Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
 
29 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
จะเป็นแชมป์ปีนี้ต้องถูกล็อตเตอรี่ทุกวันอาทิตย์?

จากความเห็นของมิชาเอล ชูมัคเกอร์ แชมป์โลก 7 สมัยเกี่ยวกับการมีบทบาทของยางปิเรลลี่ต่อการลุ้นแชมป์ในปีนี้ตามที่เราเล่าให้ฟังเมื่อวันก่อน (//www.bloggang.com/mainblog.php?id=f1star&month=23-04-2012&group=1&gblog=625) ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิเคราะห์วิจารณ์ว่าความเห็นนั้นถูกต้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งเว็บไซต์ autosport เป็นหนึ่งในนั้นที่หยิกยกประเด็นนี้ขึ้นมาค่ะ

บทวิเคราะห์ของสำนักนี้บอกว่าที่จริงชูมัคเกอร์ไม่ใช่คนเดียวที่คิดแบบนี้หรอกค่ะ แต่น่าจะเป็นคนแรกที่กล้าพูดออกมาอย่างจริงจัง แสดงให้เห็นว่าตอนนี้บรรดาทีมและนักขับต่างไม่แฮปปี้กับสถานการณ์ที่กลายเป็นว่าทีมใดหรือนักขับคนใดบริหารยางได้ดีที่สุดคือผู้ชนะ ไม่ใช่การต่อสู้ด้วยการพัฒนาด้านเทคนิคของรถเสียแล้ว

และถ้าคิดดีๆ อาจไม่ใช่แค่การบริหารยาง "โชค" ในวันอาทิตย์ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน

โชคที่ว่านั้นหมายถึงสภาพอากาศค่ะ สนามไหนมีสภาพอากาศที่เข้าทางทีมใดและสามารถวางกลยุทธ์การใช้ยางได้อย่างเหมาะสม ทีมนั้นก็มีชัยไปกว่าครึ่ง จากหลักฐานที่ปรากฏ เริ่มจากออสเตรเลียซึ่งแม็คลาเรนลอยลำสบายๆ ต่อมาที่มาเลเซีย ฝนที่ตกลงมาอำนวยโอกาสให้เฟอร์รารี่และเซาเบอร์ จากนั้นที่จีนซึ่งแทร็คเย็นสามารถช่วยเมอร์เซเดสได้มาก จนกระทั่งล่าสุดที่บาห์เรน เร้ดบูลและโลตัสทนต่อสภาพอากาศร้อนและผิวแทร็คที่สากด้วยฝุ่นทรายได้มากกว่าใคร นั่นแสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิที่แตกต่างกันไม่กี่องศาสามารถชี้วัดความเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ได้เลยทีเดียว





มิชาเอล ชูมัคเกอร์ คิดว่ายางปิเรลลี่มีบทบาทต่อการลุ้นแชมป์มากเกินไป




อีกปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการที่เอฟไอเอห้ามใช้ "โบลว์นดิฟฟิวเซอร์" ผลที่ตามมาคือส่วนท้ายของรถมีดาวน์ฟอร์ซลดลง ยางหลังจึงมีพลังลดลง ยิ่งทำให้งานยากขึ้น โดยเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเพียงนิดเดียวก็มีผลให้หาจุดที่ลงตัวในการจัดการกับยางลำบากยิ่งขึ้นไปอีก

ถ้าอย่างนั้นความคิดเห็นของชูมัคเกอร์ถูกต้องแล้วหรือ?

เราลองมาฟังทางด้านปิเรลลี่บ้างนะคะ พอล เฮมเบรี่ ผู้อำนวยการด้านมอเตอร์สปอร์ตของยางจากอิตาลีรายนี้กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใน 4 สนามแรกไม่ใช่การถูกล็อตเตอรี่ของผู้ชนะ แต่เป็นเพราะการวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมต่างหาก ถึงสิ่งแวดล้อมจะเอื้ออำนวยแล้วก็ยังต้องยกเครดิตให้ทีมงานและนักขับในการที่พวกเขาเลือกใช้กลยุทธ์อย่างถูกต้องเพื่อสร้างโอกาสการเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน โดยเขากล่าวไว้ "ตราบใดที่ทุกคนตกอยู่ในความท้าทายเดียวกัน นักขับและทีมงานที่ดีที่สุดจะเป็นผู้ชนะ"

นอกจากนี้ ปิเรลลี่ยังเห็นว่าความท้าทายที่สุดสำหรับฤดูกาลนี้คือการที่รถมีความสามารถใกล้เคียงกันมากขึ้น การแซงจึงท้าทายมากขึ้น ทำให้ตำแหน่งในสนามมีความสำคัญขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับผู้วิเคราะห์ที่มองว่าเราต้องไม่ลืมว่ารถของทีมต่างๆ ในปีนี้สูสีมากขึ้น ไม่เหมือนปีที่แล้วที่รถมีความแตกต่างกันมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นเรื่องการบริหารยางอาจไม่ส่งผลให้เห็นชัดเท่ากับปีก่อน ซึ่งสำหรับปีนี้หากรีดประสิทธิภาพยางออกมาไม่ได้ถึงขีดสุด นักขับก็ต้องสูญเสียเวลาต่อรอบที่มีค่าไปด้วย ความแตกต่างน้อยนิดเช่นนั้นจึงส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่ออันดับไม่ว่าจะในรอบควอลิฟายหรือการแข่งขันอย่างที่เราเห็นมาแล้วใน 4 สนามแรก

จากเรื่องราวทั้งหมด บทความในเว็บไซต์ได้ข้อสรุปว่า ทีมอาจต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจเรื่องยางและอาจโมโหแบบชูมัคเกอร์ไปอีกสักระยะ ในขณะที่ปิเรลลี่ก็ยังคงสร้างความปวดหัวให้พวกเขาต่อไป แต่โลกของฟอร์มูล่าวันไม่มีอะไรง่ายอยู่แล้ว และแฟนๆ ย่อมอยากเห็นการแข่งขันที่สนุกตื่นเต้นแบบคาดเดาอะไรไม่ได้ทุกวันอาทิตย์ไม่ใช่หรือคะ?







*ข้อมูลและภาพจาก autosport.com/f1


Create Date : 29 เมษายน 2555
Last Update : 29 เมษายน 2555 16:08:26 น. 9 comments
Counter : 1272 Pageviews.

 
ดึงการเติมน้ำมันระหว่างการแข่งขันกลับมาครับ แล้วปัญหายางอายุสั้นจะหมดไป รวมทั้งสามารถวางกลยุทธ์การแข่งขันได้มากขึ้นไปอีก *-*


โดย: fascinator IP: 124.120.39.194 วันที่: 29 เมษายน 2555 เวลา:16:51:17 น.  

 
คิดถึง อนาคอนดา ในพิทขึ้นมาทันใด


โดย: hstgz IP: 125.24.161.52 วันที่: 29 เมษายน 2555 เวลา:17:41:39 น.  

 
อยากเห็นอนาคอนด้าครับ ดูแล่ว Pirelli ยังเปนรอง BS อยู่หลายอย่างมากเลยครับ แม้แต่เศษยางที่หล่นตามTrack พอจบการแข่งขันเห็นRacing line


โดย: VR46 IP: 1.0.158.202 วันที่: 29 เมษายน 2555 เวลา:17:43:29 น.  

 
เนอะ... อยากเห็นการเติมน้ำมันอีกรอบ


โดย: runtaro IP: 125.25.58.148 วันที่: 29 เมษายน 2555 เวลา:18:07:35 น.  

 
เศษยาง Pirelli ที่หล่นหลังจากแข่งเสร็จมันต้องเยอะอยู่แล้วครับ ในเมื่อ Pirelli จงใจทำยางที่สึกเร็วกว่า Bridgestone เศษยางมันก็ต้องมีมากกว่าครับ


โดย: fascinator IP: 124.120.147.70 วันที่: 29 เมษายน 2555 เวลา:18:21:28 น.  

 
อ่านแล้วงงอีกนิด
ยางของเจ้า Pirelli นี่
ใน 100 เส้น คุณภาพมันเท่ากันไหม ?

ถ้าคุณภาพเท่ากัน ในเมื่อทีมฯได้ทดสอบยางมาในระดับนึงแล้ว
เขาไม่มีค่าในการคำนวนการสึกของยาง
แล้วนำมาปรับเป็นกลยุทธ์
ของทีมเหรอ ?

งง


โดย: เกลียดแดง IP: 58.64.55.36 วันที่: 29 เมษายน 2555 เวลา:19:54:25 น.  

 
เดาว่าคุณภาพเท่ากันทุกเส้นครับ. แต่ range การคงคุณภาพ ต่อ อุณหภูมิ แคบมากกว่า bs หรือ มิชลิน ในอดีต.ครับ. พอ อุณหภูมิเปลี่ยน การยิดเกาะก็เปลี่ยนแปลงรุนแรง. ประกอบกับการห้ามมี active areo ทุกแบบ รวมทั้งการ setup ในวันอาทิตย์ ด้วยครับ

ส่วนเรื่องการสึกของยางที่กระเด็นเป็นเม็ดๆนั้น ส่วนตัวไม่ชอบเท่าไร่เพราะมันเยอะเกิน. และทำให้ช่วงปลายการแข่งแซงยาก ถ้าพลาด อาจหมายถึงการเสียอันดัยแบบกราวรูดก็เป็นได้ครับ


โดย: ton IP: 110.168.214.220 วันที่: 29 เมษายน 2555 เวลา:20:49:13 น.  

 
คุณ ton ขอบคุณมากครับ
เข้าใจขึ้นมากแล้วครับ

ทาง Pirelli เองก็คงมีงานในการพัฒนายาที่ต้องทำอีกเยอะเลยทีเดียว
อีกยี่ห้อ ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลย


โดย: เกลียดแดง IP: 202.122.130.31 วันที่: 30 เมษายน 2555 เวลา:10:53:47 น.  

 
ขอบคุณมากครับ


โดย: ลุ่มน้ำตาปี IP: 182.53.160.242 วันที่: 30 เมษายน 2555 เวลา:11:01:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.