ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 219 "สิ่งที่ราคาแพงที่สุดที่คุณเคยซื้อ"




ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 219
"สิ่งที่ราคาแพงที่สุดที่คุณเคยซื้อ"
โจทย์โดยคุณ กะว่าก๋า




สิ่งที่แพงที่สุดที่เคยซื้อ คิด ตั้งนานว่าอะไรหนอ ...

สำหรับเราคือ "บ้าน" บ้านเป็นสิ่งที่ทุกคนหวังจะเป็นเจ้าของและราคาแพงทีเดียว
เคยตั้งใจซื้อบ้านสามครั้ง ซื้อเรียบร้อยสองครั้ง มีเรื่องเล่าให้เพื่อนๆ
ฟังกันเป็นประสบการณ์

ตอนเริ่มทำงานที่เมืองไทย รพ.ศิริราช เริ่มคิดจะซื้อบ้าน ไปดูบ้านตามหมู่บ้านต่างๆ ดูราคาที่เราพอผ่อนไหว และขณะเดียวกันก็กำลังทำเรื่องมาทำงานที่นิวยอร์ก
โชดดีจริงๆ ที่ไม่ได้ซื้อบ้านหลังแรก

แต่จริงๆ ถ้าซื้อบ้านก่อนเดินทางมานิวยอร์ก ก็คงมีความทุกข์สาหัส เพราะเวลามาถึงนิวยอร์ก กว่าจะได้งานทำเกือบสี่เดือนคงไม่มีเงินผ่อนบ้านแน่ๆเลย และจริงๆ ถ้ามีบ้านตอนนั้นคงไม่ได้อยู่เกินห้าสิบปี บ้านคงพุพัง แถมคงต้องจ้างคนดูแลอีก ... นับว่าครั้งนี้ตัดสินใจถูก


บ้านหลังที่สอง หลังจากมานิวยอร์กเกือบสิบปี เราทำงานและมีลูกชายอายุเกือบสี่ขวบ ระยะนั้นเพื่อนๆที่ทำงานเขาซื้อบ้านกัน เราไม่สนใจ คิดว่าจะกลับมาอยู่เมืองไทย ขอพักร้อนนานเป็นเดือนเพื่อหางาน พ่อบ้านเรียนจบปริญญาโท คิดว่ากลับมาเมืองไทยคงหางานได้ไม่ยาก เพื่อนๆตอนนั้นก็ทำงานก้าวหน้าไปไกลกันแล้ว
สมัครงานหลายแห่งส่วนมากก็บอกว่ามีคุณสมบัติมากไปสำหรับงาน ( over qualify for a job) หางานเมืองไทยไม่ได้ ต้องกลับนิวยอร์ก


**********


ครั้งนี้ก็เลยคิดว่าต้องอยู่ปักหลักที่นิวยอร์กแล้ว พอกลับมาทำงานก็เริ่มหาซื้อบ้าน
ซึ่งตอนนั้นเราก็มีเงินเก็บกันไม่มาก แต่พอจะดาวน์ซื้อบ้านได้ บ้านหลังนี้( รูปข้างล่าง) บ้านอยู่นอกเมือง เราทำงานกันที่นิวยอร์กซิตี้ ต้องขับรถเข้าเมืองไปทำงาน
กันทุกวัน เราอยู่บ้านหลังนี้จนเดี่ยวนี้ มีลูกชายอีกคน ตอนนี้ลูกสองคนก็
โตแล้ว มีครอบครัวและมีหลานกันแล้ว

บ้านก็ไม่มีคนช่วยอยู่แล้วไม่นานก็คงต้องขาย เพราะอยู่กันสองคนใหญ๋ไปบ้านมีห้าห้องนอน ที่ดินหนี่งเอเคอร์ (สองไร่ครี่ง) มีลำธารหลังบ้าน มีต้นไม้ใหญ่หลังบ้าน บรรยากาศดีมากๆ มีลำธารหลังบ้านด้วย เราอยู่บ้านหลังนี้ตั้งแต่ปี 1980 ประมาณ 38 ปี อายุมากแล้ว บ้านก็ต้องดูแล ตัดหญ้า และหน้าหนาวก็ต้องจัดการกับหิมะ พอสว.ทำเองไม่ไหว จ้างเขาทำ เราก็ยังต้องทำบ้างอยู่ดู สมัยลูกๆอยู่เราช่วยกันทำ สนุกสนาน ตักหิมะ กวาดใบไม้ กับลูกๆตอนนี้รู้สีกว่าบ้านกว้างไปแล้ว น่าจะย้ายไปอยู่อพาทเมนต์จะดีกว่า สะดวกเวลากลับเมืองไทยด้วย จะได้ไม่ต้องห่วง















บ้านหลังนี้เป็นความทรงจำที่ดีๆสำหรับครอบครัวเรา

********

บ้านทีฟลอริด้า
ซื้อเตรียมไปอยู่หลังเกษียณ











ก่อนเกษียณเกือบสิบปีเพื่อนๆ และคนนิวยอร์ก ก็แห่กันไปจองที่ดิน หรือซื้อบ้านที่ฟลอริด้ากัน ที่ฟลอริด้าอากาศร้อน ไม่มีหิมะ คนนิวยอร์กและคนที่อยู่ทางเหนือที่มีหิมะเยอะๆ ก็จะมีบ้านหลังที่สองที่ฟลอริด้าคนที่ฟลอริด้าก็เรียกพวกที่หนีหนาวไปที่ฟลอริด้า ว่าเป็น "Snow Bird"

เราเองก็ฝันจะหนีหนาวเหมือนกัน เลยไปซื้อบ้านที่ฟลอริด้าอีกหนี่งหลังเป็นบ้านเล็กๆ สองห้องนอน มีลำธารหลังบ้าน บ้านน่ารักน่าอยู่มากคิดว่าอีกไม่กี่ปีเกษียณจะย้าย
ไปอยู่ ขายบ้านที่นิวยอร์ก ตกลงพอซื้อบ้านหลังนี้แล้ว ก็ไม่มีเวลาไปอยู่ ไปแค่ปีละหนีงถึงสองครั้ง ไปครั้งละหนี่งถึงสองอาทิตย์ เพราะไม่มีวนหยุดพักร้อนที่จะไป แต่ก็ต้องจ้างคนตัดหญ้าทุกสองอาทิตย์ บ้านก็ต้องเปิดแอร์ไว้ เพราะที่ฟลอริด้าอากาศร้อมาก บ้านจะมีไอน้ำ ถ้าข้างในร้อนและจะเกิดรา กลายเป็นภาระไม่ใช่ความสุขแล้ว เพราะอยู่ก็ไม่ได้อยู่ มีแต่รายจ่ายทุกเดือน ผ่อนบ้านเป็นเวลาสิบกว่าปี ราคาบ้านเกิดตก ตัดสินใจขายบ้านขาดทุน เพราะคิดแล้วคงไม่ได้ไปอยู่บ้านหลังนี้แน่นอน มีแต่รายจ่ายและไม่มีโอกาสจะไปอยู่ด้วย คิดว่าถ้าจะหนีหนาวก็กลับเมืองไทยหรือไปฟลอริด้าก็เช่าบ้านหรือคอนโด อพาทเมนต์ อยู่เป็นเดื่อน ก็มีให้เช่ามากมาย ขายบ้านหลังนี้แล้ว โล่งใจเลย ไม่ต้องมีภาระ

ระยะหลังๆมาเมืองไทยก็มีเพื่อนๆชวนให้ซื้อบ้าน ซี้อคอนโด เราเข็ดมากไม่ซื้ออะไรอีกแล้ว นอกจากแน่ใจว่าจะกลับมาอยู่จริงๆ เพื่อนหลายคนที่กลับเมืองไทยไม่ได้ไปพักกับญาติก็เช่าโรงแรมอยู่กันเป็นเดือน ก็ดีเหมือนกัน เพราะมีบ้านก็เป็นภาระ ไม่อยู่ต้องหาคนมาดูแล บ้านรดนำ้ต้นไม้ บ้านผุพัง ต้องซ่อมไปเรื่อยๆ คิดว่าไว้มาอยู่จริงๆแล้วค่อยหาซื้อหรือปลูกเล็กสักหลัง เป็นบ้านยาวๆ เล็กๆ มีห้องนอน ห้องน้ำใน
ห้องนอน และต่อด้วยห้องรับแขก มีเค้าเต้อสำหรับตู้เย็น ไมโครเวฟ มีห้องน้ำอีกหนี่งห้อง คร้วนอกบ้านเล็กๆ แค่นี้พอ เวลาสว. ไม่ต้องขี้นบันใด พื้นราบ จะได้ไม่สะดุดหกล้ม ไม่มีของมาก เดินไปมาคล่องไม่มีอะไรเกะกะ มีแต่ของที่จำเป็นก็พอแล้ว

ขอบคุณภาพจาก Google map


สาขา Klaibannn Blog



newyorknurse



Create Date : 05 มกราคม 2562
Last Update : 6 มกราคม 2562 0:26:50 น. 12 comments
Counter : 1093 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณtoor36, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณhaiku, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณSweet_pills, คุณกะว่าก๋า, คุณtuk-tuk@korat, คุณหงต้าหยา, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณInsignia_Museum, คุณmariabamboo, คุณสองแผ่นดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ


 
บ้านนี่หนึ่งในปัจจัยสี่ที่ต้องมีเลยครับ แล้วนับวันราคามันก็ยิ่งแพงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

บางครั้งบ้านใหญ่เกินก็ดูแลลำบาก จะไปจ้างคนอื่นมาช่วยดูแล มันก็ต้องใชข้เงินมากตาม ถ้ามีเงินเดือน หรือรายได้เยอะมากๆ ก็ว่าไปอย่าง บ้านใหญ่ๆ แค่ปัดกวาดเช็ดถูก็ใช้เวลาทั้งวันแล้วล่ะครับ


ขอบคุณที่ถามเข้ามานะครับ ตาไวจริงๆ ต้องเป็นหลัก กม. 220 ครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 5 มกราคม 2562 เวลา:10:39:46 น.  

 
ทีแรกผมคิดว่า ฟลอริด้าอากาศจะดี อ้าวความชื้นสูงอีก

....

ตอนนี้ บ้านที่อยู่หลังโตเหมือนกัน.... ลูก ๆ เขามิได้อยู่ด้วย
สักคน...ไปมีบ้านของตนเองแล้ว

บ้านชั้นที่สอง เลยปิดไว้ ต้องขึ้นไปกวาดถู เดือนละ 2 ครั้ง

อยู่กันสองคน ข้างล่างก็เหลือเฟือ 369 ตร.เมตร

ตอนนี้นึกถึง คนแก่ เอ้ย สว. เคยบอกว่า อยากมีห้องอยู่
สามคูณสาม มีห้องน้ำ ก็พอ..บ้านชั้นเดียว ขี้เกียจกวาดถูบ้าน
555 ชักอยากอยู่บ้านหลังเล็กมั่ง



โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 5 มกราคม 2562 เวลา:11:29:06 น.  

 
อยากมีบ้านเล็ก ๆ เช่นกันค่ะ ชอบทำสะอาดเอง ดูแลเองน่ะค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 มกราคม 2562 เวลา:16:39:11 น.  

 
นี่หนูเองก็ไม่ซื้อบ้านค่ะ เลือกซื้อคอนโดฯ เพราะอยู่คนเดียว มีบ้านไปก็ดูแลไม่ไหวน่ะ

ขนาดคอนโด ก็ต้องจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาด เพราะไม่มีเวลาจริงๆ ค่ะ แหะๆ เราทำเองอาทิตย์ละครั้ง พอสักเดือนก็จ้างแม่บ้านมาทำให้สะอาดๆ จริงๆ

แต่คนมีครอบครัว ยังไงมีบ้านก็ดีกว่าจริงๆ นะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
คนขับช้า Movie Blog ดู Blog
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 5 มกราคม 2562 เวลา:21:49:57 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับพี่น้อย

บ้านเดี่ยวในอเมริการาคาน่าจะแพงกว่าในเมืองไทยเยอะเลยนะครับ
เมืองใหญ่ๆ ราคาที่ดินจะพุ่งสูงมาก

ขนาดเชียงใหม่ตอนนี้บ้านเดี่ยวยังขยับราคาไปถึง 5- 15 ล้านต่อหลังแล้ว
ผ่อนกันจนรุ่นลูกรุ่นหลานเลยครับ 5555

ผมเพิ่งทราบข้อมูลจากพี่น้อยครับ
ว่าเมืองร้อนชื้นต้องเปิดแอร์ไว้บ้าง
ไม่เช่นนั้นห้องจะขึ้นรา
ห้องนอนลูกชายผมมีปัญหาเรื่องเชื้อราบ่อยมากครับ
แก้แล้วแก้อีกจนเหนื่อยเลย

โหวตครับพี่




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มกราคม 2562 เวลา:6:47:02 น.  

 
มีแต่ของที่จำเป็นก็พอแล้ว
ขอบคุณประโยคสุดท้ายที่ให้ข้อคิดค่ะพี่น้อย
ว่าไม่เฉพาะเรื่องบ้านแต่รวมไปถึงข้าวของในชีวิตที่เราควรจัดการให้มีเท่าที่จำเป็น
ก่อนจะทิ้งให้เป็นภาระแก่ผู้อื่นด้วยนะคะ

บ้านที่ฟลอริด้าหลังเล็กๆ
ต๋าเป็นคนภายนอกมองก็รู้สึกน่ารัก น่าอยู่
แต่เจ้าของจริงๆถึงทราบถึงปัญหาและภาระนะคะ
ขอบคุณพี่น้อยสำหรับประสบการณ์ค่ะ

ช่วงนี้ต๋าเดินทางอยู่ทางเหนือ เข้าทางมือถือ
อีกหลายวันจะกลับค่ะพี่น้อย
ขอบคุณพี่น้อยที่แวะทักทายต๋าเสมอค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 6 มกราคม 2562 เวลา:7:28:32 น.  

 
เป็นความคิดได้หลังจากมีประสบการณ์แล้ว
ทุกวันอยากได้บ้านแค่สองห้องนอน
มีอีกห้องไว้เก็บของพอแล้ว

ยิ่งอายุมากยิ่งปล่อยวาง


โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 6 มกราคม 2562 เวลา:8:38:28 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับ


โดย: JohnV วันที่: 6 มกราคม 2562 เวลา:15:30:18 น.  

 
ชอบอ่านประสบการณ์แบบนี้ครับ
ยิ่งในต่างแดนไม่เหมือนบ้านเรา ได้รับรู้ในสิ่งที่แตกต่างครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 6 มกราคม 2562 เวลา:19:39:07 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
สันตะวาใบข้าว Literature Blog ดู Blog
อุ้มสี Diarist ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


ส่งกำลังใจค่า


โดย: mariabamboo วันที่: 6 มกราคม 2562 เวลา:20:21:40 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่น้อย

ผมหาวิธีจัดการกับเชื้อราในเน็ตครับ
ทำแทบจะทุกอย่างเลย
สุดท้ายมาสำเร็จกับน้ำยาฆ่าเชื้อราแบบสเปรย์ครับ
เช็ดตู้ในห้องแล้วก็ทิ้งไว้
แต่การเปิดแอร์ก็ช่วยจริงๆครับ
ทำให้อากาศแห้งขึ้น ไม่ชื้นเกินไป

แต่พอหน้าฝนก็ต้องกลับมาระวังกันต่อครับ
ถ้าราขึ้นใหม่ๆ แล้วรีบเช็ดก็ไม่เป็นไรครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มกราคม 2562 เวลา:6:24:25 น.  

 
บั้นปลายหนูก็อยากอยู่บ้านหลังเล็ก ๆ ชั้นเดียวพอแล้วค่ะ

ตอนนี้มีแต่ฝันยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลยค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 9 มกราคม 2562 เวลา:21:36:19 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]






เริ่มเขียนBlog
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553

ยินดีต้อนรับค่ะ

จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ
ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า
รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย
สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness
เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ
จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย

จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ
เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป

จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้
ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ
ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน
และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ
ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ

"A time to enjoy,
a time to spend time with your family
and a time to be with your friends
all comes with retirement"


*****


"Live The Moment"

อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น
ในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้"
คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า
น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา
และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ
หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ


*********


ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด
ทุกๆคะแนน นะคะ

BG Popular Award # 19


BG Popular Award # 18


BG Popular Award # 17


BG Popular Award # 16


BG Popular Award # 15


BG Popular Award # 14


BG Popular Award # 13


BG Popular Award # 12


BG Popular Award # 11


BG Popular Award # 10


BG Popular Award # 9


BG Popular Award # 8

**********



ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ


ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
Flag Counter
New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2562
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 มกราคม 2562
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add newyorknurse's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.