ซึ่งต้นเหตุทั้งหมดทั้งมวลของคู่นี้มีมาตั้งแต่วันเสาร์รอบควอลิฟายที่ได้แค่เกือบก่อน จนกระทั่งวันจริงถึงโดนจนได้ (ใครยังไม่ทราบเรื่อง ติดตามได้จากบล็อกวันก่อนนะคะ) แล้วก็ทำให้แฮมิลตันโดนวิจารณ์อย่างหนักทั้งจากบรรดาผู้สื่อข่าวและนักขับดังในอดีต

แต่ถ้าถามคนเป็นพ่อ แอนโธนี่ แฮมิลตัน ให้ความเห็นว่านี่เป็นเพราะผู้จัดการส่วนตัวของลูอิสดูแลไม่ใกล้ชิดพอ "ทีมผู้ดูแลต้องทำอะไรมากกว่านี้ ดูซิ นักขับทุกคนในสนามมีผู้จัดการมาด้วย ผู้จัดการอยู่ที่นี่กัน และอยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเขาด้วย"

ก่อนหน้านี้พ่อแอนโธนี่ก็ดูแลลูกชายดวยตัวเองมาตลอด จนกระทั่งทั้งคู่ไม่ลงรอยกันและแยกกันเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แม้ตอนนี้จะดีต่อกันแล้วแต่หลังจากนั้นแฮมิลตันจูเนียร์เลือกที่จะอยู่ภายใต้การดูแลของเอ็กซ์ไอเอ็กซ์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ของไซม่อน ฟูลเลอร์ ซึ่งดูแลนักกีฬาดังอย่างเดวิด เบ๊คแฮม และแอนดี้ เมอร์เรย์ โดยตามรายงานก็เป็นที่เข้าใจว่าเขาจะตกลงกับผู้จัดการแบบสนามต่อสนามว่าเมื่อไหร่ที่เขาต้องการให้ทีมงานมาอยู่ด้วย และถึงแม้ที่สิงคโปร์จะไม่มีใครเลย แต่แฮมิลตันคนลูกยังแฮปปี้ดีกับทีมงานของเขาค่ะ

ด้านมาร์ติน วิทมาร์ช ทีมบอสของแม็คลาเรน เมื่อถูกถามว่าแฮมิลตันต้องได้รับการดูแลจากทีมเองมากกว่านี้หรือไม่ เขากล่าวว่า "ลูอิสได้รับความรักมากมายจากทีมงานอยู่แล้ว ผมรู้จักเขามาตั้งแต่เขาอายุ 11 ทำให้เรารักใคร่กันมากรวมทั้งกับทีมงานอีกหลายคน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นปีที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับลูอิส ซึ่งผมเชื่อว่าเขาจะกลับมาในการต่อสู้ 5 สนามที่เหลือ รวมทั้งการเป็นแชมป์โลกในฤดูกาลหน้า"


เรื่องราวของลูอิส แฮมิลตัน ในปีนี้

มาเลเซีย
รับโทษขับผ่านพิต (drive-through penalty) เนื่องจากเปลี่ยนทิศทางการขับมากกว่าหนึ่งครั้งในการป้องกันตำแหน่ง

โมนาโค
รับโทษขับผ่านพิต 2 ครั้งจากการชนกับพาสเตอร์ มัลโดนาโด และเฟลิเป้ มาสซ่า

แคนาดา
ชนกับมาร์ก เว็บเบอร์ และเพื่อนร่วมทีม เจนสัน บัตตัน ซึ่งจากการชนกับฝ่ายหลังทำให้เขาต้องออกจากการแข่งขัน

เบลเยียม
ปะทะกับพาสเตอร์ มัลโดนาโด ในรอบควอลิฟาย และชนกับคามูอิ โคบายาชิ ในการแข่งขัน

สิงคโปร์
เกือบจะสะกิดเฟลิเป้ มาสซ่า ในการควอลิฟาย และในที่สุดก็ชนท้ายนักขับบราซิลระหว่างการแข่งขัน





*ข้อมูลจาก bbc.co.uk/formula1

Create Date : 27 กันยายน 2554
Last Update : 27 กันยายน 2554 16:43:59 น.		12 comments
Counter : 1244 Pageviews.
Share Tweet