Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 
13 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Italian Grand Prix - Race Day: สีแดงแรงฤทธิ์

มาถึงโฮมเรซของเฟอร์รารี่ทั้งที มีหรือจะปล่อยให้พลาด?

1. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 1:16:24.572
2. เจนสัน บัตตัน (แม็คลาเรน) +2.9 วินาที
3. เฟลิเป้ มาสซ่า (เฟอร์รารี่) +4.2 วินาที

- เซบาสเตียน เวทเทล และ มาร์ก เว็บเบอร์ ของเร้ดบูล เข้าเส้นชัยอันดับที่ 4 และ 6 ตามลำดับ
- ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) ต้องออกจากการแข่งขันตั้งแต่รอบแรกหลังล้อหน้าขวาไปปัดกับล้อหลังซ้ายของมาสซ่า รถแม็คลาเรนจึงเกิดความเสียหายจนแข่งต่อไปไม่ได้

ผู้ที่ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap): เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 1:24.139 - รอบที่ 52




3 อันดับบนโพเดียมที่มอนซ่าปีนี้



การแข่งขันเข้มข้นตั้งแต่ออกสตาร์ทเพราะสนามนี้ใครๆ ก็รู้ดีค่ะว่าโค้งแรกบีบหัวใจน่าดู ซึ่งบัตตันสามารถเบียดเอาตำแหน่งที่ 1 ไปจากอลอนโซ่ได้ตั้งแต่โค้งแรกและนำอยู่จนถึงรอบที่ 36 แต่อลอนโซ่เอาคืนได้ด้วยการทำงานอย่างยอดเยี่ยมของพิทเฟอร์รารี่ ทำให้อลอนโซ่ออกจากพิทแล้วมาอยู่หน้าบัตตันที่เข้าพิทไปก่อน 1 รอบ และแล้วทุกอย่างก็เรียบร้อยโรงเรียนเฟอร์รารี่ โดยภายหลังการแข่งขันอลอนโซ่ให้เครดิตทีมงานในพิทเต็มที่กับความสำเร็จในวันนี้ และด้วยชัยชนะครั้งนี้ทำให้เขามั่นใจขึ้นอีกมากในการลุ้นแชมป์ต่อไป

คนที่ทำให้ผู้ชมประหลาดใจที่สุดเห็นจะเป็นเวทเทลของเร้ดบูลที่ต้องเจอกับปัญหากำลังเครื่องตกลงอย่างฉับพลันจนต้องเปิดให้เว็บเบอร์ที่ตามมาติดๆ แซงขึ้นอันดับที่ 7 ไป ซึ่งตามข้อมูลทีมแจ้งภายหลังการแข่งขันว่าเป็นปัญหาจากเบรก ไม่ใช่เครื่อง แต่หลังจากนั้นโชคดีเครื่องกลับมาได้เหมือนเดิม และเขาต้องเสี่ยงวิ่งด้วยยางซอฟต์ไปจนถึงรอบที่ 52 ถึงจะเข้าพิทขณะที่วิ่งอยู่ในอันดับที่ 4 ซึ่งก็ต้องชมความยอดเยี่ยมของพิทเร้ดบูลเช่นกันที่ทำให้เขาออกมาวิ่งรอบสุดท้ายโดยยังอยู่ในอันดับที่ 4 เหมือนเดิม

ด้านแฮมิลตันให้สัมภาษณ์หลังออกจากการแข่งขัน ยอมรับว่าเป็นความผิดของเขาเองและความผิดพลาดครั้งนี้อาจส่งผลต่อการชวดแชมป์ได้เลย แต่ก็ยังฝากคำชมไปถึงบัตตันว่าทำได้ดีในการต่อสู้กับรถสีแดงทั้ง 2 คัน ส่วนตัวเขาก็จะมุ่งมั่นกับการแข่งขันสนามต่อไปเพื่อจะเก็บคะแนนให้กับตนเองและทีมให้ได้มากที่สุด




ไม่มีใครชื่นมื่นเกินแฟนเฟอร์รารี่



จากผลการแข่งขันสนามนี้ทำให้การลุ้นแชมป์โลกปีนี้เร้าใจขึ้นไปอีกค่ะ เมื่อผู้นำในคะแนนสะสมก่อนลงแข่งขันไม่ได้สักคะแนนและคนที่ตีคู่อยู่ด้วยก็จบอันดับที่ 6 เพราะฉะนั้นคนที่ไม่ได้คะแนนจากสนามที่แล้วแต่มาขึ้นโพเดียมเมื่อวานก็เลยบีบระยะห่างให้ลดลงได้มากทีเดียว อันดับที่ 1-5 ในคะแนนสะสมจึงห่างกันเพียง 24 คะแนน

1. มาร์ก เว็บเบอร์ - 187 คะแนน
2. ลูอิส แฮมิลตัน - 182 คะแนน
3. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ - 166 คะแนน
4. เจนสัน บัตตัน - 165 คะแนน
5. เซบาสเตียน เวทเทล - 163 คะแนน

สำหรับประเภทผู้ผลิต เร้ดบูลขยับออกจากแม็คลาเรนไปได้แค่ 3 คะแนนเพราะผลงานจากทั้ง 2 คันรวมกันแล้วมากกว่าแม็คลาเรนที่จบคันเดียวแต่อยู่บนโพเดียมเพียง 2 คะแนนเท่านั้น

น่าตื่นเต้นจริงๆ ค่ะกับการลุ้นแชมป์ปีนี้ เหลืออีก 5 สนามสุดท้ายซึ่งอยู่นอกทวีปยุโรปทั้งหมดกับระบบคะแนนในปัจจุบันทำให้ได้ลุ้นทุกสนามว่าใครจะเป็น "Hero" หรือ "Zero" เพราะฉะนั้นต่อจากนี้จะพลาดไม่ได้เลย ทั้งนักแข่งและคนดู!

สนามหน้าจะมาที่สิงคโปร์กันแล้ว วันอาทิตย์ที่ 26 ก.ย. นี้ แฟนๆ ล็อกคิวไว้เลยค่ะ

ส่วนข่าวคราวอื่นๆ ที่ตามมามีดังนี้ค่ะ
- เอชอาร์ทีโดนปรับ 20,000 เหรียญสหรัฐ จากอุบัติเหตุในพิทเมื่อคนยกป้ายลอลลี่ป๊อป (ป้ายควบคุมการเข้าออกของรถเวลาเข้าพิท) ยกก่อนที่ทีมงานเปลี่ยนยางให้รถของซากอน ยามาโมโตะ จะเสร็จเรียบร้อย จึงทำให้ทีมงานคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บต้องส่งไปที่ศูนย์พยาบาล
- มีข่าวลือว่านิค ไฮด์เฟลด์ ซึ่งตอนนี้เป็นนักขับทดสอบให้ยางปิเรลลี่จะมารับจ๊อบให้กับทีมเซาเบอร์ที่สิงค์โปร์ กรังด์ปรีซ์ โดยจะลงแทนเปโดร เดอ ลา โรซ่า ซึ่งรายละเอียดยังมีไม่มากถึงที่มาที่ไปว่าทำไมเซาเบอร์ถึงจะให้ไฮด์เฟลด์มาขับ และปีเตอร์ เซาเบอร์ ก็กล่าวว่าเขาไม่ขอคอมเมนต์เรื่องนี้ (แล้วจะรู้เรื่องกันมั้ยล่ะเนี่ย?)
- โลตัสบอกลาเครื่องคอสเวิร์ธแล้วหลังจากไม่ประสบความสำเร็จในการทำงานร่วมกัน โดยทีมจะหันไปใช้เครื่องเรโนลต์แทน (คนเขียนอ่านแล้วเข้าใจว่าจะยุติสัญญากับคอสเวิร์ธทันทีโดยไม่รอจนจบฤดูกาล ถ้าผิดพลาดอย่างไรเพื่อนๆ ช่วยแจ้งด้วยนะคะ)



************************************



ทีนี้มาว่ากันถึงข่าวที่เร้ดบูลจะมาเมืองไทยวันที่ 28 ก.ย. นี้

//www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9530000127872

ตามข่าวบอกว่ามาโชว์กันที่สมุย ไม่รู้รายละเอียดงานเป็นอย่างไร มีใครพอทราบไหมคะ เพราะเราตั้งใจจะไป แต่มันมีเงื่อนไขอยู่ว่าถ้าการมาครั้งนี้มาแบบร่วมงานแถลงข่าว โชว์ตัวในห้องประชุมสำหรับสื่อมวลชนอย่างเดียว แฟนๆ อย่างเราจะไปทำไมในเมื่อเข้าไม่ถึง

แต่ถ้าผู้จัดงานเข้าใจความต้องการของแฟนๆ ที่อาจจะสามารถเดินทางไปติดตามก็ได้ถ้ากิจกรรมน่าสนใจ รวมทั้งชาวต่างชาติอยู่ที่สมุยไม่ใช่น้อยก็อาจจะไปชมเหมือนกัน ถ้าโปรโมตดีๆ ทำโปรแกรมดีๆ ก็น่าจะเรียกแฟนๆ ได้ประมาณหนึ่ง อย่างตอนที่ยามาฮ่าพา "เดอะ ด็อกเตอร์" วาเลนติโน่ รอสซี่ กับฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ มาโชว์ตัวและเปิดตัวรถใหม่ของยามาฮ่าที่ซีคอนสแควร์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ช่วงนั้นเขาลงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเต็มหน้าเลย แฟนๆ เลยแห่ไปกันเป็นหมื่น ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้น อิอิ

เพื่อนๆ คนไหนพอทราบรายละเอียดที่มากกว่าในข่าว รบกวนส่งข่าวด้วยนะคะ เจ้าของบล็อกกำลังคำนวณอยู่ว่าไปแล้วจะคุ้มกับการเดินทางลงใต้หรือเปล่า

แต่ที่แน่ๆ อยากไปมากกกกกกกกกก




*ข้อมูลจาก formula1.com และ autosport.com/f1
ภาพจาก formel1.de


Create Date : 13 กันยายน 2553
Last Update : 13 กันยายน 2553 10:24:02 น. 31 comments
Counter : 1334 Pageviews.

 
ยังงงทีมพิทของ McLaren อยู่ว่าทำไมถึงเรียก Button เข้าพิทก่อน Fer เหมือนกับจะเสี่ยงอันดับแบบที่ทำใน Malaysia

สนามต่อไปสิงคโปร์ไนท์เรซ ผังสนามกลับมาเข้าทาง Red Bull อีกครั้ง แต่เข้าทาง Ferrari ยิ่งกว่า ส่วน McLaren ไม่ชอบผังสนามแบบนี้เลย


โดย: fascinator IP: 10.17.33.147, 124.121.194.16 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:11:10:24 น.  

 
เคส แฮม เบียดกะหมาซ่า ทำให้ผมรู้ว่า รถ Fer โคตรแข็งแรงเลย ขนาดสนามที่แล้วโซ่โดนชนจังๆ ยังขับต่อได้จนจบ แต่ดูแมคสิ โป้งเดียวจอดเลย (เพราะล้อหน้าไม่สามัคคีกัน เลยเลี้ยวไม่เข้า)


โดย: hstgz IP: 57.59.9.172, 57.59.9.172, 202.122.130.31 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:11:24:26 น.  

 
Alonso เก่งมาก สนามนี้

ปี 2007 - ขับให้ McLAREN ในปีแรก ก็ได้แชมป์
ปี 2010 - ขับให้ FERRARI ปีแรก ก็ได้แชมป์อีก

* สนามหน้า Singapore
Alonso แชมป์ ปี 2008 , Hamilton แชมป์ ปี 2009
( 2008 hamilton ได้ที่ 3 ,, 2009 Alonso ได้ที่ 3)
สลับกันเลย นะ

2 คนนี้ ผลงานดีที่ Singapore ครับ ขึ้น podium ได้ติดต่อ 2 ปี

FERRARI และ McLAREN จะได้ดวลกันต่อไหม ?

แต่ street circuit 2 สนามในปีนี้ MONACO , VALENCIA
RED BULL เป็นแชมป์ ทั้ง 2 สนาม
ไม่รู้ จะเข้าทาง RED BULL อย่างที่ว่ากันไหมนะ

คุณ hstgz เสียใจด้วยฮะ
ผมอยากดู ham ดวลกะ alonso มากๆ ( โชคร้ายที่ก้านล้อ เปราะเหลือเกิน )
หวังว่าจะได้ดวลกันในสนามต่อไปนะ

Alonso ล่าสุดจี้ทีม เตรียมรถ สู้ตาย ใน 5 Race สุดท้าย
( เราก็หวังให้เป็นอย่างนั้น ขอให้มาแรงตอนท้ายๆแบบปี 2007 นะ )

Vettel อันดับตก แต่อย่าท้อนะครับ






โดย: JUNE IP: 125.27.149.10 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:12:45:25 น.  

 
คุณ JUNE ดีใจด้วยนะคะ เห็นอลอนโซ่ได้แชมป์เป็นสนามที่ 3 แล้ว

สำหรับเจ้าเซ็บน้อยของเรา คนขับน่ะไม่ท้อหรอก แต่แฟนๆ อย่างเราชักจะท้อแล้วเนี่ย - -"



โดย: finishline วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:13:10:28 น.  

 
Alonso ยังพอได้ลุ้นต่อ

Race ที่ Monza ดูเหมือน Vettel ขับไม่เนียนเลย ควบคุมพวงมาลัยแปลกๆ ไม่เนียนเท่า Webber เลย แต่ Alonso กับ Button ขับได้เนียนมากเลย สนามนี้


โดย: desmond IP: 203.155.217.2 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:15:41:03 น.  

 
.................................................
ข่าวที่เร้ดบูลจะมาเมืองไทยวันที่ 28 ก.ย. นี้

จะมาพักผ่อนแบบทั้งทีมเลยครับ หลังแข่งจบที่หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันรายการสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ ในวันที่ 26 ก.ย.

มาร์ค เว็บเบอร์ และ เซบาสเตียน เวทเทล มาโชว์ตัวให้แฟนชาวไทยได้สัมผัสตัวเป็นๆ ที่เกาะสมุย วันที่ 28 ก.ย.นี้...

โดย โครงการดังกล่าว เป็นการร่วมมือกันระหว่างกระทิงแดง และการท่องเที่ยงแห่งประเทศไทย(ททท.) รวมถึง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ที่จะนำ เว็บเบอร์ และ เวทเทล มาซิ่งรถสูตรหนึ่งโชว์บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยทีมบอส คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ทีมบอส ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. เป็นต้นไป

*-* เข้าถึงตัวนักแข่งแน่นอนครับ -*-


โดย: Editor IP: 118.172.11.76 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:18:15:54 น.  

 
คุณเจ้าของบล็อกไม่ต้องห่วงนะครับ สนามหน้า Red Bull กลับมาแน่นอน ดีไม่ดี Vettel จะเก็บโพลสนามหน้าด้วย การแข่ง F1 อย่างที่รู้ ๆ กันครับ รถแข่ง 90% : คนขับ 10%

สนามหน้าคาดว่า Mc กับ Fer จะดวลกันคงยากครับอย่างที่บอก Mc ไม่ชอบผังสนามความเร็วต่ำ

Fer จะชอบออกตัวจากความเร็วต่ำขึ้นสูงเพราะเครื่องแรง

Mc จะชอบความเร็วกลางขึ้นสูงมากเพราะ F-duct

ส่วนกระทิงแดงจะชอบโค้งความเร็วต่ำ-สูงติดต่อกันเพราะ Blown Diffuser ครับ


โดย: fascinator IP: 110.169.212.191 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:20:39:45 น.  

 
โซ่ ได้แชมป์ที่สิงคโปร์ เมื่อปี 2008
ด้วยเรื่องอื้อฉาวไม่ใช่เหรอครับ
ที่ให้เพื่อนร่วมทีมขับรถชนกำแพง เพื่อให้ Safety Car ได้ออกมา

และด้วยเรื่องนี้เอง จากเดิมที่ผมเคยชมโซ่
ผมยอมรับในการขับที่ชาญฉลาดของเขา

แต่ตอนนี้ผมบอกเลยครับ
ว่าเกลียดโซ่มากมาย


โดย: เกลียดแดง IP: 58.64.113.3 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:21:35:54 น.  

 
โซ่ได้แชมป์ที่สิงคโปร์ปี 2008 ด้วยวิธีตุกติกก็จริงครับแต่ก็ต้องยอมรับว่าแกก็ขับได้ดีถึงไ่ล่อันดับได้ในช่วงที่ทีมอื่นเข้าพิท

ส่วนทีม Lotus จะใช้เครื่อง Cosworth ไปจนจบฤดูกาลครับ แล้วปีหน้าถึงจะเปลี่ยนไปใช้เครื่อง Renault แทน


โดย: fascinator IP: 110.169.212.191 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:21:47:39 น.  

 
อลอนโซ่เป็นคนสั่งให้ปิเก้ขับชนกำแพงอย่างนั้นหรือ ก็ไม่ใช่ ทีมงานสั่งใช่หรือไม่แล้วทำไมเกลียดอลอนโซ่


โดย: yuykit IP: 117.47.77.138 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:22:43:01 น.  

 
ที่มอนซ่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องให้เค้าเลย เฟอร์รารี่ แรงทั้ง 3 วัน จริงๆผมว่า RBR ไปพลาดตรงสตาร์ท เลยต้องเหนื่อยกับการลุ้นอันดับ แต่จริงๆแล้วก็ทำได้ดีแล้ว เพราะจะให้ไปวิ่งตามสามคันแรกเมื่อวาน ก็คงเป็นไปได้ยาก


ปีหน้าคอยดู Lotus ที่จะเปลี่ยนมาใช้เครื่อง Renault แทน จะเป็นไง แต่ข่าวบอกว่าอาจจะต้องเปลี่ยนชื่อทีมด้วยอ่ะครัีบ


เรื่อง Red Bull ที่สมุยเนี่ย อยากได้รายละเอียดเพิ่มจริงๆเลยครับ


โดย: runtaro IP: 124.120.73.37 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:23:26:46 น.  

 
คุณ เกลียดแดง ครับ ( เข้าใจว่า เกลียด Alonso / ไม่ได้ห้าม )

แต่จะอธิบายเรื่อง ปี 2008 ว่า เข้าใจผิดแล้วครับ
[ ถ้าจะกล่าวถึง singapore 2008 เกลียดผิดคนแล้ว คุณต้องเกลียด
piquet-jr ครับ ที่ทำตามแผน ที่ Renault สั่ง
ซึ่ง นาที นั้น มันสามารถตัดสินใจได้เอง ว่าทำ หรือไม่ทำ ก็ได้ ]

จากการตรวจสอบ สืบสวน
ย้อนหลัง ทั้งวิทยุ ที่สื่อสาร ของ Renault กับ ไอ้ ปีเก้

Alonso บริสุทธิ์ ที่ SINGAPORE 2008
คุณคิดเหรอ นักแข่ง อย่าง Alonso ที่ชนะ Schumacher มาได้
จะยอมให้ไอ้สวะช่วย ( ถ้าแกรู้เรื่อง )

มีแค่ Briatore กะ ไอ้ ปีเก้ ที่รู้เรื่องกัน 2 คน เพราะก่อนแข่ง
เค้าตรวจสอบจากปากพยาน และภาพ video ว่า 2 คนนี้คุยกันนานผิดปกติ

[ เอ่อ alonso บอกทิ้งท้ายว่า ให้มอบแชมป์ Singapore ให้ rosberg ได้เลย ]

แต่ FIA มันไม่เปลี่ยนผล จะให้ทำไงล่ะครับ
สนามต่อไป ก็ได้แชมป์ ที่ JAPAN นะ คุณว่า Renault โกงอะไรอีกไหม

มันก็แค่เป็นเกมของ ไอ้ ปีเก้ ที่ Biratore ถอดมันออกในปี 2009
มันจะกุ หรือแต่งเติมอะไรก็ได้ ( ถ้า briatore ไม่ถอดมัน คุณจะรู้ไหม )


* * * ถ้า alonso กระจอกเหมือนมัน ต่่อให้ช่วย สัก 10 คน
ที่ Singapore ก็ไม่ได้แชมป์หรอกครับ มันไม่ได้ขับง่ายๆ


มันก็แค่ คดี 1 สนาม

ขโมยข้อมูลรถ ที่ McLAREN ทำ อายกว่าอีก ( ซวยเลย ปีนั้น Alonso ไปขับให้มันอีก )
บอกให้เอาบุญนะครับ ปี 2007
Alonso เป็นคนเปิดโปง โดยเอาข้อมูล ใน E-mail ที่ทีมงาน McLAREN ส่งมาให้
ไปบอกลุง Bernie เองกับตัว

---
คุณเกลียดแดง เชียร์ hamilton ใช่ไหมครับ
อยากจะบอกว่า บางที ความเลว มันมาจากทีมงานครับ นักขับไม่เกี่ยว
ปีนั้น Alonso - Hamilton ต่างคนต่างมาขับปีแรกให้ McLAREN
และมีการสืบสวน ว่าไม่รู้ไม่เห็นจริง
จึงถูกปรับแค่คะแนนทีม ไม่แตะคะแนน นักขับ

สามารถพิสูจน์ได้ นะครับ จากหลักฐาน คนที่อยู่ได้ - คนที่ต้องออกไป


Renault - Briatore โดนแบน ให้ออกจาก F1 ในคดี SINGAPORE 2008 นั่นเอง
McLAREN - เครื่อง MERCEDES ตัวแม่ถอนตัวออกไป / RON DENNIS
ก็โดน ท้วงให้ออกจากตำแหน่ง

เรื่องที่คุณ เกลียด Alonso ก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ /
- ชอบให้คนเกลียดด้วยซ้ำ [ ไม่อยากให้คนมาชอบตาม ]
( เกลียดที่ นิสัย และบุคลิก ยังเต็มใจให้เกลียด /ถ้าเกลียดในสิ่งที่เจ้าตัวไม่รู้ไม่เห็น อันนี้ไม่ HAPPY )

ผมว่าสังคม F1 ผมว่ายังต้องการ Alonso นะ ( ถึงหลายคนจะว่า ปากเก่งไปนิด ) แต่ไม่เก่งแค่ปาก เพราะชนะตำนาน schumi มาแล้ว
ได้ดู F1 ปี 2005 -2006 เปล่าครับ
จำได้หรือเปล่า เป็นแชมป์โลกได้
2005 - ชนะ McLAREN
2006 - ชนะ FERRARI
ทีม Renault มีใครมาช่วย Alonso ได้บ้าง ผมไม่เห็นเลยนะ เห็นแค่ว่าลุยเดี่ยวอ่ะ

แต่ Nelson Piquet-JR ( ทุกทีมประกาศแล้ว ไม่กล้ารับมาขับ )
สวะคนนี้ เห็นแก่ตัวมากไป , ถ้าให้มันขับต่อ มันก็เออ ออ ร่วมด้วย
แต่ถ้าปลดมันออกจากนักขับจริง ก็จะออกมาแฉ
[ น่าจะดูฝีมือตังเองบ้างนะ หมอนี่ / ทำเหมือนว่าไม่มีมัน แล้ว F1 จะเดือดร้อน ]

คงเข้าใจนะครับ Alonso สู้กับนักขับเก่งๆมาสารพัด
ได้แชมป์แล้ว 23 สนาม
จะเพิ่มแค่ 1 แชมป์ไม่ต้องลงทุนโกงหรอกมั้งครับ

* มีคดีอะไร อย่าตัดสินมั่วซั่วครับ อย่าเหมาว่าจะเลว สกปรกหมดทุกคน
ต้องดูต้นตอ + คนต้นคิดก่อนสิครับ ไม่ใช่อะไร โยนให้นักขับซะหมด
ทุกอย่างมี ต้นตอที่สามารถตรวจสอบได้

เกลียด Alonso ก็เกลียดให้ถูกจุดครับ เช่น บุคลิก นิสัย หรือ มันไส้
สามารถทำได้

- เกลียดที่ เป็นแชมป์ SINGAPORE 2008 ( เกลียดผิดคนครับ )
ผมเดาว่าคุณ แค่จำภาพข่าว แล้วก็ดู ที่ alonso ได้แชมป์
ไม่ได้ดูคำตัดสิน ศาล ว่า Renault - Briatore & นายสวะ เป็นไงบ้าง


โดย: JUNE IP: 125.27.140.200 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:0:29:01 น.  

 
เอ้า! ใจเย็นๆ นะคะทุกท่าน

ดูๆ แล้วนักแข่งแต่ละคนก็ประสบพบความลำบาก+ความเสี่ยงกับชื่อเสียงของตัวกันมาทั้งนั้นในอาชีพการเป็นนักขับ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับนักขับดังๆ ซะด้วยซิ เพราะเป็นธรรมดาที่นักขับที่มีชื่อเสียงจะมีคนรักมากพอๆ กับมีคนไม่ชอบมากๆ เหมือนกัน แฟนใครใครก็รักกันไปเนาะ อิอิ

ว่ากันต่อเรื่องที่สมุยดีกว่า คุณ Editor บอกว่าเข้าถึงตัวนักแข่งแน่นอน เราก็ภาวนาให้เขาจัดงานให้คนดูอย่างเราได้เห็นหน้านักขับบ้างสัก 15-20 นาทีก็ยังดีค่ะ แต่ทางเร้ดบูลน่าจะประกาศโปรแกรมงานให้ชัดๆ มาด้วย จะไปเลยไม่กล้าจองอะไรเลย กลัววืดค่ะ

ขอบคุณคุณ fascinator ด้วยค่ะที่ให้กำลังใจแฟน Vettel อย่างเรา เมื่อวานเจ้าตัวเขาก็บอกว่าคนที่กดดันมากกว่าน่าจะเป็นคนข้างหน้าเขาที่ต้องพยายามรักษาระยะห่าง ตัวเขาน่ะสบายอยู่แล้ว นี่แหละน้องเรา มองโลกในแง่ดีเสมอ


โดย: finishline วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:7:30:13 น.  

 
nobody perfect ครับ

Alonso ปากเก่ง ปากดี แต่เค้าก็สามารถทำได้จริงตามที่พูด

เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะมาอธิบายเป็นข้อ ๆ ตอนนี้ขอตัวก่อนครับ manager มา....


โดย: fascinator IP: 10.17.33.147, 124.121.238.254 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:8:16:16 น.  

 
องครักษ์ พิทักษ์โซ่่ มากันเยอะเลย



ปล. คุณจูนคับ ที่ผมอยากดูน่ะ ไม่ใช่ แฮมบดกะโซ่หรอก ผมอยากดู โคบายาชิ บดกะพวกอดีตแชมป์โลกมากกว่า แต่เสียดาย สนามนี้ ออกมาได้แค่นิดเดียวก็จอดซะแล้ว


โดย: hstgz IP: 57.59.9.172, 57.59.9.172, 202.122.130.31 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:11:31:30 น.  

 
เฮ้อ น่าสงสาร รักจนตาบอด


โดย: เกลียดแดง IP: 58.64.112.113 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:20:21:30 น.  

 
ในวันเก่า ผมเคยบอกไปแล้วนะครับ
ผมเชียร์ โคบายาชิ


โดย: เกลียดแดง IP: 58.64.112.113 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:20:37:32 น.  

 
มาอธิบายตามที่เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ครับ

ขอตอบจากคอมเม้นต์ของคุณ JUNE เลยละกันนะครับและขอความร่วมมือช่วยอ่านให้จบด้วยครับ

- แต่จะอธิบายเรื่อง ปี 2008 ว่า เข้าใจผิดแล้วครับ
[ ถ้าจะกล่าวถึง singapore 2008 เกลียดผิดคนแล้ว คุณต้องเกลียด
piquet-jr ครับ ที่ทำตามแผน ที่ Renault สั่ง
ซึ่ง นาที นั้น มันสามารถตัดสินใจได้เอง ว่าทำ หรือไม่ทำ ก็ได้ ]

ในกรณีนี้นักแข่งเลือกที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของทีมได้ครับ "ถ้าเค้าพร้อมที่จะจบการร่วมงานกับทีมตัวเอง" ยกตัวอย่างกรณี Ruben Barrichello กับ Ferrari Barrichello ต้องทำตามใบสั่งของ Ferrari ตลอดถ้าต้องการที่จะอยู่กับทีมต่อไปครับ แน่นอน Barrichello มีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ทำก็ได้ แต่..."นักแข่งทุกคนย่อมต้องการที่จะอยู่กับทีมที่มีประสิทธิภาพในการคว้าแชมป์โลก" ทำให้ Barrichello ตัดสินใจอ่อนข้อประนีประนอมในการทำตามใบสั่ง Ferrari โดยหวังว่าซักวันหนึ่งถ้าเค้าแสดงฝีมือให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ จะได้รับโอกาสที่จะไม่ต้องทำตามใบสั่งของ Ferrari แต่โอกาสนั้นก็ไม่เคยมาทำให้ Barrichello ตัดสินใจย้ายทีมไปร่วมงานกับ Honda ในที่สุด

ส่วน Piquet JR ทำตามใบสั่งฟาดกำแพงไปเพื่อแลกกับสัญญาขับต่อ Renault ในปี 2009 ครับ ซึ่งข้อเสนอมันออกจะน่าเกลียดกว่ากรณีของ Barrichello เยอะ เพราะฉะนั้นจากกรณีนี้ทำให้ผม "ไม่ชอบ Piquet JR" ครับ แต่ "ไม่ชอบยิ่งกว่ากับคนเสนอแผนนี้ซึ่งก็คือ Flavio Briatore" ซึ่งอดีตบอสใหญ่ของ Renault คนนี้เคยมีประวัติการโกงมาก่อนแล้วกับการปรับแต่งรถของ Michael Schumacher แบบผิดกฏในสมัยที่ชูมีขับให้กับ Beneton (1994-1995) ปัจจุบันเจ้าตัวก็โดนลงโทษแบนจากวงการ F1 เป็นที่เรียบร้อยไปจนถึงปี 2013 (ศาลพลิกคำตัดสินในภายหลังจากคำการอุทรณ์ของ Briatore จากแบนถาวรเป็นแบน 5 ปีครับ)

- จากการตรวจสอบ สืบสวน
ย้อนหลัง ทั้งวิทยุ ที่สื่อสาร ของ Renault กับ ไอ้ ปีเก้

Alonso บริสุทธิ์ ที่ SINGAPORE 2008


จากการตรวจสอบวิทยุสื่อสารหรืออะไรก็ตามมันไม่สามารถบอกได้หรอกครับว่าใครรู้เห็นเป็นใจอะไรยังไงบ้าง เพราะแน่นอนต้องมีการเตี๊ยมกันนอกรอบอย่างดีอยู่แล้ว จากการตรวจสอบวิทยุสื่อสารที่ทีมงานคุยกับ Piquet JR เองยังไม่สามารถบอกได้เลยว่าเค้าสั่งให้ Piquet JR ไปฟาดกำแพงเพราะเค้าส่งสัญญาณกันเป็นรหัสที่เตี๊ยมกันไว้ก่อนแล้ว จน Piquet JR ออกมาแฉนั่นแหละครับถึงจะรู้กันทั้งวงการ

ส่วนใครคุยกับใครนานแค่ไหนอะไรยังไงบ้างผมว่ามันไม่หนักแน่นพอที่จะบอกได้ว่าตอนนั้นเค้าคุยกันเรื่องอะไรกันฉะนั้นประเด็นนี้ตัดออกครับ

Alonso บริสุทธิ์ที่สิงคโปร์หรือ Alonso รู้เห็นเป็นใจมาแต่แรกข้อนี้ก็ไม่สามารถบอกได้ครับว่าเป็นอย่างไหนเพราะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน แต่วงในเค้าเชื่อกันว่าอย่างไรก็ตาม Alonso ก็ต้องรู้บ้างเพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น แต่ข้อนี้อย่างที่บอกผมไม่ตัีดสินให้ Alonso ผิดครับเพราะหลักฐานไม่ชัดเจน

- คุณคิดเหรอ นักแข่ง อย่าง Alonso ที่ชนะ Schumacher มาได้
จะยอมให้ไอ้สวะช่วย ( ถ้าแกรู้เรื่อง )

ข้อนี้ผมเชื่อว่าแก "ยอม" ครับ ตัวอย่างชัดเจนมีให้เห็นที่เยอรมันครับ จังหวะที่ Massa นำอยู่แต่ช้ากว่า Alonso นิดหน่อยแล้ว Alonso หาจังหวะขึ้นแซงไม่ได้ แกวิทยุไปบอกทีมงานทันทีหลังจากแซงไม่ได้ครับว่า "This is ridiculous (นี่มันน่าขัน)" หลังจากนั้นไม่กี่รอบ Rob Smedley Race Engineer ของ Massa ก็วิทยุไปหา Massa ว่า "Fernando is faster than you. Can you confirm you understood that message ? (เฟอนันโดเร็วกว่าคุณ คุณยืนยันกลับมาได้มั้ยว่าคุณเข้าใจความหมายของข้อความนี้ ?)" ถึงได้เป็นประเด็นร้อนเกี่ยวกับ Team Order ขึ้นมาเพราะข้อความพวกนี้แหละครับ เพราะถึงแม้ว่าคำพูดมันไม่ชัดเจนแต่ "เจตจำนงค์มันชัดเจนเสียยิ่งกว่าชัดครับ" (หลังจากที่ Rob Smedley ข้อความวิทยุไปหา Massa ESPN ที่รายงานผลสดทางเวบถึงกับเขียนลงในรายงานสดเลยว่า "Ferrari ... Are we stupid ? (เฟอรารี คุณคิดว่าพวกเราคนดูโง่งั้นหรือ ?)") แต่ในทางกฏระเบียบแล้วมันไม่สามารถเอาผิดได้ Christian Horner บอสใหญ่ Red Bull ถึงออกมาโวยวายอย่างที่เห็น

- * * * ถ้า alonso กระจอกเหมือนมัน ต่่อให้ช่วย สัก 10 คน
ที่ Singapore ก็ไม่ได้แชมป์หรอกครับ มันไม่ได้ขับง่ายๆ

ข้อนี้ผมเห็นด้วยครับ เพราะถึงเค้าจะโกงจริงแต่ถ้าเรา "ดูแค่ฝีมือ" ต้องยอมรับว่าแกก็ใช้ได้เลยที่ไล่อันดับขึ้นมาได้ ถ้าฝีมือไม่ดีจริงไล่ขึ้นมาไม่ได้หรอกครับ

และอย่างที่บอก Alonso ปากดีจริงแต่ก็สามารถทำได้ตามที่ปากดีไว้ หลายครั้งที่เราก็ได้เห็นคอมเม้นต์ดี ๆ จากนักขับปากดีคนนี้เช่นตอนที่ Steward โดนยำว่าตัดสินห่วยแตก Alonso ก็ออกมาให้ความเห็นเลยว่า "คนที่ด่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ในตอนนั้นไม่รู้หรอกครับว่าสถานการณ์ตอนนั้นเป็นยังไง แต่ Steward เค้าอยู่ตรงนั้นเค้ามีข้อมูลหมดเค้าก็ตัดสินไปตามนั้นครับ" แต่ในขณะเดียวกัน Alonso ก็ปากเสียใช่ย่อยเช่นตอนที่แกโดนทำโทษที่ Monza 2006 แกออกมาด่าแฟน ๆ Ferrari ว่า "ไม่มีสปิริตในการเชียร์" แล้วก็ด่า FIA ต่อว่า "ต้ีองการช่วยให้ Michael Schumacher เป็นแชมป์โลก" แถมปิดท้ายด้วยการเหน็บทีมตัวเองอีกว่า "Renault ไม่ต้องการเห็น no.1 ไปติดอยู่บนรถของ McLaren (Alonso เซ็นต์สัญญาไปขับให้ McLaren ในปี 2007 ถ้า Alonso ได้แชมป์ รถ McLaren จะได้ no.1 ไปโดยปริยาย)"

จึงขอสรุปว่า จากข้างบนที่ผมเล่ามายาว ๆ ทำให้ผม "ไม่ชอบคาแรคเตอร์ของ Alonso" แต่ผม "ชอบลีลาการขับแบบสาดทุกโค้งตอนไล่ของ Alonso" ครับ

- ขโมยข้อมูลรถ ที่ McLAREN ทำ อายกว่าอีก ( ซวยเลย ปีนั้น Alonso ไปขับให้มันอีก )
บอกให้เอาบุญนะครับ ปี 2007
Alonso เป็นคนเปิดโปง โดยเอาข้อมูล ใน E-mail ที่ทีมงาน McLAREN ส่งมาให้
ไปบอกลุง Bernie เองกับตัว

ข้อนี้ผมอธิบายไปแล้วครั้งนึงแต่จะอธิบายอีกรอบก็แล้วกันครับ

ข้อมูลของ Ferrari ที่บอกว่า McLaren ขโมยมานั้นคือ ภาพสเก็ตรถภายนอกของ Ferrari กว่า 100 ภาพครับ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ McLaren ไม่ได้ขโมยข้อมูลมา แต่ "Ferrari เป็นคนส่งข้อมูลมา" ต่างหาก Nigel Stepnie จาก Ferrari เอาภาพรถของ Ferrari ออกมาให้ Mike Coughland จาก McLaren จะเพื่อการใดก็ไม่อาจทราบ (Nigel Stepnie อ้างว่า อยากรู้ว่าข้อมูลนี้จะเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง มันหมายความว่าไงเนี่ย ?) สิ่งที่ผิดคือ Mike Coughland ไปรับภาพมาเก็บไว้นี่แหละครับ และจากการลงโทษจาก FIA ผมว่าก็เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูที่ถือว่าเหมาะสมแล้ว (น่าจะเป็นการลงโทษที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ F1 แล้วล่ะครับ โดนปรับ 100ล้านเหรียญ ริบคะแนนสะสมประเภทผู้ผลิตทั้งปี และผลพวงจากเรื่องค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดอีก)

แต่หลายคนอาจจะมองว่า "ลงโทษแล้วก็จริงแต่ McLaren ก็ได้ข้อมูลไปแล้วเอาไปใช้พัฒนารถตัวเองในปีนั้นและปีต่อ ๆ ไปได้อยู่ดี" ผมอยากจะย้อนถามว่า ถ้าสิ่งที่ถูกขโมยไปคือ ภาพสเก็ต แล้วรถ McLaren มี Bodywork หรือ Aerodynamic เหมือนรถของ Ferrari มั้ยครับ ? จากที่ผมสังเกตดู มันไม่เหมือนครับ เพราะมัน "ถูกส่งมาให้" แต่มัน "ไม่ได้ถูกใช้" ครับ แต่บางคนอาจจะบอกว่า "ก็มันเอาเฉพาะชิ้นส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ มาใช้" ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงมันก็ไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้รถ McLaren เร็วกว่า Ferrari ในปีนั้นครับ (แฟน ๆ ม้าลำพองบอกว่ารถแมคแรงกว่าเพราะก๊อปรถเฟอมา) และอย่างที่ผมบอกไปที่บล็อกก่อนหน้านี้ การแชร์ข้อมูลกันใน F1 ถือเป็นเรื่องปกติครับ ช่วงกลางฤดูกาล 2007 ไปจนถึงฤดูกาล 2008 หลาย ๆ ทีมก็ก๊อป Double Front Wing สไตล์ของ McLaren ไปใช้ครับ Adrian Newey เองก็เอาข้อมูลด้าน Aerodynamic ที่พัฒนาให้กับ McLaren ไปพัฒนาให้กับ Red Bull ต่อครับ หรือยกตัวอย่างง่ายที่สุด ตอนเด็ก ๆ พวกคุณเคยลอกการบ้านกันมั้ยครับ ? หรืออย่างน้อย ๆ คุณก็อาจจะบอกเพื่อนว่า "เฮ้ย...ขอดูเป็นตัวอย่างข้อนึงดิ เดี๋ยวที่เหลือเราไปทำต่อเอง" กรณีข้างบนมันก็เป็นอะไรที่ประมาณนี้แหละครับ และสำหรับ F1 เมื่อขึ้นฤดูกาลใหม่ทุกอย่างคือเริ่มต้นใหม่ครับ จะมาบอกว่าเอาข้อมูล Ferrari มาใช้ต่อในปีต่อ ๆ ไปมันเป็นไปไม่ได้ครับเพราะมันจะไม่เกิดการพัฒนา

Ferrari เองก็ไม่ใช่ว่าจะมีประวัติขาวสะอาดหมดจดครับ เมื่อปี 1996 (น่าจะประมาณนี้ถ้าจำไม่ผิด) Ferrari จงใจทำรถผิดกฏให้กับ Michael Schumacher และถูกจับได้ Schumacher โดนแบนไปตลอดฤดูกาลนั้นที่เหลือครับ และแน่นอน Ferrari ยังขึ้นชื่อเรื่อง Team Order เป็นที่ 1

Renault เองนอกจากจะมีคดีอื้อฉาวที่สิงคโปร์แล้ว ยังมีคดีที่ไปล้วงข้อมูล McLaren อีกคดีนึง แต่คดีนี้เหมือนหลักฐานไม่เพียงพอหรืออย่างไรไม่ทราบได้ FIA ตัดสินให้ Renault ไม่มีความผิดในกรณีนี้ครับ

สรุปก็คือ เมื่อมีการลงโทษเกิดขึ้น ทุกสิ่งถือเป็นสิ้นสุดครับ ถ้าเรามัวยึดติดอยู่แต่กับสิ่งเดิม ๆ เราก็จะทำได้เพียงย่ำอยู่กับที่ครับ

เสริมอีกนิด เรื่อง Team Order หลายคนมองว่า "ก็เป็นการแข่งแบบทีม จะมี Team Order ก็ไม่เห็นจะผิดนี่" จริง ๆ แล้วที่ทีมแข่งหนึ่งทีมมีรถ 2 คันก็เพื่อว่าให้เกิดการเปรียบเทียบกันในทีมครับ ถ้ามีรถคันเดียวเราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่ารถเรามันดีจริงหรือเปล่ามันจะทำให้ไม่เกิดการพัฒนาครับ รถแย่ ๆ แต่นักแข่งฝีมือดีมาขับมันก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งครับ ในทางกลับกันรถดี ๆ แต่นักแข่งฝีมือแย่มาขับมันก็วิ่งไม่ออกเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น Renault 2006 ถ้า Fisichella ขับ Renault คนเดียวโดยไม่มี Alonso เราจะรู้ได้อย่างไรครับว่าปีนั้นรถ Renault เป็นรถที่ดีที่สุดในปีนั้น หรือ McLaren 2008 ถ้า Kovalainen ขับคนเดียวโดยไม่มี Hamilton McLaren จะได้รางวัล Car of the year มาเหรอครับ หรือที่ชัด ๆ ที่สุดเลยถ้าให้ Alonso ขับให้ Renault คนเดียวในปี 2008-2009 เราจะรู้ได้อย่างไรครับว่าปีนั้นรถ Renault มันห่วยบรมเลย (หลายคนมองว่า Alonso ฝีมือตกครับจริง ๆ ไม่ใช่รถ Renault มันแย่มากเลย 2 ปีนั้น) เพราะฉะนั้นนี่แหละครับถึงเป็นเหตุผลว่า ทำไม 1 ทีมถึงต้องมีรถ 2 คัน

และจากมุมมองของผม ผมมองว่านักแข่งทุกคนก้าวขึ้นมาสู่วงการ F1 ที่ว่ากันว่าเป็นสุดยอดของการแข่งรถในโลก พวกเค้าไม่ได้ต้องการก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ "เพื่อมาเป็นมือสอง" ของใครแน่นอนครับ เป้าหมายของพวกเค้าทุกคนเหมือนกันคือ ตำแหน่งแชมป์โลก เพราะฉะนั้นผมมองว่า Team Order มีได้ แต่ใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ ไม่ใช่ใช้พร่ำเพรื่อ ถ้าจะให้ดีให้นักแข่งได้แสดงฝีมือกันอย่างเต็มที่ในสนามแข่งดีกว่า มันถึงจะ Fair and Square ครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านมาได้ถึงตรงนี้

ถ้ามีจุดไหนข้อมูลผิดพลาดหรืออ่านแล้วงง ๆ ต้องขออภัยด้วยครับ ยิ่งพิมพ์มากยิ่งมึนเอง = =


โดย: fascinator IP: 124.120.170.104 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:20:51:11 น.  

 
คุณ fascinator แสดงความเห็นได้ดีครับ


ผมก็เป็นคนนึงที่เห็นด้วยว่านักขับ F1 ส่วนใหญ่เก่งๆกันทั้งนั้นแหละ เก่งมากเก่งน้อย ก็อีกเรื่องนึง รถมันก็สำคัญ ที่สำคัญ วงการ F1 มันก็ไม่ได้ขาวสะอาดเท่าไหร่อยู่แล้ว สีเทาๆ ขาวบ้าง ดำบางนี่ล่ะมั้ง ทำให้คนกลุ่มนึงยังหลงรักมันงอมแงมอยู่อย่างนี้ 555+


โดย: runtaro IP: 124.122.20.21 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:22:17:10 น.  

 
กลุ่มที่ว่านั่นก็คือคนอย่างพวกเราใช่มั้ยคะคุณ runtaro อิอิ


โดย: finishline วันที่: 15 กันยายน 2553 เวลา:8:48:07 น.  

 
ถูกต้องคร้าบบบบบบ ^^'


โดย: runtaro IP: 124.122.20.40 วันที่: 15 กันยายน 2553 เวลา:22:19:12 น.  

 
เมื่อไหร่ Webber จะเลิกทำตัวงี่เง่าใส่ Seb เสียที
อย่างที่ผ่านมา พี่มาร์ค มัวแต่บล็อก Seb อยู่ตอนออกสตาร์ท Rosberg เลยแซงที่เดียว3คันรวด
มาร์คเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ปล่อยทุกคนแซงได้แบบไม่ขัดขืน แต่ถ้าเป็น Seb เมื่อไหร่ละก็ สู้แบบไร้เหตุผล
ยืนยันได้จากวาเลนเซีย รถของSeb เลยไปแล้วครึ่งคัน พี่แกก็ยังไม่ยอมเปิดให้ จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุ
ชอบทำตัวแสดงอาการอิจฉาออกหน้าออกตา
ทั้งที่ว่าขนาดรถของตัวเองเบากว่ารถของSeb เพราะ มาร์คน้ำหนักตัวมากกว่า Seb ทีมงานจึงเลือกให้รถของมาร์คเบากว่า ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ Seb ไม่เคยปริปาก
แต่ตามาร์คนี่กลับไม่ได้สนใจ กะสอย Seb อยู่ได้ ทีกะคนอื่นละก็ ไม่รู้จักหัดบล็อก เหมือนที่ทำกับ Sebมั่ง ประหลาดคนจริงๆ
สไตล์การขับพี่แกก็งั้นๆ สตาร์ทก็ไม่เท่าไหร่ โดนแซงตลอด มีดีแค่รถเท่านั้นแหละ


โดย: คู่หู เรดบูล IP: 117.47.210.135 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:7:39:32 น.  

 
วันที่28นี้ เรดบูล พักที่สมุยด้วยหรือปล่าวคะ
อยากได้รายละเอียดมากกว่านี้จังเลย


โดย: Seb's fan IP: 117.47.210.135 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:7:42:02 น.  

 
แก้นิดนึง ไม่ใช่ที่วาเลนเซีย
วาเลนเซียนี่เป็นการพุ่งเข้าชนท้ายแบบเต็มๆของพี่มาร์ค
แต่ที่บอกว่า Seb แซงไปแล้วครึ่งคันนี่เป็นที่ตุรกี


โดย: คู่หูเรดบูล IP: 117.47.210.135 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:7:51:02 น.  

 
โอ้! มีแฟนเร้ดบูลและน้องเซ็บเพิ่มขึ้นในบล็อกแล้ว เย้ๆๆ (นอกหน้าไปนิดดดดส์นึง 555)

ท่าทางคุณคู่หูเรดบูลจะโมโหพี่มาร์กมากๆ เลยนะเนี่ย ใจเย็นค่ะ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว แต่พูดก็พูดเถอะ ตั้งแต่เกิดเรื่องที่ตุรกี เราชักไม่อยากเห็นเร้ดบูล 2 คันอยู่ใกล้กันเลยค่ะ มันเสียวไส้ :(

ส่วนคุณ Seb's fan ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวอะไรคืบหน้าเลยค่ะ ซึ่งคุณ runtaro แฟนคลับน้องเซ็บที่เหนียวแน่นคนหนึ่งในบล็อกนี้กำลังตามสืบข่าวอยู่ แต่เตรียมใจ 50-50 นะคะ เพราะเค้ามีว่าให้มาพักผ่อนมากกว่าจะโชว์ตัว

ถ้าพลาดก็ตามไปเซปังปีหน้าซะเลยดีมั้ยคะ อิอิ


โดย: finishline วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:15:52:56 น.  

 
ได้ข่าวมาแว่วๆจากเยอรมัน..... ว่า Seb มีเฟอรารี่
ซึ่งโดยตามหลักแล้วถ้าเจ้าตัวซื้อเองเนี่ย น่าจะเป็น porsche มากกว่า
อาจแปลความหมายได้ว่า Seb ได้ Fer มาเพื่อเป็นการทาบทามตัว Seb เข้าทีมใหม่หรือปล่าว


โดย: Seb's fan IP: 117.47.210.135 วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:0:10:44 น.  

 
โอ้! น้องซื้อรถใหม่เหรอคะ อืมมมม เราก็ไม่ทราบข่าวเหมือนกันนะคะเพราะล่าสุดตอนที่กลับบ้านไปเมื่อเดือน ก.ค. น้องยังใช้ BMW คันเก่าที่เขาน่าจะซื้อสัก 3-4 ปีก่อน ตอนนี้เราเจอแต่ข่าวแม็คลาเรนอยากทาบทามน้องอีกครั้งหลังจากหมดสัญญากับเร้ดบูลในปี 2012 เพราะคราวที่แล้ววืดไป เร้ดบูลสอยตัวจากเร้ดบูลเล็ก-โตโร รอสโซ่มาร่วมทีมใหญ่ได้ก่อน


โดย: finishline วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:10:20:29 น.  

 
มีคนเห็น Seb ใช้ เฟอรารี่ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าได้มายังงัย
แล้วปกติ คนเยอรมันชาตินิยมสุดฤทธิ์ และ Seb ก็คงไม่ซื้อเฟอรารี่แน่นอนต่ะ


โดย: Seb's fan IP: 114.128.214.250 วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:22:26:14 น.  

 
แม็คคลาเรนเหรอคะ Buttonเองเป็นคนอังกฤษ น่าจะยังถูกใจทีมอยู่พอสมควร ส่วนทีมเฟอรารี่เองนั้นก็สนใจ Seb อยู่ไม่ใช่น้อย แล้วอีกอย่าง Massa เองก็ไม่ค่อย100% สักเท่าไหร่ หลังจากอุบัติเหตุครั้งก่อน สาเหตุนี้เองจึงทำให้หลายคนคาดเดาว่า เฟอรารี่คันที่ Seb ใช้อยู่น่าจะอภินันทนาการมาจากเฟอรารี่


โดย: Seb's fan IP: 114.128.214.250 วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:22:34:17 น.  

 
ถ้าที่เขาว่ากันมาจากรูปๆ นึงที่เหมือนน้องอยู่ที่ปั๊มน้ำมันกับรถเฟอร์รารี่ อันนั้นมันเหมือนตัดต่อหรือช็อตถ่ายแบบขำๆ น่ะค่ะ เราเคยเห็นแล้วนะคะรูปนี้ แต่จำไม่ได้ว่าเห็นที่ไหน อาจจะใน sebastian-vettel.org/forum แต่ต้องสมัครสมาชิกนะคะถึงจะเข้าไปอ่านได้


โดย: finishline วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:7:23:56 น.  

 
มีใครได้รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับ วันที่28 กันยา ที่สมุยบ้างคะ


โดย: Seb's fan IP: 114.128.214.250 วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:21:18:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.