เดินทางปลอดภัย แล้วเก็บภาพ+บรรยากาศมาฝากแฟนคลับเยอะๆนะครับ
ช่วงนี้ผมอยู่โยงต้อนรับพวกเพื่อนๆ ญาติๆที่จะมาเชียงใหม่กันครับ

เดินทางปลอดภัย+เก็บภาพและบรรยากาศมาฝากด้วยนะครับ

เดินทางปลอดภัยครับ
ผมออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า FD ครับ

เข้ามายึดหัวหาด เย้ เย

ดูแลตัวเองนะครับ ทุกท่านที่ไป เดินทางปลอดภัยครับ

กำหนด DRS zone แล้วนะครับ

200 เมตร ก่อนโค้งสุดท้ายจนกระทั่งสุดทางตรงยาวหน้าพิท

เงียบจัง...
ผ่าน P1 P2 ล่ะ ดูเวลา P2 พี่มาร์ก
ทำได้ดีกว่าที่2 อยู่ปรี๊ดเดียว...
เอาเป็นว่า พรุ่งนี้เตรียมตะไคร้ ไว้สำหรับรอบ Q ก่อนล่ะกัน

FP1
1 M Webber (AUS) Red Bull 1'37.651
2 LC Hamilton (GBR) McLaren 1'39.316
3 M Schumacher (GER) Mercedes-Benz 1'39.791
4 N Hülkenberg (GER) Force India 1'40.377
5 P Maldonado (VEN) Williams 1'40.443
6 F Massa (BRA) Ferrari 1'40.453
7 N Heidfeld (GER) Renault 1'40.525
8 RG Barrichello (BRA) Williams 1'40.581
9 F Alonso (ESP) Ferrari 1'40.601
10 N Rosberg (GER) Mercedes-Benz 1'40.646
11 A Sutil (GER) Force India 1'40.734
12 D Ricciardo (AUS) Toro Rosso 1'40.748
13 J Alguersuari (ESP) Toro Rosso 1'40.770
14 K Kobayashi (JPN) Sauber 1'40.872
15 J Button (GBR) McLaren 1'40.927
16 J Trulli (ITA) Lotus 1'41.620
17 S Vettel (GER) Red Bull 1'41.627
18 S Perez (MEX) Sauber 1'41.642
19 T Glock (GER) Virgin 1'42.154
20 J d'Ambrosio (BEL) Virgin 1'42.540
22 V Liuzzi (ITA) HRT 1'45.228
23 KRN Karthikeyan (IND) HRT 1'46.267
24 V Petrov (RUS) Renault 1'47.932

ผมคิดว่าที่เงียบไปเนี่ย เพราะมันคงไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมมากอ่ะครับ

เท่าที่ดู RBR ก็ยังแรงเหมือนเดิม McLaren ก็ดูจะเป็นที่ 2 แบบค่อนข้างแน่ ส่วน Ferrari กับ Mercedes ก็คงต้องแย่งที่ 3 กัน

แต่สิ่งที่น่าจะแตกต่างกับสนามที่แล้วคือ การสึกของยางซึ่งเยอะกว่าสนามที่แล้ว ช่วงท้ายๆของ P2 หลายๆทีมก็วิ่งกันแบบยาวๆ เวลาที่ได้ก็เป็นไปในทางเดียวกัน คือ เมื่อวิ่งไปเรื่อยๆ เวลาแย่ลงกว่ารอบต้นๆค่อนข้างชัดเจน

เท่าที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีฝนเลย ซึ่งหลายๆคนก็คงภาวนาให้ฝนตก เช่น ลุงชูกับโซ่ เพราะต่างก็คิดว่าความแตกต่างของรถทีมตัวเองกับรถของทีมชั้นนำอย่าง RBR น่าจะลดลง

สำหรับแฟนๆ Webber ก็คงจะได้เฮกันบ้าง เพราะในช่วง P1 และ P2 ผลงานของ Webber ไม่ได้ด้อยไปกว่า Vettel เลย

ถ้าฝนไม่ตกเลยทั้ง Qua'ly กับ Race ผมคิดว่า RBR ก็คงยึดแถวแรกใน starting grid และคงจะรักษาอันดับไว้ได้จนถึงจบ Race ถึงแม้ว่าอาจจะต้องลำบากในช่วงแรกๆบ้าง ถ้า McLaren สามารถไล่ตามมาติดๆและสามารถใช้ DRS ได้ แต่ถ้าแข่งกันไปเรื่อยๆ RBR น่าจะยืดออกไปเรื่อยๆและประคองตัวเข้าเส้นชัยได้

แต่ถ้าฝนตก อะไรก็เกิดขึ้นได้ ต้องคอยติดตามกันอีกทีครับ

แถมข่าวแบบสั้นๆอีกนิดละกันครับ

- Lewis Hamilton ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า รถของ RBR น่าจะวิ่งได้เร็วกว่านี้อย่างน้อย 0.5 วินาที แต่เค้าก็ยังต้องรอดูประสิทธิภาพของทุกทีมในเย็นวันเสาร์อยู่ดี ส่วนการทดสอบรถวันนี้ เค้าค่อนข้างพอใจ โดยเฉพาะ set-up ของรถที่ค่อนข้างลงตัว ซึ่งถ้าเป็นไปตามนั้น รถ RBR ก็คงแทบจะไร้เทียมทานเลยทีเดียว

- Fernando Alonso คิดว่าสัปดาห์นี้ที่มาเลเซีย จะเป็นสัปดาห์ที่ยากลำบากสำหรับตัวเค้าและ Ferrari ซึ่งเค้าคิดว่ารถของ Ferrari ยังไม่เร็วพอที่จะไปสู้กับชาวบ้านได้ แต่เค้าก็ยังมองโลกในแง่ดีว่า ยังมีอีกหลายๆองค์ประกอบ เช่น การ start จาก grid, การสึกของยาง, การวางแผนระหว่าง race และฝน ซึ่งอาจจะทำให้อะไรๆเปลี่ยนแปลงได้ อย่างไรก็ดี เป้าหมายของเค้าในสนามนี้คือ Podium

- Renault ได้แถลงข่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงเช้ากับรถของ Petrov ที่ทำให้เค้าหลุด track และรถของ Quick Nick เป็นปัญหาที่เกิดจากตัววัสดุ ซึ่งหลังจากเสียเวลาตรวจสอบไปค่อนข้างนาน (ซึ่งกินเวลาใน P2 ด้วย) ทีมก็ปล่อยรถลงไปวิ่งหลังจากตรวจสอบจนแน่ใจแล้ว ซึ่งรถก็วิ่งได้โดยไม่มีปัญหา

ขอแก้ไขที่โพสไปเล็กน้อยนะครับ พอมาอ่านที่ตัวเองโพสไปแล้วรู้สึกงงๆ

- เรื่องที่ Lewis Hamilton บอกว่ารถของ RBR น่าจะเร็วกว่านี้อย่างน้อย 0.5s ถ้าเป็นไปอย่างที่ Lewis บอก ผมคิดว่ารถของ RBR ก็คงแทบจะไร้เทียมทานแน่ๆ อย่างน้อยก็ในช่วง Qualify

แต่ถึงอย่างไร เวลาที่ Qualify ก็มักจะเร็วกว่าเวลาใน P2 อยู่แล้ว ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว เวลาที่ดีที่สุดใน P2 ทำไว้โดย Lewis ที่ 1:34.175 เมื่อเทียบกับเวลาของปีนี้โดย Webber ที่ 1:36.876 ก็จะเห็นได้ว่าเวลาของปีนี้ช้ากว่าพอสมควร ซึ่งยางที่เปลี่ยนไปน่าจะส่งผลกระทบด้วย

เวลา Qualify ของปีที่แล้ว ทำไว้โดย Webber ที่ 1:49.327 ซึ่งสภาพสนามในตอนนั้นก็ยังไม่แห้งสนิท ถ้าให้กะเวลา Qualify ในสภาพสนามแห้งแบบคร่าวๆ ก็คงจะอยู่ในช่วง 1.35 ต้นๆ หรืออาจจะลงไปได้ถึง 1.34 ปลายๆ

ถ้าจะดู Qualify ที่ของปีใกล้เคียงอย่างปี 2009 ปีนั้น Jenson Button ทำเวลาที่ดีที่สุดใน Q2 ที่ 1:33.784 (ตอนปี 2009 เวลาในช่วง Q2 มักจะเป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะในช่วง Q3 ต้องเติมน้ำมันเผื่อไว้ตอนเริ่ม Race ด้วย)

พรุ่งนี้มันใจได้หากไม่มีฝนตกได้เห็น 1:33.XXX ถึง 1.34.XXX

เอาเวลามาดูกันชัด ๆ อีกที

FP2
Driver Teams Time
1 M Webber (AUS) Red Bull 1'36.876
2 J Button (GBR) McLaren 1'36.881
3 LC Hamilton (GBR) McLaren 1'37.010
4 S Vettel (GER) Red Bull 1'37.090
5 M Schumacher (GER) Mercedes-Benz 1'38.088
6 F Massa (BRA) Ferrari 1'38.089
7 N Rosberg (GER) Mercedes-Benz 1'38.565
8 N Heidfeld (GER) Renault 1'38.570
9 F Alonso (ESP) Ferrari 1'38.583
10 J Alguersuari (ESP) Toro Rosso 1'38.846
11 P Maldonado (VEN) Williams 1'38.968
12 RG Barrichello (BRA) Williams 1'39.187
13 V Petrov (RUS) Renault 1'39.267
14 K Kobayashi (JPN) Sauber 1'39.398
15 S Perez (MEX) Sauber 1'39.603
16 P di Resta (GBR) Force India 1'39.625
17 A Sutil (GER) Force India 1'39.809
18 S Buemi (SUI) Toro Rosso 1'40.115
19 T Glock (GER) Virgin 1'40.866
20 J Trulli (ITA) Lotus 1'41.890
21 KRN Karthikeyan (IND) HRT 1'43.197
22 V Liuzzi (ITA) HRT 1'43.991
23 H Kovalainen (FIN) Lotus 1'44.886
24 J d'Ambrosio (BEL) Virgin -

Virgin กับ HRT ท่าจะรอดยาก จำเป็นต้องซื้อ ปา-ติ-หาน .....

P3 ก็ผ่านไปแล้วนะครับ แนวโน้มก็ยังคงเป็นไปในแนวเดิมๆคือ คงมีแค่ RBR กับ McLaren ที่จะแย่ง pole กัน โดยเวลาที่ดีที่สุดใน P3 เป็นของ Lewis ที่ 1:36.340 ซึ่งเร็วกว่าเวลาที่ดีที่สุดของ Webber ใน P2 เล็กน้อย ส่วนที่ 2 และที่ 3 เป็นของ Webber และ Button ส่วนแชมป์โลกคนล่าสุด ทำเวลาอยู่ในอันดับ 5 ซึ่งเวลาที่ดีที่สุดส่วนใหญ่ จะมาจากการวิ่งจาก soft ในช่วงท้าย P3

ที่น่าสนใจคือ การเบียดแย่งที่ 3 กัน ซึ่งดูจะมี 3 ทีมที่มีลุ้นคือ Ferrari, Mercedes และ Renault โดยใน 10 อันดับแรก มีแค่ Kobayashi คนเดียวที่ไม่ได้มาจาก 5 ทีมที่ผมกล่าวถึงก่อนหน้า ส่วนอันดับที่ 11 และ 12 ก็เป็น Rosberg และ Perez ส่วนช่วงกลางตาราง ยังคงคาดเดาไม่ได้ตามเดิม เพราะเวลาใกล้เคียงกันมาก

ถึงแม้ว่า เราเองก็ไม่มีทางรู้ว่าแต่ละทีมวิ่งกันเต็มที่แค่ไหน แต่สิ่งนึงที่ผมค่อนข้างจะมั่นใจคือ HRT ไม่น่าจะรอดจากกฎ 107% ตามเดิม เพราะเวลาค่อนข้างห่างจากชาวบ้านค่อนข้างมาก และรถของพวกเค้าก็มีปัญหาตลอดในช่วง Practice ทั้ง 3 ครั้ง ส่วนอีกทีมที่มีสิทธิ์ได้เสียวกับกฎ 107% ก็คือ Virgin โดยเฉพาะ D'ambrosio ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็คงต้องขึ้นอยู่กับนักขับของ RBR ว่าจะเอาจริงแค่ไหนใน P1

อีกนิดนะครับ โอกาสที่ฝนจะตกในช่วง Qualify ก็ยังคงเป็นไปได้อยู่นะครับ

FP3
1 Hamilton McLaren 1'36.340
2 Webber Red Bull 1'36.630
3 Button McLaren 1'36.762
4 Heidfeld Renault 1'37.115
5 Valsecchi Red Bull 1'37.175
6 Alonso Ferrari 1'37.284
7 Petrov Renault 1'37.297
8 Massa Ferrari 1'37.762
9 Kobayashi Sauber 1'38.059
10 Schumacher Mercedes-Benz 1'38.300
11 Rosberg Mercedes-Benz 1'38.307
12 Perez Sauber 1'38.448
13 Sutil Force India 1'38.464
14 Maldonado Williams 1'38.597
15 Buemi Toro Rosso 1'38.665
16 Barrichello Williams 1'38.681
17 Alguersuari Toro Rosso 1'38.716
18 di Resta Force India 1'38.864
19 Kovalainen Lotus 1'39.260
20 Trulli Lotus 1'39.699
21 d'Ambrosio Virgin 1'41.215
22 Glock Virgin 1'41.414
23 Liuzzi HRT 1'43.147
24 Karthikeyan HRT 1'43.383

จบ Q1 แล้ว HRT รอดจาก 107% ไปได้

พรุ่งนี้ ได้เห็นรถที่กริดครบ 24 คัน เป็นครั้งแรกของปีนี้ เย้....

Q2 ตอนนี้ jason button เป็นที่ 1 นำ vettel 0.365 วินาที
เหลือเวลาอีก 6 นาที

มาอู้งานแอบดู Qualify +.+

จบ Q2 ทั้ง 2 ผู้อาวุโส (ลุงชู+ลุงรูเบน) ไปไม่รอดทั้งคู่ครับ

โอ้วววววววว
ได้อยู่
เซ็บน้อย P1
แฮม P2
เวบเบอร์ P3
button p4

Vettel ได้โพลสนามนี้ไป เวลา 1:34.870

ยินดีกับเจ้าของ Blog ด้วยครับ ป่านนี้ ที่สนามคงยิ้มไม่หุบกันทั้ง 3 คนแล้วมั้ง

5 คนแรก copy มาจาก Australian Grand Prix เฉยเลยครับ 55+

Vettel เอาอีกแล้ว งัดเอาฟอร์มสุดยอดออกมาในรอบสุดท้ายของ Qualify และเฉือน Hamilton คว้า pole ไปด้วยเวลา 1:34.870 ส่วน Hamilton ช้ากว่าประมาณ 0.1s

ที่ 3 เป็น Webber โดยช้ากว่า Lewis ประมาณ 0.2s และเร็วกว่า Button ที่เป็นที่4 อยู่ 0.021s

สำหรับ Top ten ที่เหลือก็เป็น Alonso, Heidfeld, Massa, Petrov, Rosberg และ Kobayashi

จากที่เห็นในช่วง Qualify McLaren สามารถสู้ RBR ได้อย่างสูสี และทั้ง 2 ทีมนี้ก็ทิ้งทีมที่ตามมาอย่าง Ferrari พอสมควร

แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องไปตามดูกันต่อในวันพรุ่งนี้ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยให้ลุ้นกัน เช่น การ start, ยางและการเข้าพิท รวมไปถึงฝนที่ยังไม่ตกลงมาซักที

แถมกันอีกนิดนะครับ ช่วง Q1 ฝาครอบ sidepod ของ Buemi ได้หลุดมาทั้งชิ้นเลย ทำให้เกินธงแดงอยู่แป๊บนึง แล้วก็อย่างที่ท่านอื่นได้โพสไปแล้ว HRT ผ่าน 107% จนได้ ซึ่งเวลาที่ดีที่สุดของ Q1 เป็นของ Massa กับยาง soft ส่วนทางด้าน RBR และ McLaren ใช้แค่ยาง hard

มากด like ให้ 2 อันบน 55555+อิอิอิ

QP
1 Vettel Red Bull 1'34.870
2 Hamilton McLaren 1'34.974
3 Webber Red Bull 1'35.179
4 Button McLaren 1'35.200
5 Alonso Ferrari 1'35.802
6 Heidfeld Renault 1'36.124
7 Massa Ferrari 1'36.251
8 Petrov Renault 1'36.324
9 Rosberg Mercedes-Benz 1'36.809
10 Kobayashi Sauber 1'36.820
11 Schumacher Mercedes-Benz 1'37.035
12 Buemi Toro Rosso 1'37.160
13 Alguersuari Toro Rosso 1'37.347
14 di Resta Force India 1'37.370
15 Barrichello Williams 1'37.496
16 Perez Sauber 1'37.528
17 Sutil Force India 1'37.593
18 Maldonado Williams 1'38.276
19 Kovalainen Lotus 1'38.645
20 Trulli Lotus 1'38.791
21 Glock Virgin 1'40.648
22 d'Ambrosio Virgin 1'41.001
23 Liuzzi HRT 1'41.547
24 Karthikeyan HRT 1'42.474

ดูกันแก้เครียด
วันนี้ลุ้นสุดๆ คามุยก็ขับดี ติด top10

//www.youtube.com/watch?v=MuSfBeRTpXc

เอาใหม่ๆๆๆ
มากด like ให้ 2 อันบน editor + hstgz 55555+อิอิอิ
คิดถึงทั้ง3คนเหมือนกันนะเนี้ย

คุณworapoth ดูล่ะ ฮามั๊กๆๆ ค่ะ ตอนที่เปิดออกมาเจอREDBULL เนี้ยล่ะ

หลังจากจบการ Qualifying เห็น Adrian Newey ไปยืนดูรถของ McLaren นะ 55+

ผมไปดูมาวันนี้ ต้องบอกเลยเป็นครั้งแรกของผมหนวกหูมากที่อุดหูแทบเอาไม่อยู่เลย ดูจริงๆดูแทบไม่รู้เรื่องเลยถือว่าซึมซับบรรยากาศเอา Vettle ต้องบอกเลยวันนี้แรงจริงๆ สะจัยบรรดากองเชียร์เลย แต่ยังไงสำหรับผมก็ Ferrari อยู่แล้ว พรุ่งนี้คอยดูแรงเชียร์ Ferrari นะครับ แฟนๆเพียบ
Alonso สู้ๆ

ขอบคุณสำหรับทุกๆข่าวนะครับ

วันนี้บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน มีสิทธิ์ที่ฝนจะตกที่เซปังได้ *-*

วันนี้ Quick Nick จะมีอะไรมาโชว์บ้างหนอ *-*

สนามทรมานยางแบบเซปังน่าจะเข้าสไตล์ขับ Petrov

Renault แผลงฤทธิ์ *0*

เห้ย นิค มา อันดับ 2 แ๊ว๊กกกกกกกกก

Petrov vs Alonso อีกแล้ว *0*

คราวนี้ไม่นานแฮะ *-*

เวบเบอร์ ตอนนี้อันดัีบ 10
อะไรยังไงครับ ไม่กด KERS ตอนstart รึ Redbull ไม่ใส่KERSอีกแล้ว

ฝนเริ่มจะตกแล้วครับ

ฝนเริ่มมาเป็นละอองโปรยปรายแล้ว *-*

น้ามาร์คกำลังปวดหัวกับเจ้าหนูซูชิอยู่ โดนลูบคม +.+

รถ Renault ตอนนี้นี่ downforce น้อง ๆ Red Bull ชัด ๆ *0*

2 ม้ามาจ่อท้ายเจ้าปุ่มซะแล้ว

ป๊าดดดดด.....ม้าพุ่งหลาว +.+

เจ้าปุ่มงง *-*

ฝนคงไม่ตกมากไปกว่านี้ล่ะ
พี่มาร์ก ตกไปอีกตำแหน่งล่ะ ปวดหัว

Red Bull มีปัญหากับ KERS อีกแล้ว -.-

ในขณะที่ Alonso บ่น DRS ไม่ทำงาน -.-"

แต่ถึงไม่ใช้ KERS เซบก็เริ่มยืดระยะออกจาก 2 แมคแล้ว

Alonso said "I'm pushing I'm pushing ... don't worry" ^ X ^

พี่มาร์ก แซงได้ตำแหน่งที่5 เท่าสนามที่แล้ว ได้แล้ว

พวงมาลัยหลุดเลย *0*

Quick Nick ทำได้จริง ๆ ด้วย

มาม่าเยอะ ๆ *0*

เบื่อคนพากย์ เอาแต่แก้ตัวให้สุดที่รัก

^ ^ ^ ^

เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยว่าทีมพากย์ Motorsport ของ True ไม่พัฒนาซะเลย โฆษณาแฝงตลอดด้วย จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ไม่เหมาะทั้งนั้น

ไอ้โซ่ มาชนแฮมแบบนี้
สนามหน้าต้องโดนปรับ 5 Grid ไหม
ถ้าไม่ปรับกรรมการก็ทุเรศ

ทุเรศคนพากย์ของทุยหว่ะ
ถ้าจะเป็นสาวกม้าแดงก็อย่ามาเป็นคนพากย์เลย
คนพากย์ที่ดี ตอนที่พากย์ต้องเป็นกลาง
แต่ถ้าจะไปเขียนบทความหรือพูดคุยในวงเพื่อน
ก็เชียร์หม้าแดงได้เต็มที่เลย

^
^

ใจเย็นๆๆกันครับ น้าเบสนะหรอครับเป็นสาวกม้าแดง
จากที่ผมดูๆๆก็ไม่ได้ออกอากาศอะไรมากนะครับ เห็นมีแต่ singha
ที่พูดบ่อยๆๆ 555+ ถ้าเบื่อคนพากย์ก็เปลี่ยนภาษาไปเลยครับ
แต่ก็ยอมรับว่าคนพากย์ก็พากย์ผิดพากย์ถูกตามภาษาคนแก่ละครับ...

ฟังพากย์ไทยกันอยู่เหรอครับ
ผมว่าเขามั่วๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ชอบเชียร์ผลิตภัณท์ของไทยออกหน้าออกตา จนน่าเกลียด 555

วันนี้ผมเกือบด่าเวบเบอร์แล้วนะ ขับไร้วิญญาณจริงๆ พอช่วงท้ายๆ ค่อยดีหน่อย
เลยหยุดปากไว้ก่อน

ตกลง RBR ไม่มี KERS อีกแล้วใช่ไหมครับ

Red Bull มี KERS ครับ

แต่ KERS ของ Webber เดี้ยงตั้งแต่ก่อน start

ส่วน KERS ของ Seb เดี้ยงตามขณะที่เหลืออีก 28 รอบ

ยิ่ง 2 รอบ สุดท้ายนี่ DRS ของ Webber ก็เดี้ยงด้วย

Notes

1. ^ – Alonso was penalised 20 seconds post-race for contact while trying to pass Hamilton.
2. ^ – Hamilton was penalised 20 seconds post-race for weaving while being passed by Alonso.

จากวิกิ //en.wikipedia.org/wiki/2011_Malaysian_Grand_Prix



กรรมการเค้าเล่นไรกันเนี่ย ทำไมแฮมถึงโดนไปด้วยได้เนี่ย

ข่าวตัวเต็มที่อ้างอิงในวิกิ

//www.autosport.com/news/report.php/id/90614

Alonso, Hamilton hit with penalties

By Pablo Elizalde Sunday, April 10th 2011, 12:09 GMT

Alonso, Hamilton hit with penaltiesLewis Hamilton and Fernando Alonso were handed 20-second penalties following the Malaysian Grand Prix at Sepang.

The McLaren driver, who endured a difficult race and finished in seventh position, was handed the penalty for making more than one move to defend his position when fighting with Alonso.

Ferrari driver Alonso was given the penalty after he made contact with Hamilton during their fight, the Spaniard damaging his front wing and having to pit to replace it.

Both were given post-race drive-troughs, meaning 20 seconds added to their final times.

The penalty has dropped Hamilton to eighth, with Sauber's Kamui Kobayashi taking seventh.

Alonso keeps sixth place.

สนามนี้เหมือนเปลี่ยนหน้าคนที่ได้ที่ 2 กะ 3 แต่ดันเป็นทีมเดิม --"
แอบเซ็งแฮม ไม่น่าเลยง๊าาาาา เสียดายยย ไม่งั้น McLaren ขึ้น 2 3 คะแนนก็ไล่เรดบูลละ เอิ๊กกก ไม่ค่อยออกนอกหน้า

ส่วนนักพากย์ เอิ่มมมม น้าเบส สุดๆอ่ะค่ะ ปรับปรุงให้ไวเลย เรากดเปลี่ยนเป็นฟังภาษาอังกฤษตอนที่น้าแกบอกว่า Massa โดนน็อครอบ บ๊ะๆๆ แค่เห็นรถแดง น้าแกคิดว่าเฟอร์รารี่ละ เอิ่มมมม น้าไหวมั้ย พากย์ผิดเยอะมาก เสียอรรถรสเกิ๊น

แต่ยังไงก็ดีใจกับคุณ Finishline ด้วยนะคะ ไปเชียร์ติดขอบสนามทั้งที เซ็บไม่ทำให้ผิดหวังจริงเชียวววว

เพิ่งเห็นข่าวของคุณ hstgz

ทำไมมาทำโทษแฮมด้วยง่ะ เหตุผลไม่เคลียร์อย่างแรง

"making more than one move to defend his position"

ไอ้ช่วงที่โดนชนเนี่ย แฮมแกไป double move ตอนไหนฟระ

เราลืมอะไรกันไปหรือเปล่า ?
กรรมการนะเขาเข้าข้างม้าแดงเสมอ

ผิดก็ทำให้ถูก
ถูกอยู่แล้วก็ต้องกดให้คู่แข่งผิดมากขึ้น

นับวันยิ่งดูยิ่งอุบาทมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้ายังเน่าไปเรื่อยๆแบบนี้
ผมยอมกลับไปดู NFL เอาคนมาชนกันแบบแฟร์ไม่ต้องมาเสียอารมณ์ดีกว่า

แฮมโดนผมไม่แปลกใจครับ ก็เหวี่ยงไปมาหน้า Alonso อยู่ 3 ครั้ง ผมกำลังดูอยู่ว่ากรรมการจะว่ายังไงแล้วก็โดนจริง ๆ

เจ้าโซ่เท่าที่ดูผ่าน ๆ ตอนแซงแกกะระยะผิด คงไม่คิดว่ารถจะ under ดึงไม่เข้าขนาดนั้น แต่เดี๋ยวต้องไปโหลดมาดูชัด ๆ อีกที

วันนี้มาถึงสนามรถเยอะมากมาย ร้อนมากอีกต่างหาก แต่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน บรรยากาสกองเชียร์สุดยอด แข่งไปซักพักฝนลงเม็ดนึกว่าจะตกหนัก ไปๆมาๆนิดเดียวเอง อุตสาห์เชียร์ Alonso เซ็งเลยครับพี่น้อง หลังแข่งจบมี่ Concert Rain ด้วยครับ ส่งท้ายอำลาสนามนี้กันไป

ham แกรู้อยู่แก่ใจล่ะครับ ( คงไม่โวยหรอก )

ว่าถ้าไม่โยกบัง line อยู่ตลอดนี่
เสร็จ alonso แน่ๆ ( เวลาต่อรอบ alonso เร็วกว่า 0.5 - 1.0 วินาทีตลอด )

* 2 คนนี้ มันชนกัน ถ้าไม่เดือดร้อนชาวบ้าน กรรมการคงไม่สนครับ
โชว์พาวกัน แล้วชิ้นส่วนมันกระจายลง track อ่ะ

นับถือ ham มันจริงๆ กะจะไม่ให้ alonso แหย่รถขึ้นมาเลยนะนั่น 555
ham มันไม่กล้าโวย เพราะเวลามั้งครับ เวลายังงี้เข้าข่าย รถน็อครอบขวางได้เลยนา
( ช้ากว่า alonso เยอะมากๆ )

** เรื่องกรรมการ ตัดสิน ปล่อยมันเต๊อะ
สนามต่อๆไป ฟัดกันอีกบ่อยๆนะ คู่นี้ ชอบจัง ^^

2 คนนี่เขาเป็นคู่อริตลอดกาลละครับ สนามหน้าฟัดกันอีกนะ
มันดีครับคู่นี้ รู้สึกว่า F1 ปีนี้สนุกมากกว่าปีก่อนๆๆนะ

Halmiton vs Alonso คู่นี้สนุกดีครับ

แต่ Vettel vs Webber เหมือนปีที่แล้วชนกันเอง ไม่สนุกเลย

โซ่มันขับไม่เก่งเองนิ
แซงขึ้นมาเองไม่ได้เลยชนมันซ่ะเลย

แสดงความยินดี กับคุณfinishline และคณะร่วมเดินทางด้วยค่ะ (สงสัยยังไม่กลับ)
อาทิตย์นี้ F1 ไม่ต้องหยุด ต่อกันเลย ที่จีน เจอกันใหม่อีกครั้ง... และ วัน(ใกล้)สงกรานต์นี้ ขอให้เพื่อนๆ ทุกคนมีความสุข ขับขี่ปลอดภัย ค่ะ

เรื่องชนกัน ผมละผิดคาด. เจ้าโซ่ ซัดเต็มๆ. ยางเจ้าแฮมไม่ยักกะแตก. ไหมบอกยางพีราลี่ ไม่ทนไง 555

อีกย่าง คุณ evota ผมรู้แล้วว่าทำไมฝนไม่ตก ก็เล่นเอา rain มาเล่น concert หลังแข่งจบนี่นา แก้เคล้ดหรือเปล่าเนี่ย 555

ดูจบแล้วเป๊นห่วง ทั้ง Kers ทั้งDRS ไม่ทนซักเท่าไหร่ จากเป็นตัวช่วย จะกลายเป็นตัวฉุดหรือเปล่าเนี่ย

Ham นี่ชอบลูบคมกฏครับ กฏบอกว่า ห้ามเปลี่ยนทิศเกิน 1 ครั้ง ก็ทำ คือกะว่าอยู่ข้างหน้าเยอะและเปลี่ยนทิศนิดหน่อยเลยลองแหย่กรรมการเล่น กรรมการไม่เล่นด้วยเลยโดน

อย่างปี 2008 ที่สปาจังหวะแซง Kimi ก็อีก กฏบอกว่า ห้ามตัดโค้งแซง แกก็คืนตำแหน่งให้ Kimi แต่คืนให้ครึ่งคันแล้วกดไล่แซงเลย

จริง ๆ การโยกของ Ham คือพยายามกันไม่ให้ Alonso ใช้ Slipstream ครับ

แล้วอย่างที่เซ็บทำช่วงออกสตาร์ทเนี่ย ถือว่าโยกเกินหนึ่งครั้งมั๊ยครับ ห่วงอยู่เหมือนกัน
เพราะดูเหมือนว่าเวลาเซ็บออกสตาร์ทบางทีจะดูอืดๆ เหมือนจะโดนแซงก็เลยต้องขับโยกบังไลน์คันที่ตามอยู่บ่อยๆ

ใครจะเก่งเหมือน ham มันล่ะ ครับ ?

จำได้ป่ะ ปี 2008 ใครชนท้าย alonso wing หลัง บินไปทั้งแถบเลย
ไอ้คนที่ชนก็บอกว่า คันข้างหน้ามันแกล้งเบรค ให้ผมชน

= ไม่ใช่ ใครหรอกครับ คู่นี้ล่ะ แต่ alonso มันโดนชน คนชนก็ hamilton นี่แหล่ะ
ผลออก alonso ปีกหลัง หลุด hamilton ปีกหน้าหลุด เข้า pit ทั้งคู่
มาวิ่งจนแข่งจบทั้งคู่ แต่อยู่ในอันดับที่ไม่มีคะแนน

ก็ให้มัน ถือว่า เจ๊าไปละกันนะครับ

ถ้าจะด่าว่าใครขับอ่อนไม่เก่ง ก็ไม่เก่งกันมาคนละครั้งแล้ว เอาเป็นว่าเคลียร์ !!!!!!!

Drama ...

ฝากถาม k.fascinator นิดนึงครับ

การที่กฏบอกว่า ห้ามเปลี่ยนทิศเกิน 1 ครั้ง ต้องอยู่ในสถานะการไหนครับ ถึงจะต้องใช้กฎข้อนี้ได้ ...

นำรถคันหน้ามั่งครับแต่ที่แน่ๆๆ ham เปลี่ยนทิศ 3 ครั้งครับ

เพราะแบบนี้นี่เองเราจึงเห็น เขาหลุนไปอยู่อันดับที่ 10 ตอน Star

KERS failure proves costly for Webber

Mark put in a gritty performance in the Malaysian Grand Prix to finish in fourth place and set the fastest lap of the race. But after starting third, he was immediately put on the back foot following a technical problem.

“The clutch didn’t behave itself initially,” says Mark. “That cost me a bit of time, but the biggest problem was KERS. When I pushed the KERS button as we left the grid, nothing happened and I was swamped. I ended the first lap in 10th place.”

The early laps saw Mark battle with Kamui Kobayashi and Michael Schumacher, but he quickly altered his strategy from three stops to four.

“Despite being very quick through the corners,” says Mark, “it was going to be very difficult for me to pass people with KERS because they were so quick in a straight-line. I had to do something different to make progress and that meant changing the strategy.”

ขอบคุณสำหรับข่าวของคุณ Editor ค่ะ คือ ปัญหาก็เยอะ ไต่ขึ้นมาถึงที่4 ก็OKแล้ว ที่มาร์ก พูดเอาไว้ใช่เลย เห็นภาพเลยอ่ะ กว่าจะผ่านแต่ละคัน แต่ละรอบ ยิ่งทางตรงนี้ อืดๆ จะไม่ขึ้นเอา
ประมาณเกือบ4รอบสุดท้าย แอบลุ้น เหลือบไปดูเวลา ก็แอบปลง
แล้วงี้ ทางทีมจะทำไงต่อ มีปัญหาทั้ง2คันเลยอ่ะ

น้ามาร์ก เกือบไม่รอด ต้องรบกะเจ้าหนูซูชิไปซะหลายรอบ ไหนจะลุงชูอีก ถ้า 2 คันหน้าไม่ฟัดกันเองจนต้องเข้าพิทในช่วงท้าย น้าแกจะไต่ขึ้นมาได้ถึงที่ 4 มั้ยเนี่ย

มีใครเซ็งกับกฎ DRS เหมือนผมบ้างมั๊ย มันงึกๆงักๆยังไงพิกล ถ้าอยากให้คนดูสนุกมันก็ควรจะสนุกทั้งสนาม จะมารอลุ้นกันตรง grandstand อย่างเดียวมันสนุกเฉพาะก๊วนไปรึเปล่า น่าจะปล่อยอิสระไปตลอดสนามเลย ทีมไหนอยากใช้ระบบใดในการควบคุมก็ได้ มันน่าจะมันส์กว่าต้องมารอลุ้นตอนผ่านเส้น Start เป็นไหนๆ อีกอย่างการห้ามเติมน้ำมันนี่ผมว่าไร้สาระที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งรถเลย ถ้าจะคำนึงถึงความปลอดภัย มันก็ยังมีวิธีเพื่อความปลอดภัยได้อีกตั้งเยอะ เช่น ต้องเปลี่ยนอย่างรถให้เสร็จก่อนถึงจะเติมน้ำมันได้ หรือไม่ก็ต้องเข้ามาเติมน้ำมันอย่างเดียวเงี๊ย มันก็เพิ่มออฟชั่นในพิทได้อีก เพิ่มยุทธวิธีของ Pit crew ได้อีกเยอะเลย การให้รถแข่งแบกน้ำหนักมหาศาล ทำให้รอบต้นๆของการเเข่งขันมันช่างน่าเบื่อเอามากๆ รถแต่ละคันถึงจะวิ่งเกือบจะติดกันก็เหมือนเอาเชือกผูกจูงกันไปซะมากกว่า แต่ละคันวิ่งกันย้วยมากเบรคมาแต่ไกลเลยกว่าจะเข้า Apex

เรียนคุณ saraph
ชนแบบนั้นยางไม่แตกหรอกครับ การจะกรีดยางรถคันหน้าที่ถูกต้องต้องใช้ end plate wing กรีดขอบยางแบบ Fisichella กรีด Schumi ที่ Brazil 2006 หรือ Hamilton กรีด Seb ที่ Silverstone 2010 เพราะขอบยางคือส่วนสำคัญในการรองรับโครงสร้างของยางครับ

เรียนคุณ VR46
ในกฏไม่มีบอกนะครับว่าเป็นจังหวะสถานการณ์ไหน แต่ตอนช่วงสตาร์ทไม่น่ามีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนทิศทาง เพราะนักแข่งแต่ละคนไม่เสี่ยงที่จะเปลี่ยนทิศไปสะกิดกับใครสักคนที่อยู่ในมุมบอดกระจกแน่ สถานการณ์ที่น่าจะมีผลกับกฏข้อนี้มากที่สุดคือจังหวะที่วิ่งไล่กัน 2 คัน อย่างกรณีนี้ที่ Hamilton โดนเพราะพยายามโยกไม่ให้ Alonso ใช้ slipstream แต่ถือว่าผิดกฏเพราะ Alonso เข้ามาอยู่ในระยะที่สามารถแซงได้

ถ้าต้องการศึกษากฏเพิ่มเติมสามารถเข้าไปได้ที่ //www.fia.com/sport/Regulations/f1regs.html ซึ่งสรุปไว้ค่อนข้างเรียบง่ายครับ

เรียนคุณ pakadon
ในตอนแรก FIA กะให้เปิดใช้อิสระครับ ซึ่งมีคนแย้งว่าถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่ต่างจากเดิมเพราะคันหน้าก็สามารถเปิด DRS หนีได้เหมือนกัน จึงเปลี่ยนเป็นห้ามคันหน้าใช้และคันหลังจะใช้ได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในระยะ 1 วินาทีจากรถคันหน้า แต่ครั้นจะใช้วิธีนี้ FIA ก็กลัวจะเกิดการแซงกันมากเกินไป สุดท้ายจึงมาลงเอยที่การกำหนดโซนแซงครับ

ถ้าถามผมว่า DRS กับ KERS ที่เพิ่มมาในปีนี้ช่วยสร้างสีสันให้การแข่งมั้ย มันช่วยสร้างครับแต่ DRS ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประเมินสถานการณ์ของนักขับ KERS ยังมีจังหวะที่จะต้องเก็บพลังงานไว้ใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา แต่ DRS เล่นกำหนดโซนแถมผูกมัดด้วยกฏแบบนี้ผมว่าถอดมันทิ้งไปดีกว่า

กลับมาแล้ว หุๆๆ เป็นสุดสัปดาห์ที่สนุกจริงๆ

ประเด็นที่สงสัย ก็ได้กูรู fas คุง มาตอบหมดแล้ว อิอิ (มันยึดบลอกจริงๆด้วย ฮ่าๆๆๆ)

ตอนโค้ง 1 รอบแรก เซ็บมันก็ปัดไปปัดมาหลายครั้งจริงๆด้วยแหละ ฮ่าๆๆ

สนามนี้ รู้ซึ้งเลยว่า KERS มันแซงกันเห็นๆ ^^' พี่มาร์คแทบแย่เอา ดีที่ทีมงานเรียกเข้าพิทได้เยี่ยมยอด แหะๆ

เพราะ Sepang คือสนามที่ว่ากันว่า เป็นผลงานที่ดีที่สุดของนาย Herman Tilke และเป็นสนามที่นักแข่งชื่นชม Track lay out ว่าทำได้ดีมากครับ