Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 
27 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
เล่าข่าว...หลังสนามเกาหลี

ประเด็นเยอะแยะมากมายหลังจบจากสนามยองอัม เราคัดมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันสำหรับวันนี้นะคะ


"ฟังพวกเราด้วยนะ"

เมื่อคืนวันเสาร์ก่อนแข่งรายการโคเรียน กรังด์ปรีซ์ สมาคมนักขับกรังด์ปรีซ์ หรือ Grand Prix Drivers' Association (GPDA) โดยประธาน รูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ และสองผู้อำนวยการ เฟลิเป้ มาสซ่า และเซบาสเตียน เวทเทล ได้ประชุมร่วมกับฌอง ท็อดท์ ประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) เสนอให้เอฟไอเอรับฟังความคิดเห็นของบรรดานักขับด้วย ทั้งเกี่ยวกับกฎกติกาต่างๆ ที่จะออกมาใหม่ โดยเฉพาะที่จะปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ในปี 2013 และการมีสนามใหม่ๆ เกิดขึ้น จุดประสงค์ในเรื่องนี้ บาร์ริเคลโล่เน้นเพียงแค่อยากให้นักขับมีส่วนร่วม ไม่ได้หวังถึงขั้นว่าจะมีอิทธิพลในการตัดสินใจใดๆ โดยจากทีท่าของประธานเอฟไอเอคนปัจจุบันซึ่งเป็นนายเก่าของที่เฟอร์รารี่ก็ดูจะเป็นบวกค่ะ บาร์ริเคลโล่ยกตัวอย่างถึงเรื่องทางเข้า-ออกพิทของสนามยองอัมที่กล่าวถึงกันมากว่าน่าจะดีกว่านี้หากนักขับได้ให้ความคิดเห็นในการออกแบบด้วย


"สัญญาว่าจะทำให้ดีขึ้น"

ยัง โช ชุง ผู้จัดการแข่งขันของสนามยองอัม ยอมรับว่ายังมีจุดที่ต้องปรับปรุงและจะทำให้ดีขึ้นในปีหน้า ทั้งในส่วนถนนรอบสนามและที่พัก ตัวสนามเองก็มีหลายจุดที่ต้องแก้ไข ต้องมีการปูหญ้าเพิ่มบริเวณแกรนด์สแตนด้วย และตามแผนก็จะต้องสร้างโรงแรมใหม่ๆ ใกล้กับสนามให้ทันปี 2011 ส่วนของพื้นที่เชิงพาณิชย์และท่าเรือก็จะได้สร้างต่อไปเช่นกัน พร้อมกันนี้เขาได้กล่าวขอโทษแฟนๆ ที่ต้องลำบากถึงขั้นต้องจอดรถทิ้งไว้บนถนนหลวงเพื่อจะเข้าสนามให้ทันเวลาในวันแข่ง ซึ่งเขารับปากที่จะแก้ปัญหานี้ให้ได้ในปีหน้า สำหรับจำนวนผู้ชม วันแข่งน่าจะมีประมาณถึง 100,000 คน ส่วนวันควอลิฟาย น่าจะอยู่ที่ 62,000 คน และการซ้อมเมื่อวันศุกร์มีผู้ชมจำนวน 42,000 คน




ยัง โช ชุง



"อย่าเพิ่งดีใจไป..."

ลูก้า ดิ มอนเตเซโมโล่ ประธานเฟอร์รารี่ เตือนลูกทีมอย่าเพิ่งล่องลอยไปกับชัยชนะครั้งล่าสุด เพราะทีมยังไม่ได้คว้าแชมป์อย่างสมบูรณ์ จึงย้ำให้ทุกคนยังต้องตั้งอกตั้งใจไปให้ถึงจุดหมายที่วางไว้ ส่วนสเตฟาโน่ โดเมนิคาลี่ ทีมบอสก็กระตุ้นลูกทีมไม่ให้ผิดพลาดในอีก 2 สนามที่เหลือ แม้สถานการณ์ของเฟอร์นันโด อลอนโซ่ จะสดใสกว่าใครในบรรดาคนที่ลุ้นแชมป์ ทุกอย่างจะต้องออกมาสมบูรณ์แบบตั้งแต่การเตรียมตัวที่มาราเนลโล่จนกระทั่งถึงในสนาม ที่สำคัญคือต้องไม่หลงระเริงไปกับคำชื่นชมต่างๆ ที่ได้รับมา


"มั่นใจ...ยังได้อยู่"

นิค ไฮด์เฟลด์ นักขับเซาเบอร์ ซึ่งปีนี้เขารับมาหลายจ๊อบ ตั้งแต่เป็นนักขับสำรองของเมอร์เซเดส จีพี ก่อนจะกระโดดไปเป็นนักขับทดสอบให้ยางปิเรลลี่ จนกระทั่งกลับมาขับเป็นตัวจริงให้เซาเบอร์ทีมเก่า แต่ก็จะทำหน้าที่ถึงแค่สนามสุดท้ายของฤดูกาลเท่านั้นค่ะ อย่างไรก็ตาม แม้อนาคตในปีหน้าจะยังไม่ชัดเจน แต่เขาก็คิดว่าจะต้องหาที่นั่งจนได้ในที่สุด




ปีหน้าจะไปอยู่ที่ไหนดี?



ตอนนี้ไฮด์เฟลด์เจรจาอยู่กับหลายๆ ทีมค่ะ ซึ่งเจ้าตัวไม่ระบุแต่นักข่าวก็คาดว่าจะมีทั้งฟอร์ซอินเดีย เรโนลต์ และวิลเลียมส์ โดยขณะนี้มีแนวโน้มว่านักขับที่มี "การหนุนหลังทางการเงิน" มาเกี่ยวข้องจะได้รับความสนใจจากทีมต่างๆ มากกว่า โดยเฉพาะทีมระดับกลาง อย่างเช่นเซาเบอร์เองที่ได้เซ็นสัญญากับเซอร์จิโอ เปเรซ นักขับเม็กซิกันที่จะมาร่วมทีมในปีหน้าพร้อมกับการมาของเทลเม็กซ์ บริษัทโทรคมนาคมของเม็กซิโก แต่เขาก็ยังเชื่อมั่นในความสามารถของตนแม้จะไม่มีสิ่งเหล่านั้นที่ทีมหลายทีมในปัจจุบันกำลังมองหา และไม่คิดที่จะลงแข่งกับทีมท้ายแถวในกริดค่ะ






*ข้อมูลและภาพจาก autosport.com/f1




Create Date : 27 ตุลาคม 2553
Last Update : 27 ตุลาคม 2553 17:16:18 น. 19 comments
Counter : 1122 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข่าวครับ คุณ finishline

ต่อไปต้องเรียกเจ้า Seb ว่าท่านผู้อำนวยการแล้วสิ ฮ่าๆๆๆ จะว่าไปไม่รู้ว่าทุกคนจำตอนแข่งได้มั้ย ที่ผู้บรรยายบอกว่า แฟน F1 ที่เกาหลีจำนวนมากไม่สวม earplug ไม่รู้ว่ากลับบ้านไปจะหูชากันรึเปล่าเนอะ ปีหน้าก็หวังว่าอะไรๆจะดีขึ้น ส่วนตัวมองว่า โค้ง 1 กับ โค้ง 2 ของที่นี่ น่าจะสนุกเลยนะ ถ้าเป็นการออกสตาร์ทแบบธรรมดา


ปีหน้าก็ขอให้ QN ได้ขับต่อด้วยเถอะ ถ้าได้รถดีๆหน่อย รับรองว่าทำแต้มให้ทีมได้แน่นอน

อ้อ..วันนี้ไปเจอกระทู้อันนึงที่บอร์ดบ้าน autosport แทบจะหัวเราะก๊ากออกมาเลย ฮามาก

Korean plan to honour Adrian Sutil thrown into confusion

Following his exciting drive in the inaugural Korean Grand Prix, the organisers have decided to name one of the corners, where Adrian Sutil drove off the track, after him. However, they cannot agree which one to choose…

ถ้าใครสนใจ ไปตามอ่านได้ที่นี่นะ (ที่กระทู้จะมีรูปประกอบด้วยว่าหลุดโค้งไหนบ้าง อิอิ)

//forums.autosport.com/index.php?showtopic=137646



โดย: runtaro IP: 58.137.32.147 วันที่: 27 ตุลาคม 2553 เวลา:18:11:54 น.  

 
ถามเจ้าของบ้านและเพื่อนๆนะครับ
พอดีอยากได้ข้อมูลค่าจ้างนักขับและงบประมาณทำทีมของแต่ละทีมในปีนี้และข้อมูลเก่าของปีที่ผ่านๆมา
หาดูได้ที่ไหนครับ


โดย: yuykit IP: 222.123.204.192 วันที่: 27 ตุลาคม 2553 เวลา:18:19:16 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: TREE AND LOVE วันที่: 27 ตุลาคม 2553 เวลา:19:22:35 น.  

 
สงสัยต้องขอให้คุณ JUNE เจ้าแห่งข้อมูลกับคุณ fascinator ที่ไม่รับฉายาลุงสตีฟช่วยแล้วล่ะค่ะ คุณ yuykit

ข้อมูลค่าจ้างเราเคยเห็นแว้บๆ ที่ไหนน้าาาาา เดี๋ยวจะลองเสิร์ชไปพลางๆ ด้วยค่ะ


โดย: finishline วันที่: 27 ตุลาคม 2553 เวลา:20:17:20 น.  

 
คุณ yuykit ลองดูลิงค์นี้นะคะ


//www.crash.net/f1/news/162562/1/f1_2010_driver_salaries_revealed__who_earns_most.html


โดย: finishline วันที่: 27 ตุลาคม 2553 เวลา:20:23:55 น.  

 
สำหรับรายได้นักแข่งแต่ละคน (รายได้รวมค่าสัญญา สปอนเซอร์ บลา ๆ ๆ ฯลฯ)
ปี 2010
1 Fernando Alonso, Ferrari - €30 million
2 Lewis Hamilton, McLaren - €16 million
= Kimi Räikkönen, Ferrari - €16 million ค่าฉีกสัญญา *0*
4 Felipe Massa, Ferrari - €14 million
5 Jenson Button, McLaren - €9 million
6 Michael Schumacher, Mercedes - €8 million
= Nico Rosberg, Mercedes - €8 million
8 Robert Kubica, Renault - €7.5 million
9 Rubens Barrichello, Williams - €5.5 million
10 Mark Webber, Red Bull - €4.2 million
11 Jarno Trulli, Lotus - €3 million
12 Sebastian Vettel, Red Bull - €2 million
= Heikki Kovalainen, Lotus - €2 million
14 Timo Glock, Virgin - €1 million
15 Nico Hülkenberg, Williams – €700,000
16 Pedro de la Rosa, Sauber – €500,000
= Kamui Kobayashi, Sauber – €500,000
18 Vitaly Petrov, Renault – €400,000
= Sébastien Buemi, Toro Rosso – €400,000
= Jaime Alguersuari, Toro Rosso – €400,000
21 Adrian Sutil, Force India – €200,000
= Vitantonio Liuzzi, Force India – €200,000
= Lucas di Grassi, Virgin – €200,000
24 Bruno Senna, Hispania – €150,000

- Karun Chandhok, Hispania – Pay driver
- Sakon Yamamoto, Hispania - Pay driver

ปี 2009
1. Kimi Raikkonen $45m
2. Lewis Hamilton $18m
3. Fernando Alonso $15m
4. Nico Rosberg $8.5m
5. Felipe Massa $8m
6. Jarno Trulli $6.5m
7. Sebastian Vettel $6m
8. Mark Webber $5.5m
9. Jenson Button $5m
10. Robert Kubica $4.5m
11. Heikki Kovalainen $3.5m
12. Nick Heidfeld $2.8m
13. Timo Glock $2m
14. Giancarlo Fisichella $1.5m
15. Sébastien Buemi $1.5m
16. Rubens Barrichello $1m
17. Jaime Alguersuari $0.5m
18. Vitantonio Liuzzi $Nil สปอนเซอร์จ่ายให้
19. Adrian Sutil $Nil สปอนเซอร์จ่ายให้
20. Romain Grosjean $Nil สปอนเซอร์จ่ายให้
21. Kazuki Nakajima $Nil สปอนเซอร์จ่ายให้

ปี 2008
1. Alonso $28 Million Dollars
2. Kimi Raikkonen $22 Million Dollars
3. Nick Heidfeld $11 Million Dollars
4. Lewis Hamilton $5 Million Dollars

ปี 2007
- No. 1: Kimi Raikkonen, Ferrari, $51 million U.S.

- No. 2: Ralf Schumacher, Toyota, $25 million.

- No. 3: Fernando Alonso, reigning world champion, McLaren, $22 million.

- No. 4: Jenson Button, Honda, $18 million.

- No. 5: Rubens Barrichello, Honda, $12 million.

- No. 6: Jarno Trulli, Toyota, $10 million.

- No. 7: Felipe Massa, Ferrari, $8 million.

- No. 8: Giancarlo Fisichella, Renault, $7 million.

- No. 9: Mark Webber, Red Bull, $5 million.

- No. 10. Takuma Sato, Super Aguri, $4.5 million.

ส่วนคนที่ได้เยอะที่สุดถูกบันทึกไว้ในปี 2006 กับรายได้ของ Michael Schumacher อดีตแชมป์โลก 7 สมัยกับค่าตัว US$62.4 million ต่อปี

หรือถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมให้ลองพิมพ์คำว่า Salary F1 driver ถามมิสเตอร์กูผู้รอบรู้ดูครับ ลองเซิร์จเล่น ๆ น่าจะหาได้ตั้งแต่ปี 2007-2010

ส่วนค่าใช้จ่ายงบประมาณทำทีม (รวมสปอนเซอร์ FIA และบลา ๆ ๆ ฯลฯ)
ปี 2010 pound GBR
Ferrari £260m 1
McLaren £137m 3
Mercedes £173m 2
Williams £85m 6 Renault £134m 4
Red Bull Racing £134m 4 Toro Rosso £82m 7
Force India £78m 8
Sauber £46m 10
Lotus £52m 9
Virgin £36m 11
HRT £33m 12

ปี 2009 pound GBR
McLaren 308.77m pound 1
Toyota 262.4m pound 2
Ferrari 236.5m pound 3
Brawn GP 103.8m pound 7

ปี 2008 US doll
Toyota: $445.6m
McLaren: $433.3m
Ferrari: $414.9m
Honda: $398.1m
Renault: $393.8m
BMW Sauber: $366.8m
Red Bull Racing: $164.7m
Williams: $160.6m
Toro Rosso: $128.2m
Force India: $121.85m
Super Aguri: $45.6m

ถามมิสเตอร์กูเช่นกันครับกับคำว่า F1 budget ปีหลัง ๆ มานี่ค่าใช้จ่ายลดลงทุกปีครับไม่งั้นทีมเล็กเดี้ยงเรียบ ค่าใช้จ่ายสูงสุดรู้สึกว่าจะถูกบันทึกในปี 2004 กับทีม BAR Honda ด้วยงบประมาณ 540m US dollar นะครับ

2005 รู้สึกจะเป็นเจ้าพ่อบุญทุ่ม Toyota กับ 450m US dollar

2006 นี่ McLaren 480m US doll

2007 แว่ว ๆ ว่าจะเป็น Red Bull แถว ๆ 400 แต่จำงบแน่นอนไม่ได้ เริ่มความจำเสื่อมครับ = =

ปี 2009 ที่ตาแก่ Max Mosley ประธาน FIA คนก่อนเสนอแผน cost cap ขึ้นมาถึงไม่มีทีมไหนยอมรับแล้วก็จะไปตั้งลีกใหม่กันเพราะอย่างนี้แหละครับ ทีมใหญ่ ๆ ซัดกันไป 200-400 ล้านยืนพื้น ในขณะที่ทีมเล็ก ๆ ก็ล่อกันไปซะ 40-50 ล้าน แต่ Mosley อยากจำกัดงบเหลือแค่ 40 ล้านปอนด์ต่อปี - -"


โดย: fascinator IP: 124.120.232.36 วันที่: 27 ตุลาคม 2553 เวลา:22:33:35 น.  

 
ลุงตีฟเราสุดยอดดด


ดูงบประมาณทีมโรงงานกับทีมเล็กๆช่วงปี 2005 - 2009 สิ ลมแทบจับ ฮ่าๆๆๆ ที่น่าเสียดายก็คงจะเป็น Toyota นี่สิ ไม่ชนะซักครั้งเลย ผมก็เห็นด้วยนะที่จะลดลงเรื่อยๆ ไม่รู้ว่างบประมาณต่ำสุดของทีมยักษ์ใหญ่จะอยู่ที่ตรงไหนเนอะ


โดย: runtaro IP: 124.121.178.152 วันที่: 27 ตุลาคม 2553 เวลา:22:56:19 น.  

 
ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ช่วยให้ข้อมูลนะครับ
ขอบคุณมากๆครับ


โดย: yuykit IP: 222.123.204.192 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:0:04:58 น.  

 
แว่วๆมาว่าช่วงที่ลุงชูอยุ่เฟอร์ ว่ากันว่าเฟอร์ใช้ไปถึงสองหมื่นล้าน บาทอ่ะครับไม่ค่อนแน่ใจเท่าไหร่อะครับ ลงทุนไปกับเครื่องนี้น่า จาประมาณหนึ่งหมื่นล้านบาทอ่ะครับเฉพาะเครื่องอย่างเดียวอ่าครับ


โดย: TON IP: 182.52.204.137 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:3:02:52 น.  

 
คิดถึงฮอนด้า แงๆๆๆ


โดย: Honda IP: 27.130.77.131 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:3:23:58 น.  

 
ปี 2007 อันดับ 2 น่าจะเป็น Alonso นะครับ
( แชมป์โลกล่าสุดในปี 2006 เชียวนะ ก่อนย้ายมา McLAREN 2007 )
* คิดว่ารวมหมด ช่วงจบ season 2007 สูงกว่า Ralf มากครับ
- - - - - -

ด้าน FERRARI ขึ้นชื่อจอมทุ่มอยู่แล้วครับ
เรื่องค่าจ้างนักขับ

* แต่จะทุ่มเว่อร์ๆหน่อยให้นักขับ ที่ทีมคิดว่าเป็นเบอร์ 1 นะ
( มีนักขับ 2 คน คนนึงได้เยอะมาก อีกคนก็น้อยมาก )

ปีนี้เราก็ว่า Fernando Alonso ได้ค่าจ้างสูงมากๆ
ช่วงกลาง season เห็นฟอร์มแผ่วๆ ก็คิดว่าจะเจอปัญหาเรื่องขับไม่คุ้มค่าตัว
แบบ Kimi

Alonso
มาท้าย season เอออ. คุ้มหน่อย.
จ่อฟันแชมป์โลก & DHL FASTEST LAP
ถ้าปีนี้ ทำได้จริงๆ ค่าเหนื่อยปีหน้า up เพิ่มกระฉูดแหงๆ


โดย: JUNE IP: 125.27.140.69 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:6:01:20 น.  

 
ตอบคุณ TON

Toyota เป็นทีมที่มีงบประมาณทำทีมสูงสุดครับ แต่เมื่อรวมเงินจากแหล่งอื่น ๆ แล้ว McLaren จะมีงบสูงสุด นั่นคือ McLaren หาเงินเก่งครับ เราจึงเห็น Toyota กับ McLaren สลับกันขึ้นหัวแถวใช้เงินทุนสูง ในขณะที่ Ferrari มีงบประมาณทำทีมน้อยกว่า Toyota และหาสปอนเซอร์ไม่ได้เยอะเท่า McLaren จึงรั้งอันดับ 3 ไว้ซะส่วนใหญ่

ตอบคุณ JUNE

ใช่ครับค่าตัว Alonso ในปีนั้นเป็นอันดับ 2 รองจาก Kimi (Alonso รับค่าเหนื่อย 12 ล้านเหรียญต่อปี ในขณะที่ Kimi รับ 22 ล้านเหรียญ) แต่เมื่อรวมค่าสปอนเซอร์ ลิขสิทธิ์ สัญญา ออกโฆษณา ฯลฯ Alonso หล่นไปที่ 3 ครับ เฮีย Ralf แกออกโฆษณาประชาสัมพันธ์เยอะ


โดย: fascinator IP: 10.17.33.147, 124.121.235.106 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:10:15:10 น.  

 
แง้....

ทำไมลิงค์เราไม่ขึ้นอ่ะ???

ขอบคุณทุกๆ คนมากนะคะสำหรับข้อมูล ไม่ผิดหวังจริงๆ^^


โดย: finishline วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:11:00:40 น.  

 
ครับผม ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับคุณ fascinator แต่คาดว่าปีต่อๆไปคงลงมาเรื่อยอ่าครับ เห็นว่ากำลังจะกลับไปใช้เครื่องเทอร์โบนี่มันพอเป็นไปได้มั้ยครับ เห็นว่ามันประหยัดทุนกว่าเครื่องที่ใช้อยู่ตอนนี้อ่ะครับ


โดย: TON IP: 182.52.204.31 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:15:13:00 น.  

 
ตอนนี้ผมคิดว่าเครื่องไม่ใช่ปัจจัยหลักในการใช้งบประมาณนะครับเพราะโดนนโยบาย Engine freeze ของ FIA เข้าไป คือ FIA ไม่ให้พัฒนาเครื่อง ทีมที่เป็น Engine supplier อย่าง Toyota , Honda , BMW ถึงได้ถอนทีมกันไปหมด เพราะในเมื่อพัฒนาเครื่องไม่ได้ก็ไม่รู้จะเอาเงินไปทิ้งทำไม


โดย: fascinator IP: 10.17.33.147, 124.121.235.106 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:16:17:44 น.  

 
ครับผม เห็นว่าจาลดลงถึง 4000 กว่าล้าน ต่อปี ถ้าเป็นยังงี้จริง เห็นว่าเครื่องก็หมดไปแล้วประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ก็ 2000 กว่า เอาลงลงทุนเครื่องนี้ผมเดาว่ามันไม่น่าจาพอครับ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น 4 สูบ เทอร์โบ ปั่นแรงม้าได้ราว 1000 ก็น่าสนนะครับ ผมว่าเครื่องที่แรงม้าเท่ากันกับ NA มันน่าจาประหยัดงบประมาณกว่าป่ะครับคุณ fascinator ต้องรอดูว่าท่านประธานท็อดแห่งเฟอร์รารี่ อิๆ แซว ท่านประธาน FIA จะว่ายังไงกับกฏใหม่ๆ เห็นว่าหลายทีมก็พร้อมพัฒนาเครื่องเทอร์โบอยู่อ่าครับ น่าจาประหยัดลงได้พอสมควร อายุการใช้งานน่าจาสั้นลงแต่ก็ประหยัดลงค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ ท่านใดว่าอย่างไรกันบ้างครับ ถ้าข้อมูลผิดยังไงก็ต้องขออภัยนะครับ..


โดย: TON IP: 182.52.204.31 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:20:34:25 น.  

 
คือในอนาคตเค้าพยายามจะทำให้ F1 ประหยัดน้ำมันอะครับ เครื่องยนต์ 1500 ซีซี แต่รีดแรงม้าได้สูงจึงเป็นอะไรที่น่าสนใจ คาดว่าถ้าทำจริง Honda , Toyota อะไรพวกนั้นน่าจะกลับมา

ส่วนเรื่องอายุการใช้งานไม่น่าจะใช่ปัญหาครับ รถแข่งพวกนี้มันจะมีอายุการใช้งานเครื่องสั้นอยู่แล้วเพราะจุดประสงค์ของการแข่งรถคือทดสอบสมรรถนะของทุกชิ้นส่วนในสภาวะรับแรงกระทำถึงขีดสุด

Porsche กล่าวไว้ว่า "รถแข่งที่ดีที่สุดคือรถที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก จากนั้นก็แตกเป็นชิ้น ๆ"

นั่นคือ วิศวกรสามารถคำนวณแรงกระทำที่เกิดกับรถได้อย่างแม่นยำ จากนั้นจึงนำหลักการคำนวณนั้นมาใส่ Safety factor เพิ่มความทนทาน แล้วพัฒนาต่อมาเป็นรถบ้านที่วิ่งกันอยู่ตามท้องถนนนี่แหละครับ


โดย: fascinator IP: 124.120.173.237 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:22:14:31 น.  

 
ครับผม ขอบคุณครับคุณ fascinator ที่มาให้ข้อมูลครับ รอลุ้นต่อที่บราซิล อยากให้นักขับบราซิลขึ้นมั้งอ่ะ โพเดียมอ่ะครับ อิๆๆ...
หรือว่าจาเอาสเปนไปยืนด้วยหว่าๆๆๆ


โดย: TON IP: 182.52.204.31 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:22:59:01 น.  

 
ให้นักขับบราซิลขึ้นโพเดียมครับแต่ขึ้นข้างเดียว อีกข้างเก็บไว้ให้ Red Bull ส่วนตรงกลางขอเป็นแมคละกันนะครับจะได้หนุก ๆ ฮี่ ๆ ๆ ๆ


โดย: fascinator IP: 10.17.33.147, 124.122.29.183 วันที่: 29 ตุลาคม 2553 เวลา:9:27:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.