Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
 
24 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
หลากหลายสถิติเกิดขึ้นที่บาห์เรน

บอกแล้วว่าฟอร์มูล่าวันฤดูกาลนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ค่ะ ผ่านมา 4 สนามแล้วเราได้ผู้ชนะ 4 คนแถมมาจาก 4 ทีมด้วยกัน ทำให้กูรูหลายสำนักต้องช่วยกันนึกย้อนไปว่าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อใด

ฤดูกาลที่เทียบเคียงได้คือปี 2003 ซึ่งเริ่มต้นด้วยผู้ชนะ 4 คนจาก 4 สนามเช่นเดียวกัน แต่ที่เหมือนกันมากกว่าก็ต้องย้อนไปถึงปี 1983 หรือ 29 ปีที่แล้วค่ะ ซึ่งนอกจากจะมีผู้ชนะ 4 คนใน 4 สนามแรก แต่ละคนยังมาจากทีมที่แตกต่างกันทั้งหมดเหมือนกับปีนี้ ได้แก่ เนลสัน ปิเกต์ (บราบัม) จอห์น วัตสัน (แม็คลาเรน) อแลง พรอสต์ (เรโนลต์) และแพทริก แทมเบย์ (เฟอร์รารี่)

 

 

ลองบีช ปี 1983 เป็นครั้งสุดท้ายที่ให้ผลลัพธ์เดียวกับบาห์เรน 2012

 


โดยหลังจากจบรายการบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เซบาสเตียน เวทเทล มีคะแนนสะสมขึ้นเป็นผู้นำเป็นคนที่ 4 ของฤดูกาล และเท่าที่ผ่านมาปีนี้มีนักขับได้ขึ้นโพเดียมแล้ว 8 คน มากกว่าจำนวนคนขึ้นโพเดียมรวมกันทั้งหมดในฤดูกาล 2011 ไปแล้ว 1 คนเสียอีกค่ะ! นอกจากนี้โรแมง โกรส์ฌอง กับพอล ดิ เรสต้า ยังได้วิ่งนำการแข่งขันเป็นครั้งแรกของพวกเขาแม้จะเป็นผลจากการเข้าพิตช้ากว่ากลุ่มผู้นำก็ตาม นับถึงตอนนี้จึงมีผู้ที่เคยวิ่งนำการแข่งขันในฤดูกาลนี้แล้วรวม 8 คนด้วยกัน เป็นจำนวนเท่ากับที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว

ยังมีสถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจเกิดขึ้นในสนามนี้ เราลองมาดูกันค่ะ

รอบควอลิฟาย

- ตำแหน่งโพลของเซบาสเตียน เวทเทล นี้ถือเป็นโพลแรกในฤดูกาลของเขา จากประวัติที่ผ่านมานับตั้งแต่มาอยู่กับเร้ดบูลเมื่อปี 2009 เวทเทลไม่เคยให้มาร์ก เว็บเบอร์ เพื่อนร่วมทีมควอลิฟายได้อันดับดีกว่าเกิน 3 สนามติดต่อกัน และไม่เคยไม่ได้ออกตัวจากแถวหน้าเกินกว่า 3 สนามอีกด้วย ซึ่งครั้งนี้เป็นการสตาร์ทจากแถวหน้าครั้งที่ 42 ของเขา มีสถิติติดท็อป 10 ของนักขับฟอร์มูล่าวันร่วมกับเกรแฮม ฮิลล์ และแจ็กกี้ สจวร์ต

- ลูอิส แฮมิลตัน ควอลิฟายได้อันดับที่ 2 ในสนามนี้ ทำให้เขาออกตัวจากแถวหน้าเป็นครั้งที่ 40 ในอาชีพนักขับฟอร์มูล่าวันและยังเป็นการออกตัวจากท็อป 10 เป็นสนามที่ 40 ติดต่อกันอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีนักขับแม็คลาเรนคนใดได้ตำแหน่งโพลในสนามนี้นับตั้งแต่เปิดการแข่งขันมาเมื่อปี 2004

- แดเนียล ริคเคียร์โด้ ควอลิฟายได้อันดับที่ 6 ให้กับโตโร รอสโซ นับเป็นผลงานการควอลิฟายที่ดีที่สุดของเขานับถึงขณะนี้ และเป็นอันดับควอลิฟายที่สูงที่สุดของทีมนับจากเบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ ปีที่แล้ว (โดยไฮมี่ อัลเกอร์ชัวรี่ ในอันดับที่ 6 เช่นกัน) นอกจากนี้ยังเป็นการควอลิฟายติด 10 อันดับแรกในบาห์เรนของโตโร รอสโซ่อีกด้วย

- เซอร์จิโอ เปเรซ ควอลิฟายในอันดับที่ 8 ถือเป็นอันดับควอลิฟายที่ดีที่สุดของเขาจนถึงปัจจุบันซึ่งเท่ากับสนามที่แล้วที่เซี่ยงไฮ้ และเป็นการควอลิฟายติดหนึ่งในสิบ 3 สนามรวดแล้ว

- พอล ดิ เรสต้า สามารถควอลิฟายติดท็อป 10 เป็นครั้งแรกเช่นกัน

- จากการที่เฟลิเป้ มาสซ่า ควอลิฟายได้อันดับต่ำกว่าท็อป 10 ติดต่อกันมา 4 สนาม ทำให้เขามีสถิติเดียวกับตอนที่อยู่กับเซาเบอร์ปีสุดท้าย คือจากออสเตรเลียถึงซานมารีโน่ในปี 2005

- นับจากที่มิชาเอล ชูมัคเกอร์ กลับคืนสู่วงการ ผลงานควอลิฟายสนามนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ที่เขาต้องหลุดไปตั้งแต่ Q1 ต่อจากรายการเบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ปีที่แล้ว และด้วยการที่ต้องรับโทษปรับกริด 5 อันดับ ทำให้เขาต้องออกตัวจากอันดับที่ 22 ซึ่งในการแข่งขันของเขาทั้งหมด 291 ครั้ง มีเพียงในสนามสปาที่กล่าวถึงข้างต้นที่เขาออกตัวจากอันดับที่ต่ำกว่านี้ (24)

 

 


แดเนียล ริคเคียร์โด้ ควอลิฟายได้ดีที่สุดในชีวิตจากสนามนี้

 

การแข่งขัน

- จากการที่รถที่ผ่านเข้าเส้นชัย 4 อันดับแรกใช้เครื่องยนต์เรโนลต์ทั้งหมด จึงนับเป็นครั้งแรกนับจากรายการลักเซมเบิร์ก กรังด์ปรีซ์ ปี 1997 ที่เรโนลต์ทำได้เช่นนี้

- คิมี่ ไรค์โคเน่น ได้ขึ้นโพเดียมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 63 ในอาชีพนักขับฟอร์มูล่าวันของเขา โดยครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้คืออันดับที่ 3 จากมอนซ่าปี 2009

- โพเดียมอันดับที่ 3 ของโรแมง โกรส์ฌอง นับเป็นโพเดียมของนักขับฝรั่งเศสครั้งแรกนับจากโพเดียมอันดับเดียวกันของฌอง อเลซี่ ในรายการเบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ ปี 1998

- โพเดียมอันดับที่ 2 และ 3 ของโลตัสซึ่งในอดีตคือทีมเรโนลต์ ครั้งนี้นับเป็นโพเดียมคู่ครั้งแรกของทีมนับจากรายการเจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ปี 2006 แต่ถ้านับด้วยชื่อ "โลตัส" แล้ว โพเดียมครั้งสุดท้ายของพวกเขาเกิดขึ้นที่ออสเตรเลียปี 1988 โดยเนลสัน ปิเกต์ นอกจากนี้ในการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รถโลตัส (เรโนลต์) ได้เป็นผู้นำการแข่งขันครั้งแรกนับตั้งแต่สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ ปี 2009

- มาร์ก เว็บเบอร์ จบการแข่งขันในอันดับที่ 4 มาทั้ง 4 สนามแรกของฤดูกาลนี้ แม้เขาจะออกตัวจากกริดตำแหน่งต่างๆ กันก็ตาม

- ผลการแข่งขันอันดับที่ 6 ของพอล ดิ เรสต้า นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขาในการแข่งขันฟอร์มูล่าวันถึงปัจจุบัน เทียบเท่ากับผลงานของตนเองที่ทำได้ในสิงคโปร์เมื่อปีที่แล้ว

- เฟลิเป้ มาสซ่า ได้คะแนนเป็นครั้งแรกของฤดูกาลแล้ว เท่ากับว่าขณะนี้เหลือนักขับเพียง 6 คนจากมารุสเซีย แคเทอร์แฮม และเอชอาร์ที ที่ยังไม่มีคะแนน

- ในการสตาร์ทจากกริดต่ำกว่าอันดับที่ 20 ของมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 4 ครั้งตลอดอาชีพการขับฟอร์มูล่าวัน เขาสามารถเก็บคะแนนสะสมกลับมาได้ทุกครั้ง โดยครั้งนี้เขาออกตัวจากอันดับที่ 22 และเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 10






 

*ข้อมูลและภาพจาก autosport.com/f1




Create Date : 24 เมษายน 2555
Last Update : 24 เมษายน 2555 14:31:37 น. 16 comments
Counter : 1215 Pageviews.

 
ขอบคุณ จขบ จ้า

สนามนี้เข้ามาอ่านข่าวกีที่ก็ยังไม่หายชื่นใจนิ อิอิ


โดย: ชัยจ้า IP: 125.26.75.59 วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:15:22:52 น.  

 
สนามหน้าเข้าสู่ภาคพื้นยุโรปแล้ว แต่ละทีมเก็บข้อมูลสนาม Barcelona กันมาอย่างเต็มเปี่ยม ทีมไหนจะใช้ข้อมูลได้ดีที่สุดกันหนอ *-*


โดย: fascinator IP: 124.120.218.50 วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:15:30:18 น.  

 
ขอบคุณมากครับ


โดย: ลุ่มน้ำตาปี IP: 182.53.163.62 วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:17:09:53 น.  

 
ขอบคุณครับท่าน สถิตินี่มันอ่านหนุกดีจริงๆนะ


ต้องบอกนี่ด้วย ซ่าส์เป็นนักขับของทีมเก่าคนสุดท้าย ยกเว้น 3 ทีมน้องใหม่ปีที่แล้ว ที่ได้คะแนน ...ในรถ Ferrari ห้า ห้า


แต่พี่มาร์คเนี่ย เลขเท่ห์นะ 4444


โดย: runtaro IP: 172.30.50.42, 202.183.217.251 วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:17:19:17 น.  

 
สวัสดีคะ เรื่องข่าวของ Kimi ข่าวเค้าจะเงียบมากในช่วงสองปีก่อนคะ แต่ก็ยังมีรูปตามหนังสือพิมพ์ หรือโปสเตอร์ตามห้างบ้างคะ คนฟินน์ก็เหมือนคนไทยตรงที่ไม่ค่อยสนใจ F1 เท่าไหร่คะ ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางไอซ์ฮอกกี้หรือกีฬาหน้าหนาวของเค้านะคะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆน่าอ่านของฟอร์มูล่า วัน นะคะ ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่แต่พออ่านบล็อกนี้นานแล้วรู้เยอะมากเกี่ยวกับ F1


โดย: ป้าณู วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:20:10:07 น.  

 
ขำตอน Kimi ถูกถามหลังแข่งว่า จะฉลองด้วยไอสครีม หรือเปล่า หน้า Kimi ตอนนั้น ฮามากครับ โอกาสที่ Kimi จะได้ขึ้นหน้า Vettel มีเพียงหนเดียว แต่เจ้าตัวบอกเลือกไลน์ พลาด ผมคิดว่า Kimi มีความมั่นใจมากแล้ว สนามต่อๆ ไปน่าสนุกละครับ

แต่สนามนี้ ยกการป้องกันไลน์ ของ Nico ครับ สองหนกัน Hamilton กับ Alonso สุดยอดจริงๆ ;)


โดย: spiralmind IP: 171.97.7.113 วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:20:34:05 น.  

 
@คุณป้าณู

ก็ขนาดคิมี่เองยังชอบเล่นไอซ์ฮอกกี้มากๆ ถึงขั้นเคยจะยึดเป็นอาชีพเลยนะคะ แต่เธอขี้เกียจตื่นเช้ามาซ้อมทุกวันเลยขอขับรถแข่งแทนดีกว่า อิอิ

@คุณ spiralmind

เรื่องไอติมกับคิมี่เป็นอะไรที่ใครๆ ก็ลืมไม่ลงจริงๆ 555
สำหรับเรา ถึงยังไงจังหวะที่คิมี่จะแซงต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งให้เซ็บน้อยในการปิดมุมด้วยอ่ะค่ะ ถ้าขืนไม่ปิดต้องโดนพี่ชายสุดที่รักหักกลับมาสอยแน่ๆ


โดย: finishline วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:21:58:55 น.  

 
French GP สนาม Paul Ricard บรรลุข้อตกลงแล้วนะครับ คาดว่าจะสลับกับ Spa เริ่มตั้งแต่ปี 2013


โดย: fascinator IP: 124.120.218.50 วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:23:23:11 น.  

 
สองปีดู Spa ที ก็ยังไหวใช่มะ ... แง่มๆ


โดย: runtaro IP: 172.30.50.42, 202.183.217.251 วันที่: 25 เมษายน 2555 เวลา:8:57:32 น.  

 
ทำใจไม่ได้ ต้องรอตั้ง 2ปี ถึงจะได้ดู Spa T^T


โดย: fascinator IP: 124.120.62.59 วันที่: 25 เมษายน 2555 เวลา:14:05:34 น.  

 
ขอบคุณครับ

ขาถามเป็นความรู้เกี่ยวกับหมวกของนักแข่งครับ
เห็นเค้ามีฟิล์มใสๆ ติดไว้ที่หน้ากาก เค้าติดไว้กี่ชั้นครับ เวลาหน้ากากสกปรกก็ดึงออก
แล้วก็เวลาฝนตกนี่มองเห็นกันได้ไงบาทีขับตามๆกันละอองน้ำเยอะมากเลย ผมพยายามหากล้องที่ติดอยู่ในหมวกนักขับเวลาฝนตกแล้วหาไม่เจอครับ

ขอบคุณครับ


โดย: โอ๊ต IP: 203.147.42.66 วันที่: 25 เมษายน 2555 เวลา:14:57:00 น.  

 
@คุณโอ๊ต

Tear-off strips
Each driver has several layers of see-through plastic film covering the visor of their helmets, which they can tear-off as the visor gets dirty during the race. This eliminates the need to keep wiping the visor, for which the driver would not have time during the race.

พูดกันแต่ว่าติดไว้ "หลาย" ชั้นน่ะค่ะ เราเองก็ไม่เคยอ่านเจอเสียทีว่าต้องกี่ชั้น มีใครเคยอ่านเจอบ้างมั้ยคะ?

เรื่องขับตามกันเวลาฝนตก ในความคิดของเรา ฟิล์มที่หน้ากากก็คงต้องมีการเคลือบสารอะไรให้ลดการเกาะของละอองน้ำ แต่ถ้าฝนหนัก เซฟตี้คาร์ก็ต้องออกมาแน่นอน ถึงตอนนั้นนักขับก็พยายามหลบสับไปสับมาบ้างน่ะค่ะ


โดย: finishline วันที่: 25 เมษายน 2555 เวลา:18:15:56 น.  

 
ขอบคุณมากๆครับผม


โดย: โอ๊ต IP: 58.9.197.50 วันที่: 25 เมษายน 2555 เวลา:22:56:33 น.  

 
ไม่รู้ว่าสารที่เคลือบที่ฟิล์มตรงหน้ากากจะเหมือนกันไหม
แต่ถ้าเป็นรถยนต์ จะมีสารเคลือบไม่ให้ละอองน้ำจับที่กระจกหน้ารถ
ลองเดินในห้างแล้วไปที่แผนกประดับยนต์ มีขายหลายยี่ห้อเลย
คือพอฝนตก น้ำฝนจะไม่ค้างแต่จะไหลลงหรือไหลขึ้นไปเลย

ที่บอกว่าไหลขึ้นหรือลง
เพราะว่าเมื่อรถวิ่งในความเร็วระดับนึง
น้ำมันจะวิ่งไปตามแรงลมที่ประทะครับ

ผมเลยเดาว่า น้ำจะไม่เกาะที่หน้ากากมากนัก
จนทำให้นักขับมองไม่เห็นนะครับ


โดย: เกลียดแดง IP: 202.122.130.31 วันที่: 26 เมษายน 2555 เวลา:8:31:35 น.  

 
ครับผมคุณเกลียดแดง รถผมก็ทาไว้อยู่เหมือนกัน ฝนตกกลางๆแทบไม่ต้องปัด แต่นักแข่งคงต้องเปียกปอนไปทั้งตัว


โดย: โอ๊ต IP: 203.147.42.66 วันที่: 26 เมษายน 2555 เวลา:16:43:37 น.  

 


โดย: finishline วันที่: 26 เมษายน 2555 เวลา:17:08:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.