟุ้งเลยค่ะ
จากนั้นก็เอากระเทียมลงผัดแป๊บนึง ตามด้วยซ้อสมะเขือเทศกระป๋อง แล้วก็ไวน์
ข้างบนใครจะใส่เห็ดก็ผัดใส่ไปด้วยเลยนะคะ
พอผัดได้ที่แล้ว กะๆดูนะคะ จากนั้นก็ใส่ใบthyme แล้วก็เติมน้ำสต็อค ขยักไว้นิดนึงด้วยนะคะ เอาไว้ละลายแป้งสาลี
รูปนี้เติมแป้งสาลีแล้วค่ะ ซ้อสจะข้น เคี่ยวอีกนิดให้เดือด แล้วค่อยยกลงจากเตาค่ะ
เสริฟได้เลยค่ะ
โดย:
ปูขาเก เซมารู
วันที่: 21 กันยายน 2548 เวลา:2:54:15 น.
แม่ปูขา รูปไม่มาเลยค่ะ อยากเห็นรูปที่มัดเนื้ออ่ะค่ะว่ามัดท่าไหน
โดย: ทูกี้ IP: 65.184.211.200 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:6:32:09 น.
รูปหายหมดแล้วค่า เพิ่งมาชมเลยอดดู
โดย:
ดา ดา
วันที่: 26 มกราคม 2550 เวลา:9:58:12 น.
อดดูเหมือนกันค่ะ ตามหาวิธีทำ tenderloinแบบมัดๆแบบนี้มาตั้งนานแล้วค่า ขอบคุณนะคะ
โดย:
Cooking_For_Love
วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:18:07:25 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ปูขาเก เซมารู
Location :
Florida United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3027 คน [
?
]
สไลด์โชว์..JUST EAT IT!!!!
เชฟนิคชวนทำบานาน่าป๊อบ
My Facebook
pookhakae saemaroo
My Name is Nicky
THIS BLOG IS BEST VIEWED
AT 1280 X 1024 DISPLAY SETTING
My Home Page
Interview แม่ปูได้รับเกียรติ
ให้สัมภาษณ์นิตยสารสกุลไทย
....ขออภัยเพื่อนๆอย่างสูง แม่ปูไม่รับTagจ้า....
กล้องที่แม่ปูใช้ถ่ายภาพอาหารในบล็อก
>
New Comments
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add ปูขาเก เซมารู's blog to your web]
Links
คำที่มักเขียนผิด
วิธีเลือกซื้อเนื้อ หมู วัว แกะ
100 Best Books
How to make buttercream roses
ซื้อของออนไลน์ในอเมริกา ด้วยความช่วยเหลือของ MyUS.com
หน้ากากแก้ว
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
beef tenderloin ๓ ปอนด์ (ถ้าไม่ทานเนื้อก็เปลี่ยนเป็น pork tenderloin แทน แต่อบให้สุกมากกว่าเนื้อนะคะ)
น้ำมันมะกอก ๑/๔ ถ้วย
เกลือ
พริกไทย
เชือกผ้าฝ้ายสำหรับผูกเนื้อ
เทอร์โมมิเตอร์เอาไว้วัดว่าเนื้อข้างในสุกได้ที่รึยังแค่ไหน ไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ..
ขั้นแรกก็จัดการแล่มันแล่ผังผืดออกก่อนค่ะ ให้เหลือแต่เนื้อแดง แล้วมัดด้วยเชือกผ้าฝ้าย มัดไม่ต้องแน่นมาก การมัดนี้จะทำให้เนื้อเสมอกัน เนื้อจะเป็นก้อนกลม จะได้สุกเท่ากันทุกที่ด้วยค่ะ
พอมัดเชือกมัดเนื้อเรีบยร้อยแล้ว ก็ทาเนื้อด้วยน้ำมันมะกอก
ทาให้ทั่วเลยนะคะ หากระทะใหญ่ๆหน่อยมาใส่เนื้อ ถ้าเอาเข้าเตาอบด้วยได้ก็ยิ่งดีค่ะ จะได้ไม่ต้องย้ายไปย้ายมา
พอทาน้ำมันทั่วแล้วก็โรยด้วยเกลือ พริกไทย กะๆเอานะคะ พอดีไม่ได้ตวง แต่อ่อนเกลือไว้ก็ดีค่ะ
ถ้าจืดเดี๋ยวตอนเราทานก็สามารถเติมทีหลังได้ ถ้าเค็มนี่หมดอร่อยเลย..
จากนั้นก็เอากระทะที่เราใส่เนื้อไว้นี้ไปตั้งบนเตา เปิดเตาไฟค่อนข้างแรง
ทอดให้เนื้อด้านนอกเกรียมสักหน่อย พลิกเนื้อทอดให้เกรียมทั่วกันทั้งก้อน
พอเนื้อสีน้ำตาล (หรือเกรียม)แล้ว ถ้ากระทะบ้านใครสามารถยกเข้าเตาอบได้ก็เอาเข้าเตาอบเลย ถ้าไม่ก็จัดการเปลี่ยนถาดอบนะคะ
ลืมบอกไปว่าเปิดเตาอบ ๔๕0 ฟาเรนไฮต์ จิ้มเทอร์โมมิเตอร์เข้าไป อบประมาณ ๒0-๓0 นาที ถ้าเทอร์โมมิเตอร์ ชี้ที่เลข ๑๓0 (มีเดียม)ก็ยกออกจาเตาอบได้ค่ะ หรือใครชอบสุกกว่านั้นก็อบต่อไปจนกว่าจะพอใจค่ะ
ตอนนี้ถ้าบ้านใครมีสัญญาญไฟไหม้ ตอนนี้จะทำงานอย่างขยันขันแข็งเลยล่ะค่ะ
โหยหวนมาก ต้องรีบเปิดประตูหน้าต่าง ลมก็ไม่ค่อยพัดอีก อบเนื้อไป ใจก็ระทึก เฮ้อๆ..
พ่อบ้านบ้านนี้ชอบอุณหภูมิขนาด๑๓0 ค่ะ ก็ยกออกจากเตาอบ (โล่งอก)
พอเอาออกจากเตาก็เอากระดาษฟอยด์ห่อไว้ก่อนนะคะ
แล้วเราไปทำซ้อสกันต่อค่ะ
เครื่องปรุงซ้อส
น้ำสต็อคเนื้อ ขนาด ๑๔ ออนซ์
ไวน์แดง ๑/๔ ถ้วย
หอมหัวใหญ่ ๑ หัว
กระเทียม ๒ กลีบ
แป้งสาลี ๒ ช้อนโต๊ะ
thyme ถ้าได้สดๆจะดีมากค่ะ
เห็ด (วันนี้ใช้แบบกระป๋อง แต่พ่อบ้านไม่ค่อยชอบทานเห็ดก็เลยใส่นิดเดียว ใครไม่ชอบทานก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ)
ซ้อสมะเขือเทศกระป๋องแบบข้น ๒ ชต.
มาลงมือทำเลยนะคะ
เอาเนยใส่กระทะซัก๒ ชต. ผัดหอมหัวใหญ่ให้หอมฟุ้งเลยค่ะ
จากนั้นก็เอากระเทียมลงผัดแป๊บนึง ตามด้วยซ้อสมะเขือเทศกระป๋อง แล้วก็ไวน์
ข้างบนใครจะใส่เห็ดก็ผัดใส่ไปด้วยเลยนะคะ
พอผัดได้ที่แล้ว กะๆดูนะคะ จากนั้นก็ใส่ใบthyme แล้วก็เติมน้ำสต็อค ขยักไว้นิดนึงด้วยนะคะ เอาไว้ละลายแป้งสาลี
รูปนี้เติมแป้งสาลีแล้วค่ะ ซ้อสจะข้น เคี่ยวอีกนิดให้เดือด แล้วค่อยยกลงจากเตาค่ะ
เสริฟได้เลยค่ะ