ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 270. " หนึ่งวันมีสามสิบแปดชั่วโมง"
ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 270 "หนึ่งวันมีสามสิบแปดชั่วโมง"
ถ้าหนึ่งวันมี 38 ชั่วโมง จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของคุณบ้าง?
โจทย์โดยคุณ กะว่าก๋า

สำหรับเรา มาถึงขั้นสว.แล้ว ขอแบ่งเป็นตอนๆตามประสบการณ์ละกัน ว่าต้องการเวลาเพิ่มตอนไหน
ตอนแรกที่เรียนป 1 ถึงม.ศ 5 คือมัธยม 6 ช่วนนี้ ก็คิดว่าเวลาวันละ 24 ชม. ก็เหมาะสมดี
ตอนเรียนพยาบาล อายุ. 19 - 22 ตอนเรียนพยาบาลสามปี และเรียนผดุงครรภ์ อีกหกเดือน
เริ่มทำงาน. ระยะนี้ถ้ามี 38 ชม.คงจะดีมาก ตอนเรียนพยาบาลปีที่ 1 หกเดือนแรกก็ดี ไม่ค่อยมีอะไร เรียนในห้องเรียนตามปกติ เรียนวันละ 8 ชม ทั้งทฤษฎี และ ภาคปฎิบัติด้วย
เรียนเช็ดต้วคนไข้ ก็มีหุ่นให้เราเช็ดตัว ฝึกทำเตียงให้เรียบตึง
เรียนการพันผ้า มือแขน ขา นิ้วมือ ที่หัก จับคู่เรียนกันเอง มีอจ.คอยสอนและตรวจว่าทำถูกไหม
เรียนฉีดยา เราก็จับคู่ฉีดยากันเองด้วย คนไข้บางคนจะคิดว่าพยาบาลฉีดยา ไม่รู้หรือว่าเจ็บไหม ขอบอก พยาบาลเราโดนมาแล้วก่อนมาฉีดคนไข้
พยาบาลต้องเรียนภาควิชาการและภาคการพยาบาลด้วย ต้องรู้ถึงโรคต่างๆและการพยาบาล ทั้งทางแผนกอายุรศาสตร์ แผนกศัลย์ศาสตร์ แผนกสูติกรรม แผนกเด็ก ครบหมดทั้งทางจิตวิทยาด้วย จบแล้วจึงเลือกไปไปทำงานแผนกไหนตามที่ชอบ
เรียนวิชา Anatomyต้องมีภาคปฎิบัติ คือไปเรียนกับอจ.จริงๆ ที่แผนก พยาธิวิทยา (Pathology) การเรียนวิชานี้ ต้องไปเรียนห้องแผนกเก็บชิ้นส่วนต่างๆของ ร่างกาย เราเรียกกันว่่า อจ.ใหญ่ จะแช่ไว้กับฟอร์มารีน กลิ่นแรงมาก เรียนทฤษฎิเกี่ยวกับส่วนไหนก็ไปเรียนกับอาจารย์จริงๆ ที่ห้องปาโถ เรียนเรื่องกล้ามเนื้อต่างๆ ก็ไปจับดูกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เรียนเกี่ยวกับระบบ กระดูก ระบบอาหาร ระบหัวใจ ระบบไต เรียนแล้วไปจับดูจริงๆที่ห้องปาโถ ห้องแลปที่มีชิ้นส่วนของร่างกายทุกส่วน กระดูกทุกชิ้น เส้นเลือดใหญ่ เราต้องเรียนรู้และท่องจำเวลาสอบต้องผ่านสอบ ทั้งข้อเขียนและสอบในห้อง Patho ด้วย
ช่วงหลังเรียนทฤษฎีได้หกเดือนแล้ว ก็มีการขี้นเวรเช้า เวรบ่าย เวรดีกด้วย ระยะนี้มีเวลาเพิ่มอีก 14 ชม.ต่อวันจะดีกมาก ตอนนั้นนักเรียนพยาบาลรุ่นหลังหกเดือน เหนื่อยมาก เวรที่ทำกัน คนเวรเช้าไปทำงานที่ตึกคนไข้จริงๆ แปดโมงเช้าถึงเที่ยง บ่ายโมง ทุกคนต้องไปเรียนที่ตึกเรียนถึงสี่โมงเย็น
คนที่เวรบ่ายก็เรียนเสร็จสี่โมงเย็น ก็ไปทำงานเวรบ่าย ที่จริงเวร 3 - 11 โมง เราเป็นนักเรียนไปฝีกเรียนกับพี่พยาบาล เวลานอนก็น้อยลงเวรแล้วนอน แต่ยังดี นอนและทำอะไรๆ จนบ่ายโมงไปเรียน ก็นับว่ามีเวลาพอควร แต่มีเวลาเพิ่ม คงได้ไปไหนๆ ได้พักเพิ่ม
เวรดีกนี้ไม่ชอบเลย เพราะลงเวรดีก 11- 7 กว่าจะอาบน้ำ บางที่ซักผ้าบ้างกว่าจะได้นอนก็อาจจะเกือบสิบโมงเช้า นอนไม่นานก็ตื่นรับประทานอาหารเที่ยง เตรียมต้วไปเรียนบ่าย โมงพร้อมๆกับเพื่อนๆทุกคน เลิกเรียน 4 โมงเย็น ก็กลับหอ ทานข้าวเย็น แล้วนอนต่อหรือทำอะไรๆ ถ้ามีเวลาเพิ่มก็ดีจะได้นอนเพิ่ม เพราะ 11 โมง (ห้าทุ่ม)ต้องขี่นไปทำงาน เวรดีก งานเวรดึกเหนื่อยเพราะไม่ใช่ไปนั่งหลับได้ ต้องตื่นตลอดเวลา ไม่มีงานทำก็หลับไม่ได้ บางตึกงานยุ่งไม่ต้องนั่งด้วยซ้ำ เช้าๆตีห้า ก็เริ่มเจาะเลือดคนไข้ คนหนี่งๆต้องเจาะ เลือดหลายหลอด เรียกว่าใหม่ๆก็ทำไม่ค่อยเก่ง ทำงานสักพัก พวกเราก็ เจาะเลือดกันจนเก่งจริงๆรู้เลยเวลาแทงเข็มแล้วผ่านเสืนเลือด รู้สีกถึงเวลาผ่านเข้าเส้นเลือด
สรุปว่าเรียนพยาบาล อยากมีเวลาเพิ่มจะได้มีเวลาพักผ่อน เวลานอนมากขี้น เพราะนอนไม่ค่อยจะพอ
พอจบพยาบาลเริ่มทำงาน ก็มีความภูมิใจว่าเริ่มมีเงินเดือน ดีเหมือนกัน แถมมีงานพิเศษให้ทำด้วย อยู่ทำ OT ได้ แต่ก็เป็นระยะอยากเที่ยว เริ่มมีแฟนกัน ก็อยากเที่ยวได้นานหรือคนที่อยากหาเงิน ก็อยากทำงานได้มากๆ เก็บเงินไว้ เป็นค่าเครื่องบินสำหรับเดินทางไปทำงานที่อเมริกากัน หรือส่งเงินไปทางบ้าน เพื่อนบางคนส่งน้องเรียน บางคนไม่เดือดร้อน ก็ผ่อนซื้อที่ดินกัน จะมีคนมาขายในหอพักหรือเพื่อนๆแนะนำไปซื้อ เพื่อนๆหลายคนซื้อที่ดินสมัยนั้น ปีราวๆ 2512 เพื่อนซื้อที่ดินกันหลายแห่ง บางคนก็ได้ที่ดิน เพื่อนบางคนส่ง เงินครบแล้วก็ไม่ได้ที่ดิน...โดนหลอกก็มี
ตอนทำงานพยาบาลอยากมีเวลาเพิ่มขี้นเพื่อมีเวลาทำงานเพิ่มจะได้เก็บเงิน ไว้ซื้อบ้านซื้อที่ดิน หรือเตรียมค่าเครื่องบินไปอเมริกา
ระยะมาทำงานและเรียนต่อที่อเมริกาใหม่ๆ ปรับตัวกับบรรยากาศกับที่ ทำงานใหม่กับเพื่อนต่างชาติขนมธรรมเนียม ประเพณีของอเมริกาปรับตัว เข้ากับอากาศหน้าหิมะที่หนาวเหน็บ ปรับตัวกับที่ทำงาน เรื่องภาษา เพื่อจะได้ทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่ง่ายนัก ระยะนั้นทำงานแค่วันละแปดชั่วโมง เลิกงานต้องเดินทางไปเรียนต่อ กว่าจะได้กลับอาพาร์ทเมนต์ก็สี่ทุ่ม ทำอาหารเย็น กว่าจะได้นอนก็เกือบเที่ยงคืน เช้าต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน อีก นอนไม่พอเลย
ตอนนี้อยากมีเวลาเพิ่ม 14 ชม.ตอนทำงานและเรียน และยิ่งตอนเริ่มมีลูก เวลาเพิ่ม 14 ชั่วโมงดีแน่ๆ เพราะจะได้มีเวลาดูแลลูกด้วย เวลา ไปทำงานฝากตอนลูกเพิ่งเกิดก็จ้างเพื่อนบ้านเลี้ยงลูก กลับจากทำงานและเรียน กว่าจะรับลูกกลับอาพาร์ทเมนต์สี่ทุ่ม ลูกก็ง่วง บางวันต้องอุ้มลูกมาทัั้งหลับๆ โชคดีคนเลี้ยงลูกอยู่ตึกเดียวกันแค่ขี้นลิฟไปรับ ตอนแรกๆเขาก็ไม่อยาก เลี้ยงเด็กเท่าไรแต่พอเขาเลีัยงไปสักพักก็ติดเด็ก บางที่วันหยุดเขาก็ยังคิดถึง อยากให้พาลูกไปหาอีกระยะนี้เวลาวันละ 24 ชม.ช่างสั้นจริงๆ ไม่มีเวลา ได้อยู่กับลูกเลย กลับมาลูกก็หลับเช้าไปทำงานออกจากบ้านก่อนเจ็ดโมงเช้า บางวันลูกไม่ตื่นก็อุ้มไปฝากคนเลีัยง
พอลูกอายุ 5 ขวบไปโรงเรียน ตอนนั้นเริ่มเรียนจบแล้ว เลิกงานก็กลับอาพาร์ทเมนต์ มีเวลาอยู่กับลูกเพิ่มขี้นนิดหน่อย เริ่มทำงานคล่องขี้น ไม่ค่อยกลัวเรื่องภาษาเท่าไร เพื่อนๆที่รู้จักเขาเริ่มซื้อบ้านกัน เราก็คิดอยากซื้อบ้านเหมือนกัน เลยเริ่มหางานทำ เพิ่ม ระยะนี้มีเวลาเพิ่มอีกวันละ 14 ชม.ก็คงดีจะได้ทำงานเพิ่มได้หลายชม.และมี เวลาอยู่กับลูกด้วย แต่กลายเป็นว่าทำงานเพิ่มก็มีเวลาอยู่กับลูกน้อยลงอีก แต่ก็ได้เก็บ เงินไปดาวน์ซื้อบ้าน แต่ตอนนี้ก็รู้สีกว่าเรามีเวลาอยู่กับลูกน้อยจริงๆตอนที่เขาเล็กๆ ซื้อบ้านก็มีรายจ่ายเพิ่ม บ้านอยู่นอกเมืองก็ต้องมีรถ รายจ่ายต่างๆก็เพิ่ม ก็ต้องทำงาน เพิ่ม โชคดีที่มีงานให้ทำ แต่ข้อเสียคือทำงานมากก็มีเวลาอยู่กับลูกน้อย ก็ทำงานไป หลายปี ลูกก็โตเข้ามหาวิทยาลัย ก็ต้องทำงานเพิ่มอีกเพิ่มจากค่าใช้จ่ายกับการมีบ้าน ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากค่าเล่าเรียน ค่าหอพัก ค่าใช้จ่ายให้ลูกๆอีก เวลาก็มีน้อยไปนิด ไม่มีเวลาพอที่จะหาเงินเพิ่ม ตอนหลังก็ต้องให้ลูกกู้เงินเรียน สองคนเรียนจบหมอ กู้เงินเรียนเป็นหนี้คนละ 240,000 เหรียญ จบออกมาก็มีมีหนี้ เริ่มทำงานได้หกเดือนต้องเริ่มใช้เงินที่กู้มากัน แต่ที่ดีที่กู้เงินรัฐ ไปเรียนดอกเบี้ยไม่แพงและสามารถผ่อนส่งได้ระยะยาวถึง 20-30 ปี. ถ้ามีเวลาทำงานก็คงไม่ต้องให้ลูกต้องกู้เงินเรียน คงมีเวลาหาเงิน เพิ่มได้ ... พอลูกเรียนจบกัน
เราก็ไม่ต้องทำงานเพิ่มแล้วทำงานตามปกติจนเกษียณ แต่ก็ยังทำ OT เก็บเงินซื้อกองทุน ซี้อหุ้น ไว้ตอนเกษียณบ้าง
พอเกษียณ ก็ไม่ต้องการเวลาเพิ่มแล้ว คิดว่าวันหนี่งมี 24 ชมก็พอแล้ว เพราะบางครั้งยังรู้สีกว่าวันหนี่งนานเกินไป โดยเฉพาะหน้าหนาว เพราะไม่ค่อยได้ทำอะไร แต่ถ้าเป็นหน้าร้อนได้มีโอกาสทำสวนครัว สวนดอกไม้ ก็อยากให้วันยาวขี้น เพราะบางวันทำสวน แล้วเพลินไม่อยากให้มืดเลย แต่ก็คิดว่าวันหนี่งมี 24 ชม.ก็ได้
*****
Andre' Rieu - I Have a Dream - ABBA
ขอขอบคุณภาพและยูทูปจากอินเตอเนต Klaibann Blog newyorknurse 
Create Date : 28 มกราคม 2564 |
Last Update : 29 มกราคม 2564 8:33:17 น. |
|
25 comments
|
Counter : 1509 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณkatoy, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณzungzaa, คุณtoor36, คุณThe Kop Civil, คุณอุ้มสี, คุณSweet_pills, คุณSai Eeuu, คุณกะว่าก๋า, คุณเซียน_กีตาร์, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณInsignia_Museum, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณSleepless Sea, คุณร่มไม้เย็น, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสองแผ่นดิน, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเริงฤดีนะ, คุณโอน่าจอมซ่าส์ |
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 28 มกราคม 2564 เวลา:9:10:36 น. |
|
|
|
โดย: zungzaa วันที่: 28 มกราคม 2564 เวลา:12:00:02 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 มกราคม 2564 เวลา:12:00:23 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 28 มกราคม 2564 เวลา:12:40:45 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 29 มกราคม 2564 เวลา:0:12:10 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 29 มกราคม 2564 เวลา:0:12:41 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2564 เวลา:5:34:49 น. |
|
|
|
โดย: zungzaa วันที่: 29 มกราคม 2564 เวลา:11:56:14 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 29 มกราคม 2564 เวลา:19:56:42 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มกราคม 2564 เวลา:7:28:43 น. |
|
|
|
โดย: zungzaa วันที่: 30 มกราคม 2564 เวลา:11:11:52 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 30 มกราคม 2564 เวลา:19:36:32 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 30 มกราคม 2564 เวลา:23:14:57 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 30 มกราคม 2564 เวลา:23:41:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มกราคม 2564 เวลา:6:10:37 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 31 มกราคม 2564 เวลา:10:05:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
มีน้อย..
ช่วงนั้นคงเป็นเวลาที่ทำเงิน สร้างเนื้อสร้างตัวต้องยอม ทำไป
ปี 2512 คุณน้อยกับเพื่อนเริ่มซื้อที่ดินกันแล้ว เจ๋งครับอายุ
ขนาดนั้น เด็ก ๆ สมัยนี้ยังไม่คิดอะไร คงมัวแต่ไปนั่งร้านกาแฟ
หรู แก้วละเกือบร้อย
...
ปัจจุบันพวกเราคงอยากมีเวลาแค่ 24 ชม. ก็พอเพราะแบ่ง
เวลาเป็น