Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
 
3 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
เก็บข่าว Hungarian Grand Prix

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่าน โดยเฉพาะสมาชิกใหม่ๆ เมื่อวานมีมาทักทายกันหลายคนทีเดียว เราดีใจมากๆ เลยนะคะที่ได้เจอชาวฟอร์มูล่าวันมากขึ้นทุกวัน อย่างที่คุณ Jabangka บอก ถ้าคนไม่ได้เกาะติดกีฬานี้มากก็จะรู้สึกว่านั่งดูอะไรกันเนี่ย วิ่งวนไปเรื่อยๆ มันก็ซ้ำๆ นั่นแหละ แต่ถ้าดูดีๆ ทุกวินาทีที่ขับมีความหมายมากทีเดียว ก็ยังไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกค่ะในการเริ่มดู เอาสนุกเข้าไว้ ข้อแนะนำของเราคือ จับคนที่เราเชียร์ไว้เป็นหลักคนหนึ่งก่อน พอเราหลงรักใครเราก็อยากจะรู้เรื่องของเขาไปซะหมด เดี๋ยวก็จะขยายไปถึงทีมที่เขาอยู่ แล้วเรื่องก็จะเริ่มพัวพันไปกับทีมอื่นและนักขับอื่น ส่วนเรื่องกฎกติกา เราก็ไม่เคยอ่านแบบจริงๆ จังๆ เหมือนกันค่ะ แต่มันจะผ่านเข้ามาเวลามีเคสต่างๆ แต่เพื่อความสนุก อาจจะหาอ่านแบบย่อๆ ตามเว็บไซต์อย่างเช่น //www.formula1.com/inside_f1/rules_and_regulations/ ก็ได้นะคะ หรือถ้าสงสัยอะไรเพิ่มเติม ถามเพื่อนๆ ทุกท่านที่นี่ได้เลยค่ะ เราแน่ใจเลยว่าจะมีคนช่วยตอบอย่างแน่นอน

เอาล่ะค่ะ ควันหลงฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ ยังวนเวียนอยู่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในสนามนี้มันมากมายเหลือเกิน

มาดูคนนี้กันก่อน ห่วงที่สุดก็ไอ้คนนี้แหละ...





เห็นรูปแล้วได้ใจมาก 555 ซึ่งทีมบอสเร้ดบูล คริสเตียน ฮอร์เนอร์ บอกว่าเวทเทลเป็นคนที่ชัดเจนกับความรู้สึกมาก เลยแสดงความผิดหวังอย่างแรง และในฤดูกาลนี้เวทเทลเจอเรื่องหนักๆ มาเยอะ แต่อยากบอกเขาว่าไม่ต้องเสียใจหรอก นี่เป็นบทหนึ่งของการเรียนรู้ ยังมีอีก 7 สนามให้เก็บแต้ม แล้วเขายังได้แต้มมากกว่าคู่แข่งบางคนเสียอีก ทั้งแฮมิลตันและบัตตัน ในฐานะผลงานของทีม การได้อันดับที่ 1 และ 3 ก็เป็นเรื่องที่ดีก่อนได้พักซัมเมอร์ ส่วนตัวเวทเทลเองก็เป็นคนประเภท "พรุ่งนี้ก็ลืมแล้ว" เขาบอกว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะจมอยู่กับสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว

เท่าที่เราอ่านสัมภาษณ์ของน้อง จับเหตุผลของการโมโหอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยงของเขาได้ 2 อย่าง คือ 1) เขาไม่รู้จริงๆ ว่าเซฟตี้คาร์จะเข้ารอบนั้น จะด้วยเหตุผลว่าวิทยุเสีย ทีมเลยไม่ได้แจ้ง หรือคันนำ (เว็บเบอร์) ไม่ได้ให้สัญญาณว่ากำลังจะเข้าสู่รอบปกติแล้ว หรืออะไรก็แล้วแต่ และ 2) ในความรู้สึกเขา ขนาดสนามที่แล้วที่เฟอร์รารี่สลับตำแหน่งกันยังโดนแค่โทษปรับหลังการแข่งขัน ไม่ได้ถูกลงโทษขณะการแข่งขัน แต่ความผิดของเขาถึงขั้นไดรฟ์ทรูเชียวหรือ?

อืมมมมม เรารู้สึกว่าน้องเหวี่ยงๆ อยู่นะ อาจเป็นเพราะว่าให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขันทันทีซึ่งแน่นอน อะดรีนาลีนยังพุ่งสูง แล้วที่สำคัญ เขามุ่งมั่นมากกกกกก พอผิดหวังก็เลยกลายเป็นแบบนี้ ตอนแรกเรานึกว่าแฟนๆ ที่เมืองนอกจะรุมว่าเละเทะแล้ว แต่เท่าที่อ่านเจอมีแต่คนให้กำลังใจค่ะ แม้แต่แฟนของเว็บเบอร์เองเขาก็บอกว่าธรรมดา เพราะน้องคือหนุ่มน้อยอายุ 23 จะให้สุขุมเท่ากับเว็บเบอร์ (ซึ่งแก่กว่า 11 ปี) หรือคนอื่นๆ ที่ขับมานานก็คงเป็นไปไม่ได้ ความผิดพลาดคือบทเรียนที่จะทำให้เขาเป็นนักขับที่ยิ่งใหญ่ต่อไปได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาแสดงทำให้เรารู้ว่าเขาตั้งใจมากแค่ไหน เราถึงอยากบอกกับเขาว่าให้ใจเย็นๆ ตั้งสติให้ดีไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ปลายทางของความพยายามคือความสำเร็จอยู่แล้ว

มาดูอีกคน...ไม่ใช่ซิ ต้องบอกว่าอีกคู่ เรื่องระหว่างมิชาเอล ชูมัคเกอร์ กับรูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ ก็น่าจะคลี่คลายลงได้บ้าง เมื่อชูมัคเกอร์กล่าวขอโทษเพื่อนเก่าว่าเขาไม่ได้มีเจตนาจะทำร้าย เพียงแต่จังหวะนั้นอยากแสดงให้บาร์ริเคลโล่รู้ว่าจะผ่านเขายากนะถ้ามุดมาข้างนั้น ซึ่งในตอนแรกเขารู้สึกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เมื่อนั่งดูวิดีโอพร้อมบาร์ริเคลโล่แล้วเขายอมรับว่าการขับของเขาอันตรายจริงๆ และกรรมการก็ตัดสินถูกต้องแล้ว

สำหรับคดีของเฟอร์รารี่ที่ค้างมาจากสนามฮ็อคเคนไฮม์ เอฟไอเอกำหนดวันฟังคำตัดสินจากสภากีฬายานยนต์โลก คือวันที่ 8 กันยายน ที่ปารีส ในขณะที่สเตฟาโน่ โดเมนิคาลี่ ทีมบอสของเฟอร์รารี่ยังใจเย็นกับการที่เร้ดบูลขึ้นนำในตารางคะแนนทั้งประเภททีมและนักขับ เขาบอกว่าอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ดูจากที่ฮังการีเป็นตัวอย่าง ความเร็วของรถเร้ดบูลไม่ได้รับประกันชัยชนะ แต่เขาก็ไม่ประมาทและขอชื่นชมนักขับทั้งสองของทีมที่ทำได้ดีเยี่ยมหลังจากตกอยู่ในความกดดันจากกรณีทีมออร์เดอร์

นึกย้อนไปแล้ว สนามฮังการีนี่ชุลมุนดีพิลึก อย่างที่บอกล่ะค่ะ เซฟตี้คาร์ออกมาเมื่อไหร่เป็นได้เรื่อง แล้วเรื่องของสนามนี้ส่วนใหญ่ตกอยู่กับนักขับเยอรมันเสียด้วย นอกจากเวทเทลซึ่งเป็นความหวังหลักแล้ว ทั้งชูมัคเกอร์กับนิโค รอสเบิร์ก คู่หูเมอร์เซเดสยังเกิดเรื่องกับทั้ง 2 คนจนโดนทำโทษไปทั้งคนทั้งทีม ข่าวกีฬาช่องอาร์ทีแอลของเยอรมันเลยทำสกู๊ปสรุปแบบช้ำใจเล็กๆ โดยเฉพาะแสดงจังหวะที่เวทเทลทิ้งห่างเว็บเบอร์ช่วงตามหลังเซฟตี้คาร์ ซึ่งเราก็เอามาฝากเพื่อนๆ ที่ไม่ได้ชมการถ่ายทอดสดด้วยค่ะ







พักกลางฤดูกาลแฟนๆ ทนเหงากันไปสักพักนะคะ เช่นเดียวกับฝั่งโมโต้ จีพี ก็ยังไม่มีข่าวสำคัญอะไร ก็ให้เวลานักแข่งของพวกเราชาร์จแบตให้เต็มที่ สำหรับโมโต้ จีพี อีกประมาณ 2 อาทิตย์ถึงจะได้เจอกัน และฟอร์มูล่าวันจะเจอกันอีกทีปลายเดือน

ส่วนพวกเรา ยังเจอกันได้ทุกวันที่นี่ค่ะ ^-^




*ข้อมูลและภาพจาก autosport.com/f1
คลิปจากยูทูบโดยคุณ darkanXic90





Create Date : 03 สิงหาคม 2553
Last Update : 3 สิงหาคม 2553 9:40:25 น. 14 comments
Counter : 1211 Pageviews.

 
เพิ่งได้อ่าน blog นี้สักพักนึงแล้ว ต้องขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่นำข่าวดีๆ ในวงการ F1 มาให้อ่านได้ชม เพราะในเมืองไทย หาข่าวอ่านยากจริงๆ

ส่วนตัวแล้วเชียร์ Alonso มานานแล้ว ชอบความสามารถในการขับรถ เปนคนที่ใช้ track ได้กว้างมากๆ แซงยาก แต่ขี้บ่น 555+

ถ้า Vettel มีการพัฒนาในด้านของความเป็นผู้ใหญ่ อนาคตสดใสแน่นอน ส่วนการขับไม่ต้องพูดถึง ลิตเติ้ล ชูมี่ เลยครับ


โดย: desmond IP: 119.63.83.2 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:10:36:10 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ desmond

ขอบคุณมากๆ ค่ะที่ติดตามอ่านบล็อกของเรา มีคนช่วยแชร์เรื่อง F1 เพิ่มขึ้นอีกคนละ

ใช่ค่ะ Alonso เก่งจริงๆ ในเรื่องการใช้ track พูดแล้วนึกภาพออกเลย เราว่ากว้างกว่า Kimi อีก และใช่แล้วค่ะ ขี้บ่น 555

ส่วน Vettel เรารอน้องโตขึ้นอีกหน่อย เขาคงเย็นลงกว่านี้ล่ะค่ะ


โดย: finishline วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:10:40:44 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณ finishline
เห็นด้วยเลยค่ะ ส่วนตัวเริ่มและชอบกีฬามอเตอร์สปอต์ ก็เพราะน้าชู และอีกคน พ่อมอเตอร์ไซด์ซิ่ง 500cc.
ไมเคิ่ล ดูฮาน (พ่อคนนี้ปลื้มตลอดกาล...)
โอ๋ พระเจ้า เห็นภาพน้องตอนขึ้นโพเดียมกับตอนให้สัมภาษณ์หลังแข่งจบแล้ว ก็ยังเป็นห่วงจริงๆๆๆค่ะ อารมณ์ประมาณ เป็นไปไม่ได้ คงจะผิดหวังมากๆ เฮ้ย !
กลับมาเร็วๆ นะ คนทางนี้เป็นกำลังใจให้เยอะ
ได้ข่าวแว่วๆ ว่า มาดามปุ๋ง ดารณี อยู่วิทยา ปลื้มมั๊กๆๆ ถึงขั้นยกให้เป็นลูกชายคนสุดท้อง แซวกันในคอลัมภ์ไฮโซหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ว่า ถ้าได้แชมป์โลก จะมีแบ่งสมบัติให้ด้วย
เอา เอากันเข้าไป กำลังใจมีแล้ว
ปีนี้อยากให้ Vettel กับ เจ้าเทคนิค เยอะเหลือเกิน Webber ลุ้นอันดับ1และ2 กันค่ะ เบอร์เลข 6 ของ Webber นี้แรงจริง
แต่ถ้า Vettel ได้รองดับเบิ้ลแชมป์อีกครั้ง ก็อดเสียดายแทนค่ะ


โดย: creepangel IP: 125.24.12.198 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:12:04:45 น.  

 
เข้าว่าเห็นด้วยว่าเจ้าโซ่ขี้บ่นมากกกกกก (แถมปากเสียอีกตะหาก)


โดย: hstgz IP: 57.59.9.172, 57.59.9.172, 202.122.130.31 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:13:20:02 น.  

 
^
^
อ่านเหมือนกันค่ะเรื่องคุณดารณี
แต่ช่วงบริติช กรังด์ปรีซ์ คอลัมน์นั้นลงข่าวพี่มาร์กชนะอยู่ตั้ง 2-3 วัน ไม่ยักกะมีรูปไอ้ตัวเล็กลงซักกะนิด เซ็งเลย!


โดย: finishline วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:14:35:11 น.  

 
อ้อ! ไปหาคำตอบให้คุณเกลียดแดงด้วยค่ะที่เมื่อวานถามว่า "ปู่ชู" เป็นนักขับที่แก่ที่สุดของ F1 รึเปล่า

เท่าที่หาคำตอบมาได้ เขาบอกว่านักขับที่อายุมากที่สุดที่ได้สตาร์ทการแข่งขัน F1 คือ หลุยส์ ชิรง (Louis Chiron) นักขับชาวโมนาโค โดยในรายการโมนาโค กรังด์ปรีซ์ ปี 1955 เขาอายุ 55 ปี 292 วัน แต่ถ้านับรวมถึงการเข้าร่วมการแข่งขัน แม้จะไม่ได้ลงแข่งจริง ตัวเขาก็ถือสถิตินักขับที่อายุมากที่สุดที่เข้าร่วมการแข่งขันนะคะ ในรายการโมนาโค กรังด์ปรีซ์ ปี 1958 ขณะนั้นชิรงอายุ 58 ปี 288 วัน


โดย: finishline วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:15:36:11 น.  

 
คุณ finishline ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล

แต่อายุขนาดนั้น ถ้ามาขับในรถปัจจุบัน รถเร็วและแรงขนาดนี้คงไม่ไหวมั้ง

ถ้าจำไม่ผิดได้ดูเทปรอบ Qualifying ที่ Hungarian GP
ได้มุดกล้องไปกับของเจ้าหนูเวทเทลนี่แหล่ะ
เห็นแล้ว แรง G นี่มีตลอดสนามแข่งเลย ตั้งแต่ 1.5 - 3.0 G
แต่ปกติจะเป็นช่วง 1.8 - 2.0 G
จะมีช่วง 1.0 G แค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น
แสดงถึงนักขับจะต้องมีร่ายกายแข็งแรงอย่างมากเลยครับ
เพื่อให้ทนกับการอยู่ในภาวะแรง G แทบจะตลอดเวลา 2 ชั่วโมง

แรง G จะเกิดตอนที่มีการเบี่ยงออกจากเส้นตรงนะครับ
ถ้าวิ่งไปตรงๆจะไม่เกิดแรง G นะ

1.0 G = น้ำหนักเราบนโลกนี้
ถ้าจะรู้ว่า 2.0 G หนักแค่ไหนก็คูณน้ำหนักตัวเรา 2 เข้าไปครับ
ถ้าอยากกระชับพื้นที่ร่ายกายอย่างรวดเร็ว ต้องไปชั่งน้ำหนักบนดวงจันทร์ครับ...คิคิ


นักบินเครื่องบินรบ F-16 หรือ F-18 ร่ายกายถูกฝึกให้ทนได้โดยไม่ใช่ชุด G Suite ที่ 4 - 5 G
ถ้าใส่ชุด G Suite ด้วย ต้องทนได้ที่ 8 G
แต่ตัวเครื่องบินออกแบบมาให้สามารถบินได้ถึง 10 G
ถ้าทนแรง G ไม่ได้หล่ะ อ๋อ แหมก็แค่สลบ หมดสติเท่านั้นเอง
อ่าวแล้วเครื่องบินหล่ะ...แหมก็คิดเองสิครับว่าถ้าไม่มีนักบินเครื่องบินจะบินยังไง ?
(ก็บิน Auto Pilot ไง)


ถ้าผิดพลาดประการใด hstgz มาแก้ให้ผมด้วยนะครับ


โดย: เกลียดแดง IP: 57.59.9.66, 57.59.9.66, 202.122.130.31 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:16:27:13 น.  

 
ใช่ค่ะคุณเกลียดแดง

ถ้าขนาด 55 มาขับตอนนี้แย่แน่ๆ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่องแรง G เช่นกันค่ะ เนี่ย เราเพิ่งพูดกับพ่อไป 2-3 วันก่อนนี่แหละว่าตาชูหัวคลอนมากกว่าคนอื่นเวลาขับรถ มันต้องเป็นผลกระทบจากเรื่องอายุแน่นอน


โดย: finishline วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:16:45:32 น.  

 
เวรกรรม มีคนโยน....


โดย: hstgz IP: 125.24.134.31 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:21:09:28 น.  

 
รู้สึกว่า คุณ เกลียดแดง กับ hstgz จะมาเป็นแพ็คคู่แฮะ เป็นฝาแฝดกันรึเปล่าฮะ เอิ๊กๆ


รูปเจ้าเปี๊ยกเรากลุ้มได้ใจจริงๆ ฮ่าๆ เห็นแล้วก็สงสาร แต่เอาน่า เอาใหม่ๆ กำลังใจมีล้นหลาม เดี๋ยวก็ได้แชมป์อีกล่ะ อ้อ มานั่งดูคลิปอีกที เจ้าป้ายตำแหน่งที่ 3 คงงง ว่าตูทำไรผิดฟะ อยู่ดีๆ โดนชนซะกระเด็นซะงั้น ฮ่าๆๆ


ขอบคุณ จขกท. มากครับ เป็นเจ้าของบ้านที่ขยันและต้อนรับเพื่อนๆได้ดีจริงๆ

สู้ต่อไป Red Bull


โดย: runtaro IP: 124.121.176.17 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:21:22:47 น.  

 
สไตล์การขับของ Alonso กับ Vettel จะเหมือนกันคือ สาดโค้งทุกโค้งด้วยความเร็วที่เกินขีดจำกัดความเสียดทานของยาง หลายครั้งที่เราจะเห็น 2 คนนี้เวลาเป็นผู้ไล่รถจะมีอาการ oversteer ให้เห็นตลอด เท่ากับว่า 2 คนนี้มีความสามารถในการควบคุมรถไม่ให้เสียอาการได้ระดับชั้นอ๋องเลยทีเดียว

ส่วน Button หรือแม้แต่ตัว Raikkonen เองจะเป็นการขับอีกสไตล์ 2 คนนี้จะเข้าโค้งได้พอดีหรือต่ำกว่าความเสียดทานของยางทำให้ 2 คนนี้มักจะเป็นประเภทเร็วช่วงท้ายการแข่งซะมากกว่าเพราะพวกสไตล์ข้างบนมันบดยางกันจนหมดแล้วครับ

ในส่วนของ Vettel คิดว่าน่าจะถึงแชมป์โลกได้แน่ ๆ เพราะผลงานที่แจ้งเกิดตั้งแต่เข้าวงการ F1 มาถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ถ้าจำไม่ผิด Formula BMW แข่ง 17 สนาม Vettel กวาดไป 15 แล้วยังมีการแข่งขัน ROC (Race of Champion) ที่เป็นการนำแชมป์มอเตอร์สปอร์ตในสายต่าง ๆ มาแข่งกันหาสุดยอดนักขับ ในการแข่งประเภททีมรอบสุดท้าย ทีม German พบกับทีม Finland ทีม German ได้ Vettel จับคู่กับ M. Schumacher ส่วนทีม Finland เป็น Heikki Kovalainen อดีตแชมป์ ROC (2004) , รองแชมป์ GP2 (2005) และนักขับ F1 ทีม Lotus คนปัจจุบันจับคู่กับ Macus Gronholm อดีตแชมป์ Rally WRC 2 สมัย รอบแรก Schumacher แพ้ Kovalainen นะครับ (เนื่องจากรถ Schumacher ครัชมีปัญหา) Vettel ลงมารอบตัดสินเก็บ 2 คนข้างบนสบาย ๆ เลย ฉะนั้นแฟน ๆ Vettel อดใจรออีกนิดครับ น่าจะได้เห็น Vettel เป็นแชมป์ในอนาคตไม่ไกลนี้แน่นอน


โดย: fascinator IP: 124.120.156.208 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:21:45:46 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะคุณ runtaro
เราอยากให้ทุกคนสนุกแล้วก็อบอุ่นกับบ้านหลังนี้บนพื้นฐานคิดต่างแต่ไม่แตกแยกน่ะค่ะ เพราะแฟนใครก็แฟนซิ ใช่มั้ยคะ อิอิ

ส่วนที่คุณ fascinator วิเคราะห์มาโดนใจใช่เลย นิสัยคนขับบอกสไตล์การขับค่ะ Alonso กับ Vettel ค่อนข้างใจร้อนก็จะใส่สุดตั้งแต่เริ่ม ส่วน Kimi กับ Button เขาจะใจเย็นแต่เผลอๆ ขึ้นมาแล้วเรียบร้อย เราชอบดู Kimi เข้าโค้งค่ะ เขามาร์กเอาตรงยอดโค้งทำให้ไม่เสียเวลามากในขณะที่ความเร็วก็ไม่ตก ถ้าถามเราเราชอบแบบ Kimi มากกว่าค่ะ ดูแล้วลุ้นเหนื่อยน้อยกว่า Vettel 555

แต่พูดถึงผลงานน้องตั้งแต่เข้าวงการจนถึงวันนี้ถือว่าดีมากนะคะ ลงแข่ง 55 ครั้งแต่ได้คะแนนไปแล้ว 276 คะแนน ส่วนที่ได้แชมป์ Formula BMW ปี 2004 ชนะ 18 จาก 20 สนาม และ 2 สนามที่ไม่ชนะก็ได้ที่ 2 และที่ 3 ค่ะ

สำหรับ ROC น้องเจ๋งจริงๆ วันที่ชนะ Macus Gronholm น่ะค่ะ ปีนี้จะจับคู่กับ "ตาชู" อีกครั้งและลงแข่งในบ้านด้วย ปลายปีมาลุ้นกันค่ะ ^^


โดย: finishline วันที่: 4 สิงหาคม 2553 เวลา:8:00:54 น.  

 
comment นิดนึงครับผม แชร์ความคิดเห็นนะครับ ส่วนตัว

การขับระหว่าง alonso กับ Vettel เป็นความเหมือนที่แตกต่างนะครับ คนที่เหมือนกันเกือบจะพิมพ์เดียวเลยกับ Vettel คือ หลุยส์ แฮมิลตัน คือการขับของ alonso คือเค้าค่อนข้างจะใช้ track ได้ละเอียดมากๆ มีรายละเอียดการขับที่เยอะจริงๆ คล้ายๆ Kimi แต่ดุดันกว่า

Vettel ลูกบ้าเยอะ คล้ายชูมี่ เมื่อก่อน แซงได้แม้กระทั่งเอาล้อข้างนึงลงหญ้าในโค้ง ใจจริงๆ เลย ถ้านิ่งกว่านี้ อนาคตไกลจริงๆ


โดย: desmond IP: 119.63.83.2 วันที่: 4 สิงหาคม 2553 เวลา:10:35:17 น.  

 
จะไม่ให้ลูกบ้าเยอะเหมือนลุงชูได้ไงล่ะคะ คุณ desmond ก็เล่นนั่งดูเขาขับมาตั้งแต่เล็ก - -"


โดย: finishline วันที่: 4 สิงหาคม 2553 เวลา:10:55:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.