ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 310 "ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป"
ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 310 "ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป" เพื่อนบ้านเราไม่อยู่ใกล้แล้ว โจทย์โดยคุณ กะว่าก๋า

ชีวิตเรา... บ้านเราที่นิวยอร์ก บ้านที่เราอยู่มา 42 ปี กำลังเปลี่ยนไป เริ่มเมื่อสามปีที่แล้ว หมู่บ้านแถวบ้านเราเริ่มมีคนยิว(กลุ่มใหม่ เวลาเขาไปไหนเขาก็จะอยู่กันเป็นหมู่ เรียกว่่าย้ายมาทั้งหมู่บ้านเลย) ย้ายเข้ามาอยู่ มีตัวแทนขายบ้าน แวะขับรถผ่านไปมาที่ถนนหน้าบ้าน และก็เคาะประตูบ้านถามว่าจะขายบ้านไหม พอดีวันนั้นเราอยู่ที่สนาม ก็บอกว่ายังไม่อยากขาย แต่จะมาดูบ้านไหมว่าจะตีราคา ให้เท่าไร ?
ตกลงต้วแทนขายบ้านของคนยิว เข้ามาเดินทั่วบ้าน และบอกว่าบ้านขายได้เลย ไม่ต้อง ซ่อมอะไร เวลาขายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เอาแต่ของที่ต้องการออกไป ที่เหลือเขาจัดการเอง ตอนนั้นมีคนมาซื้อบ้านแค่สองหลัง
สรุปบอกว่ายังไม่พร้อมขาย เขาบอกว่าคอยดูนะอีกไม่นาน ถนนบ้านคุณจะไม่เห็นคนแต่งต้นคริสมาสแล้ว จะมีแต่ Menorah เป็นของคนยิวที่หน้าต่าง (Menorah เป็นโคมปักเทียน 7 หรือ 9 เล่ม ) แถมยังพูดว่าคุณจะรอขายเป็นบ้านสุดท้ายก็ได้ เรายังไม่เชื่อที่เขาพูดเลย
เรายังไม่คิดจะยัายไปไหน ก็จะอยู่ไปเรื่อยๆก่อน และไม่รู้จะไปอยู่ไหนด้วย พวกเขาก็ไม่รบกวนอะไร เวลาขับรถต้องระวังมากหน่อยเพราะเด็กๆเยอะและออกมา เล่นที่ถนนหน้าบ้าน เขาสอนเด็กดีที่เดียว เด็กค่อนข้างรู้ดี เวลาเห็นรถมาก็วิ่งเข้าไปในสนาม เลิกเล่นแล้วเดินออกจากถนนที่รถขับผ่าน มีพี่คนโตหรือแม่คอยดูอยู่ไกลๆ
เราเองก็ไม่รู้จะย้ายไปตรงไหน หรือจะกลับมาเมืองไทยก็ยังไม่พร้อม หลายเรื่อง ที่สำคัญเรื่องประกันสุขภาพอยู่ที่เมกามีประกันสุขภาพเต็มที่ ถ้ากลับมาอยู่เมืองไทย ประกันสุขภาพไม่จ่ายต่างประเทศ ทำให้สว.ส่วนมากยังลังเลที่จะกลับมาอยู่เมืองไทย แต่สว.บางส่วน ที่มีโรคเรื้อรังเช่นอัลไซเมอร์ โรคป่วยติดเตียง หาคนดูแลยาก กลับมาเมืองไทยพอจะหาคนดูแลได้สะดวกกว่า และไม่เป็นภาระให้ลูกหลาน หรือคนใกล้เคียงอีกด้วย
เวลาผ่านไปประมาณสามปี บ้านที่ถนนบ้านเราก็ขายไปเรื่อยๆ คนยิวก็ย้ายเข้ามาอยู่กันเกือบ 98% แล้ว แต่ก่อนจะมีคนคอยถาม ว่่าจะขายบ้านไหม ระยะหลังๆไม่มีคนถามแล้วเขาก็คงคิดว่า อีกหน่อยเราก็ขายเองแหละ (กลัวนิดๆละ ว่าถ้าเราจะขาย จะมีคนซื้อใหม คุยกับลูก ลูกก็บอกไม่ต้องกลัวพวกเขาก็อยากให้แม่ย้าย มากเท่าๆกับที่แม่ก็อยากย้ายออกแหละ .. ดูกันไป )
บ้านแถวนี้ขายและย้ายกันไปเกือบหมดแล้ว




1
เดือนหน้านี้เพื่อนคนไทย ที่อยู่ใกล้ๆ กันขับรถไปเจอกันไม่เกิน 15 นาที่ สามครอบครัวขายบ้านและจะย้ายออก ต้นเดือนกันยายน ไปอยู่ต่างรัฐบ้าง ไปอยู่กับลูก ห่างไปจากเดิม ขับรถประมาณ ครึ่งชม. เราคงไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนก่อนแล้ว ก่อนๆเราจะเจอกันบ่อยมาก เอาของไปฝากกัน เพื่อนทำกับข้าวก็แวะมาให้ เราไปซื้อของร้านจีนก็ซื้อผัก ผลไม้มาฝาก ต่อไปนี้ เราก็คงไม่ค่อยได้เอาของฝากกันบ่อยๆเหมือนเดิมแล้ว
นี่ปีนี้ 2022 หมู่บ้านเรา ถนนรอบๆบ้าน มีคนยิว 98% เหลือบ้านเรากับ
เราเองก็ต้องเตรียมตัวขายบ้านหรือย้ายไปอยู่ที่เล็กกว่า ระยะนี้ก็มองๆหาที่จะไปเปมือนกัน ตอนแรกคิดว่าคงเดินทางไปมา ระหว่างนิวยอร์กกับเมืองไทย คงเช่าอพาทเมนต์ แต่ค่าเช่าหนี่งห้องนอนก็ไม่ถูกเลย ประมาณ $2500 - $3,000 เหรียญ เลยคิดว่าหาซื้อคอนโดหนี่งหนี่งหรือสองห้องนอน แต่ไม่อยากขี้นบันใด จะเอาแบบอยู่ชั้นล่าง ก็มีบริษัทประกาศขายบ้าน ไม่รู้เขารู้อย่างไร คงเห็นเราเข้าเสริชหาทาง Google ตอนนี้เขาส่งคอนโดและบ้านมาให้เราดูบ่อยๆแทบทุก สองสามอาทิตย์ เราเองก็ดูๆ อันไหนที่สนใจ รู้ที่อยู่ ก็ขับรถผ่านไปดู มีหลายแห่งเหมือนกัน เราชอบแบบข้างล่างนี้ แต่ก็ไม่ค่อยมีว่าง เพราะสว.อยู่กัน กว่าจะย้ายออกก็นานเลย

ชอบคอนโดแถวนี้จัง เวลาเราอยากย้าย ไม่รู้จะมีว่างไหม นอกจากเราจะซื้อรอไว้ก่อน ก็ไม่อยากทำ เพราะอนาคตไม่รู้จะเป็นอย่างไร สว.กันแล้ว ทำอะไรก็ทำแบบใกล้ตัว คงดีกว่า จะวางแผนซื้อรอไว้คงไม่เหมาะมัง เมื่อสามเดือนที่แล้วประกาศขาย ราคา $300,000 ขายได้ภายในหนี่งอาทิตย์

ตีกนี้มีสองชั้น ราคาคงแพงกว่าอันแรกมีสองห้องนอน เพื่อนบอกว่าอยู่ชั้นล่าง ไม่ค่อยดี เพราะไม่รู้คนข้างบนเป็นไง เกิดเดินทั้งคืน เราก็ไม่ต้องนอนกัน เราก็บอกสว.ก็เดินขี้นลงบันใดไม่ไหวนะซี่ แต่เดี๋ยวนี้เขามีเก้าอี้ลิฟ ขี้นชั้นสอง ก็คงต้องดูไปก่อน ถึงเวลาค่อยคิดอีกที

ชอบแบบนี้มาก เดินเข้าห้องเลย มีหนี่งห้องนอน และมีห้องใต้ดินสำหรับเก็บของและ เครื่องซํกผ้าด้วย
*****
สรุป ชีวิตของสว.รุ่นเราเจอการเปลี่ยนแปลงแทบตั้งรับไม่ทัน นอกจากจะเจอกับการเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย อายุก็มากขี้น เรื่องสุขภาพ เรื่องหาที่อยู่มีคนอยู่ด้วยไหม ก็เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงที่เยอะมาก สำหรับสว.จริงๆ
และเทคโนโลยี่ ก็มาใหม่ๆ เยอะมาก จะไปหาหมอก็ลำบาก อะไรๆก็ต้อง ใช้แบบออนไลน์ เวลาเชคอิน เขาไปก็มีไอแพด ให้เรากรอกข้อมูลสั้นๆ และเขาก็ให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ ช่วงโควิด เขาให้รอที่รถ และถึงคิวเรา จะส่งข้อความมาบอกว่า จะถึงคิวเราแล้ว เข้าไปข้างในได้ สว.ส่วนมากไม่มีสมาทโฟนกัน หรือที่มีก็ใช้ไม่เป็น และไม่ค่อยอยาก จะเรียนรู้ด้วย เรื่องเอกสารต่างๆ เขาก็ติดต่อทางอีเมล์ อีกด้วย บางคนก็ไม่มีอีเมล์อีก ต้องรอให้ลูกหลานเหรือเพื่อนทำให้ สว.รุ่นเราเจอการเปลี่ยนแปลงมากและต้องปรับตัวมากจริงๆ
Giovanni Marradi - Selection Vivi 1436
ขอขอบคุณยูทูปจาก อินเตอร์เนต Klaibann Blog newyorknurse 
Create Date : 11 กันยายน 2565 |
Last Update : 11 กันยายน 2565 3:44:01 น. |
|
13 comments
|
Counter : 613 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณหอมกร, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณทนายอ้วน, คุณปัญญา Dh, คุณnonnoiGiwGiw, คุณtoor36, คุณเริงฤดีนะ, คุณhaiku, คุณRain_sk, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณกะว่าก๋า, คุณThe Kop Civil, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณJohnV, คุณกิ่งฟ้า, คุณtanjira, คุณ**mp5** |
โดย: หอมกร วันที่: 11 กันยายน 2565 เวลา:7:06:27 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 กันยายน 2565 เวลา:17:13:07 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 กันยายน 2565 เวลา:18:08:35 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 12 กันยายน 2565 เวลา:0:31:24 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กันยายน 2565 เวลา:5:17:52 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กันยายน 2565 เวลา:5:11:26 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 13 กันยายน 2565 เวลา:7:25:37 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 13 กันยายน 2565 เวลา:7:29:24 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 13 กันยายน 2565 เวลา:7:46:28 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 13 กันยายน 2565 เวลา:8:51:59 น. |
|
|
|
|
|
|
|