Brazilian Grand Prix 2012 - Post-Race News
การแข่งขันสนามสุดท้ายของฟอร์มูล่าวันเมื่อคืนที่ผ่านมาสมควรแก่การเป็นสนามตัดสินแชมป์ที่สุดเลยค่ะ เพราะเป็นการทดสอบความแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ การชิงไหวชิงพริบ หรือแม้กระทั่งเป็นการวัดกับโชคชะตาของตนเอง โดยมีฝนเป็นตัวแปรสำคัญ
ใครว่าอย่างไรกันบ้างหลังการแข่งขัน เราขอสรุปคำสัมภาษณ์ที่สำคัญมาฝากดังนี้ค่ะ
แชมป์โลกเปิดใจ
เซบาสเตียน เวทเทล แชมป์โลกสามสมัยที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟอร์มูล่าวัน และแชมป์โลกสามสมัยซ้อนคนที่ 3 ตั้งแต่มีการแข่งขัน เขากล่าวว่าสนามนี้เป็นการแข่งขันที่ลำบากที่สุดเท่าที่เคยผ่านมา โดยเหตุการณ์รอบแรกนั้นเริ่มจากการถูกบีบพื้นที่จากมาร์ก เว็บเบอร์ ทำให้เหลือมุมน้อยลงและต้องยกคันเร่งรวมทั้งเปลี่ยนเกียร์ลงถึงเกียร์ 1 อันดับจึงตกลงไป ก่อนที่จะมาเจอกับบรูโน่ เซนน่า ที่โค้ง 4 ซึ่งหลังเกิดอุบัติเหตุเขาพบว่ารถยังวิ่งต่อได้ แต่ในสภาพสนามที่ค่อนข้างแห้ง รถไม่สามารถทำความเร็วได้โดยเฉพาะบนทางตรงเนื่องจากสูญเสียบาลานซ์จากแผลบริเวณพื้นรถและท่อไอเสียด้านซ้าย โชคยังดีที่ฝนยังลงต่อเนื่องซึ่งปรากฏต่อมาว่ารถกลับวิ่งดีกว่าเมื่อแทร็คเปียกชุ่ม
ในเรื่องการเข้าพิตของเวทเทลที่สับสนวุ่นวายซึ่งเห็นได้ไม่บ่อยนักจากเร้ดบูล เขาเล่าว่าต้นเหตุเกิดจากวิทยุในรถเสีย เขาได้ยินทีมงาน แต่ทีมงานไม่ได้ยินเขา ในการเปลี่ยนยางช่วงท้ายที่เริ่มจากยางมีเดียมก่อนเพราะทีมเห็นว่าสนามเริ่มแห้งและรถของเขาไม่มีความเร็วเพียงพอ แต่ระหว่างนั้นเขาพยายามติดต่อกับทีมงานเพื่อขอยางอินเตอร์มีเดียตเนื่องจากฝนเริ่มลงเม็ดถี่อีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เขาจึงต้องออกไปทั้งที่ใส่ยางมีเดียมก่อนจะกลับเข้ามาเปลี่ยนเป็นยางอินเตอร์มีเดียตครั้งสุดท้าย ซึ่งก็เข้าพิตเร็วเกินไปอีก ทีมงานจึงยังไม่พร้อม ในช่วงท้ายเขาเห็นอุบัติเหตุระหว่างลูอิส แฮมิลตัน กับนิโค ฮูลเคนเบิร์ก ซึ่งรู้ว่าสองคันนั้นอยู่ข้างหน้าเฟอร์นันโด อลอนโซ่ แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าตนเองอยู่ในตำแหน่งที่ดีพอหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านเส้นชัยแล้วเขาก็หลั่งน้ำตาแห่งความดีใจอยู่เงียบๆ คนเดียวเมื่อรู้ว่าตนเองทำสำเร็จ ด้วยเพราะวิทยุในรถใช้การไม่ได้แล้ว จึงไม่มีใครได้ยินเสียงร้องไห้แห่งความปลื้มปิติของเขา
เขาขอขอบคุณทีมงานทุกคน ทุกส่วน ในการสนับสนุนเส้นทางการคว้าแชมป์ของเขา ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากของเร้ดบูลโดยเฉพาะครึ่งฤดูกาลแรก แต่เพราะพวกเขามีความเชื่อเสมอว่าต้องทำได้ พวกเขาจึงลองผิดลองถูกจนได้คำตอบ และแม้จะต้องเจอกับลูกเล่นต่างๆ ของคู่แข่ง แต่พวกเขาก็ขอตั้งหน้าตั้งตาทำผลงานของตนให้ดีที่สุดจนประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้
ผู้แพ้ที่ได้รับการยกย่อง
ด้านเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ผู้ซึ่งจบฤดูกาลด้วยการมีคะแนนตามหลังแชมป์เพียง 3 คะแนนเท่านั้น กล่าวภูมิใจกับทีมงานเฟอร์รารี่และภูมิใจกับผลงานของตนเองในฤดูกาลนี้โดยยกให้เป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดสำหรับตัวเขา แต่ที่จริงแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกว่าสูญเสียแชมป์ในสนามนี้ แต่กลับเป็นเพราะสองสนามที่เขาต้องออกจากการแข่งขันตั้งแต่รอบแรก ทั้งที่เบลเยียมซึ่งมีต้นเหตุจากโรแมง โกรส์ฌอง และที่ญี่ปุ่นหลังจากสะกิดกับคิมี่ ไรค์โคเน่น
เขากล่าวอีกว่าถึงแม้จะจบด้วยการเป็นอันดับที่ 2 แต่นี่เป็นส่วนหนึ่งของกีฬา ที่สำคัญมากกว่าคือเขารู้สึกว่าได้รับเสียงชื่นชมยกย่องมากมายอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนจากแฟนกีฬาและคนในแพดด็อกด้วยกัน ทั้งนักขับปัจจุบัน อดีตนักขับ บรรดาทีมต่างๆ และแฟนๆ ซึ่งในปี 2013 เขาจะกลับมาแข็งแกร่งให้ได้เท่าเดิม ที่พูดเช่นนี้เพราะเขาไม่คิดว่าจะมีฤดูกาลไหนในอาชีพของเขายอดเยี่ยมเท่าฤดูกาลนี้อีกแล้ว
ด้านเฟอร์รารี่ โดยสเตฟาโน่ โดเมนิคาลี่ ทีมบอส ให้สัมภาษณ์ยกย่องอลอนโซ่ว่าสมควรเป็นแชมป์ในปีนี้ เนื่องจากทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตลอดทั้งปี และยอมรับว่าการเสียแชมป์ไป 2 ครั้งใน 3 ปีด้วยคะแนนห่างเล็กน้อยถือว่าเจ็บปวดทีเดียว เขาผิดหวังแทนอลอนโซ่จริงๆ เพราะไม่คิดว่าไม่มีปีไหนที่ลูกทีมคนนี้สมควรเป็นแชมป์โลกมากเท่ากับปีนี้ ในส่วนของคะแนนที่ยังขาด บอสเฟอร์รารี่ให้ความเห็นว่าเป็นเรื่องที่พูดยาก แต่เขาอยากชี้ถึงจุดที่ต้องออกจากการแข่งขันใน 2 สนาม เท่ากับพวกเขาลงแข่งจริงๆ แค่ 18 สนามเท่านั้น รวมถึงที่เฟอร์รารี่ทำรถได้ไม่เร็วพอช่วงต้นปี
'ชูมี่' มีความสุขกับสนามสุดท้าย
มิชาเอล ชูมัคเกอร์ กล่าวถึงการแข่งขันสนามสุดท้ายในฟอร์มูล่าวันของเขาว่าเมื่อวานนี้ทำให้เขานึกถึงปี 2003 ที่การแข่งขันเดาไม่ได้แต่เขาก็ยังได้แชมป์ด้วยคะแนนมากกว่า 1 คะแนน และยังยางแตกตั้งแต่เริ่ม คล้ายกับปี 2006 ที่ยางแตกเหมือนกัน แต่เขาไม่ยอมแพ้เพราะเชื่อว่ายังมีโอกาสเสมอ นอกจากนั้น เขายังเล่าว่าช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาจบอันดับที่ 7 ในสนามสุดท้าย ซึ่งเป็นอันดับเดียวกับที่ทำได้ในการแข่งขันครั้งแรกที่สปา ทั้งในการแข่งขันปีสุดท้ายยังได้ขับรถหมายเลข 7 และได้แชมป์โลกทั้งหมด 7 ครั้งเขาจึงถือว่าเลข 7 เป็นเลขนำโชคของเขาจริงๆ
ส่วนข้อสงสัยที่ว่าทำไมเขาปล่อยให้เซบาสเตียน เวทเทล แซงไปง่ายๆ เช่นนั้น เขาตอบว่านักขับเร้ดบูลเร็วกว่ามากและไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องต่อสู้ด้วย ตลอดสามปีที่ผ่านมาเขามีแต่ช่วงเวลาที่สวยงาม แม้จะไม่ใช่ช่วงที่ดีที่สุด แต่เขาได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆ ตลอดมา เขาจึงอยากขอขอบคุณทุกคนรวมทั้งทีมงานเมอร์เซเดสไว้ ณ ที่นี้
แฮมิลตันเสียดายจบไม่สวยกับแม็คลาเรน
ลูอิส แฮมิลตัน พลาดโอกาสคว้าชัยชนะครั้งสุดท้ายกับแม็คลาเรนจากอุบัติเหตุชนกับนิโค ฮูลเคนเบิร์ก ซึ่งในตอนแรกเขาไม่พอใจที่ฝ่ายหลังไม่มาขอโทษและกล่าวว่าเขาไม่มีโชคเล็กน้อย เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้กับนักขับที่มีประสบการณ์น้อยกว่า ถึงอย่างไรเขาก็ยินดีกับทีมด้วยในชัยชนะจากเจนสัน บัตตัน ในส่วนความรู้สึกต่อการแข่งขันสนามสุดท้ายกับทีม เขากล่าวว่ามีหลายอารมณ์ผสมกัน หลังจากนำการแข่งขันแต่สุดท้ายไม่ได้ผ่านธงหมากรุก โดยรู้สึกมึนงงเล็กน้อยเหมือนการแข่งขันเมื่อปี 2007 ที่เขาสูญเสียแชมป์ให้กับคิมี่ ไรค์โคเน่น ในสนามแห่งนี้ ต่อไปนี้เขารู้สึกตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่ในการเป็นนักขับเมอร์เซเดสและหวังว่าจะมีโชคดีขึ้นบ้าง
อย่างไรก็ตาม หลังการแข่งขันมีรายงานว่าฮูลเคนเบิร์กได้เข้าไปพบแฮมิลตันในบริเวณรับรองของแม็คลาเรนเพื่อขอโทษในจังหวะนั้นแล้ว
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ gpupdate.net
Create Date : 26 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2555 22:41:18 น. |
|
35 comments
|
Counter : 1571 Pageviews. |
|
|
//fullmatchzap.blogspot.com/2012/11/f1-formula-1-2012-brazilian-grand-prix.html