ขอบคุณครับ สำหรับข่าว

ฮา ^^ หมวก vettel
- น้องแกเอาไปติด พอเข้า pit ทีมงาน เขินกันใหญ่ เลยพลาดเลย
-----
คามุย นั่งแบบนี้ คงได้วิวดีอ่ะครับ ไม่เมื่อยด้วย สุดยอดเลย ^^
-----

alonso พวงมาลัย F1 รุ่น THE มันใหญ่ยักษ์จริงๆ แฮะ ได้ดูแล้ว เร็วเหมือนกันนะครับ

* ได้ดู พอ alonso ขับเสร็จ มาจอด รถ พาเหรดที่จะพานักแข่งโชว์ตัวแฟนๆ
ก็ออกตัวไปแล้วอ่ะครับ แกเลยวิ่งไปเปิดประตู เหมือนรถ SC ของ F1 แล้วก็นั่งไปด้วยดื้อๆเลย
[ เดี๋ยวโดนข้อหา มีเอี่ยวกะกรรมการ อีกนะเนี่ย 555 ]

---------------------------------
สนามหน้าดูอีกที Red Bull แรงตก 0.5 - 1.0 วิ
อย่างที่เค้าวิจารณ์ จริงหรือไม่

!!!! โทษที ครับ
off-throttle blown diffuser
รู้สึกจะว่า F1 ให้เอากลับมาใช้ได้แล้วครับ

Red Bull คงไม่ช้าแล้วล่ะ

^
^
^
ต้องรอจนถึงสนามหน้าครับ ช่วงนี้ FIA อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าประจำเดือนมาไม่ปกติซะอีก

วันนี้บอกกลับมาใช้ เดี๋ยววันแข่งประชุมด่วนแบนอีก

แบนให้หมดฤดูกาลไปเลยดีกว่า

พอถึงตอน Red Bull ได้แชมป์โลก จะได้ดีใจหนักๆหน่อย หุๆ

แบนกลางฤดูกาลเท่ากับผลงานวิจัยของวิศวกรที่อุตส่าทุ่มเทค้นคว้ามาเป็นปี ๆ กลายเป็นสูญเปล่า

เป็นผม ผมก็เคืองครับ... -*-

Vettel ใช้ ลายนี้ เป็นการแสดง respect ต่อทีมงาน ที่ช่วยกันจริงๆ
ตั้งแต่ดู F-1 มา ก็เพิ่งเคยเห็นนี่ล่ะครับ ขอบคุณที่นำมาให้ชมอีกหนชัดๆ ครับ หน้าตาแต่ละคน สนุกสนานจริงๆ สงสัย เอารูปตอนฉลองแชมเปน มาเป็นแน่ ;)

ตามข่าวเรื่อง แบนไม่แบน ก็ปวดหัวแทนทีมแข่งจริงๆ ครับ
รอชมสนามหน้ากันต่อไปครับ

เอ็นดูบ่าน้อยเซ็บ หมวกลายรกมากๆ 5555
ถึงว่า ไม่จบที่ 1

ใน FB คนด่า horner กันเยอะเลยนะ เรื่อง team order กลายๆเนี่ย
แต่ผมเฉยๆนะ จังหวะพี่มาร์คผมว่าไม่สามารถแซงได้ง่ายเท่าไหร่ และระยะจนถึง finish line ก็เหลือนิดเดียว ผมโอเคนะ แต่ไม่ชอบที่สั่งแค่นั้น

Thanks: ฟังวิทยุออนไลน์|Dictionary|หาเพื่อน|เกมส์|ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล

@fascinator
อ้าว ! เหรอครับ ?

งั้นก็ลุ้นให้ แบนต่อ อิอิ ^^
* แล้ว ถ้าไม่แบนจริงๆเนี่ย silverstone แบนหาอะไรครับเนี่ย เพื่อ ?

- แต่ถ้าว่าไป แบนแล้วพละกำลัง Red Bull ลดลง
แล้วให้ทีม รอง อย่าง FER หรือ Mc เข้าใกล้ได้มันก็น่าหนุกนะครับ

แต่ก็เหอะ ถ้า ทีม Red Bull ไม่พลาดใน pit ยังไม่รู้เลยผลจะเป็นไง คงไม่ชนะง่ายๆแบบนี้
เพราะปีนี้ยังไม่เห็น alonso แซง vettel ใน track ซึ่งๆหน้าได้เลยอ่ะ

รอดูกันไปครับ FIA

หมวกของเจ้าเซ็บในบริติช กรังด์ปรีซ์ปีที่แล้วก็เป็นตัวหนังสือพิมพ์ชื่อทีมงานในพิตของเขาเหมือนกันค่ะ เวลามาอังกฤษทีไรก็จะพยายามแสดงความขอบคุณทีมงานทั้งทีมพิตและทีมงานที่โรงงานทุกครั้ง โดยเฉพาะโรงงานที่มิลตันคีนส์ห่างจากสนามซิลเวอร์สโตนไปแค่ 30 กม. เองค่ะ

ชอบเวลาที่เซ็บบอกว่าเวลาแข่งที่อังกฤษ ทีมงานที่โรงงานจะได้มีโอกาสมาดูผลงานของตัวเองกับตา เพราะพวกเขาไม่ได้มีโอกาสตะลอนๆ ไปทุกสนาม^^

เรื่องแบน ผมไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ ถ้าจะแก้กฏอะไร ควรทำเมื่อหมดฤดูการแข่งมากกว่าครับ

ส่วนที่ Fer ชนะคราวนี้ ผมไม่มั่นใจว่าสนามหน้าจะเป็นเช่นไร เพราะ รถของ Fer ดูแล้ว จะวิ่งดีเมื่ออุณหภูมิค่อนข้างร้อนแล้วเท่านั้น อีทั้งดูตัวรถจะใช้ยางค่อนข้างมากทีเดียว สนามต่อๆไปของโซน ยุโรป ไม่ได้ร้อนมาก และคิดว่า อาจจะเจอฝนกันบ่อยกว่าที่เคยด้วย

ถ้าพูดภาษาบ้านๆ ก็คือเฟอร์กลัวจะหมดลุ้นแชมป์แต่ไก่โห่ ก็เลยใช่กำลังภายในนี่ล่ะครับ ถึงกฏมันจะก้ำกึ่ง แต่มันก็ผ่านมาตั้งหลายสนามแล้ว


งานนี้ผมเชื่อว่าคนของเฟอร์เองหลายๆคนก็คงอายอยู่บ้างล่ะ เหอๆ

แต่ผมคิดว่า ตอนนี้วัดกันที่ฝีมือมากกว่า รถเท่ากันหมดแล้ว Red bull ผิดพลาดเองใน Pit นะครับ ไม่ได้เปนที่รถเลย ถ้าไม่พลาดดูแล่วไง ก็แชมป์ครับ ถ้านักขับที่เก่งขับอะไรก็เร็วครับ เหมือน Rossi

ขอบคุณมากครับสำหรับภาพและคลิป

ปีนี้ทีมออร์เดอร์ได้นะครับ ไม่ผิดกฎ (ของผิดเปลี่ยนเป็นถูก ) หลังจากปีที่แล้วมีบางทีมโดนปรับโทษฐานใช้ทีมออร์เดอร์ คงกลัวว่าปีนี้อาจโดนปรับอีก
ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเหมือนกันกับทีมออร์เดอร์ มันทำให้หมดสนุกไปเยอะเลย

ส่วน off-throttle blown diffuser ปล่อยให้ใช้กันจนครึ่งฤดูกาลแล้วกลับมาแบนซะงั้น(ไม่รู้ว่าแบนป่าว) ( ของถูกกลับเปลี่ยนให้ผิด ) หลังจากมีบางทีมไม่ได้ประโยชน์จากระบบนี้

แค่ความเห็นส่วตัวนะครับ

หึ หึ หึ

แบนให้หมดฤดูกาลไปเลยดีกว่า

พอถึงตอน Red Bull ได้แชมป์โลก จะได้ดีใจหนักๆหน่อย หุๆ

ู^
^
^
พี่ runtaro ระวังเซบจะเสียแชมป์นะครับ เพราะเท่าที่ดู "Extra time" ที่เซบเหนือกว่าน้ามาร์คแต่ละสนามประมาณ 0.3-0.4 วินาที มันหายไป เซบอาจจะไม่สามารถจบที่ 2 อาจจะไปจบที่ 3 4 5 ก็ได้ นั่นคือ เซบสามารถใช้ประโยชน์จาก Off-throttle ได้ดีกว่าน้ามาร์ค แต่เป็นการคาดเดาจากสนามเดียวอาจไม่ถูกก็ได้

------------------------------------------------------------

แต่ผมคิดว่า ตอนนี้วัดกันที่ฝีมือมากกว่า รถเท่ากันหมดแล้ว Red bull ผิดพลาดเองใน Pit นะครับ ไม่ได้เปนที่รถเลย ถ้าไม่พลาดดูแล่วไง ก็แชมป์ครับ ถ้านักขับที่เก่งขับอะไรก็เร็วครับ เหมือน Rossi

^
^
^
คุณ VR46 ทีมงานเซบพลาดในพิทแล้วออกมาเป็นอันดับ 3 ตอนนั้นเซบที่ 3 ตามโซ่ที่ 1 3 วินาที พอหลุดจากแฮมมาได้เซบตามโซ่อยู่ 12 วินาที แต่หลังจากนั้นโซ่ก็ทิ้งเซบออกไปถึง 19 วินาที แสดงว่าต่อให้พิทไม่ผิดพลาดก็ยากจะทานโซ่ในเวลานั้นครับ

นักขับที่อยุ่ข้างหลังยังไงก็ต้องอยากไล่คันหน้า แต่นี่ยิ่งไล่ยิ่งห่าง แสดงว่าถึงขีดจำกัดของรถกระทิงแล้วครับ

ทีมแข่งแต่ละทีมก็มีแนวทางการออกแบบหลักของตัวเอง และสร้างสิ่งแวดล้อมให้ช่วยเสริมแนวทางนั้น หากถูกทำลายแนวทางนั้นไปรถคันนั้นก็ไม่อาจจะเป็นรถที่เข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบได้อีกต่อไป

Rossi เองตอนนี้ก็ไม่สามารถขึ้นแท่นได้เลย ไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บที่ยังค้างคาอยู่ แต่ด้วยตัวรถกับอายุอานามที่มากขึ้นทำให้เริ่มเป็นอุปสรรค

MotoGP สมัยนี้ ผมให้รถ 70 : คน 30 สมัยก่อน Rossi อาจจะอาศัยความเป็นวัยรุ่นช่วยเสริมข้อด้อยของรถได้ แต่ปัจจุบันสมรรถนะของรถยิ่งมีผลมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะยิ่งมากขึ้นไปในอนาคตครับ

ส่วน F1 ผมให้รถ 90 : คน 10 เลย สนามที่แล้วมันบอกได้ว่ารถม้าแดงเป็นรถที่ดีที่สุดในสนามนั้น

--------------------------------------------------------------

ผมว่ารถที่ดีไม่ใช่รถที่มีการออกแบบอลังการ แต่ต้องเป็นรถที่ช่วยดึงความสามารถนักขับออกมาได้มากที่สุด และนักขับที่ดีก็ไม่ใช่นักขับที่มีเทคนิคสุดยอดมากมาย แต่ต้องเป็นนักขับที่สามารถดึงสมรรถนะรถออกมาใช้ได้เกิดประโยชน์สูงสุด

---------------------------------------------------------------

สุดท้าย การหาแนวทางใหม่บนพื้นฐานของข้อจำกัด และสร้างสรรค์ผลงานมันออกมา "ให้ชาวบ้านวิจารณ์เสีย ๆ" เพื่อจะได้หาแนวทางใหม่ มันเป็นหน้าที่หลักของวิศวกรอยู่แล้วครับ

สมมุติถ้าให้วาดรูปสี่เหลี่ยมแล้ววิศวกรมันคิดได้แต่สี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า เพราะมันกลัวข้อจำกัดของคำว่า สี่เหลี่ยม เราคงไม่มีของแปลก ๆ ใหม่ ๆ มาใช้จนทุกวันนี้หรอกครับ

สนามที่ผ่านมา ไม่อายครับ

RED BULL start แถวหน้า 2 คัน
FERRARI start คันที่ 3 นะครับ

@runtaro

ผมนึกขึ้นได้ว่าในอดีต เคยมีเหตุการณ์ คล้ายๆกันกับ F1 ปีนี้จริงๆครับ
จำปี 2006 ได้เปล่าครับ
alonso ปีนั้นอยู่ Renault

บังเอิญจริงๆครับ ปี นั้น 9 สนามแรกผ่านไป alonso ได้แชมป์ 6 -สนาม / ที่ 2- 3 สนาม
ครึ่ง season ผ่านไป alonso มีที่ 1 กับ 2 เท่านั้นครับ เหมือน vettel ปีนี้

แน่นอน นำ schumacher ของ FERRARI ห่างมากๆพอควร
แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ?

FIA บอกให้ Renault ปรับชิ้นส่วน สปริง ของปีกหน้าออก
แน่นอนว่า Renault ใช้มาแต่แรกทำไม FIA ถึงมาสั่งเวลานี้

แต่ทีม Reanult ก็ทำตามคำสั่งครับ
เริ่มมาที่ Hockenhiem ช่วงนั้น alonso ผลงานตกลงเอาดื้อๆเลย หล่น podium ไม่ได้ขึ้น
+ ไม่ใช่แค่นั้น กลายเป็น schumacher ของ FERRARI ผงาดคว้าแชมป์เอาในครึ่งหลัง
มาที่ MONZA พี่ชู คว้าแชมป์ alonso รถเจ๊ง กลายเป็นว่าที่ทิ้งห่างมาในช่วงแรก เหลือแค่ 2 คะแนนครับ
+ มาที่จีน แรก alonso นำขาด หลังพี่ชูไล่จนแซงได้ จบสนามนั้น แต้ม 2 คนเท่ากัน

alonso - schumi เลยต้องวัดดวงกัน ใน 2 สนามที่เหลือครับ

เป็นไงครับ คล้ายกันไหม กับคำสั่ง FIA alonso ก็เจอมาแล้วนะครับ
แม้จะยากลำบากสุดๆในครึ่งหลัง แต่แกก็ได้แชมป์โลกนะครับ

--------------
มาเรื่อง alonso กับ FERRARI ปีนี้
ถ้าไม่ได้ alonso มาขับ ไม่รู้ที่ silverstone จะได้เห็น F150th เร็วได้ขนาดนั้นหรือเปล่า?

แก้กฏยังไง แก้กี่ข้อ ถ้านักขับอ่อน ก็เป็นแชมป์สนามไม่ได้หรอกครับ

นึกภาพง่ายๆ head to head ของ FERRARI( วัดกันที่นักขับม้าแดง เองเพียวๆ 2 คน )
alonso กิน massa ขาดกระจุยครับ

alonso
เมื่อปี 2005-2006 ที่มี fisichella เป็น team-mate
/ 2008 ที่มี piquet เป็น team-mate
ก็ดูเอาครับ ทีมเดียวกันรถเหมือนกัน แต่ฝีมือห่างชั้นกันแค่ไหน ?

ผมว่าให้ credit ฝีมือ alonso เหอะครับ

คุณ JUNE

ผมเองยอมรับและยกย่อง Alonso ครับ ว่าเก่งมาก แชมป์โลก 2 สมัย มันยืนยันอยู่แล้ว

แต่ประเด็นมันคือ นักขับเก่ง แต่รถห่วย มันก็ชนะไม่ได้เหมือนกัน ไม่มีใครบอกว่าโซ่ไม่เก่ง แต่ Ferrari แค่พยายามทำให้รถตัวเองเร็วขึ้นด้วยวิธีที่แปลกๆแค่นั้นเอง ผมด่าทีมละกันถ้างั้น (อย่างที่ยกตัวอย่างมาก ก็ Fer เหมือนกัน)


แต่เอาเหอะ ยังไงผมก็เชื่อว่า Seb มันจะเป็นแชมป์โลกอีกสมัยอยู่ดี หุๆ

ปล. ขอบคุณ fas คุง สำหรับบทความดีๆ

ปี 2006 Renault โดนแบน Mass Damper ซึ่งเป็น innovation ของ Renault ในปีนั้นที่ Hockenheim ทำให้ผลงาน Renault หล่นวูบไม่จบโพเดียมที่สนามนั้น แต่....หลังจากนั้น FIA ก็ให้ Renault กลับมาใช้ Mass Damper ได้เหมือนเดิมจนจบฤดูกาลครับ

โอ้ววววว

เปิดมาอีกทีได้ความรู้ดีๆ เยอะเลย ขอบคุณทุกคนมากนะคะ^^