Bloggang.com : finishline : สถิติจากซูซูกะ

สถิติจากซูซูกะ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถือเป็นรายการ "วันแมนโชว์" ของเซบาสเตียน เวทเทล อย่างแท้จริง ซึ่งถ้าฟอร์มการขับของเขายังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาก็มีสิทธิ์ลุ้นเป็นนักขับฟอร์มูล่าวันคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์เท่านั้นที่ได้ครองแชมป์โลก 3 สมัยติดต่อกัน ต่อจากฮวน มานูเอล ฟานจิโอ ที่เคยทำได้ 4 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 1954-1957 และมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ที่เป็นแชมป์ 5 สมัยรวดระหว่างปี 2000-2004

ก่อนที่เราจะได้รู้ว่าเขาทำได้หรือไม่ ตอนนี้เวทเทลมีสถิติหนึ่งที่เท่ากับฟานจิโอแล้ว ชัยชนะที่ซูซูกะปีนี้นับเป็นชัยชนะครั้งที่ 24 ของเขาในฟอร์มูล่าวัน เทียบเท่าผลงานที่ยอดนักขับชาวอาร์เจนติน่าทำไว้ โดยเป็นการครองสถิตินักขับที่คว้าชัยชนะมากที่สุดในฟอร์มูล่าวันอันดับที่ 9 ร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เรายังต้องยกเครดิตให้กับฟานจิโอที่ได้ชัยชนะทั้งหมดจากการลงแข่ง 51 สนามเท่านั้น ในขณะที่เวทเทลมียอดลงแข่งขันรวม 96 สนาม แต่กระนั้น ผลงานของแชมป์โลก 2 สมัยก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปสักเท่าไหร่ ถ้านับเฉพาะช่วงเวลาที่เขาอยู่กับเร้ดบูล ชัยชนะ 23 ครั้งภายใต้ชุดสีน้ำเงินมาจากการลงแข่งให้กับทีมนี้ทีมเดียว 70 สนาม...เท่ากับว่าเขาเกือบชนะทุกๆ 3 สนาม!

เวทเทลทำได้ดีเสมอเมื่อมาซูซูกะ ครั้งนี้เป็นการชนะครั้งที่ 3 จากการลงแข่งทั้งหมด 4 ครั้งของเขาในสนามแห่งนี้ เขาเป็นนักขับคนแรกที่นำการแข่งขันในซูซูกะตั้งแต่สัญญาณไฟดับลงจนกระทั่งเข้าเส้นชัยได้ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกที่เขาทำได้ในลักษณะเดียวกันนี้คือการแข่งขันเมื่อปี 2009 แต่ที่พิเศษสุดจากชัยชนะปีนี้ คือการที่เขาสามารถทำ "แกรนด์สแลม" ของฟอร์มูล่าวัน คือได้โพล เป็นผู้ชนะ เป็นผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด และนำการแข่งขันทุกรอบตั้งแต่ต้นจนจบ ได้เป็นครั้งที่ 2 ของตนเอง หลังจากทำได้ครั้งแรกในการแข่งขันที่อินเดียปีที่แล้ว นอกจากนั้น เวทเทลไม่เคยควอลิฟายต่ำกว่าเพื่อนร่วมทีมในการมาเยือนที่นี่ โพลเมื่อวันเสาร์ถือเป็นโพลครั้งที่ 4 ติดต่อกันของเขาในสนามนี้ ตามหลังผลงานของชูมัคเกอร์ที่ทำไว้ 5 ครั้งติดต่อกันตั้งแต่ปี 1998-2002 และมากกว่าผลงานของไอร์ตัน เซนน่า ที่ทำได้ 3 ปีติดต่อกันในช่วงปี 1988-1990

สำหรับปีนี้ เวทเทลเป็นนักขับคนแรกที่ชนะ 2 สนามติดต่อกัน หลังจากสนามที่แล้วเขาก็นำขาดลอยในสิงคโปร์หลังจากลูอิส แฮมิลตัน เกียร์พัง โพเดียมเมื่อวันอาทิตย์ยังนับเป็นโพเดียมที่ 42 ของเขาในฟอร์มูล่าวัน โดยเป็นสถิติเทียบเท่ากับผลงานของเดมอน ฮิลล์ แชมป์โลกปี 1996 อยู่ในอันดับที่ 17 ของนักขับที่ได้จำนวนโพเดียมมากที่สุด

รอบควอลิฟาย

- หลังจากเร้ดบูลว่างเว้นจากการได้โพลมาถึง 4 สนาม แต่สนามนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมทั้งล็อกกริดแถวหน้าได้เป็นครั้งแรกในปีนี้ ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาทำได้คือบราซิเลียน กรังด์ปรีซ์ 2011 โดยฤดูกาลที่แล้วทีมจากออสเตรียควอลิฟายล็อกแถวหน้าได้ทั้งหมด 7 ครั้งด้วยกัน

- คิมี่ ไรค์โคเน่น ควอลิฟายได้อันดับต่ำกว่าเพื่อนร่วมทีมในซูซูกะเป็นครั้งแรกนับจากปี 2004 ซึ่งเพื่อนร่วมทีมของเขาในปีนั้นคือ เดวิด คูลธาร์ด

- ผลการควอลิฟายของลูอิส แฮมิลตัน ในอันดับที่ 10 นับเป็นการผ่านเข้า Q3 เป็นสนามที่ 50 ติดต่อกันของเขา

- เมอร์เซเดสทำผลงานควอลิฟายที่แย่ที่สุดของปีนี้ในซูซูกะ โดยนิโค รอสเบิร์ก ทำได้เพียงอันดับที่ 13 ในขณะที่มิชาเอล ชูมัคเกอร์ โดนปรับกริดสตาร์ท 10 อันดับไปอยู่อันดับที่ 23 หลังอุบัติเหตุที่สิงคโปร์

- ทิโม กล็อค ควอลิฟายได้อันดับที่ 18 นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขานับตั้งแต่ควอลิฟายได้อันดับที่ 17 ในบราซิลปี 2010

การแข่งขัน

- ตั้งแต่การแข่งขันรอบแรกของฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ จนกระทั่งถึงชัยชนะของลูอิส แฮมิลตัน ในอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ หากไม่นับช่วงการเข้าพิตแล้ว รถแม็คลาเรนนำการแข่งขันทุกรอบ สำหรับที่สิงคโปร์ หลังจากแฮมิลตันต้องออกจากการแข่งขันเนื่องจากเกียร์บ็อกซ์พัง เซบาสเตียน เวทเทล ก็นำการแข่งขันมาตลอดจนเข้าเส้นชัยที่ญี่ปุ่น จนถึงขณะนี้รวมแล้วเขานำการแข่งขันมา 90 รอบติดต่อกัน

- เฟลิเป้ มาสซ่า ได้ขึ้นโพเดียมครั้งแรกในรอบ 35 สนามหรือเกือบ 2 ปี โดยโพเดียมที่เขาทำได้ก่อนหน้านี้คือโพเดียมอันดับที่ 3 ในเกาหลีปี 2010

- เป็นครั้งแรกที่มาสซ่าขึ้นโพเดียมได้จากการสตาร์ทจากเลขกริด 2 หลัก ผลงานที่ดีที่สุดของเขาก่อนหน้านี้คือเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ปี 2009 ซึ่งเขาได้โพเดียมอันดับที่ 3 หลังออกตัวจากอันดับที่ 8

- อย่างที่ทุกคนทราบกันดีแล้ว คามูอิ โคบายาชิ ขึ้นโพเดียมครั้งแรกในฟอร์มูล่าวันได้จากการแข่งในบ้านของตน และเขาเป็นเพียงนักขับญี่ปุ่นคนที่ 3 ที่สามารถจบการแข่งขันบนโพเดียมได้ ต่อจากอากุริ ซูซูกิ ในปี 1990 ที่ซูซูกะเช่นกัน และทาคุมะ ซาโตะ ในอินเดียนาโปลิส ปี 2004

- หลังจากมาสซ่าและโคบายาชิได้ขึ้นโพเดียมเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ เท่ากับว่าจนถึงขณะนี้เราได้เห็นนักขับทั้งหมด 13 คนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันบนโพเดียม แต่สถิติเป็นของปี 1982 เมื่อมีนักขับทั้งสิ้น 18 คนที่เคยขึ้นโพเดียมในฤุดูกาลนั้น

- ผลงานอันดับที่ 6 ของคิมี่ ไรค์โคเน่น ในสนามนี้ทำให้เขาจบการแข่งขันแบบมีคะแนนเป็นสนามที่ 12 ติดต่อกัน เป็นผลงานที่ดีที่สุดของตนเอง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่ไรค์โคเน่นจะเดินออกจากฟอร์มูล่าวันในปี 2009 ขณะนั้นคะแนนไม่ได้มีให้จนถึงอันดับที่ 10

- นิโค ฮูลเคนเบิร์ก พารถฟอร์ซอินเดียจบการแข่งขันอันดับที่ 7 นับเป็นครั้งแรกของทีมที่สามารถเก็บคะแนนได้จากการแข่งขันที่ซูซูกะ

- พาสเตอร์ มัลโดนาโด สิ้นสุดการรอคอยแต้ม หลังจากที่เขาไม่สามารถเก็บคะแนนได้เลยหลังจากชัยชนะแรกของตนที่บาร์เซโลน่าเมื่อเดือนพฤษภาคม

- หลังจากนิโค รอสเบิร์ก ชนกับบรูโน่ เซนน่า ที่โค้ง 2 และต้องออกจากการแข่งขัน นับถึงขณะนี้จึงเหลือเพียงไรค์โคเน่นคนเดียวที่แข่งขันจบทุกสนามในปีนี้ โดยครั้งสุดท้ายที่รอสเบิร์กออกจากการแข่งขันคืออิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ปี 2011 หลังชนกับวิตันโตนิโอ ลิอุซซี่

*ข้อมูลและภาพจาก autosport.com/f1

Create Date : 09 ตุลาคม 2555

Last Update : 9 ตุลาคม 2555 22:21:25 น.

5 comments

Counter : 1434 Pageviews.

ไม่ได้เขียนถึงข่าวอื่นๆ แต่ก็มีข่าวที่น่าสนใจกับการอัพเกรดรถโลตัสแบบขนานใหญ่ในเกาหลี สุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ค่ะ

//en.espnf1.com/lotusf1/motorsport/story/91227.html

รอชมผลงาน :)

โดย: finishline

วันที่: 9 ตุลาคม 2555 เวลา:22:25:20 น.

ขอบคุณมากครับ

โดย: ลุ่มน้ำตาปี IP: 202.129.28.14 วันที่: 9 ตุลาคม 2555 เวลา:22:38:11 น.

ยังปลื้มสนามนี้ไม่หายเลยจ้า

โดย: ชัยจ้า IP: 125.26.75.215 วันที่: 10 ตุลาคม 2555 เวลา:7:43:08 น.

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

โดย: akker IP: 223.205.60.44 วันที่: 10 ตุลาคม 2555 เวลา:11:02:42 น.

สนามเกาหลี เซ็บwinอีกตามเคย แต่กลัวว่าความซวยในอดีตจะกลับมาหลอนอีกไหมนะ

โดย: rc212 IP: 223.205.146.196 วันที่: 10 ตุลาคม 2555 เวลา:21:50:54 น.