สำหรับเราสนามนี้สนุกมากเลยค่ะ ลำพังด้วยลักษณะสนามก็ลุ้นกันเหนื่อยอยู่แล้ว แต่วันนี้เป็นการประลองเรื่องอุปกรณ์กันอย่างครบเครื่องมาก ทั้งยาง KERS และ DRS ซึ่งเป็นของใหม่สำหรับปีนี้ทั้งนั้น โดยเรื่องยางคงจะเป็นประเด็นที่พูดกันมากที่สุดเพราะเซบาสเตียน เวทเทล สูญเสียความเป็นผู้นำก่อนจบการแข่งขันประมาณ 4 รอบ เนื่องจากทีมเร้ดบูลใช้กลยุทธ์เข้าพิต 2 ครั้ง ในขณะที่ลูอิส แฮมิลตัน ผู้ชนะสนามนี้เลือกใช้การเข้าพิต 3 ครั้ง ทำให้ยางใหม่สดกว่า เวทเทลจึงไม่สามารถต้านทานแฮมิลตันได้ในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตาม การเข้าพิต 2 ครั้งไม่ได้มีแต่เรื่องแย่หรอกค่ะ เฮกกิ โควาไลเน่น ก็ใช้ยุทธวิธีนี้และสามารถนำรถโลตัสจบในอันดับที่ 16 เหนือกว่าทีมอย่างเซาเบอร์และวิลเลียมส์ สำหรับคนที่ทำงานหนักที่สุดในวันนี้เห็นจะเป็นมาร์ก เว็บเบอร์ ค่ะ ด้วยความโชคร้ายเมื่อวันเสาร์ทำให้เขาต้องสตาร์ทจากอันกับที่ 18 แต่เรซนี้เขาไล่ขับตะลุยจนคว้าอันดับสุดท้ายบนโพเดียมมาได้สำเร็จ สร้างความดีใจให้ทีมงานและแฟนๆ อย่างยิ่ง ในขณะที่เจนสัน บัตตัน คงเสียดายไม่น้อยเมื่อเขาเสียตำแหน่งที่ 3 ให้เว็บเบอร์ในช่วงท้าย สำหรับบัตตัน ป่านนี้เราก็ยังไม่รู้เหตุผลว่าเขาคิดอะไรอยู่ถึงเข้าไปจอดในพิตเร้ดบูลในการเข้าพิตครั้งแรก! ในการแข่งขันวันนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อากาศแจ่มใส ไม่มีอุบัติเหตุหนักใดๆ เลยค่ะ ซึ่งตลอดการแข่งขันมีรถออกจากการแข่งขันไปเพียงคันเดียวคือ เฮมี่ อัลเกอร์ชัวรี่ ของโตโร รอสโซ ต้องออกจากการแข่งขันตั้งแต่รอบที่ 7 เพราะล้อหลุด โดยในตอนท้ายรายการมีการเฉี่ยวชนกันระหว่างอาเดรียน ซูทิล ของฟอร์ซ อินเดีย กับเซอร์จิโอ เปเรซ นักขับเม็กซิกันของเซาเบอร์ ก่อนจบการแข่งขันไม่กี่รอบ ซึ่งเปเรซโดนโทษแบบขับผ่านและเจ้าตัวก็ได้ขอโทษคู่กรณีในภายหลังด้วย สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 3ประเภทนักขับ1. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 68 คะแนน2. ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 47 คะแนน3. เจนสัน บัตตัน (แม็คลาเรน) 38 คะแนน4. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 37 คะแนน5. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 26 คะแนน- อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด //www.formula1.com/results/driver/2011/ประเภททีม1. เร้ดบูล-เรโนลต์ 105 คะแนน2. แม็คลาเรน-เมอร์เซเดส 85 คะแนน3. เฟอร์รารี่ 50 คะแนน4. เรโนลต์ 32 คะแนน5. เมอร์เซเดส 16 คะแนน- อันดับคะแนนสะสมประเภททีมทั้งหมด //www.formula1.com/results/team/สนามหน้าเริ่มเข้าสู่ยุโรปแล้วค่ะ เริ่มจากสนามชายขอบทวีปอย่างตุรกี ที่ซึ่งปีที่แล้วมีเรื่องราวติดตาติดใจใครหลายคน ติดตามลุ้นกันต่อในวันที่ 6-8 พฤษภาคมค่ะ*ข้อมูลจาก formula1.com และ autosport.com/f1ภาพจาก formel1.de
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กับทุกทีมแล้วกันนะคะ