Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 
7 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
British Grand Prix 2011

เขาว่ากันว่าบุคลากรของฟอร์มูล่าวันส่วนใหญ่เป็นชาวอังกฤษ เพราะฉะนั้นสุดสัปดาห์นี้จึงถือเป็น "โฮมเรซ" ของทีมหลายทีมและใครหลายคน ที่สำคัญ ด้วยรูปโฉมที่เปลี่ยนไปและกฎก็เปลี่ยนแปลง บริติช กรังด์ปรีซ์ ในปีนี้จึงน่าติดตามอย่างยิ่ง









รายละเอียดการแข่งขันและข้อมูลสนาม
สนามที่ 9
วันแข่งขัน: อาทิตย์ที่ 10 ก.ค. 54 (รอบจัดอันดับ เสาร์ที่ 9)
เวลาแข่งขัน (ไทย): 19.00 น.
ชื่อสนาม: Silverstone
จำนวนรอบแข่งขัน: 52 รอบ
ความยาวของสนาม: 5.891 กม.
ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด: 306.227 กม.
ความเร็วสูงสุด: 302 กม./ชม.
อัตราการใช้คันเร่งเต็มที่ต่อ 1 รอบ: 62%
ดาวน์ฟอร์ซ: สูง
อัตราการใช้ยาง: สูง
อัตราการใช้เบรก: ต่ำ
แรง G สูงสุด: 5
สถิติสนามต่อ 1 รอบ : 1:30.874 (เฟอร์นันโด อลอนโซ่ / เฟอร์รารี่ - 2010)
พยากรณ์อากาศวันแข่ง : มีเมฆเป็นส่วนมาก อุณหภูมิ 10/20 องศาเซลเซียส

ผู้ชนะบริติช กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด
2010 - มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล)
2009 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล)
2008 - ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน)

โพลโพซิชั่น (Pole Position) 3 ปีหลังสุด
2010 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:29.615
2009 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:19.509
2008 - เฮกกิ โควาไลเน่น (แม็คลาเรน) 1:21.049

โปรแกรมทั้งหมดสำหรับสุดสัปดาห์นี้ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ค่ะ
ซ้อม 1 - ศุกร์ที่ 8 ก.ค. เวลา 15.00-16.30 น. (ไทย)
ซ้อม 2 - ศุกร์ที่ 8 ก.ค. เวลา 19.00-20.30 น.
ซ้อม 3 - เสาร์ที่ 9 ก.ค. เวลา 16.00-17.00 น.
รอบควอลิฟาย - เสาร์ที่ 9 ก.ค. เวลา 19.00-20.00 น.
แข่งขัน - อาทิตย์ที่ 10 ก.ค. เวลา 19.00 น.

บางเรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้หรือลืมไปแล้วเกี่ยวกับบริติช กรังด์ปรีซ์
- สนามนี้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านซิลเวอร์สโตนในเขตนอร์ทแธมป์ตันเชียร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองอ็อกซ์ฟอร์ด มิลตันคีนส์ เบอร์มิงแฮม และลอนดอน
- บริติช กรังด์ปรีซ์ จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1926 ที่บรู๊กแลนส์ ต่อมาก็สลับกันไประหว่างซิลเวอร์สโตน เอนทรี และแบรนส์แฮตช์ ก่อนที่ซิลเวอร์สโตนจะรับหน้าที่มาตลอดตั้งแต่ปี 1987 จนถึงปัจจุบัน
- ผู้ชนะรายการนี้มากที่สุดมี 2 คนที่ทำสถิติเท่ากันที่ 5 ครั้ง ได้แก่ จิม คลาร์ก และอแลง พรอสต์ ส่วนทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็มี 2 ทีมซึ่งทำไว้ 14 ครั้งเท่ากัน ได้แก่ เฟอร์รารี่และแม็คลาเรน
- จากการแข่งขันบริติช กรังด์ปรีซ์ทั้งหมด มีนักขับสหราชอาณาจักรชนะทั้งหมด 12 คน โดยสเตอร์ลิ่ง มอสส์ เป็นคนแรกซึ่งชนะในปี 1955


ซิลเวอร์สโตนปีนี้มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง?

หลังเปิดเฟสแรกของการปรับปรุงซิลเวอร์สโตนในโซนอรีน่า (Arena) ไปเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้อาคารพิตหลังใหม่ที่มีชื่อว่า “The Silverstone Wing” จะมีโอกาสต้อนรับการแข่งขันฟอร์มูล่าวันเป็นครั้งแรก อาคารพิตนี้สูง 3 ชั้น ความยาว 390 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างโค้งคลับ (Club) กับแอบบีย์ (Abbey) ใช้เงินลงทุน 27 ล้านปอนด์ โดยลักษณะทางเข้าพิตจะอยู่เหนือระดับแทร็ค ขณะที่ทางออกพิตมีระดับต่ำกว่า ลักษณะคล้ายที่อาบูดาบีเพียงแต่ไม่มีอุโมงค์ ผลจากการขยายไซส์ของอาคารพิต เส้นสตาร์ท-ฟินิชจึงต้องเปลี่ยนไปด้วย จากเดิมที่โค้งคอปส์ (Copse) เป็นโค้งแรกก็จะเปลี่ยนเป็นแอบบีย์

ผังสนามปี 2010
//europeanmotornews.com/wp-content/uploads/2010/07/4773728743_e6243a65da_o.jpg

ผังสนามปี 2011
//www.silverstone.co.uk/events/2011-Formula-1-Santander-British-Grand-Prix1/
(คลิกที่ The circuit)





*ข้อมูลจาก formula1.com / wikipedia.org / europeanmotornews.com / silverstone.co.uk
ภาพจาก guardian.co.uk


Create Date : 07 กรกฎาคม 2554
Last Update : 10 กรกฎาคม 2554 8:19:07 น. 8 comments
Counter : 1887 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ


โดย: ลุ่มน้ำตาปี IP: 182.52.15.26 วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:12:31:32 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

ขอสอบถามจขบ.เรื่องจานเวียดนามน่ะครับ
พวกช่อง hbo, axn มันจะเป็น sub เวียดนาม ไม่ใช่ sub ไทยใช่ไหมครับ พอดีที่บ้านผู้ใหญ่เยอะ ถ้าไม่มี sub ไทย กลัวว่าจะโดนพ่อแม่ แพ่งกระบาลเอาครับ = =


โดย: Valiant IP: 203.156.41.52 วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:24:38 น.  

 
ใช่ค่ะคุณ Valiant มันเป็น sub เวียดนามน่ะค่ะ อิอิ


โดย: finishline วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:57:19 น.  

 
ในที่สุด สนาม F1 ก็เข้าสู่สนามในลักษณะที่เป็นสนามแข่งแบบจริงจังซะที หลังจาก 3 สนามที่ผ่านมาเป็นสนามในลักษณะ street circuit ที่ซึ่ง downforce ไม่ได้เป็นจุดสำคัญและจำเป็นที่สุดสำหรับรถในการเอาชนะการแข่งขัน

จุดที่น่าสนใจของสนามนี้ก็มีอยู่หลายตุด เช่น การแบน off-throttle blown diffuser ได้เริ่มต้นที่สนามนี้ ซึ่งหลายๆคนก็ได้คาดการณ์ว่าผู้นำในตอนนี้อย่าง RBR น่าจะโดนผลกระทบเรื่องนี้ไปไม่น้อยทีเดียว หลายๆคนอย่างเช่นทีมบอสของ Ferrari ถึงกับบอกเอาไว้ว่า สนามนี้อาจจะเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลนี้ใหม่อีกครั้งเลยทีเดียว สำหรับรายละเอียดในเรื่องนี้ เจ้าของบ้านได้ลงรายละเอียดไว้ใน blog ของวันเก่าๆ ลองไปตามอ่านได้นะครับ อีกเรื่องนึงก็คือ การเปลี่ยนแปลงของสนามนี้ ซึ่งเจ้าของบ้านได้โพสเอาไว้แล้วที่ด้านบน

ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของสนามนี้ แต่ความเร็วต่อรอบโดยรวมของสนามก็น่าจะอยู่ในระดับเดิม ซึ่งทำให้สนามนี้เป็น 1 ในสนามที่เร็วที่สุดของการแข่งขันทั้งปี และจากปีที่ผ่านๆมา รถที่มักจะทำผลงานได้ดีในสนามนี้ คือรถที่สามารถสร้าง downforce ได้สูง เพราะมีโค้งความเร็วสูงอยู่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งถ้าท่านใดสนใจเรื่องรายละเอียดทางเทคนิคของสนามนี้ ลองไปอ่านที่ formula1.com ได้นะครับ

สำหรับคนที่น่าจับตามองในสนามนี้ ก็มีอยู่ด้วยกันหลายคน อย่างเช่น ผู้นำในขณะนี้อย่าง Vettel หรือจะเป็นคู่หูแชมป์โลกจากทีมเจ้าบ้านอย่าง JB และ LH หรือจะเป็นแชมป์โลกอีกคนอย่าง Alonso

แต่ผมของมองไปที่แชมป์สนามนี้ในปีที่แล้วอย่าง M.Webber ซึ่งเค้าเองก็เริ่มกลับมามีผลงานที่ดีขึ้น ในสนามที่แล้ว น่าจะเป็น 1 ในสุดสัปดาห์ที่ดีที่สุดของเค้าตั้งแต่ฤดูกาลนี้เริ่มต้น รวมไปถึงเรื่องราวต่างๆในปีที่แล้ว อย่างเช่นเรื่อง ปีกหน้าที่เค้าต้องเสียไปให้ Vettel ซึ่งหลายๆคนก็เอาเรื่องราวนี้ไปผูกกับ Motto ของทีมอย่าง "Give you wings" และเรื่องราวก็ยังยาวไปถึงคำพูดของเค้าหลังจากจบ race อย่าง "Not bad for No.2 driver"

โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า M.Webber น่าจะรักษาผลงานที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง และตัวเค้าและเพื่อนร่วมทีม ก็ยังน่าจะยึดแถวแรกไว้ได้ ถึงแม้ว่าหลายๆคนจะตั้งข้อสังเกตว่า off-throttle blown diffuser น่าจะส่งผลกระทบต่อพวกเค้าเต็มๆ แต่ผมคิดว่า ทุกทีมก็น่าจะโดนผลกระทบเหมือนกัน คล้ายๆกับกรณีของ engine mapping ที่นำมาใช้ในสนามที่แล้ว แต่อาจจะไม่มากเหมือน RBR ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว RBR ก็น่าจะเป็นผู้นำตามเดิม แต่ช่องว่างอาจจะลดลง

แต่มีอยู่ทีมนึงซึ่งผมคิดว่าน่าจะโดนผลกระทบเรื่อง off-throttle blown diffuser ไม่น้อย ก็คือ Renault ซึ่งผมคิดว่า การออกแบบตำแหน่งท่อไอเสียที่แตกต่างจากชาวบ้าน น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้พอสมควร และผมคิดว่า พวกเค้าอาจจะต้องเสียอันดับ 4 ให้ Mercedes แบบค่อนข้างจะชัดเจน

อีกจุดนึงที่น่าสนใจคือ สภาพอากาศ ซึ่งฝนก็มักจะมาเยี่ยมเยียน Silverstone เป็นประจำ ถึงแม้ว่า รายงานสภาพอากาศในปัจจุบันได้พยากรณ์ไว้ว่า โอกาศที่ฝนจะตกมีอยู่ไม่มากนัก แต่ถ้าฝนตกขึ้นมาจริงๆ โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ อะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่างที่ Jenson Button ทำให้เห็นมาแล้วที่ Canada


โดย: Thomaskung IP: 58.9.70.112 วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:08:24 น.  

 
เซ็งเลย อดดู


โดย: JJ Hour IP: 202.28.9.78 วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:57:33 น.  

 
จำได้ว่า ปี 2008 ฝนถล่ม แต่ hamilton สุดยอดจริงๆครับ

Q แรกเริ่มก็อยู่ในตำแหน่งไม่ดีนัก แต่ออกตัวอย่างกับติด jet
แซงขึ้นมานำ แล้วไม่หลุดเลย จนจบ คว้าแชมป์

แต่ปัจจุบันผังสนามมันเปลี่ยนไปพอควรแล้วอ่ะนะ
+ กฏใหม่ = จะเป็นอย่างไรระหว่าง Red Bull , Mc หรือ FER


โดย: JUNE IP: 125.27.146.75 วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:18:14:36 น.  

 
ถ้าเฟอร์ยังเป็นอย่างหลายๆ สนามที่ผ่านมา
ได้ที่ 3 นี่ ก็ถือว่าเก่งสุดๆ แล้วสำหรับนักขับ เพราะ รถเซ็ตยังไงก็สู้ทั้งแม๊ค กับเรดบลู ไม่ได้เลย


โดย: sifer2002 IP: 223.204.235.244 วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:16:12 น.  

 
แข่ง F1 เสร็จก็แข่ง Formula student ต่อเลย


โดย: fascinator IP: 124.122.247.163 วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:13:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.