ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 283 "จุดเปลี่ยนของชีวิต"
ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 283 "จุดเปลี่ยนของชีวิต"
โจทย์โดยคุณ blue_medsai จุดเปลี่ยนของชีวิต คนเรามีจังหวะของชีวิต ที่เราต้องเลือกว่าจะไปทางไหน...
ชีวิตเรากว่าเราจะถึงเวลาเกษียณ เจอจุดเปลี่ยนหลายอย่าง
สำหรับจขบ.เป็นเด็กนักเรียนต่างจังหวัด เรียนจบมัธยมปีที่ 6 ต้องเข้ามศ 4 -5 จะเรียนที่โรงเรียนไหน และต้องตัดสินใจว่า จะเรียนแผนกศิลป์ หรือแผนกวิทย์
คนเรียนแผนกวิทย์ เวลาจะเข้ามหาทิยาลัยก็เรียนสายวิทย์ เช่นเข้าเรียนทางวิศวะ แพทย์ ... แต่ที่เข้าใจว่าเรียนแผนกวิทย์จะเข้า มหาวิทยาลัย เลือกเรียนได้มากคณะกว่าเรียนแผนกศิลป์ คนที่เรียนแผนกศิลป์ เวลาเข้ามหาวิทยาลัยก็ไปต่ออักษรศาสตร์ และอีกหลายๆอย่าง ตอนนั้นไม่ค่อยเข้าใจ ก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ต้องเลือกเพื่ออนาคตว่าจบแล้วจะมีงานทำไหม
การศีกษาของเด็กรุ่นนี้เรียนถึงม. 6 แล้วเข้ามหาวิทยาลัย ต้องเก็บคะแนน ยิ่งเข้าใจยาก ไม่รู้เรื่องเลยว่าจะต้องเตรียมเด็กอย่างไร แต่จริงๆเด็กสมัยนี้ ก็รู้เรื่องดี กว่าเราสมัยก่อน ไม่ค่อยมีข้อมูล ไม่ค่อยมีคนแนะนำ
สมัยก่อนจุดเปลี่ยนของชีวิตตอนเรียนจบ มศ 5 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้งคือจะเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยอะไร และเรียนอะไรคะแนนเราดีแค่ไหนที่จะเลือกมหาวิทยาลัย ไหนได้บ้าง คิดว่าจบแล้วมีงานทำตามสาขาที่จบมา จบอะไรก็มีงานทำทางนั้น บางคนก็เรียนต่อปริญญาโท บางคนไปต่างประเทศ มีอาชีพต่างๆกัน
จขบ (เจ้าของบล็อก) จบมศ.5 แผนกวิทย์ ตอนสมัครเข้ามหาวิทยาลัยก็อยากเป็นครู เลือกสาขาคุรุศาสตร์ และพยาบาลเชียงใหม่ ระยะนั้นจบ.มศ.5 สอบเข้าพยาบาลศิริราชด้วย และเข้าเรียนแล้ว รอผลจากมหาวิทยาลัยว่าติดคุรุศาสตร์ไหม ( อยากเรียนคุรุศาสตร์)ผลประกาศปรากฎว่าติดพยาบาลเชียงใหม่ ทำไงดี เราเรียนพยาบาลศิริราชไปหลายเดือน แล้ว จะออกไปเรียนพยาบาลเชียงใหม่ไหม แต่ก็ไม่ต้องตัดสินใจมาก เพราะทางบ้าน ก็ไม่สนับสนุนให้ไปเรียนเชียงใหม่ เพราะบ้านอยู่ราชบุรี ไปเชียงใหม่ บอกว่าไกลเกิน ยังนีกไม่ออกว่าถ้าไปเรียนเชียงใหม่ ตอนนี้จะเป็นอย่างไร
จุดเปลี่ยนชีวิตอีกครั้งก็คือตอนสอบเข้าพยาบาลศิริราช อจ.ที่สัมภาษณ์บอกว่ารุ่นที่เรียน นี้จะมีสองรุ่น เพื่อแบ่งครี่งหนี่งไปทำงานที่รพ.รามาธิบดีเป็นรุ่นแรก ซี่งจะเปิดอีกสี่ปีข้างหน้าจะไปทำงานรพ.รามาธิบดีใหม? เด็กบ้านนอกเข้ากรุง กลัวอจ.จะไม่รับเข้าเรียนพยาบาลศิริราช เลยบอกว่าหนูอยากอยู่รพ.ศิริราช อจ.ก็บอกไม่อยากไปที่ไหม่หรือ ดูหนูน่าจะไปอยู่ที่ใหม่นะ (ตอนนั้นคิดว่าอจ.ลองใจ เลยยืนกระต่ายขาเดียวว่าหนูจะอยู่ที่ศิริราช ไม่ไปที่อื่นแน่นอนค่ะ เพราะกลัวตอบว่าไป คงจะตกสัมภาษณ์) ชีวิตเปลี่ยนจริงๆเพราะพอจบเพื่อนๆที่เลือกไปรพ.รามา เขาไปก็ได้ตำแหน่งเป็นหัวหน้าตึก อยู่ไม่นานก็เลื่อนเป็นผู้ตรวจการ และเลื่อนไปจนเป็นหัวหน้าพยาบาล ...
ถ้าตอนสัมภาษณ์ ตกลงจะไปรพ.รามาธิบดี คงไม่ได้มาทำงานที่นิวยอร์ก แต่ก็คงได้เดินทางไปดูงานต่างประเทศแบบเพื่อนๆ และทำงานที่รพ.รามาธิบดี เป็นผู้ตรวจการ เป็นผู้บริหาร เพราะเป็นรุ่นแรก
ส่วนเราเลือกอยู่ศิริราช ทำงานได้ไม่กี่ปี ก็เดินทางมาทำงานเป็นพยาบาลที่นิวยอร์ก จนเกษียณ
ตอนนี้เกษียณแล้ว ก็พอใจกับที่ตัดสินใจว่า ไม่ไปอยู่รพ.รามาธิบดี และมาทำงานที่นิวยอร์ก จนเกษียณ มีรายได้จากเงินเกษียณ มีประกันสุขภาพตลอดชีวิต
เกษียณแล้วก็ยังต้องมีจุดเปลี่ยนอีกหนี่งครั้งที่จะต้องตัดสินใจ คือจะกลับมาเกษียณที่เมืองไทย หรืออยู่ที่นิวยอร์กไปตลอดชีวิต ถ้าคิดจะกลับเมืองไทยก็ต้องเตรียมตัว
ปัญหาสำหรับสว.ที่นิวยอร์ก หรือต่างประเทศก็คือ ถ้าสุขภาพดี ดุแลตัวเองได้ ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าดูแลตัวเองไม่ได้ และหนักหนาขนาด ต้องติดเตียง จะไปอยู่เนิสซิ่งโฮม ประกันจะจ่ายแค่ 100 วัน อยู่ต่อต้องจ่ายเอง หรือออกมาอยู่บ้าน 100 วันก่อนที่จะกลับไปไหม่ ตอนที่ออกมา 100วัน ต้องหาคนดูแล 24 ชม ราคาชม.ละ 15-25 เหรียญ บางคนมีคนที่แนะนำกันมา อาจจะเป็นญาติๆคนไทยที่มาแบบไม่ค่อยถูกต้อง ราคาไม่ค่อยแพงแต่ก็ไม่น้อยกว่าวันละ$250 แน่นอน
นี่แหละทำให้สว. ส่วนมากเริ่มเดินทางกลับเมืองไทย เพราะค่าใช้จ่ายที่เมืองไทย ถึงแพง เงินเกษียณที่ได้รับตลอดชีวิต ยังพอจ่ายไหว และที่สำคัญการดูแลที่เนิสซิ่งโฮมที่นี่ คนไข้ เยอะเขาดูแลไม่ทั่วถึง ถ้ากลับเมืองไทยหาคนมาอยู่ประจำ ดีกว่าแน่ๆ คนจะถามว่ามีลูกหลานไม่อยู่กับลูกหลานหรือ ลูกๆเขาทำงานและมีครอบครัว ดูแลลูกๆของเขา คนส่วนมากที่นี่ก็วางแผนช่วยตัวเองไม่รบกวนลูกๆ
การไปอยู่กับลูกๆถ้าช่วยตัวเองได้ก็ไม่มีปัญหา ถ้าเกิดช่วยตัวเองไม่ได้ เขาก็คงต้องมีภาระเพิ่มอีก เรากลับเมืองไทย อยู่เนิสซิ่งโฮมดีๆ หรือจ้างคนมาดูแล ก็ดีกว่า คิดถึงลูกหลานก็ใช้โทรศัพท์คุย
เดี๋ยวนี้ก็สามารถคุยกันเห็นกันได้ด้วย และลูกเขาพักร้อนก็ เดินทางมาเยี่ยมและเที่ยวเมืองไทยด้วย แต่ก็ไม่ใช่ง่ายเหมือนกันที่ จะตัดสินใจกลับมาเมืองไทย ต้องเตรียมหลายอย่าง ทำให้คนส่วนมากยังรอๆ และหลายคนก็กลับมาแบบกระทันหัน เพราะไม่เตรียมไว้ก่อน เกิดเจ็บป่วยต้องหาคนดูแล ก็รีบกลับ เมืองไทย เรื่องต่างๆที่ต้องทำก็ยังทำไม่เรียบร้อย แต่ก็ไม่เกิน ความสามารถที่จะทำได้ สามารถมอบฉันทะให้คนที่ไว้ใจได้ดูแล เรื่องการเงินผ่านทางทนายและถ้าไม่ใช่ญาติ ทนายก็จะแนะนำ ด้วยว่าควรจ่ายผู้จัดการมรดกอย่างต่ำ 1% ของทรัพย์สิน แต่ก็แล้วแต่เราจะตกลงกันคนที่เราแต่งตั้งให้มาดูแลทรัพย์สิน ถ้าเป็นญาติทางเมืองไทยทำเรื่องจะลำบาก เพราะไม่ใช่ คนอเมริกกัน หรือไม่มีใบกรีนการ์ด ก็ยุ่งยากที่เดียว ได้ข่าว มีรุ่นพี่ให้หลานที่เมืองไทยมาจัดการ ต้องใช้เวลาเกือบห้าหกปี และเสียภาษีต่างๆระยะที่รอ เป็นหมื่นกว่าเหรียญ
****
จบพยาบาลอนุปริญญาที่รพ.ศิริราช ปี 2511
*****
ทำงานพยาบาลที่รพ.St Luke Rossevelt Hospital Center ส่วนหนี่งของสวัสดิการคือเรียนต่อเบิกเงินได้ สามารถเบิกเงิน ค่าเล่าเรียนได้จนจบสูงสุด ปริญญาเอก และจบปริญญาจะได้เงิน เดือนเพิ่มปริญญาตอีกปีละ $600 ด้วยถ้าจบปริญญาเอกก็ได้ $1,800
เรียนจบปริญญาตรี BS. Health Care Manangement St Francis College (St. Francis College is a private college in Brooklyn Heights, New York)
เกษียณปี 2019 / 2552
ความทรงจำดีๆหลังเกษียณ
จุดเปลี่ยนของชีวิตครั้งสุดท้าย ก่อนจบฉากชีวิต
ต้องเลือกอีกครั้ง เตรียมตัวว่าถ้าช่วยตัวเองไม่ได้ ก็ต้องปรับตัวไปอยู่เนิสซิ่งโฮมหรือ อยู่บ้านมีคนมาดูแล.. ไม่เป็นภาระให้ลูกหลาน
Friendship Blog/Klaibannn Blog newyorknurse
Create Date : 08 สิงหาคม 2564 |
Last Update : 10 สิงหาคม 2564 4:24:54 น. |
|
18 comments
|
Counter : 1576 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณหอมกร, คุณเริงฤดีนะ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณThe Kop Civil, คุณ**mp5**, คุณทนายอ้วน, คุณeternalyrs, คุณtuk-tuk@korat, คุณtoor36, คุณเนินน้ำ, คุณเซียน_กีตาร์, คุณสองแผ่นดิน, คุณอุ้มสี, คุณhaiku, คุณSweet_pills, คุณkae+aoe, คุณmcayenne94, คุณโอพีย์ |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:6:24:02 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:7:21:32 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:7:45:59 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:9:00:21 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:9:03:47 น. |
|
|
|
โดย: eternalyrs วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:12:53:38 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:16:04:58 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:17:21:41 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:23:47:16 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 10 สิงหาคม 2564 เวลา:0:46:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 สิงหาคม 2564 เวลา:5:13:10 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 10 สิงหาคม 2564 เวลา:18:41:35 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 10 สิงหาคม 2564 เวลา:21:05:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 สิงหาคม 2564 เวลา:6:54:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]
|
เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553
ยินดีต้อนรับค่ะ
จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ ้ จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย
จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์ เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป
จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้ ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ
"A time to enjoy, a time to spend time with your family and a time to be with your friends all comes with retirement"
*****
"Live The Moment"
อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น ในอดีตและกลัวหรือกังวล สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้" คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !! ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
*********
ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด ทุกๆคะแนน นะคะ
BG Popular Award # 19
BG Popular Award # 18
BG Popular Award # 17
BG Popular Award # 16
BG Popular Award # 15
BG Popular Award # 14
BG Popular Award # 13
BG Popular Award # 12
BG Popular Award # 11
BG Popular Award # 10
BG Popular Award # 9
BG Popular Award # 8
**********
ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
|
|
| |
อ่านแล้วก็นึกถึงจุดเปลี่ยนของแต่ละคน
ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ได้ทำอย่างที่คิดไว้นะครับ
เหมือนพี่น้อยก็อยากเป็นครู
แต่มาลงเอยกับอาชีพพยาบาล
แถมยังได้ไปทำงานที่ต่างประเทศด้วย