ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 327 "ภาษากาย"
ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 327 "ภาษากาย" โจทย์โดยคุณ จันทราน็อคเทิร์น ภาษากาย เป็นภาษาที่บางครั้งก็ข่วยแทนคำพูดได้หลายๆเรื่อง แต่เขียนไม่ค่อย ขอเอาข้อมูลของผู้ชำนาญมาให้อ่านกันนะคะ ภาษากาย หรือ Body Language เป็นการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่งของมนุษย์ที่ทำให้เรารับรู้ของอารมณ์ ความรู้สึกของคู่สนทนาได้ว่าเขาคิดอย่างไร เราสามารถรับรู้ได้ด้วยการสังเกต เหมือนคนพิการที่ไม่สามารถพูดได้ แต่สามารถสื่อสารกันด้วยภาษามือ ภาษากาย สีหน้าและท่าทางต่าง ๆ ทำให้สื่อสารกันได้ มาดูกันดีกว่าค่ะว่าภาษากายบอกอะไรได้บ้าง? อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/articles/body-language?ref=ct พูดไม่เก่งไม่เป็นไร เพราะภาษากายบอกได้ ว่าเขาคิดอย่างไร พูดไม่เก่งไม่เป็นไร เพราะภาษากายบอกได้ ว่าเขาคิดอย่างไร ภาษากาย หรือ Body Language เป็นการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่งของมนุษย์ที่ทำให้เรารับรู้ของอารมณ์ ความรู้สึกของคู่สนทนาได้ว่าเขาคิดอย่างไร แบบนี้แปลว่าอะไร ไปดูกันเลย ภาษากาย หรือ Body Language เป็นการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่งของมนุษย์ที่ทำให้เรารับรู้ของอารมณ์ ความรู้สึกของคู่สนทนาได้ว่าเขาคิดอย่างไร เราสามารถรับรู้ได้ด้วยการสังเกต เหมือนคนพิการที่ไม่สามารถพูดได้ แต่สามารถสื่อสารกันด้วยภาษามือ ภาษากาย สีหน้าและท่าทางต่าง ๆ ทำให้สื่อสารกันได้ มาดูกันดีกว่าค่ะว่าภาษากายบอกอะไรได้บ้าง? ภาษากายบอกอะไรได้บ้าง นักจิตวิทยาด้านพฤติกรรมที่มีชื่อเสียง Dr. Albert Mehrabian ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย ได้วิจัยเกี่ยวกับภาษากาย และค้นพบกฏที่เรียกว่า 7-38-55 หมายถึงการสื่อสารของคนเรานั้น มีเพียง 7% ที่สื่อสารผ่านคำพูด ในขณะที่องค์ประกอบอื่น ๆ อย่างน้ำเสียงและภาษากายนั้น มีสัดส่วนมากกว่า คิดเป็น 38% และ 55% ตามลำดับ ซึ่งสัดส่วนที่มากที่สุดในการสื่อสารของคนเราคือ “ภาษากาย” นั่นเองค่ะ และมีการทดลองให้ผู้เข้าร่วมได้ดูรายการทีวีโดยปิดเสียง และต้องเดาว่าเกิดอะไรขึ้น ตัวละครรู้สึก หรือมีอารมณ์แบบไหน ผู้หญิงสามารถทำคะแนนได้แม่นยำ ถึง 87% ซึ่งดีกว่าผู้ชาย (อย่าคิดจะโกหกเชียว เพราะเซ้นส์ผู้หญิงมันแรง!) และนี่คือเหตุผลว่าทำไม การแสดงออกทางภาษากาย ถึงเป็นเรื่องสำคัญค่ะ ยิ่งเป็นคนที่พูดไม่เก่ง หรืออธิบายไม่เก่งนั้น บางครั้งก็ทำให้เราสับสนและไม่เข้าใจใช่ไหมล่ะคะ ว่าฝ่ายตรงข้ามจะสื่ออะไร หรือรู้สึกยังไง วันนี้เรามีเทคนิคการอ่าน และการวิเคราะห์ภาษากายง่าย ๆ มาฝากค่ะ วิเคราะห์ภาษากายของคู่สนทนา ดูว่าเขาคิดอย่างไร การสบตา บ่งบอกถึงความสนใจ เขาว่าสายตา มันหลอกกันไม่ได้~ เพราะว่าดวงตา เป็นหน้าต่างของจิตใจใช่ไหมล่ะคะ การวิเคราะห์ภาษากายของคู่ตรงข้าม อ่านได้ง่าย ๆ จากการมองตาค่ะ การที่ฝ่ายตรงข้ามจ้องตาเราประมาณ 60-70% จะเป็นการสื่อว่า “เขามีความสนใจ” กับบทสนทนานั้น ๆ แต่ถ้าอีกฝ่ายหลบตา หรือละสายตาบ่อย ๆ ก็แปลว่า “รู้สึกฟุ้งซ่าน อึดอัด และกำลังปกปิดความรู้สึก” หรือแปลว่ากำลังขาดความมั่นใจอยู่ก็ได้ นอกจากการหลบสายตาแล้ว การพยายามเพ่งสายตา ไม่กระพริบ ก็หมายถึงการพยายามที่จะปิดบังความรู้สึกได้เช่นกัน ถ้าอีกฝ่ายเบิกตากว้างขึ้น ก็แปลว่าเขามีความสนใจ หรือเจอสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกนั่นเองค่ะ เช่น อารมณ์ตกใจ หรือประหลาดใจ การหลุบตาลงต่ำ หมายถึง การยอมจำนน การรู้สึกผิด หรือรู้สึกกลัว ถ้ากระพริบตาเร็วและถี่ จะหมายถึง “ลำบากใจหรือไม่สบายใจ” การจ้องตาระหว่างพูดคุยก็เป็นมารยาทที่ดี แต่การที่เราจ้องตาอีกฝ่ายจนเกินไป ก็อาจจะหมายถึงความก้าวร้าว และทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าโดนคุกคามได้ค่ะ นอกจากตาแล้ว ใบหน้า หัว หรือริมฝีปาก ก็บ่งบอกอารมณ์ได้ บางคนที่สายตาไม่สื่ออารมณ์ เพราะชอบทำหน้าตายตลอดเวลา ก็ลองสังเกตุกล้ามเนื้อบนใบหน้า ริมฝีปาก และการขยับของหัวดู เพื่ออ่านความคิดแทนได้ค่ะ ภาษาสากลง่าย ๆ ที่ทุกคนเข้าใจ อย่างเช่น การส่ายหัวคือการปฏิเสธ และการพยักหน้า คือการเห็นด้วย และการให้ความสนใจ แต่พยักหน้าแบบถี่ ๆ เกินไป อาจจะบ่งบอกถึงความ “หมดความสนใจ” แต่ไม่อยากเสียมารยาทค่ะ บางคนที่ชอบจับใบหน้าบ่อย ๆ จะหมายถึงคน ๆ นั้นกำลังรู้สึกประหม่า ทำอะไรไม่ถูก เลยหาอะไรจับเพื่อให้รู้สึกมั่นคงขึ้น การก้มหัวลงเล็กน้อย สื่อถึงการรู้สึกไม่มั่นใจ แต่ถ้ามีคนชม หมายถึงการตอบรับคำชมด้วยความรู้สึกเขินอายค่ะ การจับที่หูบ่อย ๆ สื่อถึงความรู้สึกไม่แน่ใจ ส่วนการแตะหรือถูจมูก หมายถึง ความสงสัย หรือการปฏิเสธความผิด ถ้าคนที่รู้สึกเครียดมาก ๆ จะเห็นถึงความตึงที่บริเวณกราม คอ และคิ้วขมวด ถ้าหัวคิ้วด้านในขยับขึ้น หมายถึง คน ๆ นั้นกำลังรู้สึกเศร้า แต่ถ้าเลิกคิ้วขึ้น จะแปลว่า คน ๆ นั้นรู้สึกกังวล ประหลาดใจ หรือกลัว การขบริมฝีปากล่าง หมายถึง ความรู้สึกที่ไม่มั่นคง เครียด กลัว และวิตกกังวล ส่วนการเม้มปาก คือการเก็บอารมณ์ การซ่อนปฏิกริยา การอ้าปากเล็กน้อย หมายถึง มีความสุข หรือการมองโลกในแง่ดี แต่การแบะปากเล็กน้อย หมายถึงอารมณ์เศร้า หรือไม่พอใจ ส่วนใหญ่แล้ว เวลาที่คนเรายิ้มด้วยความจริงใจ จะยิ้มไปทั้งปากและตา จนเห็นรอยตีนกา แต่ถ้าคน ๆ นั้นยิ้มแต่ปาก ตาไม่ยิ้ม หมายถึง รอยยิ้มที่เสแสร้ง หรือกำลังโกหกอยู่ การวางมือบนแก้ม หรือการลูบคาง สื่อถึงการกำลังคิดหรือไตร่ตรอง แขนและนิ้ว หรือท่าทางต่าง ๆ ก็บ่งบอกได้ ในหนังสือ How to Read a Person Like a Book ของ Gerard I. Nierenberg และ Henry H. Calero บอกว่า พวกเขาบันทึกวิดีโอเกี่ยวกับการเจรจามากกว่า 2,000 รายการ พบว่า การเจรจามักจะไม่ประสบผลสำเร็จถ้าหากว่าคู่สนทนานั่งไขว้ขา เพราะการนั่งไขว้ขา หรือนั่งไขว่ห้าง ในทางจิตวิทยา การไขว้ขาหรือแขนเป็นสัญญาณที่สื่อถึงการ “กีดขวาง” ไม่ว่าจะทางจิตใจ อารมณ์ หรือร่างกายจากฝ่ายตรงข้าม (แต่บางคนก็รู้สึกว่าเป็นท่าที่สบาย ถ้าไม่มีแรงตึงหรือเกร็งที่กล้ามเนื้อ) นอกจากนี้ การนั่งไขว้ขาแล้วกระดิกเท้า หมายถึงเบื่อ หรือหมดความอดทน การเอามือเท้าเอว จะบ่งบอกว่า “พร้อม และสามารถรับมือกับสถานการณ์นั้นได้” หรือในบางสถานการณ์จะหมายถึง การแสดงความก้าวร้าว และไม่เข้าใจได้ การนั่งค้อมตัวไปข้างหน้า หมายถึง การไม่สนใจ การไม่มีสมาธิ แต่การยืดตัวตรง หมายถึงการตั้งใจ การสนใจ การนั่งแยกขากว้าง ๆ หมายถึงรู้สึกปลอดภัย ผ่อนคลาย และสบายใจ การหันฝ่ามืออกด้านนอก หมายถึง การปฏิเสธ ถ้าประกบมือแล้วใช้นิ้วสอดประสานกัน หรือปลายนิ้วกดเข้าหากัน หมายถึง การคิด และการประเมินสถานการณ์ แต่ถ้าฝ่ามือประกบกันแต่กางนิ้วออก สื่อถึงการเสนอความคิดเห็น ภาษากายแบบอื่น ๆ นอกจากที่ยกตัวอย่างมาแล้ว ภาษากายแบบอื่น ๆ เช่น การเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงหรือจับกระเป๋าสะพาย หมายถึง รู้สึกอึดอัด ไม่อยากคุยด้วย การรักษาท่าทางให้สง่าผ่าเผย สื่อถึงความเป็นมิตร และจริงใจ การเว้นระยะห่าง ก็สื่อถึงความสนิทสนม หรือการเว้นระยะห่างที่น้อยเกินไปกับคนไม่รู้จัก ก็ทำให้รู้สึกถูกคุกคามได้ และสุดท้าย ถ้าอยากให้เดทแรก หรือการเจอกับเพื่อนใหม่ครั้งแรกมีความประทับใจ ให้ลองทำในสิ่งที่คล้าย ๆ กับฝ่ายตรงข้าม เช่นการหยิบช้อนขึ้นมากิน หยิบน้ำขึ้นมาจิบ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และสื่อถึงการเปิดใจยอมรับได้อีกด้วยค่ะ Reference : Jinxi Boo. 2009. "What Does Your Body Language Say About You? How To Read Signs and Recognize Gestures" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.jinxiboo.com/blog/2009/12/15/what-does-your-body-language-say-about-you-how-to-read-signs.html สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 Jon Michail. 2020. "Strong Nonverbal Skills Matter Now More Than Ever In This "New Normal"" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.forbes.com/sites/forbescoachescouncil/2020/08/24/strong-nonverbal-skills-matter-now-more-than-ever-in-this-new-normal/?sh=1d35061b5c61 สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 Kendra Cherry. 2019. "Understanding Body Language and Facial Expressions" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.verywellmind.com/understand-body-language-and-facial-expressions-4147228 สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 what you will learn. 2019. "The Definitive Book of Body Language – by Barbara Pease & Allan Pease" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.whatyouwilllearn.com/book/the-definitive-book-of-body-language/ สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ภาษากายเป็นภาษาสากลที่ใคร ๆ ก็สามารถเข้าใจได้โดยไม่ต้องพูด อย่างการชูนิ้วกลางเพื่อด่าใครซักคน เป็นต้น แต่ก็มีบางที ที่ภาษากายเป็นการแสดงเฉพาะกลุ่ม เช่น ที่ประเทศอินเดีย การส่ายหัวถือเป็นการตอบรับ ถึงแม้ว่าภาษากายจะเป็นภาษาสากล แต่การศึกษาวัฒนธรรมของแต่ละประเทศก็เป็นอีกอย่างที่ต้องรู้ไว้ เพื่อไม่ให้การสื่อสารผิดพลาด และทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ The CUBE แบบทดสอบจิตวิทยาจากญี่ปุ่น ล้วงลึกตัวตนผ่านจินตนาการแบบแม่น ๆ Are You in a Toxic Friendship? เช็กลิสต์! เพื่อนแบบไหนที่ควรเลิกคบ เหตุผล ทำไมบางคนถึงสบายใจกว่า ที่จะคุยความลับกับคนแปลกหน้า อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/articles/body-language?ref=cthttps://www.wongnai.com/articles/body-language Friendship Blog/ Education Blog newyorknurse 1
Create Date : 04 พฤษภาคม 2566
Last Update : 19 พฤษภาคม 2566 3:01:25 น.
4 comments
Counter : 362 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณปัญญา Dh , คุณไวน์กับสายน้ำ , คุณโอน่าจอมซ่าส์ , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณtoor36 , คุณปรศุราม , คุณThe Kop Civil , คุณทนายอ้วน , คุณhaiku , คุณสองแผ่นดิน , คุณSweet_pills , คุณเริงฤดีนะ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 19 พฤษภาคม 2566 เวลา:10:16:22 น.
โดย: Sweet_pills วันที่: 21 พฤษภาคม 2566 เวลา:0:15:59 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 21 พฤษภาคม 2566 เวลา:4:51:57 น.
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [? ]
เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553 ยินดีต้อนรับค่ะ จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ ้ จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์ เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้ ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ "A time to enjoy, a time to spend time with your family and a time to be with your friends all comes with retirement" ***** "Live The Moment" อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น ในอดีตและกลัวหรือกังวล สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้" คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !! ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ ********* ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด ทุกๆคะแนน นะคะ BG Popular Award # 19 BG Popular Award # 18 BG Popular Award # 17 BG Popular Award # 16 BG Popular Award # 15 BG Popular Award # 14 BG Popular Award # 13 BG Popular Award # 12 BG Popular Award # 11 BG Popular Award # 10 BG Popular Award # 9 BG Popular Award # 8 ********** ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560 ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
บางทีเราพูดต่อหน้าผู้ฟังกลุุ่มใหญ่.. มีคนกอดอกฟัง 3 คน
เราก็รู้แล้วว่า เขาไม่ยอมรับเรื่องที่เราพูดหรือแนวคิดที่เราพูด
ออกไป
ถ้าส่วนใหญ่เขานั่งฟัง ตาแป๋วใจเราพองโต อืมมม..เราพูดในสิ่ง
ที่เขาอยากรู้