ถนนสายนีมีตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 136 "เขียนบล็อกถึงแม่ให้โลกรู้"



โจทย์ตะพาบพิเศษ กิโลเมตรที่ 136
"เขียนบล็อกถึงแม่ให้โลกรู้"


จขบ.มีชีวิตกับแม่และครอบครัวแค่สิบปี นอกนั้นก็แค่ไปเยี่ยมบ้าน แม่ส่งจขบ.ไปเรียนเป็นนักเรียนประจำที่ตัวจังหวัด เพราะบ้านอยู่นอกเมืองจะไปเรียนเช้ากลับเย็นไม่ได้ เลยต้องไปอยู่กับโรงเรียนเป็นนักเรียนประจำ และไม่ได้กลับไปอยู่บ้านอีกเลย นอกจากเวลาโรงเรียนปิดเทอม

นักเรียนประจำมีที่พักในรั้วโรงเรียน เช้าไปเรียน เย็นก็กลับที่หอพักที่มีห้องเรียนพิเศษสำหรับทำการบ้าน มีแม่ชีคอยดูแลให้คำแนะนำทำการบ้าน ชีวิตนักเรียนประจำ ตอนที่ไปเรียนก็คิดว่าลำบากมาก คิดน้อยใจว่าทำไมเราต้องมาเรียนแบบนี้ด้วย ไม่ได้กลับบ้าน ต้องอยู่กับแม่ชี มีกฎระเบียบมากมาย  มาถึง
ตอนนี้ก็รู้ว่าที่เราไปเป็นนักเรียนประจำ เราได้เรียนรู้อะไรๆมากมาย ต้องขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ที่เสียสละกำลังทรัพย์ส่งจขบ.ไปเป็นนักเรียนประจำ

กิจกรรมของนักเรียนประจำจะมีเวรทำความสะอาดห้องนอน ห้องน้ำ ห้องอาหาร มีเวรจัดโต๊ะอาหาร ล้างจาน ผลัดกันไป หลังอาหารก็เล่นกันจนสองทุ่ม ก่อนขี้นห้องนอนก็ยืนเข้าแถวฟังคำอบรมจากแม่ชี (ครูใหญ่) สอนให้เราเป็นเด็กดี รับผิดชอบ ตั้งใจเรียน ให้คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ที่ส่งเรามาเรียน

นักเรียนประจำได้กลับบ้านกันตอนปิดเทอมทุกสามเดือน แต่เสาร์ - อาทิตย์ผู้ปกครองแวะมาเยี่ยมได้ แม่ของจขบ.ต้องนั่งรถประจำทางมาเยี่ยม ซึ่งลำบากพอควรต้องนั่งรถประจำทางต่อสองต่อ เวลามาเอาขนมผลไม้และอาหารที่ถูกใจมาฝาก ต้องหอบหิ้วมาหนักพอสมควร พอถึงที่จอดรถ ต้องนั่งรถสามล้อมาที่โรงเรียน ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ตอนเช้าๆ จขบ.จะคอยฟังเสียงรถสามล้อเบรคจอดที่หน้าโรงเรียน ดังเอี้ยด (ยังจำเสียงนั้นได้อย่างแม่นยำ) พอได้ยินเสียงสามล้อจอด นักเรียนที่นั่งในห้องเรียนพิเศษก็จะใจเต้นระทึกกันว่าใครมีแขกมาเยี่ยม รอให้แม่ชี
ขี้นมาเรียก สำหรับจขบ.ถ้ารอจนบ่ายโมงแล้ว ก็รู้ว่าเสียงสามล้อที่ได้ยินตอนบ่ายไม่มีทางเป็นของเราแล้ว เพราะแม่จะไม่มาตอนบ่าย ถ้ามาตอนบ่ายจะกลับบ้านไม่ทัน แต่ก็มีแบบเซอร์ไพร มาตอนเย็นเลย เวลาแม่มีพี่สาวมาด้วย ก็กลับค่ำๆได้ ยังจำได้ว่ารู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากๆเลย

จขบ.จบจากโรงเรียนนี้ ก็เข้าเรียนต่อกรุงเทพ และพยาบาล จบพยาบาลก็ทำงานไม่นานก็มาทำงานที่นิวยอร์ก ไม่มีเวลาอยู่กับพ่อ แม่และพี่น้องเลย อยู่หอพักตลอด ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณของคุณแม่เลย  ตอนนี้คุณแม่จากไปหลายสิบปีแล้ว

ระยะนั้นการแสดงความรักกับแม่เป็นแบบ ดีใจเวลาแม่มาเยี่ยม และแม่ก็ดีใจที่ได้พบเรา  ไม่มีการแสดงความรู้สีกกันด้วยการกอด เหมือนสมัยนี้ (ยังไม่ค่อยมาก)เพราะคนไทยยังไม่ค่อยนิยมเรื่องกอดกัน นิยมให้สวัสดีก่อนไปโรงเรียน กลับมาก็สวัสดี แต่ที่จริงถ้าเป็นการกอดแม่ก่อนไปโรงเรียนและกลับจากโรงเรียน จะเป็นความรู้สีกที่อบอุ่น แต่เดี๋ยวนี้บ้านเราเริ่มมีกอดกันตอนเด็กๆ เด็กพอโตๆ ก็ไม่ค่อยกอดและไม่ค่อยชอบให้พ่อแม่กอดแล้ว



ขณะนี้จขบ.อยู่ในฐานะแม่ มีลูก มีหลานที่ได้รับวัฒนธรรมตะวันตก ทุกครั้งที่เราพบกัน ลูกหลานก็จะมากอด เวลาเราจากกันลูกหลานก็มากอดลา เป็นความรู้สึกอบอุ่นและสัมผัสความรักที่ลูกมีต่อเรา มันทำให้เรามีความสุขและอิ่มเอมใจจริงๆ  ถึงเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เวลาเราพบกันเป็นครั้งคราวก็พบกันอย่างอบอุ่น  แม่อยากให้ลูกรู้ว่าแม่ไม่ต้องการอะไรจากลูกเลย รู้ว่าลูกสุขสบายดีก็ดีใจแล้ว แค่ขอให้ลูกส่งข่าวมาบ้างก็พอ ซึ่งระยะนี้การติดต่อก็แสนจะง่ายจะโทรศัพท์ ใช้ไลน์ ใช้เฟสไทม์ยังได้เห็นหน้ากันอีกด้วย

คนที่ยังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่
มีโอกาสแสดงความรักต่อท่านก็รีบทำนะคะ
อยู่ไกลก็ไม่ยากที่จะติดต่อแล้ว แค่ได้ยินเสียงหรือข่าวจากลูกพ่อแม่ก็ชื่นใจแล้ว

หนึ่งเดียวคือแม่ - ซาบซึ้งสุดประมาณ - (ฉบับปรับปรุง พร้อม คำร้อง)
Anakaric Dharma






ขอขอบคุณภาพจาก travel true life.com



ขอขอบคุณภาพจาก pirun.ku.ac.th

*********

ขอนำรายการตีสิบ มาให้ชมกันค่ะ
 เรื่องแม่ดูแล้วน้ำตาไหล ตอนท้ายแม่กล่อมลูก ความยาว 9.21 นาที




1 คำแนะนำดีๆ กับวิธีบอกรักคุณแม่ 9 แบบ

1 คำแนะนำดีๆ กับวิธีบอกรักคุณแม่ 9 แบบ


คุณแม่คุณลูกบางบ้านอาจจะแสดงความรักต่อกัน โดยการกอดกัน หอมแก้มกันเป็นประจำอย่างเปิดเผยและเคยชินแบบไม่ต้องรอให้ถึงวันสำคัญ แต่หลายบ้านอาจจะเขิน ๆ ไม่กล้าที่จะแสดงความรักระหว่างคุณแม่กับคุณลูก ถ้างั้นวันแม่ปีนี้ อย่ามัวแต่อายกันอยู่เลย มาลองดูวิธีบอกรักคุณแม่ตามไลฟ์สไตล์แม่เธอแม่ฉันกันดีกว่า

  • คุณแม่ใจบุญ :
    แสดงความรักด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศขับรถพาคุณแม่ไปไหว้พระทำบุญ แค่นี้ก็สุขใจ แถมยังอิ่มใจด้วย
  • คุณแม่นักช็อป :
    เอาใจคุณแม่สไตล์นี้ ง่ายมาก... คุณลูกลองไปสำรวจโปรโมชั่น งานอีเว้นท์ หรืองานแสดงสินค้าต่าง ๆ แล้วพาคุณแม่ไปช๊อป ร้อยทั้งร้อยคุณแม่ปลื้มชัวร์
  • คุณแม่ชวนชิม :
    พาคุณแม่ไปเปลี่ยนบรรยากาศ หาร้านอาหารทำเลใหม่ๆ แล้วพาคุณแม่ไปลิ้มลองรสชาติอาหารนอกบ้านกันบ้าง ดีไม่ดีคุณแม่จะได้ก็อปเมนูเด็ดที่ร้าน มาทำให้เราทานที่บ้านอีกต่างหาก
  • คุณแม่ขาเที่ยว :
    จัดทริปพิเศษให้คุณแม่เลือกไปเที่ยวพักผ่อน จะเที่ยวไทยครึกครื้น หรือเที่ยวนอกคึกคัก ก็แล้วแต่งบประมาณประจำบ้านกันเลย
  • คุณแม่สปอร์ตเกิร์ล :
    ไม่มีอะไรที่จะแทนการบอกรักได้ดีไปกว่าการที่คุณลูกมาร่วมออกกำลังกายด้วย ลองหาโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน จะว่ายน้ำ ออกรอบตีกอล์ฟก็แล้วแต่ความถนัด อาจแถมเดิมพันใครแพ้ต้องเลี้ยงข้าวสักมื้อก็เพิ่มสีสันดีนะ
  • คุณแม่หนอนหนังสือ :
    คุณลูกลองสรรหาหนังสือดีๆ ไม่ว่าจะเป็นนิยาย หนังสือแม่บ้าน หรือธรรมะ ตามที่คุณแม่ชอบอ่าน ก็นับว่าเป็นของขวัญชิ้นพิเศษสำหรับคุณแม่แล้ว
  • คุณแม่ขี้เมื่อย :
    เอาใจง่ายนิดเดียว แค่ปรนนิบัติคุณแม่ด้วยการบีบนวดให้ท่านรู้สึกผ่อนคลาย หรือจะพาไปร้านสปาดีๆ บรรยากาศสบายๆ นวดเสร็จก็นั่งจิบชาร้อนๆ สูดกลิ่นสปา แค่นี้คุณแม่ก็ปลื้มแล้วค่ะ
  • คุณแม่หน้าบันเทิง :
    พาคุณแม่ออกไปดูหนัง ฟังเพลงนอกบ้าน หรือตีตั๋วชมละครเวทีที่กำลังฮิต ณ รัชดาลัยเธียเตอร์ น่าจะเรียกเสียงกรี๊ดจากคุณแม่แนวนี้ได้เป็นอย่างดี
  • คุณแม่อินเทรนด์ :
    ชวนคุณแม่ไปทำสวยอินเทรนด์ จะตัดผมทรงใหม่ ทำสีผม เพ้นท์เล็บ หรือจะควงไปช็อปเสื้อผ้าเครื่องประดับ แต่งตัวเป็นฝาแฝดแม่ลูก ก็กิ๊บเก๋ไปอีกแบบ

ถึงปีหนึ่งจะมี “วันแม่” อย่างเป็นทางการแค่วันเดียว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พ้นจากวันนี้แล้วก็พ้นกัน ตรงกันข้าม วันแม่ที่จริงแล้วก็คือ ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที ก็เพราะแม่ไม่เคยหยุดรักลูกเลยแม้แต่เสี้ยวนาที แค่นั่งๆ ยืน ๆ อยู่ข้างแม่ หรือนอนหนุนตักคุยกัน แค่นี้ก็เป็นการแสดงให้แม่ได้เห็นว่าเราพร้อมที่จะเคียงข้างแม่ ทุกจังหวะชีวิต…..

Credit : CenterPoint Magazine




ขอขอบคุณภาพจาก portal.psu.ac.th


"แม่" คำพูดเล็กๆ ที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่
คงไม่มีคำจำกัดความใด ๆ สามารถบรรยายความเป็น “แม่” ได้หมดสิ้น
ความรักทั้งหมดทั้งปวงในโลกนี้รวมกันก็ไม่เท่าความรักของแม่คนหนึ่งที่มีต่อลูก
ความรักของแม่งดงามเหมือนดอกไม้ ยิ่งใหญ่ดุจศิลปะที่จรรโลงมนุษยชาติได้ด้วยสองมือกับหนึ่งหัวใจ ความรักของแม่ยิ่งใหญ่กว่าท้องฟ้าอย่างที่เคยว่าไว้ตอนเด็ก ๆ คุณเองก็รู้ดี

หากดอกมะลิจะทดแทนความหมายความรักของแม่ได้
นั่นก็เพราะดอกมะลิเป็นดอกไม้ของความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง และอ่อนโยน
แทนความหมายว่า “เธอคือผู้ที่ฉันสุดรักสุดบูชา” หรือ
“เธอคือดอกฟ้าผู้สง่างามและสูงส่ง”
และคุณก็อาจไม่เคยรู้ว่าข้างในหัวอกของผู้เป็นแม่นั้น
นอกจากบรรจุแน่นด้วยความรัก ความปรารถนาดีแล้ว
ยังมีความรู้สึกที่มีต่อลูกอีกมากมายเหลือคณานับ
ลำดับมาพอเป็นสังเขปจากเศษเสี้ยวของหัวใจแม่ได้ 8 ข้อต่อไปนี้

1. แม่อยากให้ลูกมีสุขภาพดี

ย้อนความกลับไปตั้งแต่มีชีวิตใหม่เกิดขึ้นในท้องแม่ ท่านเฝ้าดูแล
ทะนุถนอมลูกน้อยในครรภ์ แม้ท่านต้องลำบากและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
หลายอย่างในชีวิต ทั้งหมดเพียงเพื่อลูก ต่อมาวินาทีแรกที่ลูกลืมตา ถามแม่ร้อยคน
ประโยคแรกที่อยากได้ยินจากปากหมอคือ ลูกมีอวัยวะครบถ้วนทุกประการ ยามเป็นทารก
เมื่อลูกไอ แม่ก็อยากไอแทน ลูกร้องไห้ก็แสนจะทรมานไปกับลูก

2. แม่อยากให้ลูกมีการศึกษาที่ดี

การศึกษาคือรากฐานที่สำคัญที่สุดในชีวิต นับตั้งแต่เริ่มหัดอ่าน
หัดเขียน ท่านตรากตรำพร่ำสอนคุณอย่างไม่ลดละ (คุณอาจไม่รู้ว่า
การสอนเด็กเล็กคนหนึ่งให้อ่านออกเขียนได้นั้นยากเย็นเพียงใด)
แม่ร้อยคนก็ล้วนมีล้านวิธีต่างกันออกไป หากแต่มีเพียงจุดประสงค์เดียวกัน
คืออยากให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดของกำลังคนเป็นแม่จะทำได้
หากทำงานเหนื่อยหนักเพื่อมาจ่ายค่าการศึกษาของลูกได้วิธีไหน
แม่ก็จะทำทุกวิถีทาง
เพื่อลงทุนด้านการศึกษาให้ลูกซึ่งคุ้มค่ากว่าการลงทุนอะไรทั้งหมด

3. แม่อยากให้ลูกเข้าใจโลก เข้าใจตัวเอง และเข้าใจแม่ (บ้าง)

แม้โลกจะเลวร้าย หากชีวิตยืดหยุ่นได้และปรับสภาพด้วยความเข้าใจ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ก็จะมีแต่ความสงบสุข
เข้าใจสภาพแวดล้อมแล้วก็อย่าลืมหันกลับมาเข้าใจภายในของตัวเอง
และสิ่งสุดท้ายที่หัวอกคนเป็นแม่อยากบอกให้ลูกฟัง คือ เข้าใจท่านบ้าง
ที่พร่ำบ่นพร่ำสอน เพียงเพราะคำว่ารักคำเดียว บริสุทธิ์ไร้สารพิษ
ไม่มีสิ่งใดเจือปน

4. แม่อยากให้ลูกประหยัดและพอเพียง

ความพอดีจะทำให้ลูกของแม่ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ทะเยอทะยาน
ไม่โหยหาได้มาเพียงวัตถุ แล้วจิตใจต้องตกเป็นทาสของเงินตรา
เชื่อเถิดว่าแม่ของคุณ อยากให้คุณพอมีพอกิน สมตัว สมฐานะ
เพียงไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ท่านอยากให้คุณ ร่ำรวยความสุขแทนตัวเลข
เรียนรู้ที่จะประหยัด สมถะ และพอเพียงอย่างสร้างสรรค์

5. แม่อยากให้ลูกมีระเบียบและใช้ชีวิตให้เป็น

ลูก ๆ ทั้งหลายคงเคยถูกแม่จ้ำจี้จ้ำไชในความไร้ระเบียบ
ท่านไม่ได้แค่เหนื่อยที่ต้องตามเก็บกวาดสมบัติประดามีของคุณ (เพราะการสอน
เหนื่อยกว่าทำเองมาก) แต่แม่มองการณ์ไกลไปกว่านั้น หากวันใดไม่มีแม่อยู่
เพราะแรงโน้มถ่วงของโลกนำพาไป
วันนั้นเองที่คุณจะต้องจัดการอะไรในชีวิตด้วยตัวเอง
หากเริ่มต้นตอนนั้นคงสายเกินไปและยากเกินแกงที่จะเริ่มต้น
แม่สอนให้คุณรู้จักแบ่งเวลาในชีวิต หน้าที่ส่วนตัว หน้าที่ส่วนรวมให้แยกแยะ
ไม่ขาดตกบกพร่อง ขณะที่ต้องไม่ลืมทำตามหัวใจ
และสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกมีความสุขในชีวิตได้

6. แม่รักลูกมากพอที่จะปล่อยให้ลูกมีอิสระและตัดสินใจด้วยตัวเอง

แม่หวง แม่ห่วง เพราะแม่รัก
เมื่อคุณยังเด็กและไม่มีวุฒิภาวะมากพอที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
อย่านึกตะขวงใจที่แม่ไม่ยอมปล่อยให้คุณทำอะไรด้วยตัวเอง
เพราะสักวันหนึ่งก็จะถึงเวลาของคุณ ในทางกลับกัน
หากแม่ของคุณสอนให้คุณรู้จักช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก
นั่นก็เพราะท่านอยากให้คุณรู้จักการใช้ชีวิต คิดตัดสินใจด้วยตัวเอง
ท่านมอบยานพาหนะคันงามที่ชื่อว่าอิสระให้คุณแล้ว หมายความว่า
คุณจะต้องบังคับทิศทางไว้ในที่ที่ควรอยู่ โดยจะมีแม่คอยมองคุณอยู่ข้างหลัง

7. แม่อยากให้ลูกเชื่อฟังคำ แม่สอน

ไม่มีแม่ในโลกคนไหนหวังร้ายกับลูก
บางเวลาคำพูดของแม่ออกมาอย่างมีอารมณ์แต่ไม่เคลือบแฝง เพียงเชื่อคำแม่สอน
ชีวิตคุณก็จะเป็น-อยู่-คือ อย่างที่ควรจะเป็น
และคำแม่สอนจะติดตัวเป็นสมบัติล้ำค่าไปตลอดชีวิต หาซื้อไม่ได้
เวลาก็ย้อนคืนมาไม่ได้ เช่นกัน ทว่าสามารถเก็บไว้ได้เป็นคอลเลกชั่นในใจได้

8. แม่อยากให้ลูกกตัญญู รู้คุณคน

ไม่เพียงรู้บุญคุณของน้ำนมแม่
หากแต่ความกตัญญูกตเวทีจะนำพาให้ชีวิตคุณอยู่รอดปลอดภัย ตกน้ำไม่ไหล
ตกไฟไม่ไหม้ ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่ตกอับ
หากเราซื่อสัตย์และจริงใจต่อใครก็ตามที่ดีกับเรา และถึงแม้เขาจะไม่ดีด้วย
ก็ให้เอาชนะใจคนด้วยความดี

ไม่ว่าลูกของแม่จะเป็นอะไร
เป็นใครที่เลวร้ายหรือน่ารังเกียจสำหรับคนอื่นมากแค่ไหน แต่สำหรับแม่แล้ว
คุณคือแก้วตาดวงใจของท่านเสมอ นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดจนวันสุดท้าย
article.zubzip.com/?1736


ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก
//www.kroobannok.com/blog/24716





กอดกันเถอะเรา ยาวิเศษ บำบัดโรคทั้งกายและใจ

กอดกันเถอะเรา
กอดกันเถอะเรา ยาวิเศษ บำบัดโรคทั้งกายและใจ


    การกอด เป็นวิธีการแสดงความรักที่ง่ายที่สุด โดยที่เราไม่ต้องลงทุนอะไรเลย อีกทั้งยังเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกในใจของเราให้ฝ่ายตรงข้ามรั­­­­­­บรู้ได้อย่างชัดเจนที่สุดอีกด้วย

         สัมผัสแห่งรักที่ทำให้เราอารมณ์ดีได้ทั้งวัน นอกเหนือจากการจับมือ เจอหน้า และพูดคุยทักทายกับคนที่เรารักแล้ว การกอดก็ถือเป็นอีกหนึ่งสัมผัสที่ทำให้เรารู้สึกแฮปปี้ไปตลอดทั­­­­้งวันได้เช่นกัน ซึ่งความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดจากการกอดกันวันละนิดนี่แหละค่ะที่จะช่วยเสริมสร้างความ­­­­­­แข็งแรงให้กับสุขภาพกายของเรา หากใครเริ่มอยากรู้แล้วว่า การกอดนั้นเป็นยาวิเศษสำหรับสุขภาพเราอย่างไรบ้าง ต้องลองอ่านดูค่ะ

กอดกันเถอะเรา

รู้หรือไม่ว่า การกอดคนที่เรารักเพียงวันละครั้งก็ทำให้เราห่างไกลจากอาการเจ็­­­­บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้แล้ว ดังนี้

สุขภาพดีจากภายใน สู่ภายนอก

         การกอดช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ ได้ เพราะในการกอดแต่ครั้งนั้น ร่างกายจะเกิดกระบวนการต่าง ๆ เช่น หัวใจเต้นรัวขึ้น เลือดลมสูบฉีด รู้สึกอารมณ์ดี หัวสมองนึกถึงแต่เรื่องดี ๆ ดังนั้น หากเรากอดคนรักบ่อย ๆ สุขภาพจิตของเราย่อมดีทุกวัน แบบนี้ก็ไม่มีทางเจ็บป่วยง่ายอยู่แล้ว เพราะสุขภาพแข็งแรงมาจากข้างใน

ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคมากขึ้น

         การกอดสามารถเพิ่มคุ้มกันโรคให้เราได้นะคะ เพราะการกอดช่วยกระตุ้นจักระต่อมที่ 3 หรือ Solar Plexus ที่อยู่ตรงบริเวณตำแหน่งลิ้นปี่ ให้กระตุ้นการไหลเวียนน้ำเหลือง เพื่อใช้ในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว หากร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดขาวเพียงพอ ร่างกายก็จะมีภูมิคุ้มกันโรคเป็นปกติ

คลายอาการปวดต่าง ๆ

         ในขณะที่เรากอดใครสักคนนั้น ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซินออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขที่จะช่วยให้เราคลายความตึงเครียดขอ­­­­งกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนเลือดในมวลกล้ามเนื้อส่งผลให้อาการปวดต่าง ๆ บรรเทาลงนั่นเอง

ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ

         ฮอร์โมนออกซิโตซิน ช่วยลดความเครียดและความกังวล ลดระดับความดันโลหิต ทำให้หัวใจไม่ทำงานหนักจากการเร่งสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงหัวใ­จ เราจึงมีความเสี่ยงต่ำในการเป็นโรคหัวใจ จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา แชเปิลฮิลล์ เผยว่า ปกติแล้วอัตราการเต้นของหัวใจคนเรา โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60-80 ครั้งต่อนาที แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้กอดใคร หรือไม่ค่อยถูกกอดนั้นจะมีอัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้นประมาณ 10 ครั้งต่อนาที ในขณะที่คนถูกกอดจะมีอัตราจะเร็วขึ้นแค่ประมาณ 5 ครั้งต่อนาที ซึ่งการที่หัวใจเต้นเร็วกว่านั้นแสดงให้เห็นว่าหัวใจทำงานหนักข­ึ้น เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจได้มากกว่าคนที่ได้รับการกอดเป็นประจำ

ทำให้มีพลังกายเพิ่มขึ้น

         เวลาที่เรากอดใครสักคนแล้ว เราจะรู้สึกฮึกเหิมมากขึ้น มีพลังมากขึ้น เพราะในขณะที่เรากอดนั้น กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายจะทำงานสัมพันธ์กับระบบประสาทพาราซิมพาเธทิค (Parasympathetic) หรือประสาทสัมผัสแบบอัตโนมัติ ที่จะทำการปรับสมดุลประสาทการรับรู้ของเรา กระตุ้นให้ร่างกายเรามีเรี่ยวแรง แอคทีฟมากขึ้น

กอดกันเถอะเรา

11 พลังมหัศจรรย์ของการกอดที่ส่งผลต่อจิตใจ

         การกอดไม่ได้ให้ผลดีต่อสุขภาพกายอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีพลังมหัศจรรย์บางอย่างที่ซ่อนประโยชน์ 11 ข้อเอาไว้ด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพใจทั้งนั้น ดังนี้

ทำให้รู้สึกปลอดภัย

         เวลาที่เรารู้สึกตกอยู่ในอันตราย หรืออยู่ในสถานะที่ไม่ปลอดภัย หากมีใครสักคนกอดเราเอาไว้ เราย่อมรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยมากขึ้น หรือแม้แต่การอุ้มเด็กทารกตัวเล็ก ๆ ในขณะที่กำลังร้องไห้ หากเราเข้าไปอุ้มเขามากอดก็จะทำให้เขาหยุดร้องไห้ได้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะการกอดทำให้เรารู้สึกว่ามีคนคอยปกป้อง คุ้มครองเราอยู่ ทำให้ความรู้สึกเครียดและความวิตกกังวลในสถานการณ์นั้น ๆ น้อยลง

คิดบวกมากขึ้น

         การกอดสามารถเปลี่ยนความคิดของเราจากติดลบให้กลายเป็นบวกได้ สาเหตุเพราะในขณะที่เรากำลังกอดใครสักคนนั้น ร่างกายเกิดการกระตุ้นสร้างฮอร์โมนออกซิโตซินออกมา ทำให้เรารู้สีกมีความสุข รู้สึกเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น และรู้สึกไม่โดดเดี่ยว ซึ่งความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นล้วนส่งผลให้เราคิดถึงแต่เรื่องดี ๆ ที่จะนำมาซึ่งการคิดบวก

ทำให้รู้สึกแฮปปี้แบบสุด ๆ

         เคยสังเกตกันบ้างไหมว่า เวลากอดคนที่เรารักนั้น ทำไมเรารู้สึกมีความสุขจังเลย สาเหตุก็เป็นเพราะว่าการกอดช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารโดปามีน (Dopamine) หรือสารแห่งความสุขออกมามากขึ้น รวมถึงสารแห่งความสุขตัวอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เช่น เอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) และเซโรโทนิน (Serotonin) ที่ส่งผลต่อจิตใจของเรา ให้เรารู้สึกมีความสุข พึงพอใจ รู้สึกยินดี จนลืมความทุกข์ไปเลยเชียวล่ะ

กอดกันเถอะเรา

ช่วยให้ความสัมพันธ์คืบหน้าขึ้น

         การกอดถือเป็นการกระชับมิตร ทำให้ความสัมพันธ์คืบหน้าได้อีกวิธีหนึ่งโดยที่ไม่ต้องใช้คำพูด­­­­ใด ๆ เลย อีกทั้งยังสามารถสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของเราในขณะนั้นได้อย่า­­­­งชัดเจนที่สุด จากผลการวิจัยหนึ่ง เผยว่า การกอดคนใกล้ตัววันละ 10 นาทีทุกวัน จะช่วยให้เกิดความรู้สึกดี ๆ ในตัวกันและกันมากขึ้น ที่จะมีผลให้ความสัมพันธ์เดินหน้าอย่างมั่นคงมากขึ้น

เป็นเหมือนซิกแนลแทนใจ สำหรับกิจกรรมรัก

         การกอดเป็นการกระตุ้นให้สารสื่อประสาทโดพามีน (Dopamine) หลั่งออกมาเราจึงรู้สึกเกิดความต้องการทางเพศ ที่เมื่อเรากอดใครสักคนนาน ๆ แล้ว อาจเกิดความรู้สึกอยากทำกิจกรรมดี ๆ บางอย่างตามมาได้แน่นอน ซึ่งนับว่าเหมาะมากสำหรับสาว ๆ ที่เขินอายไม่กล้าบอกคู่รักตรง ๆ ดังนั้น ลองหันมาใช้วิธีส่งซิกแนลด้วยการกอดดูนะคะ

ช่วยสร้างความไว้วางใจ

         การกอดสามารถสร้างความสบายใจให้กับอีกฝ่ายหนึ่งได้ เหมือนดังเช่นในเวลาที่คุณแม่ให้นมลูกน้อยในท่าอุ้มกอดนั้น ลูกน้อยจะดูดนมโดยไม่งอแงเลย สาเหตุก็เป็นเพราะสารเคมีแห่งความผูกพันที่เรียกว่า ออกซิโตซิน ทำให้ลูกน้อยรับรู้ถึงความอบอุ่น ปลอดภัย และความไว้วางใจ

ช่วยลดความประหม่า กังวล

         เวลาที่เราต้องไปร่วมงานสำคัญที่มีคนมากหน้าหลายตาที่เราไม่รู้­­­­จัก อาจทำให้เกิดอาการประหม่าได้ วิธีที่ช่วยลดอาการประหม่าได้ดีที่สุดก็คือ การกอด เพราะในขณะที่กอดนั้น ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซินออกมา ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น จิตใจสงบมากขึ้น สามารถจัดลำดับความคิดของตัวเองได้ดีขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เรามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วย

ช่วยผ่อนคลายความเครียด

         เมื่อไรที่เราเครียด ลองเดินเข้าไปกอดใครสักคน ไม่ว่าจะเป็น คนรัก คนในครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่กอดสัตว์เลี้ยงตัวโปรดที่บ้านก็ได้ ก็จะช่วยให้ความรู้สึกของเราผ่อนคลายมากขึ้น เพราะการกอดเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซินออก­­­­มา เราจึงรู้สึกผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่งมากขึ้น

บรรเทาความรู้สึกหวาดกลัว

         การกอดช่วยบรรเทาความรู้สึกหวาดกลัวได้ ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้กำลังตกอยู่ในอันตรายเพียงลำพัง จากผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Psychological Science เผยว่า ในขณะที่เรากำลังรู้สึกกลัวนั้น หากเราอยู่กับสิ่งที่จับต้องได้ จะทำให้ความกลัวในใจลดลง เห็นได้จากการที่เด็ก ๆ กอดตุ๊กตาหรือคนใกล้ตัวแน่นขึ้นเมื่อรู้สึกกำลังกลัวอะไรสักอย่­­­­าง หรือแม้แต่เวลาที่เรารู้สึกได้ว่ารอบตัวมีบางอย่างผิดปกติ หากได้จับมือ หรือ กอดคนที่อยู่ใกล้ตัวนั้นจะทำให้เรารู้สึกกลัวน้อยลงกว่าเดิม

กอดกันเถอะเรา

คลายความรู้สึกเหงา อ้างว้าง โดดเดี่ยว

         จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตตในสหรัฐอเมริกา เผยว่า การกอดสามารถบรรเทาความรู้สึกเหงา อ้างว้าง และโดดเดี่ยวได้ เห็นได้จากการกอดผู้สูงอายุ เด็ก หรือแม้แต่ผู้ป่วย ซึ่งการกอดมีผลต่อจิตใจที่จะช่วยให้ผู้ที่ถูกกอดนั้นรู้สึกว่าต­­­­ัวเองไม่ได้ถูกทอดทิ้ง รู้สึกตัวเองเป็นที่ยอมรับมากขึ้น รู้สึกตัวเองมีคุณค่ามากขึ้น

ให้กำลังใจ

         การกอดเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มกำลังใจในการใช้ชีวิต ซึ่งถือว่าจำเป็นอย่างยิ่งในการดำรงชีวิต โดยคนที่ขาดการกอด หรือการสัมผัสนั้นมีแนวโน้มจะเกิดความรู้สึกผิดหวัง หดหู่กับชีวิตง่ายกว่าคนที่ถูกกอดหรือสัมผัสบ่อย ๆ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคร้ายชนิดรุนแรง เช่น มะเร็ง เอดส์ หากได้รับการกอด หรือสัมผัสที่ดี ๆ ก็จะสามารถประคองภาวะอารมณ์ ลดความรู้สึกในทางลบของผู้ป่วย ถือเป็นการให้กำลังใจผู้ป่วย ไม่ให้ท้อแท้ต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ไม่ให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นที่น่ารังเกียจของสังคม

      อย่างไรก็ดี วันกอดแห่งชาติ หรือ National Hug Day ซึ่งตรงกับวันที่ 21 มกราคมของทุกปี แม้จะผ่านมาแล้วก็ตาม แต่เราก็ควรทำให้ทุก ๆ วันเป็นวันแห่งการกอด เพราะการกอดคือยาวิเศษที่มีแต่จะทำให้สุขภาพของเราแข็งแรงในทุก­­­­ ๆ วัน ทั้งสุขภาพกายและใจเลยค่ะ ใครไม่เชื่อ เราขอแนะนำให้ลองหันไปกอดที่รักดูนะคะ แล้วจะพบว่าการกอดดีต่อสุขภาพจริง ๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
//health.kapook.com/view112090.html


ขอขอบคุณภาพ, ข้อมูล และยูทูปจากอินเตอร์เนต


newyorknurse





Create Date : 08 สิงหาคม 2558
Last Update : 12 สิงหาคม 2558 5:05:17 น. 26 comments
Counter : 2462 Pageviews.

 
newyorknurse Diarist ดู Blog

ทำไมนู๋อ่านแล้วน้ำตาไหล คิดถึงพระคุณแม่มากๆเลยคะ


โดย: au_jean วันที่: 12 สิงหาคม 2558 เวลา:8:35:38 น.  

 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ณ ปลายฉัตร Literature Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog

คุณน้อย ต้องมีชีวิตห่างแม่... แต่แม่ก็ห่วงใยอุตส่าห์
นั่งรถไปหา เพราะความห่วงใย แต่ท่านก็สบายไปแล้ว
ครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 12 สิงหาคม 2558 เวลา:13:20:00 น.  

 
อ่านแล้ว ทำให้คิดถึงโรงเรียนกิน-นอน ลูกหลานบางคนในครอบครัวของพ่อค้าใหญ่ที่ดำเนินฯ ส่งไปเรียนประจำที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง มีชื่อเสียงมากด้านการสอนภาษาอังกฤษ อยู่ที่ อ.บ้านโป่ง ราชบุรี

newyorknurse Klaibann Blog


โดย: Insignia_Museum วันที่: 12 สิงหาคม 2558 เวลา:14:12:17 น.  

 




พี่น้อย บรรยายเก่ง .. ค่ะ

เห็นภาพนักเรียนประจำ สาวน้อย น่ารัก ..

นั่งรอฟังเสียงรถสามล้อ ..





บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
PZOBRIAN Book Blog ดู Blog
Raizin Heart Literature Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น






โดย: foreverlovemom วันที่: 12 สิงหาคม 2558 เวลา:19:18:51 น.  

 
สุขสันต์วันแม่ค่ะพี่น้อย
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
Tui Laksi Travel Blog ดู Blog
ชมพร About Weblog ดู Blog
anigia Parenting Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 12 สิงหาคม 2558 เวลา:20:34:16 น.  

 
ถ้าต้องไปอยู่โรงเรียนประจำคงจะลำบากไม่น้อยเลย

แม่ผมไม่เข้าเกณฑ์ไลฟ์สไตล์แต่ละอันที่เขียนถึงเลย คือเค้าทำทุกอันแต่ไม่สุดๆ ไปในทางใดทางหนึ่ง ทุกวันนี้ผมใช้วิธีมีเวลาให้ท่านเสมอ ถ้าเรียกใช้ ไม่ว่าเราจะติดอะไรจะทำให้แทบจะทันที หรืออย่างช้าก็รอรอไม่เกิน 1 นาที

ตอนนี้ว่าจะพาไปหาของอร่อยๆ กินอยู่เดี่ยวต้องดูหน่อยว่าจะพาไปที่ไหนดี


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 สิงหาคม 2558 เวลา:0:23:10 น.  

 
สุขสันต์วันแม่ย้อนหลังค่ะพี่น้อย ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ
คิดถึงค่ะ

newyorknurse Klaibann Blog


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 13 สิงหาคม 2558 เวลา:5:02:46 น.  

 
อ่านแล้วซึงค่ะ คิดถึงแม่ด้วย
สุขสันต์วันแม่ย้อนหลังนะคะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: mambymam วันที่: 13 สิงหาคม 2558 เวลา:6:34:45 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่น้อย



พี่น้อยให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณแม่ไว้เยอะเลย
มาดามผมคงเป็นคุณแม่นักช็อปแน่นอนครับ 5555






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 สิงหาคม 2558 เวลา:7:23:14 น.  

 
แวะมาให้กำลังใจค่ะ ดอกมะลิสวยมากเลย เรื่องราวอ่านแล้วบางช่วงได้ความรู้ บางช่วงรู้สึกอบอุ่นค่ะ...


โดย: SUNWINDY วันที่: 13 สิงหาคม 2558 เวลา:13:04:10 น.  

 
มาอ่านเรื่องแม่ ค่ะ พี่น้อย สุดยอดเลยค่ะ เพลงก็ไพเราะมากด้วยค่ะ

โหวตให้พี่น้อยทันทีค่ะ


newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog



โดย: พรหมญาณี วันที่: 13 สิงหาคม 2558 เวลา:15:56:33 น.  

 
มาอ่านงานตะพาบยามค่ำค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 13 สิงหาคม 2558 เวลา:19:45:48 น.  

 
ตอนอยู่โรงเรียนประจำ คิดถึงแม่ที่สุดเลย
เรียนตั้งแต่ ป.1 จนจบม.ศ.3 ไม่เคยห่างแม่เลยค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 13 สิงหาคม 2558 เวลา:21:19:10 น.  

 
อ่านแล้วทราบซึ้งใจเกี่ยวกับคำว่าแม่จริงๆค่ะ
เมื่อวานน้ำตาซึมไปหลายรอบเลย
อ่านวลีเด็ดๆหลายครั้งชื่นใจจริงๆ


^^


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Travel Blog ดู Blog
ALDI Food Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog






โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 13 สิงหาคม 2558 เวลา:22:50:54 น.  

 
"แม่ไม่ต้องการอะไรจากลูกเลย
รู้ว่าลูกสุขสบายดีก็ดีใจแล้ว แค่ขอให้ลูกส่งข่าวมาบ้างก็พอ"
ซาบซึ้งกับประโยคข้างต้นค่ะพี่น้อย
ขอบคุณพี่น้อยสำหรับคลิปฯและบทความดีๆนะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog

---------------------------



โดย: Sweet_pills วันที่: 13 สิงหาคม 2558 เวลา:23:31:57 น.  

 
คิดถึงแม่จังเลยค่ะ
สุขสันต์วันแม่ย้อนหลังนะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog


โดย: ALDI วันที่: 14 สิงหาคม 2558 เวลา:2:13:47 น.  

 
ไม่ได้กอดซีก่อนไป รร. เลยค่ะ กอดแต่ตอนเย็นที่ได้เจอกัน เดี๋ยวต้องกอดบ้างแล้วค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 14 สิงหาคม 2558 เวลา:8:38:54 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
haiku Art Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

แม่หวังดีกับเราเสมอค่ะพี่น้อย
กอดเล็ก ๆ จากแม่ สร้างกำลังใจให้เรามากมายค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 14 สิงหาคม 2558 เวลา:13:34:36 น.  

 
สุขสันต์วันแม่ย้อนหลังครับ

คุณแม่ท่านรักเราในแบบตัวท่านจริงๆครับ อ่านแล้วคิดถึงแม่เลย


โดย: ปีศาจความฝัน วันที่: 14 สิงหาคม 2558 เวลา:14:31:17 น.  

 
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 14 สิงหาคม 2558 เวลา:19:29:23 น.  

 
สวัสดีครับพี่น้อย

คนที่ยังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่
มีโอกาสแสดงความรักต่อท่านก็รีบทำนะคะ
อยู่ไกลก็ไม่ยากที่จะติดต่อแล้ว แค่ได้ยินเสียงหรือข่าวจากลูกพ่อแม่ก็ชื่นใจแล้ว


แม้แม่จะจากไปได้เกือบครึ่งปีแล้ว แต่ทุกครั้งที่ระลึกถึงท่านก็ยังรู้สึกว่าท่านยังอยู่ใกล้ ๆเสมอครับ เวลาได้ยินเพลงเกี่ยวกับแม่ทีไร น้ำตาก็จะเอ่อมาทุกที


โดย: find me pr วันที่: 15 สิงหาคม 2558 เวลา:19:28:53 น.  

 
ขอบคุณพี่น้อยมากที่แวะไปสุขสันต์วันแม่และโหวตให้นะคะ

บล็อกนี้นอกจากได้อ่านเรื่องราวน่าประทับใจระหว่างแม่ลูกแล้ว
ยังได้ข้อมูลดี ๆ สำหรับทั้งคุณแม่และคุณลูกด้วย
โหวตให้เลยค่า


โดย: haiku วันที่: 15 สิงหาคม 2558 เวลา:21:46:18 น.  

 
มาอ่านตะพาบค่ะ เคยนึกอยากให้อดีตกลับมาได้อีกไหมคะ มี่ล่ะนึกวันล่ะ10รอบ ตอนที่แม่ตายใหม่ๆค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
newyorknurse Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ญามี่ วันที่: 16 สิงหาคม 2558 เวลา:7:37:31 น.  

 
กราบพี่น้อยย้อนหลังในวันแม่ด้วยค่ะ

newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog




โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 สิงหาคม 2558 เวลา:9:30:51 น.  

 
สุขสันต์วันแม่ย้อนหลังค่ะคุณน้อย


เขียนบรรยายได้ดี เห็นภาพเลยค่ะ



newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 16 สิงหาคม 2558 เวลา:12:25:33 น.  

 





สวัสดีค่ะ พี่น้อย ..

คิดถึง นะคะ ..





โดย: foreverlovemom วันที่: 16 สิงหาคม 2558 เวลา:12:31:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]






เริ่มเขียนBlog
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553

ยินดีต้อนรับค่ะ

จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ
ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า
รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย
สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness
เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ
จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย

จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ
เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป

จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้
ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ
ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน
และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ
ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ

"A time to enjoy,
a time to spend time with your family
and a time to be with your friends
all comes with retirement"


*****


"Live The Moment"

อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น
ในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้"
คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า
น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา
และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ
หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ


*********


ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด
ทุกๆคะแนน นะคะ

BG Popular Award # 19


BG Popular Award # 18


BG Popular Award # 17


BG Popular Award # 16


BG Popular Award # 15


BG Popular Award # 14


BG Popular Award # 13


BG Popular Award # 12


BG Popular Award # 11


BG Popular Award # 10


BG Popular Award # 9


BG Popular Award # 8

**********



ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ


ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
Flag Counter
New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
8 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add newyorknurse's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.