Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
 
18 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
ความประทับใจจากเซี่ยงไฮ้...ก่อนไปต่อที่บาห์เรน

จบจากการแข่งขันฟอร์มูล่าวันสนามที่ 3 ที่เซี่ยงไฮ้มาก็หลายวันแล้ว หลายๆ คนยังคงประทับใจในความสนุกสนานที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่รอบแรก จนกระทั่งวันนี้เราก็ยังพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกับผลการแข่งขันอยู่เลยนะคะ

ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลย เพราะเมื่อดูตามสถิติ รายการไชนีส กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถือเป็นการแข่งขันที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของฟอร์มูล่าวันเมื่อวัดจากจำนวนการแซงที่เกิดขึ้น โดยหนังสือพิมพ์กีฬาของฟินแลนด์รายงานว่าหากไม่นับการแซงที่โค้งแรกหลังออกตัว ในการแข่งขันดังกล่าวมีการแซงเกิดขึ้นรวม 72 ครั้ง ซึ่งในจำนวนนั้น 7 ครั้งเป็นการที่คิมี่ ไรค์โคเน่น โดนแซงในหนึ่งรอบหลังยางสึกหมด ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วนะคะ โดยที่เซี่ยงไฮ้ 2011 มีการแซงกัน 63 ครั้ง จะว่าไปแล้ว การแข่งขันทั้ง 3 สนามแรกต่างก็เกิดการแซงกันมากขึ้นเมื่อเทียบกับเรซเดียวกันในปีก่อน

สำหรับสนามที่ยังเป็นเจ้าของสถิติจำนวนแซงกันมากที่สุดในหนึ่งเรซตลอดการคือ แคนาดา 2011 ค่ะ โดยมีจำนวน 89 ครั้ง รองลงมาได้แก่ ยูเอส กรังด์ปรีซ์ 1983 และเตอร์กิช กรังด์ปรีซ์ 2011 ครองสถิติร่วมกันด้วยจำนวน 79 ครั้ง

และจากการที่เมอร์เซเดสกล่าวว่าการบริหารยางได้สำเร็จคือกุญแจไขสู่ชัยชนะของพวกเขาที่เซี่ยงไฮ้ เพราะฉะนั้นเราลองมาดูปัจจัยต่างๆ ต่อยางที่จะเกิดขึ้นในสนามซาคีร์ที่บาห์เรนสุดสัปดาห์นี้กันบ้างค่ะ

ที่จีนอาจเป็นเรื่องความเย็นและฝน แต่ที่บาห์เรนเป็นเรื่องความร้อนและฝุ่นทราย!





การบริหารยางเป็นปัจจัยหลักในการแข่งขันเช่นเคย




แม้ยางปิเรลลี่จะไม่เคยได้นำมาใช้ในการแข่งขันที่บาห์เรนเลยเนื่องจากปีที่แล้วยกเลิกการแข่งขันไปก่อน แต่พวกเขาเคยนำยางมาทดสอบแล้วในเดือนธันวาคม 2010 และมกราคม 2011 ค่ะ ซึ่งคราวนั้นไม่ใช่แค่เจอฝุ่นทรายธรรมดาที่มักถูกพัดขึ้นแทร็คเป็นประจำอยู่แล้วด้วยว่าสนามสร้างอยู่กลางทะเลทราย แต่เป็นการเจอพายุทรายด้วยซ้ำ แต่ถึงแม้สุดสัปดาห์นี้ไม่มีการพยากรณ์ว่าพายุทรายจะเดินทางมา การบริหารยางก็ยังเป็นสิ่งต้องคำนึงเป็นอันดับต้นๆ เมื่อทีมต้องผจญกับตัวนำความสึกหรอมาสู่ยางอย่างความร้อนและเกล็ดทราย โดยแรงลาก (traction) ของด้านท้ายรถเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งต่อผลการควอลิฟายและการแข่งขันที่ดี

เปโดร เดอ ลา โรซ่า นักขับสเปนของเอชอาร์ทีซึ่งเคยเป็นนักขับทดสอบยางปิเรลลี่ใขขณะนั้นเล่าให้ฟังว่าในการมาบาห์เรน ทีมจะต้องลด Camber (เป็นการตั้งองศาหน้าสัมผัสยางกับพื้นเวลาเลี้ยว ข้อมูลเพิ่มเติมอ่านได้ที่ //www.nitroparty.com/modules/newbb/print.php?form=2&forum=1&topic_id=406&post_id=1440&PHPSESSID=cd679215763813b3dfba76152a299945) ให้ลงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้มีผิวสัมผัสหน้ายางมากที่สุดสำหรับการเบรกและแรงลากที่ดี และยังต้องลดดาวน์ฟอร์ซเพราะที่นี่มีทางตรงจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เขาคาดว่าจำนวนการเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนยาง ทีมน่าจะเลือก 2 ครั้งได้เพราะยางปีนี้มีอายุงานมากขึ้น

สรุปได้ว่าด้วยรูปแบบสนามที่ต้องใช้เบรกหนัก อุณหภูมิที่สูงเข้าขั้น และทรายที่ไม่เคยหายไปจากแทร็ค ทีมใดบริหารกลยุทธ์ยางได้ผลดีที่สุด ทีมนั้นจะเป็นผู้ชนะที่บาห์เรนนั่นเอง


***************************************


ติดตามข่าวที่น่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมนะคะ

- ขณะนี้สถานการณ์ทั่วไปในบาห์เรนยังอยู่ในความสงบ แต่ทางรัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พวกเขาจัดกำลังตำรวจไว้หนาแน่นมากกว่าการแข่งขันครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งนักข่าวเชื่อว่าการแข่งขันฟอร์มูล่าวันยังจัดต่อไปได้ไม่มีปัญหา แม้ว่าทางทฤษฎีการแข่งขันยังสามารถถูกประกาศยกเลิกได้อย่างช้าที่สุดวันพรุ่งนี้

- มีรายงานข่าวว่าเบอร์นี่ เอ็กเคิลสโตน เริ่มไม่แน่ใจว่าจะให้การแข่งขันสนามล่าสุดของอเมริการที่นิวเจอร์ซีย์จะยังคงบรรจุในปฏิทินการแข่งขันปี 2013 หรือเลื่อนเป็น 2014 แม้ว่าการก่อสร้างอาคารพิตที่นั่นกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม สนามใหม่ของอเมริกาในเมืองออสตินที่กำลังจะจัดการแข่งขันขึ้นครั้งแรกปลายปีนี้ยังคงมีกำหนดการตามเดิม

- เร้ดบูลตัดสินใจให้เซบาสเตียน เวทเทล กลับไปใช้ท่อไอเสียเวอร์ชั่นปัจจุบันหรือที่เรียกกันเล่นๆ ว่า "เวอร์ชั่นของ (มาร์ก) เว็บเบอร์" ในการแข่งขันที่บาห์เรน ซึ่งจากสนามที่แล้วเห็นได้ชัดว่ามีประสิทธิภาพดีกว่า แม้ว่าเวทเทลจะรู้สึกมั่นใจในรถท่อไอเสียเวอร์ชั่นเดิมมากกว่าก็ตาม







*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ nextgen-auto.com
ภาพจาก nextgen-auto.com


Create Date : 18 เมษายน 2555
Last Update : 18 เมษายน 2555 16:12:06 น. 12 comments
Counter : 1254 Pageviews.

 
ไม่ถนัดแต่ปรากฏว่า ได้แชมป์! ฮี่ๆๆ


โดย: runtaro IP: 172.30.50.45, 202.183.217.251 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:17:22:57 น.  

 
ไม่ค่อยได้ชมการแข่งที่สนามบาร์เรนเลยครับ ไม่รู้เป็นอะไร จำภาพสนามยังไม่ได้เลย
ขอบคุณสำหรับข่าวครับ


โดย: spiralmind IP: 115.87.160.183 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:18:49:03 น.  

 
ที่นี่ไม่ใช่สนามถนัดของคิมี แฟน ๆ คิมีต้องลุ้นกันหนัก ๆ หน่อยนะครับ (หรือเพราะอากาศร้อนจัด the iceman เลยละลาย -.-)

ที่นี่ทางตรงจัดว่าค่อนข้างเยอะ DDRS ของ Mercedes น่าจะยังคงให้ผลการ qualify ที่ดีได้ แต่สภาพอากาศร้อนต่างจากจีนมากขอดูอีกทีว่า Mercedes จะบริหารจัดการยางได้ดีขึ้นกว่า 2 สนามแรกขนาดไหนครับ


โดย: fascinator IP: 124.120.237.118 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:20:50:01 น.  

 
พูดถึงเรื่อง Double DRS ประดิษฐกรรมของเมอร์เซเดสที่กำลังออกผลอยู่ในขณะนี้ อยากรบกวน fas คุงช่วยอธิบายเป็นภาษาบ้านๆ ให้พวกเราเข้าใจหน่อยซิคะ พี่เองอยากเขียนเรื่องนี้ให้เพื่อนๆ แต่ว่าไม่เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค หรือท่านอื่นที่มีความรู้เรื่องนี้ จขบ. รบกวนหน่อยนะคะ...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


โดย: finishline วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:23:07:51 น.  

 
เดี๋ยวจะซื้อไอติมวอลล์ ไปล่อ kimi ดีกว่า เผื่อจะเหลือกลุ่มมาแย่ง Podium น้อยลงหน่อย ฮี่ๆๆๆ


โดย: runtaro IP: 172.30.50.45, 202.183.217.251 วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:10:05:55 น.  

 
ขอติดไว้ก่อนนะครับพี่ จขบ ผมกำลังทะเลาะกับเนตอยู่ครับ -.-


โดย: fascinator IP: 124.122.81.31 วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:11:03:57 น.  

 
@คุณ runtaro

ล่อไม่สำเร็จร้อก คิมี่เขาพัฒนาแย้ว อิอิ

@fas คุง

ได้เลยค่าาา ขอบคุณนะคะ


โดย: finishline วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:12:23:35 น.  

 
เอาเข้าจริงสนามที่ผ่านมา รอสเบิร์กแทบไม่ได้ ใช้ประโยชน์จาก DDRS อะไรนั่นเลยรึป่าวครับ เพราะแทบไม่ได้เปิด DRS เลย เล่นนำตลอด อิอิ


โดย: พัฒน์ IP: 124.122.51.195 วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:22:26:12 น.  

 
นอกจาก DDRS แล้ว Mercedes มี W-duct ช่วยตอนเข้าโค้งครับ


โดย: fascinator IP: 124.122.81.31 วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:23:06:41 น.  

 
เพิ่งได้ดู Chinese GP คิมี่ โดนแซงรวดเดียวเลย TT


โดย: พัฒน์ IP: 124.122.51.195 วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:23:20:09 น.  

 
เริ่อง DDRS ของ Mercedes นี่ผมพอเข้าใจคร่าวๆคือ
ระบบขอแยกเป็น 2 ส่วนก่อน
1. DDRS ที่ปีกหลัง
2. FWD ที่ปีกหน้า

การทำงานจะเกิดขึ้นเมื่อ
1. เวลาเกิดการใช้งาน DRS ลมจะถูกส่งผ่านช่อง แคบๆที่อยู่ 2 ข้าง ของปีกหลัง ซึ่ง ถ้าไม่ได้ใช้งาน DRS มันจะถูกปิดไว้
2. ลมจะถูกส่งผ่านไปตามท่อ ซึ่งเชื่อมปีกหลังกับจมูกหน้ารถ
3. สุดท้ายลมจะถูกส่งมายัง ปีกหน้าของรถ เพื่อรถแรงลาก และเพิ่มความเร็วครับ

อันนี้เป็น Analysis จากทางเวบ F1.com ครับ
//www.formula1.com/news/technical/2012/0/953.html


โดย: Spoon IP: 58.96.89.234 วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:11:44:22 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะคุณ Spoon ค่อยนึกภาพตามได้ง่ายหน่อย^^


โดย: finishline วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:13:26:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.