ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 332 "สัมภาษณ์ตัวเอง"

 

ตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 332
"สัมภาษณ์ตัวเอง"
โจทย์โดยคุณ กะว่าก๋า
แนวทางการเขียน
ตั้งคำถาม 3 ข้อถามตัวเอง
จะถามเรื่องอะไรก็ได้ แล้วก็ตอบคำถามนั้น
 

คำถามที 1
เพื่อนๆสว.ช่วงนี้เตรียมตัวกลับเมืองไทยกัน  เราก็อยากกลับเมืองไทย
ทำไมถึงอยากกลับเมืองไทย ?

เพื่อนๆ ส่วนมากอยากกลับเมืองไทยกัน  ส่วนมากก็กลับมาอยู่เมืองไทยกันเรียบร้อยแล้ว
ขายบ้าน ส่งของกลับมาอยู่เมืองไทย  ไปซื้อบ้านกันบ้าง ซื้อคอนโดบ้าง ไปอยู่กับญาติบ้าง
จขบ.ก็ยังตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะไปอยู่กับญาติหรือไปซื้อคอนโดหรือปลูกบ้านดี คุยกับเพื่อน
เพือนก็บอกถ้ากะไปๆกลับๆ บ้านปลวกกินแน่ เพื่อนแนะนำว่าถ้ายังไม่ไปปักหลักก็เช่าคอนโด
หรืออยู่กับญาติไปก่อน 

บ้านเกิด ตอนนี้ก็มีคนแต่สามคนพีสะใภ้ หลานชายกับหลานสะใภ้ เหลนสองคนก็ไปเรียน
กรุงเทพกันแล้ว บ้านก็ว่างไม่มีคนจะอยู่
ที่จริงเวลาเรากลับมาเมืองไทยอยู่บ้านญาติ เราก็ช่วยค่าใช้จ่ายทุกเดือน
ไม่อยากให้เรียกว่าเอาเปรียบญาติพีน้องและสบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ถึงเราอยู่ที่นิวยอร์กก็ใช้ระบบช่วยการจ่ายไม่ให้ใครเลี้ยง อาจจะ
เป็นบางครั้งเราจ่ายหมดก็บอกเขาไป ส่วนมากจะแชร์กัน เวลาไปไหนๆ
เพราะทุกคนมีรายได้ประจำไม่ต้องให้ใครมาเลี้ยงใคร สบายใจกัน
บ้านพี่สาวทีอยู่ในรั่วเดียวกัน ก็มีกันสามคน มีห้องว่าง ไม่มีคนอยู่ กลับมาที่ไรก็พักที่นี่ได้
ตกลงก็ยังไม่ลงตัว  เพราะกลับมาตอนนี้จะไปไหนก็ลำบาก เพราะอยู่ต่างจังหวัด เพื่อนๆ
ก็อยู่กรุงเทพ จะเข้ากรุงเทพทีก็ต้องนั่งรถตู้ ขับเร็วมาก กลัวจริงๆ จะซื้อรถขับเองก็ไม่กล้าอีก
เรื่องนี้ก็ทำให้ยังไม่ค่อยอยากกลับมาเมืองไทย เพราะจะไปไหนทีก็ลำบาก ตอนนี้อยู่ที่นิวยอร์ก
จะไปไหนก็ขับรถไปเองได้

สรุปอยากกลับมาเมืองไทย แต่ก็ยังไม่ได้เวลาเหมาะสม กลายเป็นเวลาคงต้องรอไปอีกสักพัก
อีกอย่างหนี่งที่กังวลก็คือถ้าเกิดช่วยตัวเองไม่ได้ คงต้องกลับมาอยู่เนิสซิ่งโฮมบ้านเรา
หรืออยู่บ้าน จ้างคนมาดูแล ซี่งหาได้ราคาก็ไม่แพงเหมือนที่นิวยอร์ก 
เพื่อนกลับมาอยู่เนิสซิ่งโฮมที่กรุงเทพอยู่มาเกือบสามปีแล้ว น่าอยู่เหมือนกันราคาเดือนละ
ประมาณ 4-5 พันเหรียญ

https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=newyorknurse&month=06-2021&date=20&group=8&gblog=390


*******
คำถามที่ 2

เรื่องสุขภาพจะทำอย่างไร เพราะไม่มีประกันสุขภาพ?
เพื่อนบอกว่าเราสามารถไปหาแพทย์ภาคค่ำได้ ครั้งละ 900 บาท
ถ้ามีอะไรต้องผ่าตัดหรืออะไร ก็จ่ายไปละกัน 
สำหรับเราก็อายุจะ 80 แล้ว เป็นอะไรก็คงรักษาตามอาการ
คงไม่ผ่าตัดใหญ่ หรือรักษาอะไรให้ยืดเยื้อแล้ว

คำถามที่ 3
ชีวิตเข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว  ไม่มีอะไรที่ต้องห่วงแล้ว ควรเตรียมตัวจากโลกนี้ได้แล้ว
ทำอย่างไร?

จัดการเรื่องทรัพย์สินให้เรียบร้อย จัดแบ่งให้เรียบร้อย มีผู้จัดการมรดกและเขียนสั่งไว้
เป็นลายลักษณ์อักษรให้เรียบร้อย เวลาจากไปคนอยู่จะได้ไม่มีปัญหา ส่วนไหนจะให้แบ่งให้ใคร
ก็จัดการให้เรียบร้อย  เป็นความรู้เรื่องมรดกของท่านที่อยู่อเมริกา (ประเทศอื่นๆไม่ทราบว่าจะ
เหมือนกันไหม) จากประสบการณ์ที่เห็นสองสามเคส มีพี่คนไทยเสียชีวิต ไม่มีญาติที่อยู่อเมริกา
แต่ใส่ชื่อญาติที่เมืองไทย ญาติเมืองไทยไม่มีสิทธิมารับทรัพย์สินที่นี่ ถ้ามารับทรัพย์สินต้องมีคนที่
มีสัญชาติอเมริกันจัดการเรื่องทรัพย์สินแทน เป็น executor of estate ทำด้วยทนายที่นี่ และเป็น
กฎซี่งจะอยู่ในใบสัญญาเลยว่า คนจัดการทรัพย์สินจะได้รับเงินจากทรัพย์สิน 3% จะถูกหักขี้นมา
และเงินต้องเสียภาษ๊เรียบร้อย  ก่อนจะเอาเงิน
ไปแบ่งให้ญาติที่เมืองไทย  ซี่งถ้าหากเตรียมทำไว้ก่อน
ก็จะไม่ต้องเป็นปัญหาเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ดี คนที่ไม่มีญาติ
ที่เป็นคนทีมีสัญชาติอเมริกัน
ก็ต้องเสีย 3% นอกจากจะขอให้เพื่อนสนิททำให้
เพื่อนก็คงไม่รับเงิน 3% 

สำหรับคนที่มีครอบครัวลูกหลานก็จัดการทำให้ลูกหลาน
ให้เรียบร้อยไว้ บางคนก็กลัวว่าถ้าใส่ชื่อลูกหลาน
เกิดเอาไปใช้หมดก่อนคนให้ตาย ที่นี่จะมีให้ทำ
Trust ซี่งเป็นชื่อของเรา เวลาอะไร
เกิดขี้นคนใน Trust ที่คนทำระบุไว้ ก็จะได้จัดการกับมรดก
ที่ดีอีกเรื่องก็คือ เงินที่อยู่ใน Trust
ก็จะเสียภาษีส่วนที่ถอนออกมา ถ้ายังอยู่ใน Trust
ก็ไม่เสียภาษี คนที่มีชื่อใน Trust ตามสัดส่วน
สามารถที่จะทำการบริหารเงิน เช่นฝากประจำนานได้ดอกเบี้ยมาก
หรือสามารถซื้อหุ้นได้ด้วย

มีข้อมูลมากมาย ต้องคุยกับทนาย และเสียค่าทำ Trust
ครั้งล่าสุดทราบมาว่าราคา $6,000 ต่อคน
ถ้าทำสามีภรรยาก็เสีย $12,000
จัดการเรื่องทรัพย์สินให้เรียบร้อย และจัดการอีกอย่างคือ
Power Attorney คือมอบอำนาจให้มีคน
สามารถถอนเงินจากบช ธนาคารเพื่อค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
เวลาเจ้าของเงินเกินไม่สามารถทำเองได้
เช่นเจ้าของเงินป่วย หรือความจำเสื่อม ไม่สามารถจัดการ
จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟและค่าใช้จ่ายต่างๆ
รวมทั้งเกิดเจ็บป่วยจะได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วย ส่วนมากคนที่มีลูก
ก็ให้ลูกทำ แต่คนที่ไม่มีลูก
ก็ต้องมีคนที่ไว้ใจได้ทำหน้าที่นี้และการมอบอำนาจนี้จะสินสุด
เมื่อผู้มอบอำนาจเสียชีวิต
และคำสั่งของ Trust จะมาแทนอำนาจนี้

เตรียมจิตใจให้พร้อมที่จะย้ายจากโลกนี้ไป จะเชื่อหรือไม่ว่า
มีชิวิตหลังความตาย ที่จริงก็ควรทำ
มาตั้งนานแล้ว  แต่มัวแต่ทำงาน ดูแลครอบครัว และจริงๆก็
ไม่ได้สนใจทางธรรมะมาก ได้แต่
ทำบุญตามเทศกาลของศาสนา ไม่ได้สนใจจะศีกษาธรรมะ 
มาช่วงหลายปีทีผ่านมา มีเวลา
ว่างไม่ต้องกังวลเรื่องของครอบครัว ลูกๆช่วยตัวเองกันได้แล้ว
ก็มาศีกษาฟังธรรมและปฎิบัติ
ธรรม ก็นับว่าโชคดีพอสมควรที่ยังมีโอกาศได้ศีกษา
และปฎิบัติธรรมบ้าง 

******

 

"ความสำคัญของการเจริญสติ “
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี


เวลาใจสงบตัวลง ความคิดปรุงแต่งก็จะหยุดชั่วคราว ตอนนั้นก็จะปรากฏให้เห็นว่า ความกลัวไม่ได้อยู่ภายนอก แต่อยู่ในใจของเรานี่เอง อยู่ที่ความคิดปรุงแต่ง ได้ยินเสียงอะไรก็ปรุงแต่งว่าเป็นผี เป็นอะไรต่างๆนานา แทนที่จะไปคิดอย่างนั้น เราต้องสวดมนต์ไปหรือบริกรรมพุทโธๆไป อย่าปล่อยให้ใจมีโอกาสไปคิดถึงสิ่งที่เรากลัว พอจิตสงบแล้ว ก็จะรู้ว่าสิ่งที่เรากลัวนั้นไม่ได้มาทำอะไรเราเลย เขาไม่รู้เรื่องอะไรของเราเลย เราต่างหากที่ไปกลัวเขาเอง

นี่เป็นอุบายของสมาธิ คือบริกรรมพุทโธ หรือสวดมนต์บทใดบทหนึ่งที่เราถนัด ฝากเป็นฝากตายไว้กับการสวดเลย เหมือนคนที่ใกล้ตาย ไม่รู้จะยึดกับอะไรก็ยึดการสวดมนต์ ถ้าสวดได้อย่างต่อเนื่องจนจิตรวมลงเข้าสู่สมาธิได้ เวลาตายไปก็จะไปสู่สุคติ ถ้าฝึกมามากหรือฝึกจนชำนาญแล้ว เวลาเข้าสู่วาระคับขันจะมีที่พึ่ง ด้วยการสวดมนต์นี่แหละ สวดไปจนจิตใจสงบนิ่ง ก็จะไม่รู้เรื่องของร่างกาย จะหยุดหายใจไปก็ไม่เป็นปัญหา จิตตอนนั้นเป็นสุคติแล้ว เป็นฌานเป็นสมาธิ เป็นพรหมไปแล้ว

นี่คือความสำคัญของการเจริญสติ ทำจิตใจให้สงบ ถ้าทำถึงขั้นนี้ได้ ตายไปก็จะได้ไปชั้นพรหม อย่างที่พระอาจารย์ของพระพุทธเจ้า ๒ รูป ที่มีความชำนาญในการเข้าออกในฌานขั้นต่างๆ เวลาที่ท่านจะตายท่านก็ใช้การเจริญสมาธินี้ ทำจิตให้เข้าสู่ฌานเข้าสู่ความสงบ แล้วจิตก็จะแยกออกจากร่างกายไป จิตก็ไปตามสถานภาพของจิต ถ้าเป็นฌานก็จะเป็นพรหมโลก รูปฌานก็เป็นรูปภพ อรูปฌานก็เป็นอรูปภพ ถ้าไม่สงบในระดับฌาน แต่ก็ไม่ฟุ้งซ่านวุ่นวาย ยังรับรู้รูปเสียงกลิ่นรสอยู่ แต่ไม่ทุกข์ทรมานใจ ก็จะเป็นชั้นเทพ ไปเสวยรูปเสียงกลิ่นรสของเทพ ถ้าว้าวุ่นขุ่นมัวหวาดกลัวจนเป็นบ้าก็จะต้องไปอบาย ไปนรก เป็นเปรต เป็นเดรัจฉาน เป็นอสุรกาย

อยู่ที่การควบคุมความคิดปรุงแต่งนี่เอง จึงต้องพยายามฝึกสติอยู่เรื่อยๆ เพื่อจะได้ขั้นที่ ๑ คือสมาธิ ถ้าได้ปัญญาก็จะได้ดวงตาเห็นธรรม จะสามารถดับหรือควบคุมความคิดปรุงแต่งให้อยู่ในทางมรรค ไม่ให้ไปทางสมุทัยได้ จะดับความทุกข์ได้อย่างถาวร ตามลำดับขั้นของปัญญา ขั้นโสดาบันก็จะดับความทุกข์หรือควบคุมความคิดได้ในระดับหนึ่ง ขั้นสกิทาคามีขั้นอนาคามีก็ควบคุมความคิดได้ในอีกระดับหนึ่ง ขั้นพระอรหันต์ก็จะควบคุมความคิดได้ทั้งหมด.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

จุลธรรมนำใจ ๒๓ กัณฑ์ที่ ๔๑๖
วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๓

*********
บ้านสวนที่อยากกลับมาอยู่







บรรยากาศบ้านเรา ดำเนินสะดวก
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=newyorknurse&month=19-02-2014&group=2&gblog=444
วางแผนกลับเมืองไทย ต้องทำอะไรก่อนดีน้า

******

สงกรานต์บ้านเกิดเรา หลานเหลนสนุกสนาน
https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=newyorknurse&month=04-2021&date=11&group=23&gblog=217

 
 
Friendship Blog
 
newyorknurse


 


Create Date : 17 กรกฎาคม 2566
Last Update : 1 สิงหาคม 2566 3:37:34 น. 11 comments
Counter : 624 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณRain_sk, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณSweet_pills, คุณหอมกร, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtoor36, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณปัญญา Dh, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณกะว่าก๋า, คุณเนินน้ำ, คุณร่มไม้เย็น, คุณhaiku, คุณ**mp5**, คุณkae+aoe, คุณJohnV, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสองแผ่นดิน, คุณpeaceplay, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณทูน่าค่ะ


 
โจทย์นี้สนุกและท้าทายค่ะ
ได้ทราบเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของแต่ละบล็อก
ฝากใส่ชื่อ เริงฤดีนะ ในกองมรดกด้วย
หากแบ่งสรรปันส่วนไม่ลงตัว
อิ อิ

พี่น้อยยังแข็งแรง
อาก่าศทางนู้นก็เย็นสบายดี
ลูกหลานสายตรงก็อยู่ NY ใกล้ๆกัน
ค่อยตัดสินใจค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 สิงหาคม 2566 เวลา:5:29:00 น.  

 
คุณน้อยอยู่เมกานาน เลยคุ้นเคยการวางแผนชีวิต

...
น้องสาวผมก็วางแผนจากทำราชการ ไปปลูกบ้านตามฝันที่
ต่างอำเภออากาศดี อยู่หลายปี อ้าวเด็กที่อยู่ด้วยไปมี ปั๋ว
ก็จากไปไม่มีคนทำอาหารให้กิน ซักผ้า

อ้าวลูกแต่งงานก็ไปอยู่กับครอบครัว...เลยอยู่บ้านคนเดียว
จะขับรถเข้าเมืองก็สบาย ๆ แต่นานเข้าเวลาไม่สบายยุ่ง
แล้วซิ

ตอนหลังยอมทิ้งบ้านในฝัน ปล่อยให้ฝุ่นจับ ต้นไม้ต้นหญ้า
ไม่มีใครตัดช่าง ไปอยู่กับลูก/หลานดีกว่าในเมือง(ชานเมือง)
ไปหาแพทย์ตามที่รับนัด

เพื่อนผมก็อยู่บ้านพักคน สว.เอกชนเดือนหลายหมื่น หลายปี
ตอนนี้ต้องปล่อยบ้านตนเองให้ เจ้าของบ้านพักรับไป(ขาย)
เวลาไม่สบายก็มี พยาบาลดูแล ถ้าต้องถืงมือแพทย์ก็จะมี
รถพาไปส่ง รพ. ก็ดีครับ

แต่ก็นั่นแหละเราคนไทย อยากอยู่ใกล้ลูกหลานผมเคยไปดู
เพื่อนหงอยเหงามาก เพราะลูก ๆ ไปทำงาน ตจว.หรือไกลๆ
คนไทยยังพอ มีวิถีชีวิตครอบครัวอยู่ เลยไม่เหงามาก

แต่ควรมีหรืออยู่ไม่ไกล รพ.มากนักครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 สิงหาคม 2566 เวลา:6:21:14 น.  

 
หวัดดีค่ะพี่น้อย



โดย: หอมกร วันที่: 1 สิงหาคม 2566 เวลา:8:15:47 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่น้อย

พี่น้อยคิดและวางแผนไว้ครอบคลุมมากค่ะ
ทั้งการคิดเรื่องที่อยู่อาศัย เรื่องสุขภาพ
และการจัดการทรัพย์สิน
ซึ่งล้วนสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตหรือป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ในอนาคตนะคะ

เป็นคำถามและคำตอบที่อ่านแล้วย้อนคิด
ถึงความสำคัญของทั้งสามเรื่องนี้มากขึ้น
ขอบคุณพี่น้อยมากค่ะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 1 สิงหาคม 2566 เวลา:8:50:22 น.  

 
วางแผนเป็นอย่างดีเลย อายุมากขึ้นก็มีเรื่องให้ต้องจัดการกันมากขึ้น

คนสูงอายุถ้าไม่ถึงขั้นจำเป้นต้องผ่าตัด ส่วนมากก็รักษาตามอาการแหละครับ ส่วนหนึ่งเพราะผ่าตัดใหญ่มันฟื้นตัวยากด้วยสำหรับคนสูงอายุ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 สิงหาคม 2566 เวลา:9:44:09 น.  

 
สวัสดีครับ


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 1 สิงหาคม 2566 เวลา:15:55:48 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

พี่น้อยจัดการทุกสิ่งไว้อย่างดีเลยครับ
และมีแนวคิดที่ดีมากในเรื่องการจัดการทรัพย์สินต่างๆไว้ให้เรียบร้อย
ลูกๆจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันในภายหลังนะครับ

ผมเพิ่งเห็นตัวอย่างคนรู้จักจากไปกระทันหัน
เมียใหม่กับลูกจัดการมรดกไม่ได้ ทะเลาะกันไปเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 สิงหาคม 2566 เวลา:5:38:55 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 3 สิงหาคม 2566 เวลา:15:04:56 น.  

 
สวัสดี จ้ะ คุณน้อย

อ่าน ตะพาบ ทั้ง 3 ข้อของคุณน้อย ให้ข้อคิดดี ๆ ทั้ง 3 ข้อ
เลย จ้ะ ข้อหนึ่ง ครูเชื่อว่าคนที่จากเมืองไทยไปทำงานอยู่ต่าง
ประเทศ น่าจะเป็นเหมือนคุณน้อยนะ คือ เมื่อถึงวัยเกษียณแล้ว ก็
อยากกลับประเทศไทยกันทั้งนั้น เพราะเป็นถิ่นเกิดของเรา ส่วนลูก ๆ
หลาน ๆ ที่เกิดที่เมืองนอก คงน้อยนักที่อยากกลับประเทศของ
พ่อแม่เขาคงชินกับความเป็นอยู่ของเขาที่โน่นแล้ว เนาะ ครูก็เห็นด้วยนะ ว่า คุณน้อยน่าจะกลับมาอยู่เมืองไทยดีกว่า น่าจะอบอุ่นใจ
มากกว่าได้ใกล้ชิดญาติ ๆ ได้ใกล้ชิดเพื่อนฝูง เนาะ
ข้อสอง เป็นเรื่องของสุขภาพยามเจ็บป่วย ซึ่งทุกคนย่อมเจอ
แน่นอน ยังไงเมืองไทย หมอเก่ง ๆ ก็มีมาก ข้อสำคัญ ค่ารักษา
ถูกกว่าต่างประเทศแน่นอน จ้ะ
ข้อสาม เป็นการเตรียมการเรื่องสมบัติของเราให้เรียบร้อยก่อนที่
เราจะกลับไปสู่ที่เดิมของเรา ก็เป็นสิ่งดีค่ะ ไม่ทำให้คนอยู่หลัง
ทะเลาะเบาะแว้งเรื่องสมบัติของเรา อิอิ แต่ครูก็ยังไม่ได้เตรียมการ
เรื่องนี้เลย อิอิ
โหวดหมวด ตะพาบ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 5 สิงหาคม 2566 เวลา:12:39:36 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่น้อย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 สิงหาคม 2566 เวลา:6:15:55 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่น้อย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 สิงหาคม 2566 เวลา:5:02:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]






เริ่มเขียนBlog
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553

ยินดีต้อนรับค่ะ

จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ
ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า
รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย
สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness
เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ
จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย

จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ
เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป

จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้
ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ
ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน
และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ
ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ

"A time to enjoy,
a time to spend time with your family
and a time to be with your friends
all comes with retirement"


*****


"Live The Moment"

อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น
ในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้"
คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า
น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา
และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ
หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ


*********


ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด
ทุกๆคะแนน นะคะ

BG Popular Award # 19


BG Popular Award # 18


BG Popular Award # 17


BG Popular Award # 16


BG Popular Award # 15


BG Popular Award # 14


BG Popular Award # 13


BG Popular Award # 12


BG Popular Award # 11


BG Popular Award # 10


BG Popular Award # 9


BG Popular Award # 8

**********



ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ


ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
Flag Counter
New Comments
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2566
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 กรกฏาคม 2566
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add newyorknurse's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.