ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 273 " ให้อภัย " ทำยากมาก แต่ถ้าทำได้จะสบายใจมากเช่นกัน
ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 273 "ให้อภัย " ทำยากมาก แต่ถ้าทำได้จะสบายใจมากเช่นกัน
โจทย์โดยคุณ กะว่าก๋า

ขอบคุณภาพ เพื่อนส่งมาทางไลน์
การให้อภัย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในชีวิตแต่ละคนมีเรื่องต่างๆมากมายที่เกิดขี้น ที่ทำให้พอใจ ไม่พอใจ โกรธ และบางทีแค้น ถึงอยากจะหาทางแก้แค้นอีกด้วย
เราเองตอนสมัยทำงานใหม่ๆ เคยช่วยเพื่อนที่เดือดร้อนสองคน ชวนเขามา อยู่ด้วย จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าทีพักแพง แต่พอทุกคนมีงานทำ ก็พอจะขยับขยายได้ ก็แยกย้ายกันไป เรียกว่าเพื่อนสนิท แต่พอจริงๆก็มีเหตุการณ์ที่เกิดขี้น ไม่พอใจกัน ขนาดเรียกต่างคนต่างไปกันเลย ... ตอนวัยยี่สิบกว่า เราก็โกรธเพื่อนมากที่เรา ช่วยเหลือมากมาย ถึงคราวเราเดือดร้อนสุดๆเขาทิ้งให้เราเดือดร้อนคนเดียว (เรื่องยาวมาก) เพื่อนสองคนทิ้งเรา ยามที่เราไม่มีใครนอกจาก เขาสองคนที่จะช่วยได้ แถมบอกว่าบุญคุณนั้นไม่ลืมหรอก ... เราก็โกรธมากถึงกับบอกว่าถ้าจะทดแทนบุญคุณก็คงทุกชาติไม่หมดหรอก จากนั้นก็ไม่เจอกันเลยหลายสิบปี
พออายุมากขี้นสีสิบกว่า เริ่มรู้จักธรรมะ เริ่มรู้สีกเสียใจที่เราพูดไม่ดีกับ เพื่อน และกลัวว่าจะกลายเป็นการจองเวรกันทุกชาติ อยากกลับไปบอกเขาว่าที่พูดนั้นขอยกเลิก ไม่มีอะไรต่อกัน ก็เริ่มตามหาเพื่อนอยู่หลายปีกว่าจะพบ พอได้พบกัน ดีใจมาก บอกเขาว่าที่เราสาปแช่งให้มาใช้เราทุกชาติ เราขอยกเลิก และไม่มีอะไรติดค้างกัน เพื่อนเองเขาก็บอก เขาขอโทษและเสียใจมากที่ทิ้งเรา ตอนเราเดือดร้อน
เราเองก็บอกว่าเราพยายามตามหาหลายปี อยากจะบอกว่าทุกอย่างที่เราพูด(แช่ง) ขอยกเลิกไม่มีอะไรต่อกัน
และเราสามคนก็กลับมาเป็นเพื่อนกันตอนนี้ ซี่งใช้เวลาเกือบสามสิบปี
หลังจากได้พบเพื่อนและได้คุยกัน ก็สบายใจ รู้สึกโล่งจริงๆ ไม่อย่างนั้น ก็รู้สีกมีอะไรติดค้าง ใหม่ๆก็โกรธมาก แต่ระยะหลังๆ รู้จักธรรมะเกิดกลัวบาป และไม่อยากมีอะไรติดค้าง ต้องพยายามตามหาเพื่อน เพื่อบอกว่าเราไม่คิดอะไรแล้ว ดีใจทีได้มีอกาศได้พบกัน
การขอโทษ และ การให้อภัย กว่าจะทำได้ก็ยากพอควร ถ้าทำได้ จะสบายใจจริงๆ
*******
การให้อภัย ไม่ใช่ยอมแพ้ ไม่ใช่เสียเปรียบ
"การให้อภัยเป็นการบริหารจิตโดยตรง" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า) วิริยะ12 3 ต.ค. 2563 . "การให้อภัยเป็นการบริหารจิตโดยตรง"
" .. โกรธแล้วหายโกรธเอง กับโกรธแล้วหายโกรธเพราะให้อภัย ไม่เหมือนกัน "โกรธแล้วหายโกรธเองเป็นเรื่องธรรมดา ทุกสิ่งเมื่อเกิดแล้วต้องดับ" ไม่เป็นการบริหารจิตอย่างใด "แต่โกรธแล้วหายโกรธเพราะคิดให้อภัย เป็นการบริหารจิตโดยตรง" จะเป็นการยกระดับของจิตให้สูงขึ้น ดีขึ้น มีค่าขึ้น
ผู้แลเห็นความสำคัญของจิต "จึงควรมีสติทำความเพียร อบรมจิตให้คุ้นเคย ต่อการให้อภัยไว้เสมอ" เมื่อเกิดโทสะขึ้นในผู้ใดเพราะการปฏิบัติล่วงล้ำ ก้ำเกินเพียงใดก็ตาม "พยายามมีสติพิจารณาหาทางให้อภัยทานเกิด ขึ้นในใจให้ได้" ก่อนที่ความโกรธจะดับไปเสียเองก่อน .. "
"พุทธวิธีควบคุมความคิด" สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากอินเตอร์เนต
Friendship Story Blog
newyorknurse
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2564 |
Last Update : 13 มีนาคม 2564 6:43:16 น. |
|
21 comments
|
Counter : 1763 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณหอมกร, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณtoor36, คุณSleepless Sea, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณThe Kop Civil, คุณเซียน_กีตาร์, คุณInsignia_Museum, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณ**mp5**, คุณสองแผ่นดิน, คุณSai Eeuu, คุณmultiple, คุณSweet_pills, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณtuk-tuk@korat, คุณอาจารย์สุวิมล |
โดย: หอมกร วันที่: 13 มีนาคม 2564 เวลา:6:26:55 น. |
|
|
|
โดย: katoy วันที่: 13 มีนาคม 2564 เวลา:7:20:42 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 13 มีนาคม 2564 เวลา:7:42:03 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 13 มีนาคม 2564 เวลา:8:07:48 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 มีนาคม 2564 เวลา:8:39:46 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 13 มีนาคม 2564 เวลา:19:42:51 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 14 มีนาคม 2564 เวลา:8:02:56 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 14 มีนาคม 2564 เวลา:17:03:54 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 15 มีนาคม 2564 เวลา:1:08:37 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 15 มีนาคม 2564 เวลา:2:35:09 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 15 มีนาคม 2564 เวลา:8:06:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|
จากประสบการณ์ในชีวิตจริงเล่าประกอบด้วย