ยังมีสถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจจากออสตินดังนี้ค่ะ
รอบควอลิฟาย
- เซบาสเตียน เวทเทล ได้ตำแหน่งโพลเป็นครั้งที่ 36 โดยนับตั้งแต่การแข่งขันที่มอนซ่าเมื่อเดือนกันยายนที่ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ประสบปัญหาด้านเทคนิคในช่วงควอลิฟาย เขายังไม่ได้สตาร์ทเกินกว่ากริดที่ 4 ในขณะที่เวทเทลไม่เคยสตาร์ทต่ำกว่าอันดับที่ 3 ในช่วงเวลาเดียวกัน (ไม่รวมการรับโทษ)
- เร้ดบูลได้โพลโพซิชั่นเป็นครั้งที่ 8 ในฤดูกาลนี้ ในขณะที่เฟอร์รารี่ทำได้ 2 ครั้ง ซึ่งนับตั้งแต่ปี 1996 ทีมใดที่ได้ตำแหน่งโพลมากที่สุดในฤดูกาล นักขับของทีมนั้นจะคว้าแชมป์โลกได้ในที่สุด
- ในสนามนี้เวทเทลทำเวลาเร็วที่สุดได้ในทุกช่วงที่มีการลงสนาม ตั้งแต่ช่วงฝึกซ้อมวันศุกร์และรอบควอลิฟายรวม 6 ช่วงด้วยกัน (ซ้อม 3 ช่วง + ควอลิฟาย 3 ช่วง) นับเป็นนักขับคนแรกที่ทำได้เช่นนี้หลังจากเปลี่ยนแปลงมาใช้ระบบ 6 ช่วงในวันศุกร์และวันเสาร์ สำหรับที่ผ่านมามีนักขับที่ทำได้คล้ายคลึงกันนี้คือในปี 1998 ที่บราซิล ซึ่งมิก้า ฮัคคิเน่น ทำเวลาดีที่สุดใน 4 ช่วง ได้แก่ ฝึกซ้อม 2 ช่วง รอบควอลิฟาย และรอบวอร์มอัพ หรือย้อนไปในปี 1994 มิชาเอล ชูมัคเกอร์ เป็นนักขับที่ทำได้สมบูรณ์แบบในระบบ 5 ช่วงที่โมนาโค จากการฝึกซ้อม 2 ช่วง รอบควอลิฟาย 2 ช่วง และรอบวอร์มอัพ ทั้งฮัคคิเน่นและชูมัคเกอร์ในวันนั้นคว้าชัยชนะได้โดยนำการแข่งขันทุกรอบตั้งแต่สัญญาณไฟดับลงจนเข้าเส้นชัย พร้อมกับทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในการแข่งขันได้ แต่เวทเทลพลาดชัยชนะ เขาทำได้เพียงเวลาต่อรอบเร็วที่สุด
- เร้ดบูลทำสถิติได้ตำแหน่งโพลครั้งที่ 3 ติดต่อกันในการแข่งขันสนามใหม่ถอดด้าม ก่อนหน้านี้พวกเขาทำได้ที่เกาหลี 2010 และอินเดีย 2011
- ลูอิส แฮมิลตัน สตาร์ทจากแถวหน้าเป็นครั้งที่ 47 โดยทำสถิติเท่ากับเดมอน ฮิลล์ นอกจากนั้นเขายังทำได้กริดที่สองเป็นครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ ซึ่งแต่ละครั้งมีเวทเทลสตาร์ทในตำแหน่งโพล หลังจบการแข่งขันที่ออสติน แฮมิลตันและเวทเทลออกตัวจากแถวหน้าด้วยกันมาแล้ว 15 ครั้ง ซึ่งนักขับเยอรมันได้ตำแหน่งดีกว่า 11 ครั้ง และนับจากปี 2010 เป็นต้นมา แฮมิลตันอยู่ในกริดที่ 2 โดยมีนักขับเร้ดบูลอยู่ในกริดแรกไม่น้อยกว่า 14 ครั้ง
- เว็บเบอร์พลาดได้ออกตัวจากแถวหน้าไปในออสตินหลังจากทำได้มา 4 สนามติดต่อกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยสตาร์ทจากแถวหน้า 5 สนามรวดจากออสเตรเลียถึงตุรกีในปี 2010
- หลังจากเฟลิเป้ มาสซ่า ถูกปรับกริด 5 อันดับเนื่องจากเปลี่ยนเกียร์บ็อกซ์ก่อนกำหนด ทำให้เป็นครั้งแรกนับจากยูโรเปียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ไม่มีนักขับเฟอร์รารี่อยู่ในสามแถวแรกเลย
- พอล ดิ เรสต้า ควอลิฟายไม่ถึงท็อป 10 เป็นสนามที่ 5 ติดต่อกัน เทียบเท่ากับสถิติเดิมของตนที่นับว่าแย่ที่สุดจากตุรกีถึงบาเลนเซียเมื่อปีที่แล้ว
- ฌอง-เอริก แวนญ์ ควอลิฟายได้อันดับที่ 14 เป็นกริดที่ดีที่สุดเท่ากับที่ตนเองเคยทำได้ในรายการสแปนิช กรังด์ปรีซ์ เมื่อเดือนพฤษภาคม
- นิโค รอสเบิร์ก ยังคงมีฝันร้ายในอเมริกาต่อไป เขาไม่เคยควอลิฟายได้ใน 10 อันดับแรกและไม่เคยได้คะแนนจากการลงแข่งขันรายการนี้ทั้ง 3 ครั้ง
- ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รถมารุสเซียทั้งสองคันควอลิฟายได้อันดับดีกว่ารถแคเทอร์แฮมทั้งสองคัน และจากการที่ทิโม กล็อค ทำได้ในอันดับที่ 19 ทำให้เขาเป็นนักขับจากทีมน้องใหม่ที่ควอลิฟายได้อันดับดีที่สุด
การแข่งขัน
- หลังว่างเว้นชัยชนะมา 5 สนาม ลูอิส แฮมิลตัน กลับขึ้นสู่โพเดียมสูงสุดอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นชัยชนะลำดับที่ 21 ของเขาในฟอร์มูล่าวัน นอกจากนั้น ครั้งนี้ยังเป็นเพียงครั้งที่ 3 จาก 11 ครั้งที่เขาเอาชนะเซบาสเตียน เวทเทล ได้หลังจากทั้งสองคนออกตัวคู่กันในแถวหน้าและนักขับอังกฤษอยู่ในกริดที่ 2 ก่อนหน้านั้นเขาชนะเวทเทลได้ในการแข่งขันที่อาบูดาบีหลังจากฝ่ายหลังยางแตก และอีกครั้งที่แคนาดาในปีนี้
- เวทเทลพลาดชัยชนะครั้งที่ 27 ของตนเองไป 0.6 วินาที ในการลงแข่งขันฟอร์มูล่าวันสนามที่ 100 ซึ่งหากเขาชนะจะทำให้เขามีผลงานเทียบเท่ามิชาเอล ชูมัคเกอร์ ในจำนวนชัยชนะต่อจำนวนที่ลงแข่งขัน อย่างไรก็ตาม อันดับที่ 2 ของเขายังนับเป็นโพเดียมครั้งที่ 80 ของเร้ดบูลและเป็นโพเดียมครั้งที่ 400 ของรถที่ใช้เครื่องยนต์เรโนลต์ โดยเฟอร์รารี่เป็นผู้นำในสถิติอย่างหลังนี้ ด้วยจำนวน 672 โพเดียม ตามมาด้วยเครื่องยนต์ฟอร์ด 533 โพเดียม
- ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 80 ติดต่อกันที่มีรถในเครื่องยนต์เรโนลต์จบการแข่งขันแบบมีคะแนน เป็นรองเครื่องยนต์ฟอร์ดซึ่งทำสถิติไว้จนถึงขนาดนี้ 228 สนามติดต่อกัน ส่วนเมอร์เซเดสอยู่ในอันดับที่ 3 ด้วยผลงาน 76 สนามติดต่อกัน และอันดับที่ 4 เป็นของเฟอร์รารี่ที่เคยทำไว้ 60 สนามติดต่อกัน
- ครั้งสุดท้ายที่เวทเทลต้องออกจากการแข่งขันเพราะอุบัติเหตุคือการชนกันเองกับเพื่อนร่วมทีม มาร์ก เว็บเบอร์ ในตุรกี 2010 อย่างไรก็ตาม ผ่านไป 50 สนามจนถึงปัจจุบันหรือครึ่งทางของอาชีพของเขาแล้วที่ไม่ออกจากการแข่งขันด้วยอุบัติเหตุอีกเลย ทำให้เขามีสถิติในเรื่องนี้เป็นอันดับที่ 2 ต่อจากนิค ไฮด์เฟลด์ นักขับเพื่อนร่วมชาติ ซึ่งลงแข่งโดยไม่ออกจากการแข่งขันเพราะอุบัติเหตุรวมจำนวน 56 สนามติดต่อกัน ตั้งแต่ฝรั่งเศส 2006 ถึงอิตาลี 2009
- เว็บเบอร์ต้องหยุดสถิติไม่ออกจากการแข่งขันด้วยสาเหตุด้านเทคนิคจำนวน 58 สนามติดต่อกันไว้ที่ออสติน เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาต้องออกจากการแข่งขันเนื่องจากไดชาร์จเสียหาย อันเป็นสนามที่ 59 หลังจากครั้งสุดท้ายเขาออกจากการแข่งขันเพราะปัญหาด้านเทคนิคจากเบรกในสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 2009
- เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ขึ้นโพเดียมได้อีกครั้งหลังออกตัวจากอันดับที่ 7 ซึ่งในฤดูกาลนี้เขาควอลิฟายได้อันดับต่ำกว่า 3 ตำแหน่งแรกแต่จบบนโพเดียมเป็นครั้งที่ 9 แล้ว นับเป็นผลงานเทียบเท่ากับอแลง พรอสต์ ที่เคยทำไว้ในปี 1986
- โพเดียมในเท็กซัสทำให้เราได้เห็นแฮมิลตัน เวทเทล และอลอนโซ่ อยู่บนโพเดียมด้วยกันเป็นครั้งแรก โดยทั้งสามคนเคยขึ้นโพเดียมมาแล้ว 49 46 และ 85 ครั้งตามลำดับ
- เจนสัน บัตตัน ลงแข่งขันรายการยูเอส กรังด์ปรีซ์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9 แต่เพิ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้คะแนนจากรายการนี้
- พาสเตอร์ มัลโดนาโด ได้คะแนนจากการแข่งขัน 2 สนามติดต่อกันเป็นครั้งแรกในการอาชีพนักขับฟอร์มูล่าวันของเขา ในขณะที่บรูโน่ เซนน่า เพื่อนร่วมทีมจบการแข่งขันแบบมีคะแนน 3 สนามติดต่อกันเป็นครั้งแรก
- ในการแข่งขันรอบที่ 2 ของสนามออสติน มิชาเอล ชูมัคเกอร์ กลายเป็นนักขับฟอร์มูล่าวันที่ลงแข่งขันได้ระยะทางมากที่สุด แซงรูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่เฟอร์รารี่ซึ่งทำไว้ 80,585 กิโลเมตร และเมื่อจบการแข่งขัน แชมป์โลก 7 สมัยลงแข่งขันด้วยจำนวนรวมทั้งสิ้น 80,882 กิโลเมตร
*ข้อมูลและภาพจาก autosport.com/f1
Create Date : 21 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2555 17:19:46 น. |
|
9 comments
|
Counter : 1604 Pageviews. |
|
Vettel เป็นนักขับคนที่ ... ที่ได้แชมป์ 3 ปีติด! อุ๊บสส์ คิดดังไปหน่อย 555+
อนึ่ง เพิ่งเอากลอนไปลงบลอกก่อนหน้า ^^'