เมื่อวานเราแสดงความเห็นในฐานะคนดูโดยตัดการเป็นแฟนคลับน้องเซ็บ (เวทเทล) ออกไป แต่วันนี้อยากจะเขียนในฐานะเป็นแฟนคลับของน้องบ้างหละ...

เมื่อวานเราอ่านคอมเมนต์เป็นร้อยๆ ตั้งแต่เช้าจดเย็น โอ้โห...ไม่อยากเชื่อ เขาด่า (ต้องขอใช้ว่าด่าค่ะ) กันแบบเสียๆ หายๆ มาก เรียกว่าไม่ให้ผุดไม่ให้เกิด ไม่ให้เหลือความเป็น "นักขับฟอร์มูล่าวัน" กันเลยทีเดียว ยิ่งพวกที่เป็นแฟนเว็บเบอร์เข้าเส้นมาคอมเมนต์ โอยยยย ไม่อ่านดีกว่า

แฟนคลับของเขาเอง ส่วนใหญ่ทำใจได้ ใครๆ ก็ผิดพลาดได้ทั้งนั้น และมันจะเป็นการดีที่น้องจะนำสิ่งนี้ไปเป็นบทเรียนและพัฒนาตัวเอง แต่มีแฟนคลับบางคน บอกว่า "ไม่ชอบแล้ว เลิกเชียร์!" เอ่อ...อย่างนี้เขาเรียกแฟนคลับได้เหรอเนี่ย?

ที่แย่กว่านั้น ทีมบางทีมแอบเยาะเย้ยเล็กๆ มาด้วยว่านักขับทีมเขาปฏิบัติตัวดี ไม่ชนกันเองเหมือนทีมแถวนี้ มันน่า...มั้ยเนี่ย!

***********************************

ทุกคนคงลืมไปแล้วว่าเวทเทลอายุยังไม่เต็ม 23 ด้วยซ้ำ นี่เป็นการแข่งฟอร์มูล่าวันเต็มปีเป็นปีที่ 3 และลงแข่งที่ตุรกีเป็นครั้งที่ 50 ในฟอร์มูล่าวัน ประสบการณ์เทียบไม่ได้เลยกับคนที่แข่งกันมา 8-9 ปีอย่างเว็บเบอร์ การชนกันในสนามถือเป็นเรื่องปกติมาก นักขับแต่ละคนก็ย่อมมีเหตุผลของตัวเองในการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีนั้น ไม่มีใครอยากชนใครหรอก โดยเฉพาะชนกับเพื่อนร่วมทีมเอง เพราะนั่นคือความเสียหายของทีมด้วย ต้องไม่ลืมค่ะกีฬานี้เล่นเป็นทีม ไม่ใช่เพื่อตัวนักขับเท่านั้น

แต่ที่มันดูร้ายแรงคราวนี้ เป็นเพราะทั้งคู่มีคะแนนนำในประเภทนักขับด้วยกัน โดยเว็บเบอร์ได้ภาษีตรงที่ชนะมากกว่าเวทเทล 1 ครั้ง ทีมเร้ดบูลเองก็นำอยู่ในประเภททีม และขณะที่ชนกัน เว็บเบอร์เป็นผู้นำในสนาม โดยเวทเทลไล่ตามติดๆ ในอันดับ 2 และเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทีมแม็คลาเรนคู่แข่งตัวฉกาจได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ

ออกมาขอโทษทีมหลังออกจากการแข่งขัน

เราเองเข้าใจเวทเทลนะ อาจเป็นเพราะเราเป็นแฟนคลับเขามา เรารู้พื้นฐานว่าตัวเขาเป็นนักขับประเภทไหน และก็มองอีกว่าตอนนี้เวทเทลเจอความกดดันเข้าอย่างจังเข้าแล้ว จากผลงานปีที่แล้ว เขาเป็นรองแชมป์โลกขณะอายุ 22 ด้วยผลงานชนะ 4 สนาม เขาเป็นโกลเด้น บอย ของฟอร์มูล่าวันและเร้ดบูล อย่างที่เบอร์นี่ เอ็กเคิลสโตน ผู้บริหารฟอร์มูล่าวัน แอดมินิสเตรชั่น ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การจัดการแข่งขัน เคยบอกไว้ว่า ถ้าเขาสามารถออกแบบนักขับฟอร์มูล่าวันได้ เขาอยากให้เป็นแบบเวทเทล

"ฉลาดแต่ไม่หยิ่ง ง่ายๆ แต่ก็เป็นมืออาชีพ ชื่อเสียงดีในหมู่แฟนๆ และเป็นมิตรกับผู้สื่อข่าว" นั่นคือสิ่งที่เอ็กเคิลสโตนให้นิยามตัวตนของเวทเทล

2 สนามแรกของฤดูกาล เซ็บออกสตาร์ทด้วยตำแหน่งโพล และนำมามากกว่าครึ่งทาง แต่น่าเสียดายที่รถมีปัญหาทั้ง 2 สนาม ชัยชนะเห็นๆ 2 ครั้งนั้นจึงลอยหลุดไป มาสนามที่ 3 ที่มาเลเซีย (ซึ่งเราไปเชียร์เขาที่สนามด้วย) ความพยายามสัมฤทธิ์ผล ได้แชมป์ครั้งแรกของฤดูกาล แต่หลังจากนั้นลุ่มๆ ดอนๆ ตลอดมา ยังดีที่สเปนและโมนาโคได้ขึ้นโพเดียม

ที่น่าใจเสียคือ ทำไมระยะหลังผลงานถึงตกเป็นรองเว็บเบอร์ ? บางรอบขับช้ากว่าเป็นวินาทีซึ่งถือว่ามากเกินไป

ทีมงานตรวจพบความผิดปกติของรถหมายเลข 5 หลังจบโมนาโค กรังด์ปรีซ์ ในสนามตุรกี เซ็บน้อยถึงได้รถคันใหม่ ตั้งชื่อให้ว่าแรนดี้ แมนดี้ ถึงตอนควอลิฟาย 2 รอบแรก เซ็บทำเวลาได้ดีมาก เป็นที่ 1 ทั้ง 2 คิว แต่พอมาคิว 3 เกิดเหตุขัดข้องกับรถอีกแล้ว ทำให้คนเริ่มมองว่าเวทเทลโทษแต่ว่ารถมีปัญหา ซึ่งเวทเทลบอกแล้วว่าเขาไม่ใช่คนประเภทโทษแต่รถ ถ้ารู้ว่าตัวเองขับช้าก็จะปรับปรุงในรอบต่อๆ ไป -- นั่นคือความกดดันที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ

จริงๆ แล้วตามคำบอกเล่าของทีมงาน เวทเทลไม่เคยเอาสิ่งต่างๆ มากดดันตัวเอง และสามารถฟื้นคืนจากความผิดหวังได้เร็วเหลือเชื่อ แต่เวทเทล หนุ่มน้อยวัย 23 ปี ก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง หวังว่าแฟนๆ จะยังคงนึกถึงสิ่งนี้ และคอยให้กำลังใจเขาในการพัฒนาต่อไปในอนาคต

หลายคนบอกว่าคุณสมบัติที่เขามีอยู่ในตัวสามารถเป็นแชมป์โลกได้แน่ เพียงแต่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นเอง

***********************************

มาตามผลงานพี่ชายสุดที่รักของเวทเทลหน่อยนะคะ คิมี่ ไรค์โคเน่น จบอันดับที่ 10 ในการแข่งขันแรลลี่ชิงแชมป์โลก รายการแรลลี่ โปรตุเกส งานนี้ดูยากทีเดียวสำหรับเขาทั้งที่ก่อนแข่งหลายสำนักบอกว่าน่าจะหวานคิมี่เพราะพื้นผิวเป็นถนนราดยางและน่าจะอาศัยประสบการณ์จากโมนาโค กรังด์ปรีซ์ ในฟอร์มูล่าวันมาช่วยได้ จบสนามนี้ คิมี่มี 15 คะแนนและยังอยู่อันดับที่ 10 ในคะแนนสะสมประเภทนักขับค่ะ



*ข้อมูลจาก wrc.com
ภาพประกอบจาก sebastianvettel.de

Create Date : 01 มิถุนายน 2553
Last Update : 1 มิถุนายน 2553 14:15:12 น.		2 comments
Counter : 1225 Pageviews.
Share Tweet