|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ชิโน-โปรตุกี-สีแบบตรัง
| | | |
ชื่อภาพ : หัวกบและอาคารแบบชิโนโปรตุกี สีเยลโล่กรีน
สถานที่ : อ.เมือง จ.ตรัง
เทคนิค : สีน้ำบนกระดาษ
ขนาด : ๒๘ x ๓๘ เซนติเมตร
ชิโน-โปรตุกี-สีแบบตรัง
โปรตุเกสครองเมืองมะละกา
ศิลปะวิทยาตามมาด้วย
โปรตุกีส-สถาปัตยกรรม อำนวย
แบบบ้านสวยช่างปีนังข้ามฝั่งไทย
เกิดแบบอย่าง ชิโน-โปรตุกีส
จารีตจีนช่างผสมนิยมสมัย
สู่ภูเก็ต ตะกั่วป่า พังงาไก ล
ระนอง-ตรังหลั่งไหลสายสัมพันธ์
Sino หมายถึงจีน (ไชนิส) ส่วน Portuguese ก็หมายถึง โปรตุเกส เจ้าอาณานิคม ที่มาครอบครองคาบสมุทรมลายู ดินแดนแห่งเครื่องเทศดีบุกและยางพารา
ชาวโปรตุเกสได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานและทำการค้าบริเวณเมืองท่ามะละกา ช่องแคบสำคัญ-ที่เป็นทางผ่าน ด่านสินค้า เมืองท่าใหญ่ ที่ เรือพ่อค้าวานิชต้องมาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า และได้นำเอาศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนวิทยาการตะวันตกเข้ามาเผยแพร่ ได้สร้างบ้านแปลงเมืองตามแบบบ้านเกิดเมืองนอนของตน แผ่อิทธิพลไปถึงชาวพื้นเมือง
ช่างชาวจีนมลายูได้นำผังการก่อสร้างไปดำเนินการ แต่ลักษณะของสถาปัตยกรรมได้เพี้ยนไปจากเดิม มีการผสมผสานคตินิยมแบบจีนลงไปด้วยเกิดเป็นเอกลักษณ์สามเชื้อชาติ อันได้แก่โปรตุเกสจีน และมาเลย์ในแหลมมลายู ที่เรียกว่า แบบชิโนโปรตุกีส
ต่อมาอังกฤษและดัตช์เข้ามามีอิทธิพลในแหลมมลายู (ทำสงครามชิงมะละกา ผลัดกันครอบครอง) มีการผสมผสานศิลปะของตนเข้าไปในยุคหลังด้วยก็ตามก็ยังเรียกรวมกันว่า ชิโน-โปรตุเกส
บางท่านก็เรียกว่าสถาปัตยกรรมแบบเจ้าอาณานิคม หรือ แบบโคโลเนียล (Colonial Style) ถ้าเป็นอาคารสองชั้นกึ่งร้านค้ากึ่งที่อยู่อาศัย (shop-house or semi-residential) จะมีด้านหน้าอาคารที่ชั้นล่างมีช่องโค้ง (arch)ต่อเนื่องกันเป็นระยะ ๆ เพื่อให้เกิดการเดินเท้า ที่ภาษาไทยเรียกทับศัพท์ว่า อาเขต (arcade) หรือที่ภาษาจีนฮกเกี้ยนเรียกว่า หง่อคาขี่ ซึ่งมีความหมายว่า ทางเดินกว้างห้าฟุต ในภาษามาลายูแปลว่าทางเดินเท้า (กากี่แปลว่าเท้า)
นอกจาก หง่อคาขี่ แล้ว อาคารแบบโคโลเนียลมีการนำลวดลายศิลปะตะวันตกแบบกรีกและโรมันยุคคลาสสิกเข้ามาด้วยเช่น หน้าต่างวงโค้งเกือกม้า หรือหัวเสาแบบโยนิก หรือไอโอนิก(แบบม้วนก้นหอย) และคอรินเทียน(มีใบไม้ขนาดใหญ่ประดับ) เป็นต้น ซึ่งนักวิชาการบางท่านเรียกสถาปัตยกรรมแบบนี้ว่า นีโอคลาสสิก
สิ่งที่ผสมผสานศิลปะจีนคือ สี (สีจะจัดจ้านมาก แดง เหลือง ทองและเขียวสด)และลวดลายการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพประติมากรรมนูนต่ำหรือนูนสูง ทำด้วยปูนปั้นระบายสีของช่างฝีมือจีนประดับอยู่บนโครงสร้างอาคารแบบโปรตุเกส บานประตูหน้าต่าง ตลอดจนการตกแต่งภายในที่มีลักษณะเป็นศิลปะแบบจีน
ในประเทศไทยเราสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีสพบมากสุดที่จังหวัดภูเก็ต(บูกิ๊ต) เพราะภูเก็ตในสมัยนั้นมีความสัมพันธ์ทางด้านการค้ากับปีนัง อาคารแบบจีน-โปรตุเกสได้ถูกสร้างขึ้นโดยนักธุรกิจชาวจีนที่มีความร่ำรวยจากการทำธุรกิจเหมืองแร่ดีบุก ต่อมาก็แพร่ไประนอง ตะกั่วป่า พังงา กระบี่ และตรัง ซึ่งอาคารส่วนใหญ่สร้างในสมัยของ พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นสมุหเทศาภิบาล สำเร็จราชการมณฑลภูเก็ตในช่วงปีพ.ศ.๒๔๔๔-๒๔๕๖ ในสมัยรัชกาลที่ ๕
เรื่องและภาพ โดย พิบูลศักดิ์ ละครพล จากคอลัมน์ "ผ่านตามาตรึงใจ" นสพ.กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์ ๑๑ ต.ค. ๒๕๕๘ เฟซบุคกรุงเทพธุรกิจวันอทิตย์
| | | | |
บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ
บีจีจากคุณเนยสีฟ้า กรอบจากคุณsomjaidean100
Free TextEditor
Create Date : 21 ตุลาคม 2558 |
|
0 comments |
Last Update : 21 ตุลาคม 2558 23:41:39 น. |
Counter : 1533 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|