British Grand Prix 2011 - Race Day: ม้าแดงมาแล้ว
ทั้งคนขับ ทั้งบอสและทีมงาน ทั้งแฟนๆ เลือด "สีแดง" ได้ดีใจเต็มๆ ยิ้มแก้มปริเป็นครั้งแรกของฤดูกาลก็คราวนี้เอง...
ก่อนการแข่งขัน เอฟไอเอให้โอกาสสุดท้ายกับทุกทีมในการร่วมกันให้ความเห็นว่าจะแบนหรือไม่แบน off-throttle blown diffuser ปรากฏว่าเสียงแตกค่ะ มติไม่เป็นเอกฉันท์ โดยเฟอร์รารี่และทีมเซาเบอร์ซึ่งใช้เครื่องเฟอร์รารี่ปฏิเสธไม่ขอกลับไปใช้กฎตามแบบที่บาเลนเซีย (เรื่อง engine mapping) อย่างไรก็ตาม ภายหลังการแข่งขันปรากฏว่าเรื่องคงจะยุติได้แล้วนะคะเมื่อข่าวออกมาว่าเฟอร์รารี่และเซาเบอร์ยอมลงชื่อเห็นด้วยในท้ายที่สุด แม้เซาเบอร์ยังไม่ยอมรับเต็มปากเต็มคำก็ตาม
สรุป 3 อันดับบนโพเดียมรายการบริติช กรังด์ปรีซ์
1. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 1h28:41.194 2. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) + 16.511 3. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) + 16.947
ผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap): เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 1:34.908 -- รอบที่ 41
ผลการแข่งขันทั้งหมด //www.formula1.com/results/season/2011/861/6873/
ข้อมูลการเข้าพิตทั้งหมด //www.formula1.com/results/season/2011/861/6873/pit_stop_summary.html
เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ดีใจที่สุดกับชัยชนะครั้งแรกในฤดูกาล
ก่อนการแข่งขันมีฝนตกลงมาทำให้น้ำขังอยู่ในสนามพอสมควร รถทุกคันจึงต้องใส่ยางอินเตอร์มีเดียตตั้งแต่เริ่ม และเมื่อสัญญาณไฟแดง 5 ดวงดับลง เซบาสเตียน เวทเทล ที่วันนี้ต้องออกตัวจากกริดที่ 2 ก็สามารถแซงเพื่อนร่วมทีม มาร์ก เว็บเบอร์ ขึ้นนำได้ตั้งแต่โค้งแรกและนำลิ่วไปไกลจนหลายคนคิดว่าวันนี้ก็ "เหมือนเคย"
แต่ฟอร์มูล่าวันไม่เคยทำให้ใครวางใจได้ หลังจากการเข้าพิตครั้งแรกซึ่งรถทุกคันเปลี่ยนเป็นยางซอฟต์สีเหลืองกันหมดเพราะพื้นสนามเริ่มแห้งแล้วก็เริ่มเห็นอะไรบางอย่าง เวลาของเร้ดบูลตกลงพอสมควร และเมื่อยางปิเรลลี่เริ่มทำงานได้ดีกับรถเฟอร์รารี่ของเฟอร์นันโด อลอนโซ่ เขาสามารถแซงลูอิส แฮมิลตัน ที่บุกตะลุยขึ้นมาจากอันดับที่ 10 เมื่อสตาร์ท ทั้ง 2 คนมาคอยจ่อรอโอกาสอยู่ข้างหลังเร้ดบูลที่นำหน้าทั้งสองคัน
เรื่องสนุกและความอลวนมาเกิดขึ้นในการเข้าพิตครั้งที่ 2 ของทีมกลุ่มนำ เมื่อเวทเทลเข้าไปเปลี่ยนยางในรอบที่ 27 แต่ทีมงานทำพลาดเพราะใส่ยางหลังซ้ายไม่แน่นแต่ยกรถลงแล้วจึงต้องยกขึ้นใหม่อีกครั้ง ทำให้อลอนโซ่ซึ่งเข้าพิตรอบเดียวกันแซงไปอย่างง่ายดาย เวทเทลกลับเข้าสู่การแข่งขันโดยออกมานำหน้าเว็บเบอร์ แต่เขาต้องอยู่ในอันดับที่ 3 เมื่อแฮมิลตันผ่านปากทางพิตไปแล้ว เวทเทลรู้ดีว่าต้องแซงแฮมิลตันให้เร็วที่สุดหากจะไล่รถสีแดงให้ทัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน เมื่อความพยายามไม่เป็นผล การเข้าพิตครั้งสุดท้ายจึงเป็นคำตอบที่ดีกว่าและก็ทำสำเร็จ เขาออกมาอยู่หน้าแฮมิลตันในอันดับที่ 2 อย่างไรก็ตาม รถเฟอร์รารี่ของอลอนโซ่ไปไกลเกินกว่าเวทเทลจะตามได้และเรื่องของยางก็กำลังก่อปัญหาให้เขามากขึ้นทุกทีๆ สำหรับอลอนโซ่บางช่วงทิ้งห่างถึง 20 วินาที เป็นอันว่าหายห่วงนับตั้งแต่นั้นมา
ในช่วงสุดท้ายแฮมิลตันได้รับแจ้งจากทีมงานให้เบาเครื่องลงเพราะต้องการเซฟน้ำมัน และนั่นทำให้เขาจำใจต้องเสียตำแหน่งที่ 3 ให้กับเว็บเบอร์ แต่ยังดีที่ป้องกันอันดับที่ 4 จากเฟลิเป้ มาสซ่า ไว้ได้อย่างฉิวเฉียดแม้ทั้งคู่จะปะทะกันก่อนเข้าโค้งสุดท้ายในรอบสุดท้ายด้วยก็ตาม
ย้อนไปเมื่อเหลืออีก 5 รอบสุดท้าย รถเร้ดบูล 2 คันมาจ่ออยู่ด้วยกันโดยเห็นได้ชัดว่าคันตามหลังนั้นเร็วกว่า โดยเบื้องหลังการแข่งขัน เว็บเบอร์เปิดเผยว่าทีม "สั่ง" ให้เขารักษาตำแหน่งไว้ นั่นหมายความว่า "ไม่ให้แซง" เวทเทล แต่เขายอมรับว่าเขาขอเลือกไม่ทำตามคำสั่ง ทั้งที่ทีมงานวิทยุบอก 4-5 ครั้งแล้วก็ตาม เขารู้สึกว่าเขาอยากสู้จนกว่าจะถึงเส้นชัยจริงๆ แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำเอาทีมบอส คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ที่ปวดหัวกับเรื่องดิฟฟิวเซอร์อยู่แล้วต้องปวดหัวซ้ำอีกรอบ โดยเขาจะเรียกเว็บเบอร์มาคุยกันแบบตัวต่อตัวหลังการแข่งขันอีกครั้ง
นอกจากเรื่องราวเข้มข้นข้างต้นแล้วยังมีเหตุการณ์ที่น่าสนใจอื่นๆ อีกค่ะ เริ่มจากมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ปะทะกับคามูอิ โคบายาชิ ทำให้ต้องรับโทษหยุดในพิต 10 วินาทีหรือที่เรียกว่า stop-go penalty แต่ยังสามารถจบแบบได้คะแนนในอันดับที่ 9 ส่วนโคบายาชิเองต่อมาเกิดอุบัติเหตุในพิตเมื่อรถของเขาถูกปล่อยออกมาเฉือนหน้ารถของพาสเตอร์ มัลโดนาโด ของวิลเลียมส์ สำหรับอีกคันของแม็คลาเรนที่ไม่ได้พูดถึงเลยกลับมีแค่ประเด็นเดียวที่เป็นเรื่อง เจนสัน บัตตัน ที่ไม่เคยโชคดีในการแข่งในบ้านก็ต้องอับโชคอีกครั้งเมื่อเขาต้องออกจากการแข่งขันในรอบที่ 39 เมื่อทีมงานยังใส่ล้อหน้าขวาไม่เสร็จแต่ถูกปล่อยออกจากพิตไปก่อน
จากทั้งสองเหตุการณ์ในพิตดังกล่าว เป็นผลให้ทีมแม็คลาเรนถูกปรับเป็นเงิน 5,000 ยูโร และเซาเบอร์ถูกปรับ 20,000 ยูโร โดยโคบายาชิต้องได้รับโทษหยุดในพิต 10 วินาทีด้วยเช่นกัน แต่เขาก็ออกจากการแข่งขันเสียก่อน
สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 9
ประเภทนักขับ 1. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 204 คะแนน 2. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 124 คะแนน 3. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 112 คะแนน 4. ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 109 คะแนน 5. เจนสัน บัตตัน (แม็คลาเรน) 109 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด //www.formula1.com/results/driver/2011/
ประเภททีม 1. เร้ดบูล-เรโนลต์ 328 คะแนน 2. แม็คลาเรน-เมอร์เซเดส 218 คะแนน 3. เฟอร์รารี่ 164 คะแนน 4. เมอร์เซเดส 68 คะแนน 5. เรโนลต์ 65 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภททีมทั้งหมด //www.formula1.com/results/team/2011/
ดูเหมือนว่าการห้ามใช้ off-throttle blown diffuser ส่งผลอยู่มากเหมือนกัน โดยเฉพาะกับเร้ดบูลและแม็คลาเรน อย่างไรก็ตาม สนามหน้าที่นัวร์บวร์กริง ทีมต่างๆ ได้เห็นด้วยกับการกลับไปจำกัดเรื่อง engine mapping เหมือนที่บาเลนเซียแล้ว ติดตามกันต่อไปว่าเร้ดบูลและแม็คลาเรนจะกลับมาได้หรือไม่ เฟอร์รารี่ยังอยู่ตรงนี้ต่อไปหรือเปล่า ลุ้นกันได้ในการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน สนามที่ 10 วันที่ 22-24 กรกฎาคมนี้ค่ะ
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ formula1.com
Create Date : 11 กรกฎาคม 2554 |
|
38 comments |
Last Update : 11 กรกฎาคม 2554 15:51:22 น. |
Counter : 1249 Pageviews. |
|
|
|
เจอกันใหม่สนามหน้านะคะ ^^