อาหารมื้อเย็น เป็นอาหารหนักสำหรับคนส่วนมาก รวมทั้งจขบ.ด้วย
เพราะเช้าก็เตรียมไปทำงาน ไม่มีเวลาทานอาหาร ตอนเที่ยงสั่งอาหารทาน
มื้อเย็นกลับบ้าน ก็จัดหนัก ทานซะอิ่มเลย
คนวัยทำงานสมัยนี้ก็เช่นกัน เริ่มตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เพราะตอนเด็กๆ
คุณแม่ หรือ คุณพ่อก็ดูแลอาหารเช้าก่อนไปโรงเรียน จัดอาหารใส่กล่องให้
ไปทานโรงเรียน อาหารเย็นก็จัดให้เต็มที่
พอเรียนมหาวิทยาลัยก็เริ่มสบาย เรียนวันละไม่กี่วิชา ส่วนมากก็สายๆบ่ายๆ
เช้าก็ไม่ทานข้าว กลางว้นก็ทานรีบๆไปเรียน ตอนเย็นมีเพื่อนก็ทานกันเต็มที่
และอาหารไม่ค่อยมีคุณประโยชน์ แถมบางที่ก็ดื่มเบียร์ ดื่มเหล้ากัน เช้าไปเรียน
ไม่ไหว เสียการเรียน เสียอนาคตกันก็มี
พอจบทำงาน มีครอบครัว มีลูก ก็สนใจกับลูก เช้าก็รีบๆ อาหารเช้าไม่ทาน
ไปทานที่ทำงาน ก็สั่งอาหารบ้าง ทานอาหารที่ไม่มีคุณประโยชน์ บางอย่าง
ทำให้เสียสุขภาพด้วยซ้ำ เย็นก็ทำอาหารบ้าง ซื้ออาหารเป็นส่วนใหญ่เพราะ
ไม่มีเวลาทำ อาหารที่ซื้อก็ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ เพราะไม่เหมือนทำเอง
คนวัยสี่สิบ ลูกๆเริ่มสิบกว่าขวบ เริ่มมีอาการป๋วย แสดงออกมา ความดัน
เบาหวาน โรคหัวใจ โรคอื่นๆ มากมาย เพราะทานอาหารและพักผ่อนไม่พอ
ไม่เคยรักษาสุขภาพตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย จนมาทำงานและดูแลครอบครัว
ก็ต้องรักษาสุขภาพกันตอนระยะนี้ โชคดี เชื่อฟังหมอ ปฎิบัติตามหมอสั่งได้
ก็จะดีขี้น หรือหายจากโรค แต่ถ้าทำไม่ได้ก็มีปัญหาเรื้อรังอาจถึงชีวิตได้เช่นกัน
จขบ.(เจ้าของบล็อก) ก็เช่นกัน แต่ที่ดีไม่ค่อยเป็นโรคเพราะเป็นคนทานง่าย
แต่ทานยากอ่านแล้วเข้าใจยากนะคะ เพื่อนๆก็บอกเข้าใจยาก
คือทานง่ายๆ ของแปลกๆไม่ทานไมทานเนื้อ กลายเป็นดีไป ที่ไม่ทาน
เนื้อเพราะตอนเด็กๆ10-18 เป็นนักเรียนประจำแม่ชีชอบทำอาหาร
ประเภทเนื้อ ไม่ชอบเลย และพยายามแอบให้เพื่อนทานตลอดพอโต
ก็เลยไม่ทานเนื้อ ทานหมู ไก่ ไข่ ปลา กุ้ง แต่ปลาตัวโตเกินก็ไม่ทานอีก
และทานแบบที่ทำง่ายๆ เผ็ดก็ทานไม่ได้ เลยกลายเป็นว่าทานง่ายแต่ยาก
สุขภาพตอนอายุ 50 ปีก็มีปัญหาบ้าง แต่ก็พอรักษาไปได้ ไม่หน้กหนา
ไม่มีโรคความดัน เบาหวาน หัวใจ สมอง ที่ต้องกังวล แต่ก็ไม่แน่ว่า
จะมาเมื่อไรเหมือนกัน
พอเกษียณ เริ่มมีเวลาบ้าง ไม่ต้องดูแลลูกหลาน วันๆก็ว่าง เลยไปออกกำลังกาย
วันละสามชั่วโมง ไปเข้าห้องที่มีคนสอน Yoga, Zumba , Pilates , Aqua
Body combat วันหนี่งๆก็จะมีสอนสลับกันไป จากนั้นก็เข้าห้องStream , Spa และ
Jacuzzi, และว่ายน้ำ กลับบ้านบ่ายหนี่งหรือสองโมง หาอะไรทานเป็นมื้อเย็นเลย
แล้วก็อ่านบล็อก โหวด เขียนบล็อกบ้าง ดูละคร ไปเที่ยวเป็นครั้งคราว
อาหารส่วนมากเป็นไข่ต้ม กับผักลวกกับ น้ำพริก ผัดกะเพา
ผัดขิง แต่ไม่ทานโปรตีนมาก จนชินแล้ว แต่ก็ไปทานนอกบ้าง
กับเพื่อนๆบ้างเป็นครั้งคราว
ระยะสามปีที่ผ่านมาก็เปลี่ยนทานอาหารง่ายๆ และทานมื้อเย็นราวๆ
บ่ายสอง สามโมงเย็น อาหารเย็นไม่ทานเลย ถ้าหิวก็จะทานผลไม้
จนชินไม่หิวแล้วได้ผลดี ต้นปีตอนกลับมาจากเมืองไทยนน. 134 ปอนต์
ตอนนีนน.เหลือ 124 ปอนด์ ลดไป 10 ปอนด์ มาหลายเดือนแล้ว
อยากให้คงที่แค่นี้ก็ดีใจแล้ว

(เครดิตภาพจากอินเตอร์เนต)
นำเมนูอาหารลดน้ำหนักมาให้ชมกันค่ะ
ใครที่กำลังมองหาเมนู ลดน้ำหนัก แบบง่ายๆ แต่ไม่ชอบกินสลัดเอาซะเลย ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะแค่เมนูไทยๆ ของบ้านเราก็ช่วยให้ผอมได้เช่นกัน! เพราะอาหารไทยมีทั้งใยอาหาร ที่ช่วยให้อิ่มทน อิ่มนาน มีความเผ็ด ที่ช่วยในการเผาผลาญ กระตุ้นความร้อนในร่างกาย มีผักเยอะ ไม่ต้องกลัวขาดวิตามินและสารอาหารอื่น และที่สำคัญ ไขมันต่ำ ใครที่กำลังไดเอ็ตห้ามพลาดเมนูเด็ดเหล่านี้เลยล่ะค่า
1. ยำวุ้นเส้น

วุ้นเส้น เป็นเมนูลดความอ้วน เมนูแรกๆ ที่หลายคนมักนึกถึงค่ะ โดยเฉพาะยำวุ้นเส้น ซึ่งยำวุ้นเส้นเป็นเมนูแคลอรีต่ำ ที่ให้พลังงานเพียง 120 แคลอรีเท่านั้นค่ะ ใครที่กำลังลดความอ้วนอยู่ เลือกเมนูนี้เป็นเมนูอาหารเย็นก็ดีไม่น้อยค่า
2. น้ำพริกกับผักต้ม

เมนูไท๊ยไทยอย่างน้ำพริกนี่ล่ะค่ะ บอกเลยว่า ลดความอ้วนได้ดีเชียวล่ะ! จะเป็นน้ำพริกปลาร้า หรือน้ำพริกกะปิ ก็แซ่บได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วน แต่แนะนำว่า น้ำพริกอย่าปรุงเค็มจนเกินไปค่ะ เพราะอาจจะทำให้บวมน้ำได้ และควรลดข้าว เปลี่ยนเป็นกินคู่กับผักต้มจะผอมกว่านะคะ
3. ขนมจีนน้ำยาป่า

นอกจากยำวุ้นเส้นแล้ว เมนูขนมจีน ยังเป็นเมนูเส้นๆ อีกเมนูหนึ่ง ที่ช่วยลดความอ้วนได้เช่นกันค่ะ โดยอาจเลือกน้ำยาที่กินคู่กันเป็นน้ำยาป่า หรือน้ำยาที่ไม่มีกะทิจะเหมาะที่สุดในการลดความอ้วนค่ะ และถ้าจะให้ผลดีที่สุด ควรกินเส้นขนมจีนน้อยๆ ใส่ผักเยอะๆ หรือจะเปลี่ยนไปกินผักแทนเส้นขนมจีน แล้วราดด้วยน้ำยาป่า ก็ผอมแน่นอนค่า
4. ยำมะเขือยาว

มะเขือยาวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระค่ะ แถมยังมีเส้นใยอาหารที่ช่วยให้อิ่มได้ทนและนาน อีกด้วย แทนที่จะเลือกกินเป็นผัดมะเขือยาวที่มีน้ำมันเยอะ แนะนำเป็นยำมะเขือยาวที่แคลอรีน้อยกว่าจะดีกว่านะคะ
5. ไก่ย่างส้มตำ

เป็นเมนูที่หากินง่ายสุดๆ ค่ะ สำหรับไก่ย่างส้มตำ แต่ถ้าจะกินให้ผอมแนะนำว่าขอให้หาส้มตำที่ไม่ใส่ผงชูรสและน้ำตาลจนหวานเจี๊ยบ และกินกับไก่ย่าง (ไม่กินหนัง) แทนข้าวเหนียวจะดีกว่านะค้า
6. ต้มยำน้ำใส

แม้ว่าต้มยำปกติ จะเป็นเมนูที่แคลอรีต่ำอยู่แล้ว แต่จะดีไปกว่านั้นค่ะ ถ้าเป็นเมนูต้มยำน้ำใส ที่ช่วยให้ผอมมากขึ้นไปอีก เพราะไม่มีส่วนผสมของนม โดยสาวๆ อาจเลือกใส่กุ้ง เนื้อปลา หรือปลาทูก็ช่วยให้อิ่มแบบไม่อ้วนอีกด้วย
7. แกงเห็ด

สำหรับใครที่ชอบกินเห็ด เมนูแกงเห็ด เป็นตัวเลือกสาำหรับมื้อเย็นที่ดีไม่น้อยค่ะ เพราะเห็ดมีเส้นใยอาหารสูงแต่แคลอรีต่ำ ทำให้อิ่มสบายท้องแบบไม่มีไขมันมากวนใจแน่นอน ใครจะเลือกใส่เห็ดอย่างเดียว หรือใส่สารพัดเห็ด เช่น ออรินจิ, นางฟ้า หรือเข็มทอง ก็อร่อยแบบไม่อ้วนชัวร์ๆ ค่า
8. แกงจืดมะระ

หากคุณเป็นสาวที่ไม่ชอบกินเผ็ด เราก็ขอแนะนำ แกงจืดมะระ เลยค่ะ เพราะให้พลังงานเพียง 90 แคลอรีต่อถ้วยเท่านั้น! ซึ่งนอกจากมะระจะเป็นผักที่แคลอรีต่ำแล้ว ยังมีข้อดีในการช่วยย่อยอาหารอีกด้วย สาวลดความอ้วน ห้ามพลาดเลยล่ะค่า
9. แกงเหลืองมะละกอกุ้ง

แกงใต้สีเหลือง รสชาติเผ็ดร้อน อย่างแกงเหลือง ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่แคลอรีน้อยไม่แพ้เมนูอื่นๆ เลยค่ะ โดยแกงเหลือง 1 ถ้วย ซึ่งมีส่วนผสมเป็นมะละกอกับกุ้ง ให้พลังงานเพียง 80 แคลอรีเท่านั้นค่ะ นอกจากจะแคลอรีต่ำแล้ว ยังอุดมไปด้วยสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วยล่ะค่า
10. ปลาเผาสมุนไพร

สำหรับปลาเผา นอกจากจะเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ เพราะปราศจากทั้งน้ำมัน และเครื่องปรุงรสทั้งหลายแล้ว ปลาเผายังมีแคลอรีต่ำอีกด้วยล่ะค่ะ แต่ใครที่ชอบกินปลาเผา ต้องระวัง ไม่กินในส่วนที่มีเกลือเยอะเกินไป และไม่กินกับน้ำจิ้มที่เค็มเกินไปด้วยนะคะ
11. แกงส้มผักรวม

แน่นอนว่าเมนูที่มีผักเยอะอย่างแกงส้มผักรวม ถือเป็นอีกเมนูที่ช่วยลดความอ้วนได้ดีค่ะ เพราะนอกจากจะมีใยอาหารจากผักที่ช่วยให้อิ่มท้องแล้ว แกงส้มชามนี้ยังดีต่อระบบขับถ่ายอีกด้วย!
12. ลาบเห็ดรวม

สำหรับเมนูนี้ จะใส่เห็ดอะไรก็ได้ตามใจสาวๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู หรือเห็ดเข็มทอง ซึ่งเห็ดทั้งหมดนี้ล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้นค่ะ นอกจากจะกินอิ่มท้องไม่แพ้เมนูอื่นๆ แล้ว เห็ดแต่ละชนิดยังช่วยลดไขมันในเลือกได้ดีอีกด้วยล่ะค่า
13. แกงเลียง

แกงเลียงเป็นเมนูอาหารไทยที่อุดมด้วยผักหลากหลายชนิดค่ะ นอกจากจะไขมันต่ำแล้ว แกงเลียงหนึ่งชามยังมีเส้นใยมาก ช่วยให้อิ่มท้อง และช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหารด้วย!
14. แกงจืดเต้าหู้

สำหรับใครที่ไม่ชอบกินเมนูเผ็ด แกงจืดเต้าหู้ยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดน้ำหนักค่ะ ซึ่งเมนูนี้สาวๆ อาจจะใส่ผักกาดขาวหรือตำลึงเพื่อเพิ่มเส้นใยอาหาร และอาจจะกินคู่กับข้าวไรซ์เบอร์รี่อีกเล็กน้อย เพื่อให้อิ่มท้องมากขึ้นก็ได้เช่นกัน
15. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน

เมนูนี้เรียกว่าเป็นเมนูยอดฮิตของสาวที่กำลังลดน้ำหนักหลายๆ คนค่ะ เพราะเป็นเมนูที่แคลอรีต่ำ มีผักเพียบ แถมเห็นเป็นเมนูชิ้นเล็กๆ แต่กินแล้วอิ่มท้องสุดๆ ใครที่กำลังมองหาเมนูไขมันต่ำ แคลอรีน้อย ผักเยอะ เมนูนี้เหมาะมากๆ !
16. ต้มแซ่บเล้ง

บอกเลยค่ะ ว่าเมนูเผ็ดๆ นี่ล่ะ ช่วยเบิร์นได้ดีสุดๆ และเมนูต้มแซ่บเล้ง ก็เป็นอีกเมนูค่ะ ที่ทั้งแคลอรีต่ำ แถมช่วยเบิร์นได้ดีมากๆ แต่อย่าเผลอตักข้าวเยอะไปนะคะ เพราะอาจจะกินเพลินจนอ้วนได้!
17. ไข่ตุ๋น

ไข่ต้ม 1 ฟอง ให้พลังงานเพียง 75 แคลอรีเท่านั้นค่ะสาวๆ หยิบไข่มาทำไข่ตุ๋นเป็นอาหารเย็นทานนี่ล่ะ ช่วยคุมน้ำหนัก คุมแคลอรีได้ดีเลย แต่ถ้ากลัวจะไม่อิ่ม แนะนำว่าให้สักเครื่องอย่างอื่น เช่น ฟักทอง แครอท หรือต้นหอมลงไปด้วยค่ะ จะได้สารอาหารที่มากขึ้น!
18. ส้มตำผลไม้

ถ้าเบื่อส้มตำมะละกอแล้ว ลองเปลี่ยนมาเป็นส้มตำผลไม้กันดูมั้ยคะ บอกเลยว่า แคลต่ำไม่แพ้กัน เพราะส้มตำผลไม้ 1 จาน แคลอรีเพียง 150 เท่านั้น แถมการกินผลไม้ยังช่วยให้อิ่มท้องแบบผอมๆ อีกด้วย แต่อย่าลืมเลือกผลไม้ที่น้ำตาลน้อยๆ นะคะสาวๆ
19. สลัดโรล

สลัดโรล เป็นเมนูที่คล้ายๆ กับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเลยค่ะ คือแคลอรีต่ำ ผักเยอะ แถมกินแล้วอิ่มอยู่ท้อง แต่ถ้าจะให้ผอมจริงๆ แนะนำว่าทานคู่กับน้ำสลัดแแบบแคลอรีต่ำ หรือน้ำสลัดโยเกิร์ตแทนน้ำสลัดแบบครีมจะดีกว่าค่า
20. เมี่ยงปลาทู

เมนูนี้เรียกว่าประโยชน์อัดแน่นมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นจากปลาทู ที่ช่วยเผาผลาญกรดไขมันอิ่มตัวได้ดี ทั้งยังลดการสะสมไขมันบริเวณผนังหลอดเลือดได้ด้วย แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำเป็นปลาทูนึ่งจะดีกว่าปลาทูทอดนะคะ ส่วนผักอื่นๆ ที่ทานคู่กันก็ช่วยในระบบย่อยอาหาร ช่วยเพิ่มกากใย ทำให้อิ่มแต่ไม่อ้วนนะจ๊ะ!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://women.trueid.net/detail/kPEgNOGMaOm